สุดยอดชาวประมง - บทที่ 534 ยักษ์สามตาส่งมอบ
บทที่ 534 ยักษ์สามตาส่งมอบ
บทที่ 534 ยักษ์สามตาส่งมอบ
หลังฝุ่นควันจางหาย ความเป็นจริงก็เปิดเผยออกมา ปรากฏว่าตำแหน่งที่ฉู่เหินยืนอยู่แต่เดิมนั้นได้กลายเป็นหลุมลึก! และมีควันดำ ๆ ปกคลุมไปทั่ว จนยากที่จะมองมองเห็นได้ไม่ชัดนัก !
เนิ่นนานกว่าควันจะจางหายไปหมด ก่อนที่จะเห็นว่ามีเงาร่างปีนออกมาจากในหลุม !
ชายหนุ่มที่เพิ่งจะปีนขึ้นมาได้ เขาก็พลันกระอักเลือดออกมา ! ทำให้ใบหน้าขาวซีด เห็นได้ชัดว่าเขาไม่โอเคอย่างมาก อีกทั้งลมปราณภายในร่างก็ปั่นป่วนไม่น้อย !
แต่อย่างน้อยก็ยังไม่ตาย ! เพราะตอนที่ดาบนั่นฟาดลงมา โชคดีที่ตัวเองมีเกราะกระดองเต่าทองคำ ไม่งั้นเกรงว่าชีวิตตัวเองคนจะจบสิ้นไปแล้ว ! อันที่จริง แค่เห็นหลุมลึกที่เกิดขึ้น ก็น่าจะพอเดากันได้แล้วว่าพลังของอีกฝ่ายนั้นรุนแรงขนาดไหน !
ทางด้านยักษ์สามตาเองก็อ่อนแอลงเช่นเดียวกัน แม้ว่าพลังวรยุทธ์ของมันจะสูงมาก แต่เนื่องจากที่แห่งนี้จำกัดพลังของมันเอาไว้ ไม่อย่างงั้นอาศัยแค่พลังที่แท้จริง มีหรือที่ตกที่นั่งลำบากแบบนี้ !
ถึงจะพ่ายแพ้ หากแต่ตอนนี้ดวงตาของยักษ์สามตากลับลุกโชนร้อนแรง มันมองมาที่ฉู่เหินราวกับเห็นของแปลก ! ทางด้านชายหนุ่มเอง เมื่อเขาถูกมองแบบนั้นก็พลันเผลอก้าวถอยหลังไปหลายก้าว ! ก่อนจะลูบท้ายทอยอย่างทำอะไรไม่ถูกที่จู่ ๆ ก็ถูกยักษ์สามตามองด้วยสายตาแบบนี้ !
“ฉันเกิดมาเป็นยักษ์ธรรมดา เติบโตมาแบบยักษ์ธรรมดา ทว่าตอนกำเนิดโลกกลับถูกคนเรียกว่ายักษ์ร้าย และถูกรุมจู่โจมหลายด้าน จนตกต่ำอย่างที่เห็นเช่นตอนนี้ สิ่งที่นายเห็นฉันตอนนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของฉันเท่านั้น !” ยักษ์สามตาไม่สนท่าทีแปลก ๆ ที่ฉู่เหินมองมา ตัวเองกลับก้าวไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ และแนะนำตัว
เมื่อได้ยินการแนะนำตัวของยักษ์สามตา ฉู่เหินก็ได้รู้ว่ายักษ์สามตาตัวนี้ก็คือผู้นำเผ่ายักษ์สามตา ! ที่เป็นเผ่ายักษ์สามตาชนเผ่าไป๋เย่โบราณ ทว่าสำหรับโลกอันโหดร้ายใบนี้ ณ ตอนนี้มันกลับไม่มีใครรู้จักยักษ์สามตาพวกนี้เลยสักคน !
ยักษ์สามตาตัวนี้ชื่อว่าหงกังเหลียน เกิดในยุคบรรพกาล ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในปรมาจารย์ขั้นสูงคนหนึ่ง ! ทว่ามันก็ได้เกิดการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ขึ้น ทำให้เผ่าพันธ์ยักษ์สามตากลายเป็นฝ่ายที่พ่ายแพ้เพราะจิตใจไม่โหดเหี้ยมพอ ! บอกเลยได้ว่าสงครามครั้งนั้นโหดร้ายเป็นอย่างมาก เพราะทำให้หลายเผ่าพันธ์ถึงกับย่อยยับ !
จากโลกอันกว้างใหญ่ดี ๆ ใบหนึ่ง มาตอนนี้มันได้กลายเป็นเศษเล็ก ๆ ที่ล่องลอยอยู่ในอวกาศ ! ศึกครานั้น มีสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่จบชีวิตลงมากมายนัก ซึ่งเดิมทีหงกังเหลียนก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ตายเช่นกัน เจ้ายักษ์สามตาตัวนี้ควรจะดับสูญไปนานแล้ว หากแต่วิญญาณของมันกลับถูกดูดให้มาอยู่ที่นี่ !
หลังจากนั้นเจ้ายักษ์ก็ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวเรื่อยมา ! โดยแลกกับการเฝ้าที่แห่งนี้เอาไว้ ทว่าด้วยระยะเวลาอันยาวนาน จึงทำให้หงกังเหลียนคิดที่จะหาผู้สืบทอด ! เพื่อไม่ให้วิชาของตนต้องหายไป
อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีคนเข้ามาที่นี่ไม่น้อย แต่ก็ไม่มีใครสามารถรับการโจมตีของหงกังเหลียนได้เลย จนกระทั้งฉู่เหินปรากฏตัว และทำให้ยักษ์สามตาเริ่มมองเห็นความหวัง !
และก็เป็นอย่างที่คาด เพราะในที่สุดความฝันของยักษ์สามตาก็เป็นจริง ! ชายหนุ่มสามารถรับการโจมตีของตนได้ถึง 3 กระบวน ! ทำให้หงกังเหลียนตัดสินใจที่จะรับเขาเป็นศิษย์ !
ร่างกายของฉู่เหินนั้นเป็นร่างกายของผู้ฝึกพลังวรยุทธ์ ดังนั้นจึงทำให้ชายหนุ่มเหมาะที่จะรับการสืบทอด ! และพอฉู่เหินได้ยินที่อีกฝ่ายพูด เขาก็พลันตกใจ ! เพราะต้องเข้าใจว่าผู้ที่อยู่ตรงหน้าเป็นปรมาจารย์ขั้นสูงผู้หนึ่งอย่างแน่นอน ไม่ต้องพูดถึงการสืบทอดเลย ขอแค่เพียงได้วิชาผิวเผินมา ตัวเขาก็พอใจแล้ว !
หลายคนน่าจะไม่รู้จักหงกังเหลียงแน่ ! แต่ยักษ์ตัวนี้นั้นยังมีอีกชื่อว่าหงทู๋ และแต่โบราณกาลมา หงทู๋ก็นับได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่เก่งกาจมาก ๆ คนหนึ่ง !
เมื่อตัดสินใจได้แล้ว ฉู่เหินก็พลันคุกเข่าคารวะอาจารย์เสร็จสรรพ ทำให้หงกังเหลียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่ร่างกายยักษ์สามตาจะกลายเป็นร่างมายาที่ดูเลือนราง ! และกลายเป็นแสงสีขาวเข้าที่พุ่งตรงเข้าสู่กลางคิ้วของชายหนุ่ม ! ทำให้เขารู้สึกเหมือนกับศีรษะโดนทุบ ! เพราะในขณะนี้นั้นมันก็ได้มีข้อมูลนับไม่ถ้วนไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง !
อาจเป็นเพราะข้อมูลที่ว่ามีเยอะเกินไป จึงทำให้หัวของฉู่เหินปวดราวกับจะระเบิด เขาได้แต่กุมศีรษะเอาไว้แน่น และกลิ้งไปมาบนพื้น ก่อนที่ความเจ็บปวดนี้จะทำให้ฉู่เหินหมดสติไปโดยไม่รู้สึกตัว !
ไม่นานนัก ฉู่เหินก็ได้สติขึ้นมาอย่างช้า ๆ ! และในตอนที่เขาลืมตาตื่นขึ้นมา ชายหนุ่มก็พลันรู้สึกว่ารอบ ๆ ตัวของตนนั้นดูจะเล็กลง ! นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น ทำไมถึงกลายเป็นเล็กไปแล้วแบบนี้ละ !
เขานั่งลงด้วยความมึนงง ทำตัวไม่ถูก ก่อนที่ชายหนุ่มจะได้เห็นมือของตัวเอง และตกตะลึงกับภาพที่เห็น ! เพราะเขาพบว่ามือทั้ง 2 ข้างของตนตอนนี้ได้ใหญ่ขึ้นอย่างประหลาด อย่างกับใบลาน !
และก็เป็นตอนนี้เช่นกันที่ในสมองของเขามีข้อมูลบางอย่างเข้ามา ! ทำให้ชายหนุ่มเข้าใจว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ! ที่แท้เป็นเพราะหงกังเหลียงได้ใช้วิญญาณสุดท้ายของตัวเองถ่ายทอดให้แก่ตนนั่นเอง !
หลังจากที่ฉู่เหินได้รับการสืบทอด ร่างกายของเขาจะกลายเป็นยักษ์ตนหนึ่ง ! ทว่าเรื่องรูปร่างนั้นเขาสามารถควบคุมได้อย่างอิสระ จะหด หรือจะใหญ่ก็ได้ตามต้องการ ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลมากไป ! แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ การสืบทอดในครั้งนี้ต้องแลกมากับชีวิตของหงกังเหลียงด้วยนี่ซิ !
ว่าแล้วฉู่เหินก็ยืนขึ้น เขามาหยุดอยู่ตรงตำแหน่งที่หงกังเหลียงเคยยืนและโขกศีรษะกับพื้น 3 ครั้ง ! เรื่องที่อีกฝ่ายถึงกับแลกชีวิตเพื่อมอบความสามารถแบบนี้ให้แก่ตัวเอง เขาจะจำไว้ไม่ลืมเลย !
ต่อมาเขาก็เดินจะไปหยิบไข่มุกล้ำค่า เดิมทีฉู่เหินเตรียมจะหยิบมันใส่ในแหวนมิติ แต่ก็นึกขึ้นมาได้ว่าของที่ระดับสูงมาก ๆ นั้นไม่สามารถเก็บไว้ในแหวนมิติของเขาที่ระดับต่ำกว่ามากได้ ! ดังนั้นแล้วชายหนุ่มจึงกำไข่มุกไว้ในมือ แล้วเดินออกมาข้างนอกเลย !
ระหว่างทาง ก้าวนภาถูกเขาโคจรจนถึงขีดสุด แค่ก้าวเพียง 1 ก้าวก็พลันปรากฏตัวห่างจากจุดเดิมนับหลายร้อยเมตรแล้ว ! ซึ่งฉากนี้มันก็ทำให้เขาอดที่จะตะลึงไม่ได้ ต้องเข้าใจว่าเดิมทีก้าวนภาของตนนั้นไปไกลสุดแค่สิบกว่าเมตรเท่านั้น ไม่ได้มากขนาดนี้ ! ดังนั้นเขาจึงตรวจสอบพลังวรยุทธ์ของตัวเอง ก่อนที่จะตะลึงอ้าปากค้าง เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไรกัน ที่พลังวรยุทธ์ของเขาเลื่อนมาอยู่ที่ขั้นปราชญ์ระดับกลางแล้ว !
ต้องเป็นหงกังเหลียงแน่ ๆ ! ไม่งั้นเขาคงไม่มีทางที่จะเลื่อนขั้นเร็วขนาดนี้ และเมื่อคิดได้แบบนั้น ชายหนุ่มก็ยิ่งรู้สึกซาบซึ้งในตัวของอาจารย์คนนี้มากกว่าเดิมขึ้นไปอีก !
ว่าแล้วเขาก็ไม่รีรออีกต่อไป รีบพุ่งออกไปด้วยความรวดเร็ว ก่อนที่จะพบว่ามิติรอบตัวกำลังถล่มลงมาอย่างรวดเร็ว ! และไม่เพียงแต่ภายในนี้เท่านั้น เพราะแม้แต่ค่ายกลด้านนอกก็เริ่มจะสั่นไหวแล้วเหมือนกัน พอเห็นฉากนี้ ฉู่เหินก็รู้แล้วว่ามิติแห่งนี้น่ากลัวว่าจะอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว !
เขาพลันใช้ก้าวนภาเพื่อส่งตัวเองให้เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุด จนกระทั่งมาถึงที่จุดรวมตัวของเหล่าแฟรี่ ! และได้พบว่ารอบด้านกำลังจะถล่มลงมาอีกไม่กี่อึดใจแล้ว !
ทางด้านเหล่าแฟรี่ พวกมันนั้นกำลังเกาะกลุ่มกันแน่น มีท่าทีร้อนรน เพราะรู้ว่ามิติแห่งนี้อยู่ได้อีกไม่นานแล้ว อย่างไรก็ตาม ฉู่เหินที่ไปเอาไข่มุกนั้นยังไม่กลับมา จึงทำให้จิตใจพวกเธอดำดิ่งยิ่งกว่าเดิม ! แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น หากแต่พวกเธอก็ยังคงก้มหน้าก้มตาทำงานของตนต่อไป
โดยเฉพาะกับกลุ่มแฟรี่ที่ดูแลสระแห่งจิตวิญญาณ เพราะต้องเข้าใจว่าสระแหล่งจิตวิญญาณนั้น เป็นสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ที่ติดตามพวกเธอมาจากโลกเก่า และพวกเธอก็รู้ดีว่าการจะไปเอาไข่มุกภายในนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ! ดังนั้นพวกเธอจึงพยายามตรึงค่ายกลเอาไว้ เพื่อให้สระน้ำแห่งจิตวิญญาณคงสภาพเอาไว้ได้ !