สุดยอดชาวประมง - บทที่ 44 หว่านแหรอบนี้น่าจะได้มาไม่น้อย
บทที่ 44 หว่านแหรอบนี้น่าจะได้มาไม่น้อย[รีไรท์]
ท้องทะเลในส่วนนี้ดูเหมือนจะเลี่ยงความแปรปรวนในอากาศได้ นักเดินทางหลายคนเริ่มรู้สึกโล่งใจและเข้าใจว่าพวกเขามาถูกทางแล้ว นี่คือทางที่สามีภรรยาเคยมาแล้ว เพราะงั้นต้องปลอดภัยอย่างแน่นอน พวกเขาเดินทางมาถึงเกาะอีกเกาะหนึ่ง หญิงหูแหลมกล่าวเตือนทุกคนอีกครั้งว่า “ระวังกันหน่อยนะ เกาะข้างหน้านี้ค่อนข้างอันตราย สามีกับฉันเคยเจอมาแล้ว สัตว์ร้ายมันร่างสูงใหญ่ แต่เราสองคนตัวนิดเดียว พวกมันเลยมองไม่เห็น
ผู้หญิงคนนี้ฉลาดมาก ถ้าเธอไม่เตือนพวกเขาล่วงหน้า พวกเขาจะต้องคิดว่าเธอลวงพวกเขามาติดกับแน่ คำเตือนของผู้หญิงคนนี้ดูสมเหตุสมผล แต่ไม่มีใครสนใจคำเตือนของเธอเลย เธอจึงอดแสยะยิ้มออกมาไม่ได้
“ไปเลย ยิ่งไปเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งตายเร็วเท่านั้น” ไม่มีใครได้ยินคำสาปแช่งในใจของเธอ
ถ้าดูจากแผนที่ที่สามีภรรยาได้มา เกาะข้างหน้านี้น่าจะมีสัตว์ประหลาดเป็นล้านๆ ตัว เกาะนี้มีสัตว์ประหลาดที่เป็นจ่าฝูงนามว่าปีศาจน้ำแข็ง อันที่จริงแล้ว เธอไม่รู้หรอกว่าปีศาจน้ำแข็งนี้สูงใหญ่หรือไม่ คนเหล่านี้มีวิทยายุทธสูงส่ง แต่เธอรู้ว่าเมื่อต้องต่อสู้กัน พวกเขาจะต้องตายที่นี่แน่ ๆ
สัตว์ประหลาดทั่วทั้งท้องทะเลจมูกไวมาก ถ้ามีกลิ่นเลือดของใคร มันจะล่อสัตว์ประหลาดให้มาหาแม้อยู่ในระยะไกล เมื่อถึงเวลานั้น คงไม่มีใครรอดชีวิตออกไปจากที่นี่ได้ และนี่ก็คือแผนการล้างแค้นของเธอ
พวกเขาเดินทางเกือบถึงเกาะแล้ว สัตว์ประหลาดมากมายนับไม่ถ้วนกรูกันเข้ามาล้อมรอบคนเหล่านี้ไว้ ตอนแรกพวกเขานึกว่าจะมีแค่ไม่กี่ตัว แต่ไม่นึกเลยว่าจะมีมากมายขนาดนี้ พวกเขาได้ยินเสียงนกอินทรีจากระยะไกล สัตว์ประหลาดที่ล้อมรอบต่างก็กรูกันเข้ามาทำร้าย การโจมตีของสัตว์ร้ายเริ่มต้นขึ้น
ถึงแม้คนจะมีน้อยกว่า แต่พวกเขาก็มีวิทยายุทธสูงส่ง สัตว์ร้ายถึงจะกล่าวว่าวิทยายุทธไม่สูง แต่พวกมันมีกันหลายตัว ต่างคนต่างเข่นฆ่าอีกฝ่ายตายไปนับสิบ จอมยุทธ์หลายร้อยคนเริ่มหลั่งเลือดทีละน้อย พวกเขาบาดเจ็บ เลือดไหลหลั่งลงไปในทะเล สัตว์ประหลาดในท้องทะเลได้กลิ่นเลือด นั่นก็ทำให้พวกมันพากันมุ่งตรงมายังเกาะแห่งนี้ตัวแล้วตัวเล่า
ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เกาะทั้งหมดในระยะร้อยไมล์ก็เต็มไปด้วยสัตว์ร้ายแห่งท้องทะเล ขณะที่สัตว์ร้ายปลายแถวตายไปเรื่อย ๆ สัตว์ที่ดุร้ายมากกว่าก็เริ่มเข้าสู่สนามรบ การต่อสู้เริ่มทวีความรุนแรงขึ้น เกาะทั้งเกาะจมลงสู่ท้องทะเล
จอมยุทธ์นับร้อยยังไม่ตระหนักรู้ถึงความรุนแรงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ พวกเขาไม่มีทางหนีอีกต่อไปแล้ว ทางเดียวที่จะรอดคือต้องสู้ ตราบใดที่ยังฆ่าได้ พวกเขาก็อาจยังมีโอกาสรอดชีวิต
คนบนเกาะเริ่มจมลงสู่ก้นทะเล การต่อสู้นี้ไม่เพียงแต่ทำลายเกาะ แต่ยังทำลายสาหร่ายทะเลที่อยู่ใต้ท้องทะเลเป็นบริเวณกว้างอีกด้วย
ในขณะที่กำลังต่อสู้กัน พวกเขาไม่รู้ว่าในเวลานี้ หินก้อนมหึมาที่ก้นทะเลได้แตกออก ดินสีดำลอยออกมาจากหินนั้น น่าแปลกที่ดินที่ว่าเปลี่ยนเป็นโคลนเมื่อโดนน้ำก่อนจมลงสู่ก้นมหาสมุทร แต่แทนที่จะนอนก้นอยู่อย่างนั้น มันกลับค่อย ๆ ลอยสูงขึ้น สูงขึ้นราวกับว่ามันลอยอยู่ในทะเล
การต่อสู้ที่เกิดอย่างต่อเนื่องทำให้พลังบางอย่างรั่วไหลออกมา ดินสีดำที่ว่าก็เริ่มดูดซับพลังที่รั่วไหลนั้น จนเริ่มมีขนาดใหญ่เท่าอ่างล้างหน้าอย่างรวดเร็ว
ไม่กี่ชั่วโมงผ่านไป ขนาดของดินสีดำก็ใหญ่ประมาณสิบลูกบาศก์เมตร ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันจะโตขึ้นเรื่อย ๆ ได้อีกแค่ไหน
หญิงหูแหลมเห็นว่าคนพวกนี้ไม่สนใจเธออีก เธอจึงรีบเหาะหนีออกมา ไม่รู้ว่าเพราะอะไรสัตว์ประหลาดทั้งในท้องทะเลและบนพื้นดินไม่ทำร้ายเธอ มันทำให้เธอเริ่มมีหวัง
แต่น่าเสียดาย ขณะที่เธอกำลังจะออกจากวงสงคราม จู่ ๆ เธอก็ได้ยินเสียงลมพัดข้างหลัง เมื่อหันไปมอง เธอก็เห็นว่ามันคือดาบสั้นที่ลอยมาปักเข้าที่กลางอก
“นี่ฉันกำลังจะตายเหรอ แต่ไม่เป็นไร อย่างน้อยฉันก็พาคนเหล่านี้มาสู่ความตายด้วยตัวเอง” แล้วเธอก็ก้มมองแมวที่เธออุ้มอยู่ในอ้อมแขน สายตาอันเกรี้ยวกราดก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนทันใด
“เจ้าแมวน้อย หนีไปเถอะ ฉันหวังว่าแกจะเอาชีวิตรอดไปได้นะ” แล้วหญิงสาวก็รวบรวมกำลังโยนแมวออก ให้มันไปเกาะอยู่บนดินสีดำ
จากนั้นสาวหูแหลมก็สิ้นลม แต่เธอเชื่อว่าเธอไม่ตายอย่างเดียวดาย คนหลายร้อยคนอยู่ที่นั่น ไม่มีใครอยากออกไปจากพื้นที่แห่งนี้ ไม่ช้าก็เร็ว พวกมันจะต้องตายที่นี่
วันนี้ท้องทะเลไม่เงียบสงัดอีกต่อไป เลือดและศพลอยอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง ทั้งศพคนและสัตว์ประหลาดลอยแน่นเต็มทะเล
…
ตั้งแต่ฉู่เหินสามารถใช้ระบบเชื่อมโลกาได้ เขาก็มีพลังวิเศษหลังอัพเกรดสู่เครือข่ายระดับที่สอง สิ่งนี้ทำให้เมื่อเขาหว่านแหออกไป มันจะทำให้เขาสามารถมองเห็นได้ในระยะ 5 เมตร เมื่อเขาหว่านแหวันนี้ เขาจึงตั้งใจมาก ฉู่เหินตั้งใจเพ่งมองพยายามหาว่าทรัพย์สมบัติพวกนี้มาจากไหน
หลังจากสังเกตอย่างตั้งใจ ฉู่เหินก็พบหยากไย่อายุร้อยปี ก่อนที่โพรงมิติขนาดใหญ่จะปรากฏขึ้น เมื่อแหทะลุมิติออกมา มันก็ร่วงลงไปในทะเลอันกว้างใหญ่
ถึงฉู่เหินจะมองเห็นในระยะทางเพียง 5 เมตร เขาก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามหาสมุทรกว้างใหญ่มาก มันกว้างกว่ามหาสมุทรที่เขาอยู่หลายเท่านัก เขาใช้ชีวิตริมหาดมาตั้งแต่เด็ก เขาจึงมีความรู้เรื่องทะเลมากเป็นพิเศษ
เมื่อแหร่วงลงทะเล ฉู่เหินก็รู้สึกตกตะลึง เขาเห็นศพสัตว์ประหลาดนานาชนิดลอยอยู่ทั่วท้องทะเล ศพของสัตว์ประหลาดใหญ่มาก ใหญ่กว่าอะไรก็ตามที่พวกเขาเคยเห็นมาเสียอีก เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น นี่มันวันสิ้นโลกหรือเปล่า ?
ฉู่เหินควบคุมแหที่ทำจากหยากไย่ร้อยปีให้เคลื่อนตัวไปบนน้ำทะเล ไหน ๆ แหก็มาโผล่ตรงนี้แล้ว เขาก็อยากหว่านให้ได้ของดี ๆ ติดขึ้นมา
น่าเสียดายที่ทั้งผืนทะเลเต็มไปด้วยเลือดและศพของสัตว์ประหลาดเกือบทั้งหมด ศพพวกนั้นมีเยอะมากเสียจนทำให้ฉู่เหินต้องตกตะลึง ดูเหมือนจะเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น ณ ที่แห่งนี้ ถึงมันจะไม่ใช่วันสิ้นโลก แต่นี่ก็อาจเป็นหายนะทางธรรมชาติ เช่น คลื่นยักษ์สึนามิ ไม่งั้นจะมีอะไรทำให้ทำคนตายมากมายขนาดนี้ได้
ขณะที่เขากำลังมองหา ไม่นานนักฉู่เหินก็เห็นเงาดำอยู่เบื้องหน้า เงามืดสะดุดตาฉู่เหินเพราะมันโผล่ขึ้นมาท่ามกลางแม่น้ำสีแดงฉาน ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่สัญชาตญาณของฉู่เหินบอกว่ามันน่าจะมีราคามากกว่าศพของสัตว์ประหลาดพวกนี้เสียอีก
Next