สุดยอดชาวประมง - บทที่ 557 การประลองเทียนคง
บทที่ 557 การประลองเทียนคง
บทที่ 557 การประลองเทียนคง
หลังจากวิญญาณนี้ออกมามันก็อ่อนแอลงทันที ต้องเข้าใจว่าวิญญาณสักดวงนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ในโลกได้ด้วยตัวคนเดียว เมื่อวิญญาณถูกดึงออกมามันก็จะตาย นอกเสียจากจะมีภาชนะที่สามารถบรรจุมัน !
เห็นวิญญาณนี้อ่อนแอลงอย่างชัดเจน ฉู่เหินก็ยื่นมือข้างหนึ่งออกมา และปลดปล่อยพลังจิตสังหารออกมา “นี้คือพลังจิตที่ฉันทำขึ้นมาเอง ในนี้มีวิญญาณอยู่นับไม่ถ้วน มันสามารถกักเก็บร่างวิญญาณของนายได้สักพัก ! นายสามารถเลือกได้ว่าจะเป็นผู้คุ้มวิญญาณภายในนี้ หรือว่าจะเป็นเพียงวิญญาณที่อาศัยชั่วคราว และไม่ว่าจะทางไหน ในอนาคตหากมีโอกาสนายก็สามารถออกมาได้เช่นกัน !”
วิญญาณตัวนี้สั่นไหวอย่างซาบซึ้งใจ ก่อนที่มันจะเข้าไปภายในจิตสังหาร ! เมื่อเห็นแบบนั้น ชายหนุ่มก็พลันคิดในใจว่าพลังจิตสังหารของตัวเองเหมือนกับเป็นโลกจริง ๆ โลกหนึ่งเลย ภายในบรรจุสิ่งของเอาไว้เยอะมากเหลือเกิน จนไม่รู้จริง ๆ ว่าการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ ในวันข้างหน้าจะพัฒนาแบบไหนต่อไป !
ในที่สุดพิษในร่างกายของศิษย์พี่ 3 ก็ถูกขับออกมา ! ส่งผลให้พี่ 3 ครางไม่ได้ศัพท์ออกมา แต่ก็ยังไม่ฟื้นอยู่ดี ทว่าก็น่าจะอีกไม่นานแล้ว ตอนนี้ท่านปู่ฮวาเพียงต้องรักษาอาการบาดเจ็บภายในเขาสักพัก เขาก็จะสามารถฟื้นขึ้นมาได้แล้ว และเมื่อมองเห็นฉากนี้ ฉู่เหินก็วางใจไปได้ไม่น้อย !
หลังจากทุกอย่างเสร็จสิ้น ด้านนอกก็มีคนเข้ามารายงาน เรื่องที่พรรควายุอัสนีจะเข้าร่วมการประลอง ที่ตอนนี้ผู้คนได้มารวมตัวกันที่ห้องโถงใหญ่แล้ว โดยคนที่เข้าร่วมการทดสอบครั้งนี้ต่างก็มีอายุไม่เกิน 100 ปี และก็เรียกได้ว่ามีแต่อัจฉริยะทั้งนั้นที่ไป !
พลังวรยุทธ์ที่ต่ำที่สุดก็เป็นถึงขั้นครึ่งจอมปราชญ์แล้ว มากกว่านั้นหน่อยก็เป็นถึงขั้นจอมปราชญ์ดาราระดับกลาง และก็เป็นที่ชัดเจนเลยว่าพลังวรยุทธ์ของฉู่เหินนั้นเป็นขั้นที่ต่ำที่สุดของคนที่เข้าร่วมการประลอง !
ต้องเข้าใจว่าการประลองเทียนคงนั้นโหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก ดังนั้นแล้วถ้าพูดด้วยประโยคถนอมน้ำใจหน่อย ก็คงบอกได้เพียงว่าชายหนุ่มนั้นดูไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ที่จะไป !
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเกี่ยวข้องกับชีวิตพี่ 3 ! ไม่ว่าจะพูดยังไงพวกเขาก็คงไม่ให้ฉู่เหินไปแน่ ! ซึ่งเดิมทีครั้งนี้คนที่นำทีมเป็นคนของตระกูลหลิวคนหนึ่ง แต่เนื่องจากฉู่เหินไปด้วย ศิษย์พี่ 6 จึงได้ทำเรื่องขอไปกับทีมนี้ด้วย ! และแม้ว่าเขาจะไม่ได้เข้าไปสนามรบโบราณ แต่อย่างน้อยก็สามารถคุ้มครองชายหนุ่มให้ปลอดภัยระหว่างทางได้ !!!
ทำไมฉู่เหินจะไม่รู้ความคิดของพี่ 6 ตัวเอง ดังนั้นเขาจึงรู้สึกอบอุ่นใจมาก ! อีกทั้งเขายิ่งพบว่าการที่ตัวเองเสี่ยงอันตรายเพื่อพี่ 3 นับว่าคุ้มค่าแล้ว เพราะเขานั้นรู้สึกรักและนับถือศิษย์พี่เหล่านี้เหลือเกิน !
ตอนนี้ที่ห้องโถงใหญ่ของพรรควายุอัสนี ได้มีคนมารวมตัวแล้ว 10 คน ! ซึ่งคนเหล่านี้มีคนที่เคยร่วมการประลองครั้งก่อนอยู่ด้วย !
สำหรับการประลองเทียนคงครั้งนี้ 4 พรรคใหญ่จะส่งลูกศิษย์มาประลองพรรคละ 20 คน และอย่ามองว่าพวกเขาเป็นคนจากพรรคเดียวกัน เพราะเมื่อเข้าไปในสนามรบโบราณ ก็เป็นไปได้ว่าพวกเขาจะหักหลังกันเอง
หรือจะพูดว่าในสนามรบโบราณนั้น ไม่สามารถเชื่อใจใครได้เลยสักคนเดียว ไม่งั้นคุณได้ตายเร็วแน่ !
เมื่อฉู่เหินมาถึง เขาก็พบว่าทุกคนกำลังรอ หากแต่ไม่ใช่รอตัวเอง ทว่าเป็นรอเดินทาง !
ตอนที่มาถึง สายตาทุกคู่ต่างก็จ้องมองมาที่ฉู่เหินเป็นตาเดียว โดยเฉพาะลูกศิษย์ที่เข้าร่วมการประลอง ! แต่เมื่อพวกเขาเห็นพลังวรยุทธ์ของชายหนุ่ม ก็พากันขมวดคิ้ว พร้อมทั้งนึกในใจว่าพลังวรยุทธ์ของฉู่เหินกระจอกเกินไปหน่อยแล้วมั้ง อาศัยพลังระดับเพียงเท่านี้กลับกล้าไปร่วมการประลองเทียนคง ไม่ใช่ว่าจะส่งตัวเองไปตายหรือไง !
“ให้พวกเรากับหมอนี้ไปด้วยกัน มันจะไม่เป็นตัวถ่วงเราเหรอ ! พลังวรยุทธ์แบบนี้พอเข้าไปข้างในก็เหมือนพาไปตาย ถ้าให้หมอนี้ไป ไม่เท่ากับว่าพวกเราจะขาดคนไปหนึ่งคนหรือไง ! ” ชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีใบหน้าหล่อเหลาคมคายพูดขึ้น ก่อนจะมองขึ้นลงฉู่เหินรอบหนึ่ง
“ไอ้จางหว่านชางอยากตายสินะ ขอเตือน ว่าถ้าตอนเข้าไปนายไม่ปกป้องศิษย์น้องของฉันล่ะก็ คอยดูว่าฉันจะฆ่าแกยังไง” ที่จริงแล้วที่จางหว่านชางพูดนั้นถูกอย่างคือ พลังวรยุทธ์ของฉู่เหินต่ำที่สุดในทีมนี้แล้ว ! แต่ศิษย์พี่ 6 พอได้ยินก็ไม่ยอมรับ กลับพูดขึ้นมาอย่างวางกล้ามแทน !
พอจางหว่านชางได้ยินประโยคนี้ก็ใบหน้าดำคล้ำทันที เขาเป็นลูกศิษย์สายหลักของหัวหน้าพรรค มีตอนไหนบ้างที่เขาเคยถูกคนอื่นข่มขู่ อย่างไรก็ตามคน ๆ นี้เป็นวิปลาสที่ 6 ดังนั้นเขาจึงไม่รู้จะทำยังไง และด้านหัวหน้าพรรคเอง เมื่อได้ยินก็ขมวดคิ้วอย่างไม่รู้จะทำยังไงเช่นกัน !
“พวกตระกูลหลิวพวกนั้นน่ะ ฉันขอเตือนพวกแก ว่าที่ร่างกายศิษย์น้องของฉันมีจิตฉันอยู่ ถ้าฉันเห็นว่าพวกแกกล้าเล่นตุกติกในนั้น แม้ว่าพวกแกจะรอดออกมาได้ ฉันจะตามฆ่าพวกเหมือนกัน !” ในใจของคนตระกูลหลิวต้องมีคนคิดแบบนั้นอยู่แล้ว แต่พอได้ยินที่เจ้า 6 พูดก็อดตัวสั่นไม่ได้ !
ชื่อเสียงของวิปลาสที่ 6 ขจรไกล ทั้งบ้านหลิวของพวกเขา เกรงว่านอกจากผู้เฒ่าแล้วคงไม่มีใครเป็นคู่มือของเขาได้ อย่างไรก็ตาม ผู้เฒ่าคนนั้นก็ถูกจูเก๋อโยวหมิงอัดเละจนได้รับบาดเจ็บสาหัส กำลังปิดด่านเข้าฌานอยู่ ดังนั้นถ้าเกิดตอนนี้วิปลาสที่ 6 เป็นบ้าขึ้นมาล่ะก็ ตระกูลหลิวของพวกเขาได้สูญสิ้นจริง ๆ แน่ !
“จุดประสงค์การเข้าร่วมของฉู่เหินไม่เหมือนกับพวกนาย ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับพวกนายเลย อีกทั้งฉันหวังว่าเมื่อเข้าไปในสนามรบโบราณแล้ว พวกนายจะสามัคคีกัน ขอเพียงพวกนายร่วมมือกัน ก็ไม่มีอะไรต้องกลัวพรรคที่เหลือแล้ว” หัวหน้าพรรควายุอัสนีพูดปลอบใจออกมา !
“พวกเราบ้านวารีติดหนี้ไว้กับสหายฉู่เหิน ครั้งนี้เมื่อเข้าไปในสนามรบโบราณแล้ว ถ้าพวกเราสามารถรวมพลังกันได้จะต้องช่วยเหลือกันแน่นอน ! ให้ถือเสียว่าพวกเราเป็นตัวแทนของบ้านวารีแล้วกัน” หัวหน้าบ้านวารีพูด ทำให้ศิษย์ของบ้านวารีพยักหน้า เห็นได้ชัดว่าในกลุ่มคนพวกนี้ มีเพียงพวกเขาที่รักษาความสงบที่สุด !
ต่อมาหัวหน้าพรรคก็พูดเล็กน้อย ก่อนที่ทุกคนจะออกเดินทางโดยมีพี่ 6 เอากระบองใหญ่อันนั้นออกมา จากนั้นก็เปลี่ยนกระบองนี้ให้ขยายยาวขึ้น และต่อมาพี่ 6 ก็พลันกระโดดขึ้นไปบนกระบอง ทั้งยังให้คนอื่น ๆ รีบ ๆ ขึ้นมานั่งบนกระบองของตน
เมื่อเห็นฉากนี้คนอื่น ๆ ก็อดที่จะมองด้วยสายตาดำมืดไม่ได้ !
ตอนแรกบอกไว้ว่าจะให้นั่งเรือลำเล็กสบาย ๆ ลำหนึ่งไป อย่างไรก็ตามหมอนี้กลับจัดการเองเออเอง ให้พวกเขาขึ้นไปนั่งบนกระบอง ลองคิดดูสิ ! ตอนที่พวกเขาเหาะขึ้นไปด้วยกระบองน่าเกลียด ๆ แบบนี้ ถ้าคนอื่นมาเห็นเข้า คงได้โดนหัวเราะเยาะฟันร่วงแน่ !
แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าวิปลาสที่ 6 พวกเขาก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรสักคำ จึงได้แต่นั่งกระบองด้วยสีหน้าอมทุกข์ และหลังจากที่พวกเขานั่งดีแล้ว ก็ได้ยินกระบอกนี้ส่งเสียงออกมาเอง จากนั้นพวกเขาก็เห็นกระบองธรรมดากลายเป็นมังกรขนาดใหญ่ตัวหนึ่ง !
มังกรตัวนี้สะบัดหางหนึ่งครั้ง ก่อนจะพุ่งตัวออกไปทันที ! ทำให้ทุกคนที่นั่งอยู่บนกระบองตะลึงไปตาม ๆ กัน ! และแม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่ามันเป็นของปลอม แต่เมื่อมอง ก็สัมผัสได้ถึงพลังอำนาจเช่นกัน !
มองหลังของทุกคนห่างออกไปไกล ในใจของหัวหน้าพรรคก็แอบคาดหวัง หวังว่าครั้งนี้พวกเขาจะได้รางวัลดี ๆ กลับมาจากสนามรบโบราณ ด้วยในการประลองเทียนคงมีของวิเศษเยอะมากมาย ทุกครั้งที่ไปก็จะสามารถเพิ่มระดับความก้าวหน้าให้กับพรรคได้สักขั้นหนึ่ง และเมื่อลูกศิษย์พวกนี้เมื่อได้รางวัลมา พวกเขาก็ต้องให้แก่หัวหน้าพรรค !
แม้ว่าจะมีลูกศิษย์ไม่น้อยที่จะโดนลอบทำร้าย แต่สำหรับหัวหน้าพรรควายุอัสนีแล้ว เขานั้นคิดว่าการลอบทำร้ายพวกนั้นจะทำให้พวกเขาเติบโตขึ้น ! เนื่องจากสิ่งของที่นำออกมาจากที่สนามรบโบราณ เป็นของที่พวกเขาเฝ้าปรารถนา โดยเฉพาะชิ้นส่วนพลังเหล่านั้น ที่พวกเขาอยากได้จนน้ำลายไหล !
เท่านี้ก็รู้แล้วว่าตอนต้นที่ฉู่เหินได้ชิ้นส่วนพลัง เขาถือว่าดวงดีขนาดไหน ! ต้องเข้าใจว่าของดีแบบนั้น กระทั่งหัวหน้าพรรควายุอัสนีก็อยากได้จนน้ำลายไหลเช่นกัน
มังกรยักษ์พุ่งทะยานขึ้นสู้ท้องฟ้า ความรู้สึกแบบนี้มันก็ทำให้ลูกศิษย์ส่วนมากพากันเกาะกลุ่มร่วมกัน ! อายุก็เยอะเพียงนี้แล้ว แต่นี่กลับเป็นครั้งแรกที่ได้นั่งมังกร จึงอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ !
พร้อมกับที่พวกเขาพากันคิดในใจว่า ดูท่าแล้ว การให้ศิษย์พี่ 6 ของฉู่เหินผู้นั้นกลายเป็นหัวหน้าทีมพวกเขา ก็ดูจะเป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่น้อย !