สุดยอดชาวประมง - บทที่ 538 รักษาอาการบาดเจ็บ
บทที่ 538 รักษาอาการบาดเจ็บ
บทที่ 538 รักษาอาการบาดเจ็บ
เมื่อเห็นว่าฉู่เหินเป็นลมหมดสติไป นัยน์ตาของศิษย์พี่ 6 ก็ฉายชัดว่าเจ็บปวดใจมาก ! เขาได้ยินมาจากน้อง 7 ว่าหลังจากที่ฉู่เหินมาบ้านวายุ ก็ทำให้พวกเขามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นมาก กระทั่งทั้ง 4 บ้านที่เหลือยังคาดไม่ถึง !
ดังนั้นที่เขาโกรธก็คือตัวเองที่ไม่รอบคอบ ทำให้ศิษย์น้องได้รับบาดเจ็บสาหัส ! แต่ในขณะเดียวกันเขาก็มองไปที่ขั้นเทพดาราคนนั้นด้วยสายตาที่ไม่คิดจะปกปิดไอสังหารเลย !
“เจ้า 6 หยวน นายกับฉันเป็นขั้นเทพดาราของพรรค ! ถ้านายกล้าทำร้ายฉัน ทุกคนจะไม่ปล่อยแกไว้แน่” แม้จะพูดไปแบบนั้น ทว่าในใจเขากำลังหวาดกลัว !
“ฆ่าแกสักคนจะเป็นอะไรไป ใช่ว่าตระกูลหลิวจะกล้าทำอะไรฉันเสียหน่อย ! ไม่ต้องห่วง ครั้งนี้ฉันจะให้ตระกูลหลิวของพวกแกชดใช้อย่างสาสม !” สิ้นเสียงก็เห็นศิษย์พี่ 6 เคลื่อนที่อย่างฉับพลัน
ระหว่างที่หายร่างไป กระบอกใหญ่ในมือก็พลันฟาดลงไปเบื้องหน้า ! กระบองนี้แต่เดิมยาว 2 เมตร แต่เมื่อเขาฟาดลงไปมันกลับยาวขึ้นนับสิบ ๆ เมตร ! อีกทั้งเขายังฟาดมันลงไปด้วยความรวดเร็วเสียจนมองไม่เห็นรูปร่างที่แท้จริงของมันเลยด้วย
เมื่อขั้นเทพดาราเห็นดังนั้นก็หมุนตัวเตรียมจะวิ่งหนี เขารู้ดีว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนตรงหน้า เพียงแต่ร่างที่เพิ่งจะเคลื่อนไหวยังไม่ทันจะหนี ก็เห็นกระบองของศิษย์พี่ 6 ฟาดไปที่ศีรษะของเขาด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อเสียก่อน
เปรี้ยง ! เสียงกระบองฟาดลงไปอย่างแรง ทำให้ร่างกายของผู้ฝึกขั้นเทพดาราคนนั้นถูกฟาดจนกระดูกแตก ! ยังไม่ทันรอให้อีกฝ่ายร้องเพราะความเจ็บปวด ร่างเนื้อของขั้นเทพดาราก็พลันแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ !
คนที่เหลือเมื่อเห็นฉากน่าหวาดกลัว ก็พากันวิ่งหนีโดยพลัน เพราะขนาดพลังวรยุทธ์ที่สูงที่สุดในพวกเขายังไม่ใช่คู่ต่อสู้อีกฝ่าย แล้วพวกเขารับมือได้หรือ ? ทว่าการจะหนีจากศิษย์พี่ 6 นั้นยากยิ่งกว่าการที่ฟ้าจะถล่มลงมาเสียอีก !
กระบองในมือของศิษย์พี่ 6 เป็นอาวุธวิเศษที่สามารถยืดได้หดได้ ดังนั้นเพียงกวาดมือเป็นวงกลมรอบเดียว ! ก็ไม่เหลือสิ่งมีชีวิตใดอีกแล้ว ตอนนี้คนพวกนั้นได้ถูกศิษย์พี่ 6 จัดการเก็บกวาดเสียจนสะอาด ! ก่อนที่ต่อมาจะเห็นพี่ 6 ตรงเข้าไปแบกฉู่เหินขึ้นหลัง และกลับบ้านวายุอย่างรวดเร็ว !
ฉู่เหินเหมือนกับกำลังหลับฝัน และเป็นความฝันที่ดีมาก ๆ เสียด้วย ! เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในกระท่อมแล้ว ! และที่ชายหนุ่มไม่รู้ก็คือตอนที่ตนหมดสติไปนั้น ตระกูลหลิวต้องประสบหายนะไปมากขนาดไหน ! ซึ่งหลังจากศิษย์พี่ 6 กลับมาเห็นเข้าแล้ว เขาก็ได้อธิบายให้ฉู่เหินฟังเรื่องราวทั้งหมดรอบหนึ่ง
เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้จูเก๋อโยวหมิงและคนอื่น ๆ โกรธกันมาก ! พวกเขาคิดไม่ถึงว่าตระกูลหลิวจะทำเรื่องลอบกัดแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่รับปากกับพวกเขาอย่างดีว่าจะไม่ทำอะไรฉู่เหิน แต่พวกมันกับกล้าถึงขนาดทำแบบนี้ ! ทำให้จูเก๋อโยวหมิงพาศิษย์คนอื่น ๆ ไปบุกฆ่าคนตระกูลหลิวทิ้งในทันที !
ครั้งนี้พวกเขาไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย การล่าสังหารเพียงครูเดียวก็สามารถสังหารขั้นเทพดาราของตระกูลหลิวได้ถึง 10 กว่าคน เมื่อเป็นแบบนี้ก็ยิ่งทำให้ตระกูลหลิวหวาดกลัวยิ่งขึ้น ถ้าไม่ใช่เพราะหัวหน้าพรรควายุอัสนีเข้ามาห้าม เกรงว่าตระกูลหลิวคงจะเหลือเพียงชื่อ !
และเหตุที่พวกเขาหยุด ก็เป็นเพราะว่าหัวหน้าพรรควายุอัสนีนั้นพูดออกมาว่า “ท่านลุงจูเก๋อ ! ถ้าไม่ผ่านการฝึกฝนแล้วจะเติบโตได้ยังไง ! ฉันว่าที่คุณทำแบบนี้ออกจะเป็นการปกป้องลูกศิษย์ตัวเองเกินไปหน่อยไหม ถ้าต้องทำแบบนี้ต่อไป ทำไมไม่เก็บเขาเอาไว้ตั้งโชว์ในห้องเลยละ ทำเช่นนี้แล้วเมื่อไรลูกศิษย์คุณจะโตกัน ?”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ชายชราจึงนิ่งคิด ก่อนจะตอบโต้กลับไปว่า “คิดอยากจะท้าสู้กับศิษย์ของฉันน่ะได้ ขอเพียงอายุและพลังวรยุทธ์พอ ๆ กัน ฉันก็ไม่คัดค้านอะไรหรอก ! แต่ใครที่หน้าด้านลอบกัด ต่อให้ต้องฆ่าพวกมัน 9 ชั่วโคตร ฉันก็ทำได้โดยไม่กะพริบตา !” หลังจูเก๋อโยวหมิงพูดจบ ก็ทำให้นัยน์ตาคนโดยรอบสั่นไหวเล็กน้อย !
กระทั่งมีคนไม่น้อยคิด เกรงว่าต่อไปฉู่เหินจะมีวันสงบสุขยากแล้ว ในโลกใบนี้มีใครกล้าบอกว่าตัวเองไร้เทียมทานในหมู่ระดับพลังเท่ากันบ้าง ! ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเรื่องอายุอีก ต้องเข้าใจว่าในคนรุ่นเดียวกันย่อมมีอัจฉริยะ และในอายุเท่า ๆ กันนี้ ขั้นครึ่งจอมปราชญ์ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย
ถ้าอัจฉริยะแบบนี้ปรากฏตัวขึ้นมาฆ่าฉู่เหิน พวกเขาอยากจะรู้ว่าชายตรงหน้าจะรู้สึกยังไง ! โดยเฉพาะคนที่มีความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลหลิว เดิมทีพอเห็นว่าตระกูลหลิวถูกกระทำอย่างน่าเวทนาอย่างนี้ พวกเขาก็รู้สึกเหมือนกระต่ายตาย หมาก็ถูกฆ่า*
*กระต่ายตาย หมาก็ถูกฆ่า เปรียบได้กับคนที่ทำอะไรสมปรารถนาแล้ว ก็ถีบหัวส่งเพราะหมดความหมาย เหมือนหมาที่ล่ากระต่ายได้ ต่อไปถูกจับเอามาฆ่าเหมือนกัน
คนที่กระโดดลงเรือลำเดียวกับตระกูลหลิวอย่างพวกเขา เดิมทีก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่แล้ว ! ถ้าตระกูลหลิวล่มสลายจริงล่ะก็ พวกเขาเชื่อว่ามีคนนับไม่ถ้วนจะยื่นดาบกระบี่มาทางพวกเขา ดังนั้นตอนนี้พวกเขาเหลือเพียงทางเลือกเดียวคือต้องเกาะต้นไม้ใหญ่อย่างตระกูลหลิวไว้ให้แน่น !
และตอนนี้การจะช่วยตระกูลหลิวนั้นก็ง่ายมาก เพียงแค่ทำให้ฉู่เหินแพ้หรือแม้กระทั่งตายไปซะ ! ถ้าสามารถทำได้ ชื่อเสียงของจูเก๋อโยวหมิงก็จะย่อยยับ อีกทั้งหลังจากนี้เขาก็จะไม่กล้าคลั่งขึ้นมาอีก ! เมื่อคิดถึงตรงนี้สายตาของพวกเขาก็ปรากฏชัดถึงแผนการร้ายบางอย่างขึ้นมา
จูเก๋อโยวหมิงพอพูดจบเขาก็ตระหนักได้ถึงจุดนี้ แต่ด้วยเป็นยอดฝีมือเขาก็ย่อมมีเกียรติของตัวเอง เมื่อพูดอะไรไปแล้วเขาไม่สามารถคืนคำได้อีก ดังนั้นชายชราจึงได้แต่สะบัดแขนเสื้อและจากมา ! พร้อมกับคิดหาวิธีการให้พลังวรยุทธ์ของฉู่เหินเพิ่มขึ้น ! ชายหนุ่มนั้นมีพรสวรรค์ หากแต่มันก็ต้องใช้เวลา ดังนั้นชายชราจึงคิดที่จะไม่ให้ฉู่เหินออกไปนอกบ้านวายุเลย อย่างน้อยก็ขอเวลาสัก 3 ปี เขาเชื่อมั่นว่าด้วยเวลาขนาดนั้น ตนน่าจะสามารถทำให้ลูกศิษย์คนที่ 9 ของเขาคนนี้ไร้เทียมทานได้อย่างแน่นอน !
อีกอย่าง ตอนที่เขาออกไปข้างนอกก็ได้สูตรยาดี ๆ มาไม่น้อย ซึ่งสูตรยาพวกนี้ก็ใช่ว่าจะหาได้ง่าย ๆ เรียกได้ว่าถ้าปรากฏตัวขึ้นก็ทำให้เกิดสงครามแย่งชิงแล้ว เพียงแต่ว่ามันก็มีความยุ่งยากอยู่บ้าง เพราะขั้นตอนการทำยานั้นต้องอาศัยน้ำวิญญาณชนิดพิเศษ !
น้ำวิญญาณพวกนี้ในอาณาจักรเทียนชิงนั้นมีน้อยมาก ๆ ถ้าอยากได้ต้องไปที่ดินแดนปีศาจ ที่แห่งนั้นมีของแบบนี้เยอะมาก ถึงขนาดที่ว่าคนที่เคยเข้าไปในนั้นเล่าว่ามีสระน้ำที่เต็มไปด้วยน้ำวิญญาณทั้งหมด แต่ถึงแม้จะรู้แบบนั้น หากแต่จูเก๋อโยวหมิงก็รู้สึกจนปัญญา เพราะถึงแม้เขาจะเคยเข้าไปในดินแดนปีศาจมาแล้ว หากแต่เขานั้นก็ไม่อยากเข้าไปในที่แบบนั้นบ่อย ๆ !
ที่สำคัญเลยก็คือ น้ำพวกนั้นอยู่ในส่วนลึกของดินแดน ทั้งระหว่างการเดินทางก็เต็มไปด้วยเสียงโหยหวนของภูตผี ถ้าไม่ใช่พลังวรยุทธ์ของเขาสูงจริง ๆ ละก็ เกรงว่าการเข้าไปครั้งนี้ยากที่จะออกมา ! แต่แม้ว่าจะพูดแบบนั้น หากแต่เขาก็ยังสามารถสู้กับคนที่เก่งที่สุดในดินแดนปีศาจได้ถึง 2 กระบวนท่า ! ก่อนที่เจ้าปีศาจตนนั้นจะรีบหนีหายไปอย่างรวดเร็ว !!!
จูเก๋อโยวหมิงที่ไม่สามารถหาน้ำวิญญาณมาได้ เขาก็ได้แต่รู้สึกกลุ้มใจ ทำไมมันถึงไม่มีส่วนผสมอื่นที่สามารถทดแทนกันได้บ้างเลยนะ ?
หลังจากฉู่เหินฟื้น และได้รู้ว่าอาจารย์ทำเพื่อตัวเองแค่ไหนก็อดที่จะซาบซึ้งใจไม่ได้ ! มันทำให้ชายหนุ่มรู้สึกว่าบ้านวายุเป็นบ้านที่อบอุ่นมาก ! ซึ่งหลังจากพักฟื้นร่างกายจนหายดี 4 ถึง 5 ส่วนแล้ว เขาก็รีบลุกขึ้น ก่อนจะออกมาข้างนอกเตรียมจะไปขอบคุณอาจารย์ตัวเอง !
อย่างไรก็ตาม เขาเพิ่งจะเดินออกมาไม่ทันไร ชายหนุ่มก็เห็นเข้ากับหน้านิ้วคิ้วขมวดของศิษย์พี่ 6 เสียก่อน ดังนั้นฉู่เหินจึงเดินเข้าไปถามศิษย์พี่ 6 ว่าเกิดอะไรขึ้น ! ด้านพี่ 6 ก็ทำท่ายึกยักไม่ยอมพูด แต่พอชายหนุ่มถามรอบที่ 3 เขาถึงได้พูดออกมาหมดเปลือก !
จึงทำให้ฉู่เหินได้รู้ว่าที่อาจารย์และศิษย์พี่ของเขาหน้านิ้วคิ้วขมวดก็เพราะเรื่องของตัวเองทั้งนั้น ! ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นในใจไม่น้อย ทว่าหลังจากที่ชายหนุ่มรู้ว่าอาจารย์กำลังตามหาน้ำวิญญาณที่ดินแดนปีศาจ เขาก็พลันแสดงสีหน้าประหลาด ๆ ออกมา ! เนื่องจากสระน้ำวิญญาณพวกนั้นถูกเขาเก็บมาหมดแล้วน่ะสิ !