สุดยอดชาวประมง - บทที่ 544 ด่านเคราะห์สวรรค์แผลงฤทธิ์
บทที่ 544 ด่านเคราะห์สวรรค์แผลงฤทธิ์
บทที่ 544 ด่านเคราะห์สวรรค์แผลงฤทธิ์
“สหายฉู่เหินไม่ต้องเกรงใจ ต่อให้มันเกินไป พวกเราก็ไม่ต้องการแล้ว ถือว่าเป็นของขวัญแทนคำขอโทษจากพวกเรา !” ชายคนเดิมรีบพูด ล้อกันเล่นหรือไง จะให้ฉู่เหินอยู่ที่นี่อีก ? มีหวังตระกูลหลิงของพวกเขาได้ย่อยยับกว่านี้แน่
เมื่อโดนบอกปัดแบบนี้ ชายหนุ่มก็จนปัญญา ได้แต่ค่อย ๆ ถอยออกไปอย่างไม่ยินยอมเท่าไร !
ดาวพิฆาตในที่สุดก็ถอยไปแล้ว ทุกคนถึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก !
แน่นอนว่าฉู่เหินมีจุดหมายต่อไปในใจแล้ว เขานั้นเลือกที่จะมุ่งหน้าไปที่บ้านดาราต่อ เพราะต้องเข้าใจว่าบ้านดาราเองก็ส่งจดหมายท้าสู้มาเยอะเช่นเดียวกัน ทั้งยังมีมากกว่าร้อยคนขึ้น !
เดิมทีคนของบ้านดารายังอยากที่จะดูเรื่องสนุก ๆ ต่อ แต่พวกเขาก็คิดไม่ถึงเลยว่ามาตอนนี้ มันชักจะสนุกไม่ออกเสียแล้ว เพราะพวกเขานั้นกำลังกลายมาเป็นเหยื่อคนต่อไป !
หัวหน้าของบ้านดารารีบติดต่อกับตระกูลหลิว เพื่ออธิบายว่าบ้านดาราของพวกเขานั้นไม่มีแต้มผลงานเยอะขนาดนั้น โดยเขาหวังว่าตระกูลหลิวจะสามารถช่วยพวกเขาจ่ายให้ได้ ! พอคนตระกูลหลิวได้ยินแบบนี้ ริมฝีปากก็สั่นระริก หากแต่ตอนนี้พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกแล้วเช่นกัน ดังนั้นแล้วเรื่องค่าใช้จ่ายจึงตกเป็นภาระของตระกูลหลิวอีกครั้ง !
พวกเขาได้แต่ตีอกชกตัว เสียใจที่ไปหาเรื่องคนพวกนี้เลย จะไม่จ่ายก็ไม่ได้ ไม่งั้นมีหวังโดนคนจากบ้านวายุตามราวีไม่เลิกแน่ !
เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าตัวเองสู้ไม่ได้ยังจะไปหาเรื่องมาเพิ่มอีกทำไม อย่างไรก็ตาม มาพูดเอาตอนนี้ก็สายไปแล้ว และด้วยความจนปัญญา คนตระกูลหลิวก็ได้แต่จำต้องจ่ายแต้มผลงานเพิ่มอีก 1 ร้อยล้านแต้ม !
เมื่อจากต้องจ่ายออกไปอีกร้อยล้านแต้มในครั้งนี้ คนตระกูลหลิวก็ชักจะไม่ไหวแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงบอกกับหัวหน้าบ้านดาราว่าพวกเราสามารถนำออกมาได้เท่านี้ ถ้าพอใจก็เอาไป แต่ถ้าไม่พวกเราก็ขาดกันตรงนี้ ! ซึ่งทางด้านหัวหน้าบ้านดาราเอง เขาในตอนนี้นั้นก็ไม่มีทางเลือกเช่นเดียวกัน จึงได้แต่ยอมตกลง !
เมื่อชายหนุ่มไปถึงบ้านดารา ยังไม่ทันที่คนพวกนั้นจะได้พูดสักคำ ฉู่เหินก็ชิงพูดขึ้นก่อนว่า “บ้านรวมดาราฟังฉันให้ดี คนที่คิดจะสู้กับฉันก่อนหน้านี้อยู่ไหน ตอนนี้ฉันฉู่เหินมาหาแล้ว รีบออกมาสู้ซะสิ !” เสียงที่ตะโกนก้อง ทำให้คนในบ้านดาราที่เคยท้าสู้กับฉู่เหินนัยน์ตาสั่นสะท้าน !
ล้อเล่นหรือไง ออกไปตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับฆ่าตัวตายน่ะสิ ! ทว่าก็มีบางส่วนที่คิดว่าตัวเองน่าจะสามารถชนะฉู่เหินได้ ทว่าด้วยด่านเคราะห์สวรรค์อัสนี มันก็ทำให้พวกเขาลังเล ไม่กล้าต่อสู้กับชายหนุ่ม !
ในความคิดทุกคน ฉู่เหินมันเป็นไอ้บ้าคนหนึ่ง ! ดูเหมือนว่าคนที่เข้าบ้านวายุไปแล้ว คงยากที่จะไม่กลายเป็นวิปลาส
ตอนนี้ในใจของทุกคนกำลังคิดว่า บ้านวายุนั้นควรจะเปลี่ยนชื่อจากบ้านวายุเป็นบ้านวิปลาสซะถึงจะถูก ! เพราะเข้าไปแล้วก็มีแต่กลายเป็นคนบ้ากันทั้งนั้นเลย !
เดิมทีชายหนุ่มนึกว่าจะต้องปะทะฝีปากกับคนของบ้านรวมดาราสักยกก่อน แต่คิดไม่ถึงว่าตัวเองยังไม่ทันได้พูด หัวหน้าบ้านรวมดาราก็ออกมารับหน้าเสียก่อน
“สหายฉู่เหิน ฉันรู้ดีว่าลูกศิษย์บ้านรวมดารามันหยิ่งยโสไม่รู้ความ ก่อนหน้าได้ทำผิดไปแล้ว หวังว่านายจะไม่ถือสาผู้ที่อ่อนแอกว่า ! พวกฉันมีแต้มผลงานอยู่ 2 ร้อยล้านแต้ม ถือว่าเป็นการแทนคำขอโทษ หวังว่าจะนายจะปล่อยเรื่องนี้ไปได้ไหม ไม่รู้ว่าสหายฉู่เหินคิดเห็นยังไง ?”
ถ้านับตามจำนวนคนของบ้านรวมดาราละก็ แน่นอนว่า 2 ร้อยล้านแต้มนั้นไม่พอ แต่มารยาทที่หัวหน้าบ้านดาราแสดงออกมานั้น ทำให้ฉู่เหินหาช่องว่างไม่ได้เลย ! ดังนั้นเขาจึงได้แต่พยักหน้าตกลงอย่างจนปัญญา
เมื่อเห็นฉู่เหินกำลังจะจากไปแล้ว หัวหน้าบ้านรวมดาราถึงค่อยถอนหายใจออกมาได้ ก่อนจะคิดว่าแต่นี้ไปนั้นบ้านดาราจะตัดขาดกับตระกูลหลิวอย่างเด็ดขาด ! พวกเขาจะไม่คบค้าสมาคมกันอีกแล้ว
แน่นอนว่าเหตุผลที่สำคัญที่สุดก็คือ เขานั้นคิดว่าตอนนี้บ้านวายุปรากฏวิปลาสขึ้นมาอีกคนแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ควรไปมีเรื่องอีก ! และในเมื่อหาเรื่องไม่ได้ งั้นก็ควรที่จะหลบซ่อนตัว !
ทางด้านฉู่เหินเอง เมื่อชายหนุ่มนับแต้มที่มีมากกว่า 3 ร้อยล้านแต้มในมือ เขาก็ยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ
พอเสร็จธุระที่บ้านรวมดาราแล้ว ฉู่เหินก็ไปที่บ้านทองต่อ แต่เมื่อมาถึง ชายหนุ่มก็อดที่จะขมวดคิ้วแน่นไม่ได้ ! ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่บ้านทองนั้นได้สร้างค่ายกลคุ้มกันขึ้นมา อีกทั้งยังเป็นค่ายกลคุ้มกันที่แข็งแกร่งมาก สามารถขัดขวางได้แม้แต่ด่านเคราะห์อัสนี !
ต่อให้ยืนอยู่ตรงหน้าค่ายกลคุ้มกันของบ้านทอง โดยมีด่านเคราะห์อัสนีผ่าอยู่ด้านบน เกราะป้องกันของที่นี่กลับไม่มีรอยร้าวเลยสักนิดเดียว ! พอเห็นดังนั้นฉู่เหินก็อดที่จะขมวดคิ้วแน่นไม่ได้ !
หลังคิดสักพักหนึ่ง เขาจึงลองเปลี่ยนร่างให้กลายเป็นยักษ์ตัวใหญ่สูงเทียมฟ้า และทันทีที่ร่างกายของเขากลายเป็นยักษ์ พลังโจมตีของด่านเคราะห์อัสนีก็เพิ่มสูงขึ้นหลายเท่า !
ถึงจะรุนแรงขึ้น แต่ฉู่เหินกลับไม่กลัวเลยสักนิด กลับดีใจเสียด้วยซ้ำ ! จากนั้นเขาก็ยื่นมือออกไปข้างหนึ่ง และปล่อยพลังจิตสังหารของตนออกมาอีกครั้ง พลังจิตสังหารที่ถูกปล่อยออกมาครู่เดียว ก็ทำให้พลังของอัสนีเพิ่มขึ้นอีกครั้ง !
แต่ว่าฉู่เหินไม่คิดที่จะหยุดมือเลยแม้แต่น้อย ขาสองข้างของเขานั้นได้กระทืบพื้นดินเบา ๆ เพียงเท่านั้นก็พลันปรากฏเป็นหลุมลึกแล้ว และจากในหลุมก็มีลาวาจำนวนมากไหลออกมา
ลาวาพวกนั้น เริ่มจับตัวเป็นก่อนอย่างรวดเร็ว พวกมันค่อย ๆ ก่อตัว และกลายเป็นมนุษย์ตัวใหญ่ ทำให้ด่านเคราะห์อัสนีด้านบนระเบิดพลังลงมาอีกครั้ง !
การระเบิดพลังถึง 3 ครั้ง 3 คราของด่านเคราะห์อัสนี ทำให้ค่ายกลป้องกันตรงหน้าเริ่มจะพังแล้ว แม้ว่าสายฟ้าส่วนมากจะผ่าใส่ร่างกายของฉู่เหินจนทำให้เขาพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วก็ตาม แต่ก็มีสายฟ้าบางส่วนที่ตกลงสู่ด้านล่าง ! ทำให้ค่ายกลป้องกันของบ้านทองเกิดการสั่นไหว ทำท่าจะพัง !
ไม่ถึง 10 ชั่วลมหายใจ ค่ายกลป้องกันก็เกิดรอยแตกร้าว ทำให้ลูกศิษย์จำนวนมากและผู้อาวุโสพากันกระอักเลือดออกมา !
ตอนนี้ดวงตาของหัวหน้าบ้านทองแสดงให้เห็นถึงความงงงวยเป็นอย่างมาก ! เพราะเขานั้นไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ครึ่งจอมปราชญ์คนหนึ่งจะทำลายค่ายกลของเขาได้ !
แต่ความจริงก็ได้ปรากฏอยู่ตรงหน้าแล้ว ไม่ว่าเขาจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม เมื่อมองศิษย์และผู้อาวุโสกระอักเลือดออกมา ก็ทำให้ในใจเขารู้สึกเหมือนโดนกรีดแทง ! รู้แบบนี้ เขาน่าจะยอมให้แต้มไม่กี่ร้อยล้านนั่นไป เพื่อทำให้เรื่องมันจบ ๆ ไป แต่มาตอนนี้มันก็ไม่ทันเสียแล้ว นี่มันขโมยไก่ไม่ได้ เสียข้าวสารอีกกำมือ* ชัด ๆ
*ขโมยไก่ไม่ได้ เสียข้าวสารอีกกำมือ หมายถึง ไม่ได้อะไรดีเลย มีแต่เสียกับเสีย
ต้องเข้าใจว่าถ้าค่ายกลป้องกันพัง และด่านเคราะห์อัสนีผ่าลงมา คนของบ้านทองก็จะได้รับบาดเจ็บสาหัสกันถ้วนหน้า ! ดังนั้นเขาจึงถอนหายใจ และยอมแพ้ !
“สหายฉู่เหิน โปรดหยุดเถอะ ! พวกเราบ้านทองยอมชดใช้แล้ว” ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกอีกแล้ว เลยจำต้องพูดออกมาแบบนั้น และในขณะเดียวกันก็หันไปบอกให้ผู้อาวุโสและลูกศิษย์ที่มีพลังมาก ๆ ไปช่วยกันซ้อมค่ายกล !
หลังจากทำการซ่อมแซม รอยร้าวที่เกิดขึ้นก็พลันสมานอย่างรวดเร็ว เพียงแต่ไม่รู้ว่าค่ายกลป้องกันจะสามารถอยู่ได้อีกนานเท่าไร ! และก็เพราะแบบนี้เขาก็ถึงได้ร้อนรนไม่หยุด !
ฉู่เหินที่รับด่านเคราะห์อัสนีเข้าร่างนั้น มันก็ได้ทำให้ภายในของเขานั้นเกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งมันก็ส่งผลดีต่อเขาอย่างมาก ! เพราะเพียงครู่เดียวเขาก็รู้สึกว่าร่างกายตัวเองพัฒนาขึ้นอีกขั้นแล้ว !!!
แม้ว่าจะไม่ถึงกับเลื่อนขั้นเป็นครึ่งจอมปราชญ์ระดับกลาง แต่ก็อีกไม่ไกลแล้ว !
เมื่อได้ยินที่บ้านทองพูด ชายหนุ่มก็อดจะที่ขมวดคิ้วไม่ได้ ! ทว่าเขานั้นก็รู้ดีว่าตัวเองไม่อาจทำเกินเหตุได้ ไม่งั้นต้องเจอปัญญาใหญ่ในภายหลังแน่ ! จึงได้แต่เปิดปากพูดออกไปว่า “ 5 ร้อยล้านแต้ม ห้ามขาดแม้แต่แต้มเดียว !”
พอได้ยินที่ฉู่เหินพูด หัวหน้าบ้านทองก็โกรธจนแทบกระอักเลือด ! บ้านดาราร้างของพวกเขาเก็บออมแต้มผลงานรวม ๆ แล้วมี 5-6 ร้อยล้านแต้มเท่านั้น ! ทั้งยังเป็นการสะสมนานนับถึง 10 ปีอีก !
รู้แบบนี้ ถ้าก่อนหน้านี้ให้อีกฝ่ายไป 4 ร้อยล้านแต้ม พวกเขาก็คงไม่ต้องปวดใจแบบนี้ ! แต่มาคิดตอนนี้ก็สายไปแล้ว จึงได้แต่เจ็บปวดใจอยู่แบบนี้ไง !
แต่ว่าจะให้พวกเขามอบให้เยอะขนาดนั้น พวกเขาก็ทำใจยอมรับไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงได้ทำการติดต่อกับผู้อาวุโสคนหนึ่งของบ้านตระกูลหลิง
และในระหว่างนั้น ผู้อาวุโสบ้านทองคนหนึ่งที่กำลังทำการเพิ่มพลังค่ายกลอยู่ดี ๆ เขาก็พลันกระอักเลือดออกมา ด้วยคาดไม่ถึงเลยว่าด่านเคราะห์อัสนีจะรุนแรงแบบนี้ !
หลังจากได้รับการติดต่อจากบ้านทอง ตระกูลหลิวที่โดนไถแต้มถึง 2 ร้อนล้านก็พลันโมโห จนแทบจะกระอักเลือดออกมา !