สุดยอดชาวประมง - บทที่ 543 ที่ควรจะสู้ก็มาแล้วนี่ไง !
บทที่ 543 ที่ควรจะสู้ก็มาแล้วนี่ไง !
บทที่ 543 ที่ควรจะสู้ก็มาแล้วนี่ไง !
ฉู่เหินเหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้ เขารีบหมุนร่าง ขึ้นขี่บนตัวหมาป่า ก่อนที่จะพุ่งไปอีกทิศทางหนึ่งด้วยความรวดเร็ว ! ต้องเข้าใจว่าที่นี่คือบ้านวายุ ถ้าเกิดโดนด่านเคราะห์สวรรค์อัสนีเข้าละก็ มีหวังบ้านวายุราบเป็นหน้ากลองแน่ และนั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ฉู่เหินต้องการแม้แต่น้อย !
ตอนที่เพิ่งออกมา ชายหนุ่มได้ใช้พลังจิตสำรวจกระท่อมของตัวเอง ดังนั้นเขาจึงพบเข้ากับจดหมายท้าสู้ที่อยู่เต็มหน้ากระท่อม และเมื่อคิด ๆ ดูแล้ว เขาก็คิดแผนการหนึ่งออก ! ดังนั้นตอนที่ผ่านกระท่อมตัวเอง ฉู่เหินก็ได้โบกมือครั้งหนึ่ง เพื่อดูดจดหมายทั้งหมดเข้ามาอยู่ในแหวนมิติ !
ฉู่เหินขี่หมาป่า ทำให้มาถึงบริเวณด้านนอกบ้านตระกูลหลิวได้รวดเร็วมาก เมื่อมองชายหนุ่มที่จากไปไกลลิบ ศิษย์คนอื่น ๆ ในบ้านวายุเองก็รีบวิ่งตามไป พวกเขารู้ว่าฉู่เหินหาที่รับด่านเคราะห์ที่อื่น เพราะไม่อยากให้บ้านวายุเป็นอะไร !
มีจูเก๋อโยวหมิงเป็นแก่นนำ พวกเขาพากันติดตามฉู่เหินอยู่ไกล ๆ ไม่กล้าเข้าไปใกล้มากนัก ขืนเข้าไปใกล้มาก ๆ ละก็ มีหวังโดนลูกหลงจากด่านเคราะห์สวรรค์เอาสิ ! ถ้าโดนเข้าจัง ๆ ละก็ ต่อให้เป็นขั้นเทพดาราก็อาจจะอันตรายถึงชีวิตได้ !
เจ้าหมาป่าเร่งความเร็วจึงถึงขีดสุด จนเห็นเป็นเส้นขีดเดียวเมื่อเคลื่อนผ่าน เพียงชั่วพริบตาก็มาปรากฏตัวเหนือบ้านตระกูลหลิวแล้ว !
หลังจากคนของบ้านตระกูลหลิวเห็นฉู่เหินปรากฏตัวที่นี่ ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นสีเขียว ! ต้องเข้าใจว่าตอนนี้ร่างกายของฉู่เหินจะถูกสายฟ้าผ่าลงมาได้ทุกเมื่อ ถ้ามันผ่าลงมันตรงนี้ล่ะก็ อาคารบ้านเรือนของพวกเขาได้ย่อยยับแน่ !
แน่นอนว่าถ้าเพียงแค่อาคารน่ะ พวกเขาไม่ได้สนใจอะไร แต่ด่านเคราะห์สวรรค์นั้นมีความรุนแรงมหาศาล ถ้าผ่าลงมาบริเวณนี้ ไม่แน่ว่าอาจมีคนของตระกูลหลิวโดนลูกหลงก็เป็นได้ ถึงตอนนั้นได้บาดเจ็บกันระนาวแน่ ! หรือแม้กระทั่งอาจจะมีคนโดนด่านเคราะห์อัสนีนี้จนตายก็ได้ ! และพวกตระกูลหลิวก็ไม่อยากจะลิ้มรสอะไรแบบนั้นเลย !
ขณะที่ทุกคนในตระกูลหลิวเตรียมพูดให้ฉู่เหินจากไป ก็ได้ยินชายหนุ่มตะโกนออกมาว่า “เจ้าพวกลูกเต่าตระกูลหลิว ออกมาหาฉันซะสิ ฉันมาตามคำท้าแล้วไง ! ไม่ใช่ว่าพวกนายส่งจดหมายท้ารบมา บอกให้เมื่อฉันออกจากฌานให้มาทันทีไม่ใช่เหรอไง ฉันก็มาตามคำท้าแล้วนี่ไง ทำไมยังไม่ออกมาอีก !”
พอได้ยินดังนั้น คนทั้งตระกูลหลิวก็ได้แต่อดกลั้นโทสะ ด้านลูกศิษย์อัจฉริยะแห่งตระกูลตระกูลเองก็ได้แต่โมโหเงียบ ๆ ไม่มีใครกล้าออกไปสักคน ! ล้อเล่นหรือไงกัน อีกนิดเดียวสายฟ้าก็จะผ่าลงมาแล้ว พวกเขาไม่อยากออกไปรับสายฟ้าพวกนั้นด้วยหรอกนะ !
พอฉู่เหินตะโกนอยู่กลางอากาศจบ และเห็นว่าไม่มีใครออกมาตกปากรับคำ เขาก็ท่าทางทำเหมือนช่วยไม่ได้แล้วหยิบจดหมายท้าฉบับหนึ่งออกมา และทำการอ่านชื่อ
“หลิงอู่เหมิง ไอ้หมาตัวเหม็นออกมาสิเว้ย ! อย่าเอาแต่หดหัวอยู่ในตระกูลหลิว รีบไสหัวออกมาเร็ว ๆ”
“เสี่ยวเฟิง ไม่ใช่ว่านายอยากจะเด็ดหัวฉันหรือไง ตอนนี้ฉันมาแล้ว ทำไมแกยังไม่ออกมาจากกระดองอีก !” ฉู่เหินทำการขานชื่อคนที่ 1 และที่ 2 ซึ่งคนที่ถูกเรียกชื่อเหล่านี้ ก็ล้วนแต่เป็นอัจฉริยะของตระกูลทั้งนั้น และตอนนี้ทั้งคู่ต่างก็ทำหน้าเหมือนกลืนลูกตุ้มเหล็กเข้าไป ใบหน้าดูไม่ได้สุด ๆ !
ระหว่างนั้นเมฆครึ้มก็ลอยมาพร้อมกับเสียงคำราม ก่อนที่จะตามมาด้วยสายฟ้าที่ฟาดลงมารอบ ๆ ตัวฉู่เหินและหมาป่า 10 กว่าสาย !
การเผชิญหน้ากับด่านเคราะห์สวรรค์อัสนีครั้งแรกนี้ ชายหนุ่มก็ไม่กล้าประมาท เขาโคจรพลังกายของตัวเองจนถึงขีดสุด และในเวลาเดียวกับที่เขาโคจรนั่นเอง สายฟ้าก็ได้ฟาดลงมาพอดี !
รูขุมขนของฉู่เหินเปิดกว้างด้วยโคจรพลังกาย ทำให้พลังแฝงที่อยู่ภายในสายฟ้าถูกดูดซับเข้าไปจนหมด !
เดิมทีชายหนุ่มยังคิดว่าด่านเคราะห์สวรรค์จะเป็นเรื่องน่ากลัว ! แต่มาตอนนี้ เขากลับคิดว่าด่านเคราะห์สวรรค์อัสนีพวกนี้นั้น มันก็มีไว้เพื่อบำรุงพลังวรยุทธ์ในร่างกายให้เขาอย่างหนึ่งเท่านั้น ! กระทั่งแอบรู้สึกว่ามับเบาไปหน่อย ถ้าสามารถทำให้รุนแรงสักหลาย ๆ ทีได้ละก็ ผลลัพธ์คงจะเยี่ยมไปเลย !
ถ้าถูกคนอื่นรู้ความคิดของฉู่เหิน จะต้องโดนด่าว่าบ้าแน่นอน ! ต้องเข้าใจว่าการที่คนคนหนึ่งรับด่านเคราะห์สวรรค์ พวกเขาต่างก็กลัวว่าพลังนั้นจะมากเกินไป เพราะยิ่งพลังมากก็ยิ่งอันตราย ! แต่กับคนที่ฝึกฝนพลังกายมาก่อนอย่างฉู่เหิน ด่านเคราะห์สวรรค์นี้ก็เป็นเพียงหยาดฝนที่ตกกระทบผิวเท่านั้น !
จากนั้นเขาก็ได้แบ่งสมาธิเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งหนึ่งคือเพ่งไปที่การโคจรพลังกายเพื่อเปลี่ยนสายฟ้าให้กลายเป็นพลัง ! ส่วนอีกด้านก็แบ่งสมาธิไปควบขี่เจ้าหมาป่าพุ่งไปทางตระกูลหลิว ! พร้อมกับตะโกนออกไปว่า “ฮ่า ๆ ในเมื่อพวกแกไม่ออกมาสู้ งั้นฉันก็จะไปหาพวกแกเอง !”
ทุกคนต่างก็ได้เห็นฉู่เหินที่ร่างกายอาบสายฟ้าฟาด ควบขี่หมาป่าอย่างไม่รู้สึกรู้สา ให้ความรู้สึกเหมือนเทพอัสนีลงมายังโลกมนุษย์ ! คนตระกูลหลิวที่เห็นฉากนี้เข้าจะ ๆ พากันตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว ส่วนคนนอกที่เห็นก็พากันอ้าปากค้าง !
อัจฉริยะตระกูลหลิว มาตอนนี้พวกเขานั้นก็ได้แต่รู้สึกเสียใจภายหลังแล้ว ! ถ้ารู้แต่แรกว่าเจ้าหมอนี้มันวิปลาสแบบนี้ พวกเขาจะไม่ส่งจดหมายท้าสู้ไปเลย และไม่ใช่แค่พวกเขา ตอนนี้แม้แต่เหล่าผู้อาวุโสของตระกูลหลิวเอง ก็พากันมีสีหน้าซีดขาวพอ ๆ กับหลานชายของพวกเขาแล้ว !
“ฉู่เหิน ก่อนหน้านี้พวกฉันผิดไปแล้ว นายรีบหยุดเร็วเข้าเถอะ พวกฉันยอมแพ้แล้ว !” ลูกหลานตระกูลหลิวไม่มีทางเลือกแล้วจริง ๆ เพราะชายหนุ่มนั้นกำลังใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว จนตอนนี้มีคนไม่น้อยถูกลูกหลงจากด่านเคราะห์สวรรค์ไปแล้ว ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปละก็ จะต้องมีคนบาดเจ็บมากกว่านี้แน่ เมื่อเรื่องเป็นเช่นนั้น พวกเขาก็จนปัญญาแล้ว ทำได้เพียงพูดประนีประนอมเท่านั้น !
“พวกแกใช้ปากพ่นลมหรือไง อยากจะพูดอะไรก็พูด ฉู่เหินคนนี้ไม่ใช่ของเล่นของพวกแกนะเว้ย ! คิดจะยอมแพ้ก็ต้องมีค่าตอบแทน จ่ายมาซะคนละ 1 แสน ! ห้ามขาดแม้แต่นิดเดียว”
ที่พูดชักแม่น้ำห้าสายมาทั้งหมด นี้แหละเป็นจุดประสงค์ที่แท้จริงของชายหนุ่ม ! เขารู้ว่าตัวเองยังไงก็ไม่อาจทำให้อีกฝ่ายล่มสลายได้ ดังนั้นจึงเปลี่ยนใจ หาทางให้ตัวเองได้รับผลประโยชน์แทน !
พอได้ยินฉู่เหินบอก พวกผู้เฒ่าหลิวแต่ละคนก็หน้าซีด ถ้าพวกเขารู้ว่าจะมีวันนี้ พวกเขาคงส่งลูกศิษย์ไปแค่ 10 คนพอ เพราะถ้าตอนนี้แต่ละคนต้องจ่ายแต้มผลงานคนละ 1 แสน งั้นมันก็รวมกันเป็นจำนวนหลายร้อยล้านได้ ! ด้วยจำนวนที่มากขนาดนี้ ทำให้ตระกูลหลิวปวดหัวไม่น้อย !
“โปรดอย่าทำเกินไปหน่อยเลย ตระกูลหลิวของพวกเราก็ไม่ใช่เต้าหู้นิ่มเหมือนกัน !” ศิษย์คนหนึ่งที่ได้ยินฉู่เหินกล่าว โมโหจนพูดสวนกลับมาอย่างรวดเร็ว
“เหอะ ! แกคิดว่าฉันจะสนใจแต้มผลงานขนาดนั้นเชียวเหรอ ต่อให้มอบให้จริง ๆ ฉันก็ไม่อยากจะเอาหรอก รีบไสหัวออกมาตายซะเถอะ !” ตอนที่พูด ชายหนุ่มก็ได้เร่งความเร็วขึ้นอีก เมื่อเป็นแบบนี้จึงทำให้มีลูกหลานตระกูลหลิวรับลูกหลงจากด่านเคราะห์สวรรค์เพิ่มไปอีก
และก็เพราะแบบนี้ จึงทำให้สายฟ้าที่ฟาดลงมานั้นรุนแรงขึ้นหลายเท่า ! ซึ่งพลังที่มากขึ้นก็ทำให้ฉู่เหินพอใจมาก เขารู้สึกว่าร่างกายตัวเองกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว !
“สหายฉู่เหิน อย่าโกรธไปเลย ! พวกเราจะให้แต้มผลงานนายเอง นายคำนวณดูว่าต้องการเท่าไร” พอฉู่เหินได้ยิน เขาก็ตอบโดยไม่คิดว่า “ 1 ร้อยล้าน”
พออีกฝ่ายได้ยินดังนั้นก็นิ่งอึ่ง แต่ก็ต้องกัดฟันรับปากไป ก่อนจะนำบัตรใบหนึ่งออกมา ซึ่งภายในบัตรใบนั้นมันก็มีแต้มผลงานอยู่ 1 ร้อยล้านพอดิบพอดี ! เมื่อเห็นแต้มผลงานนั้น ชายหนุ่มก็ยื่นมือออกไปรับ และนำเข้ากระเป๋าตัวเองอย่างไม่ลังเล
“ในเมื่อตระกูลหลิวเป็นพวกกลัวตายแบบนี้ งั้นก็ถือว่าเรื่องสารท้าประลองนั่นจบ ๆ กันไปก็แล้วกัน” หลังพูดจบ ฉู่เหินก็หมุนตัวจากไป !
เพิ่งจะไปจากตระกูลหลิว เขาก็สัมผัสได้ว่าพลังของสายฟ้าอ่อนลงไม่น้อย ทำให้เขาอดคิดบางอย่างไม่ได้ ! และเมื่อคิดได้แบบนั้น ชายหนุ่มก็พลันหมุนตัวกลับมาที่ตระกูลหลิวอีกครั้ง
“ผู้อาวุโสหลิว เมื่อกี้ฉันคำนวณผิดไปแล้ว ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ที่จริงไม่ใช่ 1 ร้อยล้าน พอดีว่าฉันไม่ค่อยเก่งวิชาเลขน่ะ ไม่สู้พวกคุณรอสักเดี๋ยว รอให้ฉันคำนวณเสร็จแล้ว จะค่อยกลับไปก็แล้วกันนะ” ตระกูลหลิวที่เพิ่งจะผ่อนคลายได้ไม่ทันไร ฉู่เหินก็กลับมาอีกแล้ว ทำให้พวกเขาทั้งหวาดกลัวทั้งโมโห !