สุดยอดชาวประมง - บทที่ 479 ฉู่เหินผู้น่าเศร้า
บทที่ 479 ฉู่เหินผู้น่าเศร้า
บทที่ 479 ฉู่เหินผู้น่าเศร้า
ฉู่เหินมองไปรอบ ๆ ก่อนที่เขาจะพบว่าตนเองนั้นอยู่ในห้องเล็ก ๆ สีดำ และนอกจากเขาแล้ว มันก็ยังมีคนอยู่ในห้องกับเขาด้วยอีก 2 คน!
ต่อมาชายหนุ่มก็เตรียมจะส่งเสียงเรียก ในเมื่อเป็นผู้ร่วมชะตากรรม ถ้างั้นพวกเขาก็ควรที่จะหนีไปด้วยกันซิถึงจะถูก! แต่ทว่าเขายังไม่ทันได้เคลื่อนไหว ประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามาเสียก่อน และหญิงสาวหน้าไม่อายคนเดิมก็กระโดดโลดเต้นเข้ามา!
“อ้ายโยว ร่างกายแข็งแรงไม่เลวนี้ ตื่นกันหมดแล้ว! พอดีเลยฉันกำลังทดลองยาชนิดใหม่ พวกเธอช่วยฉันทีนะ!” พอฟังจบฉู่เหินก็แสดงอาการไม่ยินยอม เขารีบโคจรพลังทันที แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องพบว่าเขาทำไม่ได้
ต้องเข้าใจว่าถ้าไม่มีพลังวรยุทธ์ เขาก็เป็นเหมือนมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ดังนั้นชายหนุ่มจึงได้แต่วางแผนในใจ! ตอนนี้พลังทั้งหมดถูกปิดกั้น จะสามารถทำอะไรได้อีก ดังนั้นเขาจึงไม่สนว่าจะยังไง เริ่มพยายามคิดหาทางทำลายสิ่งที่ปิดกั้นพลังปราณในทันที!
เขาแอบโคจรพลังกิเลนอย่างเงียบ ๆ เดิมทีฉู่เหินไม่ได้คาดหวังอะไรมาก เนื่องจากพลังวรยุทธ์ถูกปิดไปแล้ว ตอนนี้โคจรพลังกิเลนเกรงว่าจะเป็นได้สิ้นเปลืองพลังงานเปล่า ๆ! แต่ที่ทำให้ชายหนุ่มคาดไม่ถึงก็คือหลังจากเขาโคจรพลังกิเลนเสร็จ พลังดวงดาวก็เหมือนจะมีความเคลื่อนไหวนิด ๆ ด้วย !
ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี ฉู่เหินเลยทำการโคจรเงียบ ๆ อย่างต่อเนื่อง! ตั้งแต่ต้นเขาไม่ได้ทำอย่างโจงแจ้ง ถ้าหญิงสาวเข้ามาตรวจสอบ เขาก็แค่หยุดโคจร!
ขณะที่เขาพยายามโคจรอยู่นั้น ผู้ร่วมชะตากรรมกับเขาก็ถูกดึงตัวออกไป! ต่อมาชายหนุ่มก็มองเห็นหญิงสาวนางนั้นยัดยาเม็ดดำ ๆ เม็ดหนึ่งให้คน ๆ นั้นกินลงไป ยาสีดำที่เพิ่งลงไปในท้องไม่ทันไร ชายคนนั้นก็เปล่งแสงสีดำและอ้วกน้ำขาว ๆ ออกมา คนผู้นั้นตาเหลือกเห็นแต่ตาขาว ก่อนที่เขาจะลงไปนอนกับพื้น
เห็นฉากนี้เข้าไปแม้ว่าฉู่เหินจะเป็นคนใจกล้าแค่ไหน ก็อดที่จะตกตะลึงไม่ได้! เขาคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าหญิงสาวหน้าตาน่ารักจะจิตใจโหดเหี้ยมแบบนี้! คิดถึงยาสีดำนั้นเขาก็รู้สึกพะอืดพะอมแล้ว
พอหญิงสาวเห็นคนแรกตาย ก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรสักนิด ดวงตากลับมองอย่างไม่ค่อยพอใจ “ตัวไร้ค่าจริง ๆ แค่ยาเม็ดเดียวก็ตายแล้ว! เสียแรงที่ตัวใหญ่ขนาดนี้” ได้ยินประโยคนั้นฉู่เหินก็อดที่จะด่าเธอไม่ได้
“หนอย มันไม่เกี่ยวว่าจะเล็กจะใหญ่ แค่ดูก็รู้แล้วว่ามาเป็นยาพิษ ของแบบนี้ใครกินแล้วไม่ตายนี้สิประหลาด!” ฉู่เหินเพียงพูดในใจเท่านั้น และก็เป็นเวลาเดียวกับคนที่ 2 ถูกดึงตัวออกไป! และให้กินยาแบบเดิมอีกครั้ง
คนนี้สามารถต้านทานพิษได้ค่อนข้างดี ตอนนี้เขาลงไปกลิ้งกับพื้นครึ่งวันแล้วก็ยังไม่ตาย แต่ก็อ่อนแรงลงไปมาก! เดิมทีฉู่เหินคิดว่าคน ๆ นี้น่าจะรอดแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าหญิงสาวคนเดิมจะเข้ามาเดินวนรอบคน ๆ นั้นครุ่นคิดสักพัก และยัดยาใส่ปากคน ๆ นั้นอีกเม็ด
พอเห็นดังนั้นฉู่เหินก็คิดว่านี้คงเป็นวาระสุดท้ายของคน ๆ นั้นแล้วแหละ เมื่อยาเม็ดที่ 2 ลงท้อไปในท้อง เขาก็กระตุกขาไม่กี่ทีเท่านั้น ก่อนจะไม่แสดงอาการอะไรอีก!
“หนอย ฉันไม่เชื่อว่ายาของฉันจะทำให้แกไม่ตาย!” สิ้นสุดประโยคนั้นฉู่เหินก็พูดไม่ออกแล้ว เขาไม่คิดว่าหญิงบ้าคนนี้จะโหดเหี้ยมได้ขนาดนี้! เม็ดแรกไม่ตายก็ให้กินเม็ดที่ 2 คิดถึงแค่ตรงนี้เขาก็รู้สึกชีวิตตัวเองน่าเศร้าเหลือเกิน!
ต่อมาคนนั้นก็โดนจับกรอกยาเม็ดที่ 3 ที่ดูเหมือนจะใหญ่และมีพิษมากกว่าอีก 2 เม็ดก่อนหน้าเสียอีก และนั่นก็เป็นเหตุให้เขาต้องตายในทันที!
ทว่าในตอนนี้เองที่ฉู่เหินรู้สึกว่าสิ่งที่กักขังพลังวรยุทธเขาอยู่เริ่มคลายตัวแล้วในที่สุด หลังจากนั้นชายหนุ่มเริ่มใช้พลังปราณของตนกระแทกสิ่งกีดขวางนั้นออกอย่างรวดเร็ว! หลังจากนั้นไม่ถึง 2 นาที เขาก็ได้ยินบางอย่างดังภายในร่างกายตัวเอง ก่อนจะตามมาด้วยเสียงดังเพล้ง! เป็นอันว่าเขาเป็นอิสระแล้ว! พอเห็นดังนั้นฉู่เหินก็ดีใจเตรียมตัวจะหนีทันที!
อย่างไรก็ตามหญิงสาวคนนั้นไม่ได้สนใจพลังวรยุทธ์ของเขาเลย เพราะฉู่เหินนั้นเปรียบเสมือนเด็กน้อย! เขาพบว่าพลังวรยุทธ์ของหญิงสาวอยู่ในขั้นปราชญ์ดารา ถ้าอีกฝ่ายเป็นเพียงขั้นปราชญ์ดาราระดับต้นคนหนึ่งเขาก็อยากจะลองเสี่ยง แต่ถ้าอีกฝ่ายเป็นขั้นปราชญ์ดาราระดับสูง งั้นเส้นทางนี้ของเขาก็ไม่เหลือแล้ว
ที่ฉู่เหินรู้สึกเศร้าก็คืออัคคีสังสารวัฏตอนนี้กำลังหลอมกระบี่บินในขั้นตอนสำคัญ อีกทั้งเพื่อการทดลองที่สมบูรณ์แบบ จะต้องใช้น้ำวิญญาณไปทดลอง! ดังนั้นอัคคีสังสารวัฏเลยขอยืมหม้อเซียนเขาไปแล้ว! ทั้งยังบอกกับฉู่เหินว่าห้ามรบกวนมันอีกด้วย
แน่นอนต่อให้เขาอยากรบกวนมันแค่ไหนมันก็ไม่ได้ยินอยู่ดี! เพราะอัคคีสังสารวัฏเตือนว่ามันสร้างค่ายกลเอาไว้ด้านนอก! ต่อให้ฉู่เหินใช้พลังทั้งหมดที่มีเพื่อเรียก มันก็ไม่ได้ยินอยู่ดี! ดังนั้นตอนนี้ชีวิตฉู่เหินจึงราวกับกำลังยืนอยู่บนปากเหว
ขณะที่เขากำลังวางแผนการ หญิงสาวคนนั้นก็เดินเข้ามาคว้ามือของฉู่เหินและดึงไปข้างนอก “ไม่เลวนี้ สามารถถอนเวทย์ที่ฉันใช้ได้ด้วย แต่ถอนไปได้ก็ดีเหมือนกัน จะได้ทำให้นายสบายตัวขึ้นหน่อย”
พูดจบเธอก็หยิบยาสีดำนั้นออกมาอีกครั้ง และยัดเข้าไปในปากขณะที่ฉู่เหินดิ้นอย่างเอาเป็นเอาตาย ชายหนุ่มอยากจะคายยาเม็ดนั้นออกไป แต่แล้วเขาก็พบว่าตัวเองไม่มีเรี่ยวแรงเลย เพราะยาเม็ดนั้นได้เข้าไปในร่างกายเขาและออกฤทธิ์แล้ว!
เพียงเท่านี้ฉู่เหินก็รู้สึกว่าท่าไม่ดีแล้ว รีบโคจรพลังกิเลนทันที แต่เมื่อพลังกิเลนเจอกับพิษชนิดนี้ มันก็ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร อีกทั้งฉู่เหินยังพบว่ายานี้มันกำลังบุกรุกอวัยวะภายในและเนื้อหนังของเขาอยู่! กระทั่งวิญญาณของเขายาพิษก็ไม่ปล่อยไป แต่เขาได้หลอมรวมสามจิตวิญญาณไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นยาพิษจึงทำอะไรวิญญาณเขาไม่ได้!
ชายหนุ่มได้แต่มองยาพิษนั้นทะลวงเนื้อหนังของตัวเองไม่หยุด ก่อนที่ฉู่เหินคิดในใจ ในเมื่อพวกมันอยากจะเข้าเนื้อเขานัก ถ้างั้นตัวเองก็จะถือโอกาสนี้ฝึกฝนร่างกายมันซะเลย ไม่รู้ว่าจะทำได้ไหม แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาให้คิดแล้ว ไม่มีทางเลือกนอกจากนั่งโคจรวิชาพลังกายมันตรงนั้น!
เดิมทีวิชาพลังกายนั้นมีเพียงอัคคีสังสารวัฏเท่านั้นที่ทำแล้วได้ผล แต่พิษในครั้งนี้มันกลับช่วยส่งเสริมกล้ามเนื้อของเขาอย่างมาก! เมื่อเห็นดังนั้นฉู่เหินก็ดีใจรีบโคจรพลังอย่างรวดเร็ว! ต่อมาวิชานี้ก็ถูกเขาโคจรขึ้นมาทั้งหมด พิษที่เข้าไปในอวัยวะภายในก็เริ่มที่จะไหลตามการโคจรของเขา!
การใช้พิษล้างพิษแน่นอนว่าฉู่เหินต้องเจ็บปวดอยู่แล้ว! ถ้าในสถานการณ์ปกติเขาไม่มีทางลองทำเด็ดขาด ต้องเข้าใจว่าถ้าทำไม่ดี ชีวิตตัวเองได้ปลิดปลิวแน่ ตอนนี้เขาถูกบังคับอย่างไม่มีทางเลือกเท่านั้น
ต่อมายาพิษก็แทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของเขา ฉู่เหินที่ไม่ได้รู้สึกกล้ามเนื้อขยายมานาน ทว่ามาตอนนี้กลับขยายใหญ่อย่างรวดเร็ว! เดิมทีกล้ามเนื้อของเขาอยู่ในขั้นจักรพรรดิดาราระดับกลาง ตอนนี้พอถูกพิษเข้าแทรกซึมกล้ามเนื้อของฉู่เหินก็พัฒนาไปได้อย่างรวดเร็ว
เพียงพริบตาเดียวผิวหนังด้านนอกของเขาก็หนาขึ้นหลายชั้นเป็นดักแด้ ต่อมาของสิ่งนี้ก็แตกร้าวและสร้างใหม่แตกร้าวและสร้างใหม่อยู่อย่างนี้หลายครั้ง ทำให้ผิวหนังของฉู่เหินตอนนี้ขาวราวกับหิมะ เป็นผิวที่กระทั่งผู้หญิงมาเห็นยังต้องรู้สึกละอายใจตัวเอง!
ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นก็คือหญิงสาวที่กำลังจ้องมองอยู่นี้ มองมาด้วยสายตาอิจฉา! กระทั่งในใจยังแอบคิดว่า “ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมผิวหมอนี้ถึงได้ขาวขนาดนี้ หรือว่านายอยากจะเป็นคุณนายหน้าขาวอย่างงั้นเหรอ!” คิด ๆ แล้วอีกฝ่ายก็จ้องฉู่เหินด้วยความไม่พอใจ!