สุดยอดชาวประมง - บทที่ 442 สิ้นผู้อาวุโส
บทที่ 442 สิ้นผู้อาวุโส
บทที่ 442 สิ้นผู้อาวุโส
เพียงแต่ที่ทำให้ฉู่เหินรู้สึกโมโหก็คือ คนที่เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเก่งกาจขนาดไหน ทำไมตอนพรรคตัวเองมีปัญหาถึงไม่ช่วย กลับฉวยโอกาสหาประโยชน์เข้าตัวเอง ช่างเป็นคนที่น่ารังเกียจจริง ๆ! แน่นอนว่าหากฉู่เหินอยากฆ่าอีกฝ่ายก็มีเพียงทางเดียวเท่านั้น
หากถูกอีกฝ่ายสังเกตเห็น เกรงว่าเขาคงต้องฆ่าชายชราคนนี้อย่างหมดทางเลือกแล้ว! แม้ว่าในมือของเขาจะมีน้ำที่มีอานุภาพแข็งแกร่ง แต่ก็ต้องหยดให้โดนตัวของอีกฝ่ายเท่านั้นถึงจะได้ผล! ซึ่งก็น่าจะยากพอตัว การจะแข็งแกร่งได้ระดับนี้ ชายชราน่าจะต้องมีประสบการณ์มากพอตัว! การจะหลบการโจมตีของเขาก็คงไม่ใช่เรื่องยาก แม้ว่าจะสามารถไล่ตามได้ น่ากลัวว่าแค่อีกฝ่ายโบกมือร่างของเขาคงลอยหายกลายเป็นฝุ่นแล้ว!
หลังจากคำนับไปครั้งหนึ่ง ชายชราคนนั้นก็มองฉู่เหินอย่างสำรวจ ชายชราไม่รู้จักฉู่เหินด้วยซ้ำ! แต่ทว่าพลังวรยุทธ์ของอีกฝ่ายอยู่ในขั้นราชันดารากระจอก ๆ เท่านั้น ดังนั้นชายแก่เลยไม่จำเป็นต้องสนใจ คิดเพียงว่าคงเป็นเพราะลูกศิษย์ในพรรคมีเยอะเกินไป ดังนั้นการที่เขาไม่รู้จักบ้างก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก
“นายชื่อว่าอะไร มาทำอะไรที่นี่” เพิ่งเปิดปากอีกฝ่ายก็ถามออกมาสองประโยคอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ฉู่เหินรู้ว่าถ้าตัวเองตอบไม่ดี คงถูกอีกฝ่ายฆ่าตายแน่! เขายังจำได้เป็นอย่างดีถึงพลังของหญิงชราคนนั้น ขนาดหญิงคนนั้นมาถึงหน้าบ้านตระกูลฉู่เขาก็ทำอะไรเธอไม่ได้เลยแม้แต่น้อย!
“ผม… ผมได้รับคำสั่งมาจากหัวหน้าพรรคให้เอาของวิเศษบางอย่างกลับมาครับ!” ประโยคนี้ฉู่เหินพูดแบบไม่ค่อยเต็มใจพูดเท่าไร กลัวว่าจะพูดจาขวางหูขวางตาอีกฝ่าย ด้วยความจนปัญญาเลยต้องเปิดเผยจุดประสงค์ออกไปบางส่วน เมื่อชายชราได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ ทว่าสายตากลับปรากฏชัดถึงความโลภ!
“ในเมื่อเป็นของวิเศษล้ำค่า ทำไมถึงไม่ไปที่คลังสมบัติล่ะ” ตอนนี้ชายชราพูดประโยคนี้สายตาก็แผ่ไอสังหารออกมา เพราะชายแก่มีประสบการณ์เยอะ ดังนั้นเขาจึงสามารถพบเห็นถึงความผิดปกติได้อย่างรวดเร็ว
“เรียนผู้อาวุโส เรื่องภายในนั้นผู้น้อยไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไร! เพียงได้ยินมาว่าครั้งนี้ได้รับน้ำวิญญาณที่สำคัญมาก ๆ มา ดังนั้นหัวหน้าจึงกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น ถึงได้ให้ผู้น้อยนำมันกลับมาครับ!” ว่าแล้วฉู่เหินก็พลันแอบเอาหม้อเล็ก ๆ ขนาดไม่ถึงหนึ่งกำปั้น มาเก็บไว้ในชายเสื้อตัวเอง ราวกับกลัวอีกฝ่ายเห็น
ถ้าเขาไม่มีการเคลื่อนไหวนี้ล่ะก็ ชายชราคนนั้นก็คงไม่สังเกตเห็น ทว่าตอนนี้ชายชรากลับยิ้มออกมา ว่าแล้วชายแก่ก็พลันโบกมือทีหนึ่ง แต่ทว่าภาพตรงหน้ากับทำให้ชายชราประหลาดใจ ไม่ว่าจะเขาจะทำยังไงก็ไม่อาจทำให้หม้อนั้นเปิดได้เลย จนถึงตอนนี้เขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมหัวหน้าพรรคหยูหลินถึงได้ส่งเด็กหนุ่มนี้กลับมาเก็บรักษาไว้ก่อน
แต่เมื่อรู้ดังนั้น ชายชรากลับยิ่งรู้สึกสนใจขึ้นไปอีก ในความคิดเขา เจ้าของสิ่งนี้จะต้องเป็นของล้ำค่าอย่างแน่นอน แต่ในเมื่อเซี่ยวเฟิงไม่ได้โลภอยากได้หม้อเล็กนี้ นั่นก็แปลได้ว่าหม้อนี้ทำคุณประโยชน์ได้เพียงอย่างเดียว
“โอเค นายเปิดหม้อนั้นให้ฉันดูสิว่าข้างในมีน้ำวิญญาณรึเปล่า” ชายชรากะจะเอาให้คุ้ม ถ้าเจ้าเด็กน่าตายนี้ไม่สามารถเปิดได้ล่ะก็ ตัวเองจะไม่ให้โอกาสที่สองอีกแล้ว!
“เรียนผู้อาวุโส ตามที่หัวหน้าเคยบอก น้ำวิญญาณนี้เป็นของล้ำค่ายิ่ง! แค่เพียงหยดเดียวก็สามารถทะลวงขั้นพลังวรยุทธ์ได้! แต่เงื่อนไขนั้นค่อนข้างมาก ถ้าเปิดหม้อนี้ออก นั่นจะทำให้ของเหลวที่อยู่ภายในเสียคุณค่า เว้นเสียแต่ว่าตอนที่ผมเปิดผู้อาวุโสจะใช้พลังวิญญาณปกคลุมปากหม้อเอาไว้ ไม่ให้มีอะไรเข้าไปหรือผ่านออกมา!”
หลังชายชราได้ยินดังนั้นก็พยักหน้า เขารู้ว่าของวิเศษทั้งหลายมักจะมีเงื่อนไขบ้างไม่แปลก! แน่นอนเขาไม่ได้รู้สึกว่าเจ้าเด็กนี้น่ากลัวตรงไหน ต่อให้ตัวเองยืนตรงหน้าให้อีกฝ่ายฆ่า อีกฝ่ายก็ฆ่าตัวเองไม่ได้หรอก เรียกได้ว่าด้วยกำลังของอีกฝ่ายต่อให้มีแผนการอะไรก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี!
“คุณต้องจำให้ดี ตอนที่ผมเปิดคุณจะต้องปิดข้างบนให้สนิท และก็อย่าใช้พลังวิญญาณดูดน้ำวิญญาณภายในเด็ดขาด ไม่งั้นผมคงไม่รู้จะชดใช้หัวหน้ายังไง!” ดูท่าอีกฝ่ายจะเชื่ออย่างสนิทใจ ชายชราละสายตาเขา ก่อนจะขยับมือเตรียมตัวลงมือ
จากที่ได้ฟังมา ชายชราจึงเข้าใจว่าน้ำวิญญาณนั้นต้องใช้พลังวิญญาณเท่านั้นถึงจะสามารถดูดซับได้ ดังนั้นเขาเลยเตรียมว่าถ้าหม้อเปิดเมื่อไร ตัวเองจะแอบขโมยมานิด ๆ หน่อย ๆ ก็คงไม่มีใครสังเกตเห็นหรอก! ที่สำคัญตอนนี้มันก็ยังไม่ถึงเวลาที่เขากับหัวหน้าพรรคจะผิดใจกัน!
แม้ว่าชายแก่จะมีตำแหน่งสำคัญในพรรค แต่ก่อนหน้านี้เขาเป็นเชลยศึกหลังจากถูกผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ของพรรคหยูหลินจับตัวมาถึงได้ยอมแพ้แก่พรรคหยูหลิน ก่อนที่ต่อมาเขาและผู้อาวุโสคนอื่น ๆ จะสร้างค่ายกลและเข้าฌานไปพร้อม ๆ กัน
หลังตัวเองทะลวงพลังวรยุทธ์มาจนถึงขั้นนี้ได้สำเร็จ เขาก็พบว่าเจ้าไพ่หินนั่น แท้จริงแล้วก็คือสามจิตวิญญาณ หากว่าตัวเองดูดซับมันได้ละก็ นี่จะต้องเป็นผลดีแก่ตัวเขาอย่างมากแน่นอน!
เพียงแต่พลังวรยุทธ์ของชายชราในตอนนี้ยังไม่สามารถหลอมรวมกับสามจิตวิญญาณนี้ได้ อย่างไรก็ตาม การปรากฏตัวของฉู่เหินก็คือโอกาสที่สวรรค์ส่งมา! เขารู้สึกว่าเมื่อพลังของตัวเองทะลวงอีกขั้นได้ก็จะสามารถหลอมรวมกับสามจิตวิญญาณได้! เพียงเท่านี้เขาก็จะหลุดพ้น แล้ว! มันทุกคนที่เคยทำให้เขาอับอายจะต้องได้รับการแตอบแทนอย่างสาสม!
แท้จริงแล้วต้นเหตุที่ทำให้พรรคหยูหลินไม่ได้รับความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสตอนมีปัญหาเมื่อครั้งก่อนหน้าก็เป็นเพราะชายชราคนนี้นี่เอง! เขาคนนี้ได้แอบปรับแต่งค่ายกลให้เสียงข้างนอกเข้าไปไม่ได้!
ฉู่เหินค่อย ๆ เปิดฝาหม้อออกอย่างช้า ๆ ชายชราคนนั้นไม่รีรออีกต่อไป เขารีบใช้พลังวิญญาณใส่เข้าไปข้างในทันที พลังวิญญาณพุ่งไปที่น้ำวิญญาณนั้นด้วยความเร็ว แต่ทันทีที่สัมผัสโดน ชายชราก็พลันร้องตะโกนลั่นด้วยความตกใจ
เมื่อได้ยินเสียงร้องโหยหวนของอีกฝ่าย ฉู่เหินก็รีบหลบไปด้านข้างด้วยความรวดเร็ว ชายหนุ่มออกมายืนหลบมุมไกลออกไป ภาพที่เกิดขึ้นเต็มไปด้วยความสยดสยอง เนื้อที่ติดร่างกายของชายชราหลุดลอกออกเป็นแผ่น ๆ ก่อนจะเหลือเพียงกระดูกขาว ๆ ด้วยความรวดเร็ว
เพียงชั่วพริบตาเนื้อหนังของชายชราก็หลุดหายไม่หลงเหลือเอาไว้ติดกายเลยสักส่วนเดียว! แต่แม้ว่าจะเหลือเพียงกระดูก เขากลับยังไม่ตาย! เพราะฉู่เหินเห็นว่าในโครงกระดูกนั้นยังมีหัวใจเต้นตุบ ๆ อยู่เลย!
ก่อนที่ต่อมาโครงกระดูกที่เหลือก็สลายหายไปเหมือนกัน! ตอนนี้แค่เพียงหัวใจเท่านั้นที่ยังเต้นอยู่ หลังจากเห็นฉากนี้เข้าไป ฉู่เหินก็ขนลุกเกรียว! น้ำนี้อันตรายจริง ๆ การฆ่าคนด้วยวิธีนี้มันทรมานเกินไปแล้ว!
หัวที่เหลือทิ้งไว้ของชายชรายังคงปล่อยเสียงโหยหวนอย่างต่อเนื่อง เพียงแค่ฉู่เหินไม่รู้ว่าต้นเสียงมาจากไหน หลังจากผ่านไปเนิ่นนาน หัวใจที่ว่านั้นก็ค่อย ๆ แห้งก่อนที่จะสลายหายไปในอากาศ!
เสียงดังกล่าวค่อนข้างดัง มันดังเสียจนทำให้ลูกศิษย์ด้านนอกพรรคพอได้ยินก็ขนลุกไปตาม ๆ กัน! โชคดีที่ดังต่อไปไม่นานเท่าไหร่ก็หยุด แต่แม้จะเป็นอย่างงั้นก็รู้สึกไม่ดีนัก!
ที่สำคัญเสียงนั้นดังออกมาจากสถานที่ต้องห้าม ดังนั้นพวกเขาจึงยิ่งรู้สึกกังวลใจ กลัวว่าฉู่เหินจะเกิดเหตุร้ายอะไร! แต่สถานที่ต้องห้ามมีค่ายกลคุ้มกันเอาไว้ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่อาจเข้าไปได้ ทำได้เพียงรอด้วยจิตใจร้อนรุ่ม!
ฉู่เหินยืนอยู่ที่เดิมตั้งแต่เริ่มจนจบไม่ขยับไปไหน เพื่อสังเกตการณ์เปลี่ยนแปลงของศพ หลังจากเหตุการณ์ผ่านไป เขาก็เห็นว่าที่พื้นมีน้ำสองหยดขนาดเท่าไข่มุก น้ำสองหยดนี้แม้ว่าจะไม่แตกต่างอะไรกับน้ำทั่วไป แต่ทว่ามันกลับปล่อยพลังอำนาจบางอย่างออกมา ฉู่เหินสัมผัสได้ว่าที่ชายชราเมื่อกี้โดนแบบนั้น ยังไม่ใช่พลังทั้งหมดที่หยดน้ำนี้มีด้วยซ้ำ!
ชายหนุ่มมองน้ำสองหยดนี้แล้วกลอกตาไปมาก่อนจะนึกอะไรออก ต่อมาเขาก็นำวัตถุดิบออกมาจากแหวนมิติของตัวเอง แล้วเริ่มสร้างค่ายกลที่นี่เลย
หลังจากค่ายกลนี้สร้างเสร็จ ตัวเขาก็ทำการหลอมรวมสามจิตวิญญาณในทันที เขาจำเป็นต้องหลอมรวมสามจิตวิญญาณ ไม่งั้นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงช้าเกินไป! เดิมเขาคิดว่าการหลอมรวมสามจิตวิญญาณจะใช้เวลานาน แต่หลังจากร่างกายของเขาแข็งแกร่งมากกว่าเดิม ก็ทำให้ขั้นตอนการหลอมรวมรวดเร็วขึ้นมาก!