สุดยอดชาวประมง - บทที่ 561 ทำลายแล้ว
บทที่ 561 ทำลายแล้ว
บทที่ 561 ทำลายแล้ว
โดยเฉพาะกับความสามารถเรื่องฝีปากที่เก่งกว่าคนธรรมดา ! แน่นอนความฉลาดของฉู่เหิน เธอก็นับถือมากเช่นกัน ! ยิ่งเธอรู้ว่าพี่ 3 ของตัวเองได้รับบาดเจ็บ และที่ฉู่เหินมาเข้าร่วมการประลองก็เพื่อพี่ 3 เธอก็ยิ่งรู้สึกซาบซึ้งใจศิษย์น้องคนนี้เป็นอย่างมาก ! เพราะในบรรดาศิษย์ทุกคนเธอสนิทกับพี่ 3 มากที่สุด !
“เธอเป็นใคร ทำไมถึงได้กล้าพูดจาอวดดีกับฉันอย่างนี้ หรือว่าเบื่อชีวิตแล้ว ? อย่ามั่นใจในความสามารถของตัวเองเกินไปหน่อยเลย ! ฉันจะบอกเธออย่างว่าฉันก็คือผู้อาวุโสของพรรคหมื่นพิษ และการที่เธอกล้าทักทายพรรคหมื่นพิษในครั้งนี้ ก็อย่าหวังว่าจะได้ตายดี !”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ฉู่เหินก็อดที่จะขำไม่ได้ ! เขารู้สึกว่าชายชราคนนี้ไร้ยางอายเกินไปหน่อยแล้ว ตอนที่คนของตัวเองรังแกคนอื่นเขากลับไม่พูดถึงสักคำ ! แต่มาตอนนี้ พอเห็นคนที่พลังใกล้เคียงกับตัวเอง ก็เริ่มพูดว่าโดนคนพรรคอื่นรังแกแบบนี้ ! คิดหรือว่าคนของพรรควายุอัสนีจะยอมอำนาจแบบนี้ได้ ? ล้อกันเล่นเหรอไง !
“ตาแก่ นายนี้ไร้ยางอายเกินไปแล้ว จะยืนด่าอาจารย์ของพวกฉันทั้งวันเลยหรือยังไง ฉันจะบอกแกให้นะว่าคนที่แกพูดด้วยน่ะ ก็คือลูกศิษย์คนที่ 4 ! ถ้าแกแม้แต่ฉันก็ยังสู้ไม่ได้ นับประสาอะไรกับอาจารย์ของฉัน ! เขาน่ะแค่เพียงกระบวนท่าเดียวแกก็สิ้นท่าแล้ว !”
ประโยคของหวังฉายเซี่ยทำให้ชายชราตกตะลึงไปแล้ว ! เขาคิดไม่ถึงว่าคนที่อยู่ตรงหน้า จะเป็นลูกศิษย์ของเจ้าเด็กน้อยนั่น ! คิดไม่ถึงว่าพอตัวเองไม่ได้อยู่โลกยุทธภพมาหลายปี จะมีคนมากฝีมือขนาดนี้โดยที่เขาไม่รู้อะไรเลย !
“นี่ ! กล้าพูดกับฉันอย่างนี้เชี่ยวเหรอ ! เธอคงไม่รู้สินะว่าอาจารย์ของเธอเคารพฉันขนาดไหน ตอนมันยังเด็ก แค่เห็นฉันมันก็ฉี่แตกแล้ว !” หลังจากได้ยินประโยคนี้ ทุกคนถึงเพิ่งเข้าใจว่า เดิมทีที่คน ๆ นี้พูดถึงจูเก๋อโยวหมิง ก็คือตอนที่เขายังเป็นเด็กนี่เอง
แต่ที่บอกว่าเด็ก ตอนแรกทุกคนก็ไม่รู้หรอกว่าเด็กขนาดไหน ทว่าที่พูดคงหมายถึงตอนที่ไม่ได้โตเท่าไรแน่ ! ไม่งั้นวิปลาสอย่างจูเก๋อโยวหมิงคงถูกเขาฆ่าตายไปนานแล้ว ยิ่งคิดว่าจูเก๋อโยวหมิงกลัวจนปัสสาวะราดก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ !
อย่างไรก็ตาม ที่ทุกคนไม่รู้ก็คือเรื่องนี้นั้นเป็นเรื่องจริง ! เพราะตอนที่จูเก๋อโยวหมิงอายุ 4-5 ขวบ ตอนนั้นพรรควายุอัสนีและพรรคหมื่นพิษค่อนข้างจะสนิทกัน ! เนื่องจากขณะนั้นพวกเขามีศัตรูจากภายนอก ดังนั้นทุกพรรคจึงจับมือร่วมกัน !
และชายชราที่นิสัยเสียคนนี้ พอเห็นจูเก๋อโยวหมิงน่ารักเข้าหน่อยก็แกล้ง ทั้งเป่าหนวดทั้งจ้องตา ! ด้วยตอนนั้นจูเก๋อโยวหมิงยังเด็ก แต่ความคิดไม่เด็ก เขารู้ว่าตัวเองสู้คนตรงหน้าไม่ได้ จึงได้หาสบโอกาสตอนที่ชายชราไม่ทันมอง ปัสสาวะรดหน้าอีกฝ่ายเสียเต็มเปา !
อีกทั้งตอนนั้นสีหน้าเขายังแสดงออกถึงความสะใจด้วย ซึ่งหลังจากที่ปัสสาวะลงไปก็ทำให้ชายชราใบหน้าเปลี่ยนสี แต่ว่าเขาก็ไม่กล้าที่จะทำอะไรเด็กคนหนึ่งนัก ทำได้เพียงจ้องเขม็งไปที่จูเก๋อโยวหมิงที่ปัสสาวะราดหน้าเขา !
และหลังจากนั้นเป็นต้นมา เมื่อจูเก๋อโยวหมิงเห็นชายชรา เขาก็จะปัสสาวะใส่ร่างกายเขาสักที่ ! เพราะแบบนี้ชายชราถึงได้พูดประโยคเหล่านี้ออกมา ! เพียงแต่ตอนนั้นเป็นเรื่องอีกฝ่ายที่ยังเป็นเด็ก 5 ขวบ ซึ่งหากใครรู้เข้าก็คงจะพูดไม่ออก !
“เห็นแก่ฐานะที่ดูจะมีความสัมพันธ์กับอาจารย์ วันนี้ฉันจะไม่เอาชีวิตแกแล้วกัน แต่ว่าร่างกายของแกที่เหลือไว้ก็ไม่มีความหมาย อีกอย่างในเมื่อศิษย์น้องของฉันบอกแล้วว่าแกก็แค่ตาแก่ใกล้ลงโลง ซึ่งฉันเองก็เห็นด้วย ! ดังนั้นวันนี้ฉันจะทำลายพลังวรยุทธ์ของแกซะ !”
เมื่อพูดจบก็เห็นพี่หญิง 4 นั่งขัดสมาดกลางอากาศ จากนั้นมือก็ทำการดีดกู่เจิง ! และหลังจากที่กู่เจิงถูกดีด มันก็เกิดเป็นคลื่นพลังเสียงเต็มฟากฟ้า ซึ่งเมื่อคลื่นพลังเสียงถูกปล่อยออกมา มันก็กลายสภาพเป็นอาวุธนา ๆ ชนิดที่พุ่งโจมตีเข้าใส่ชายชราทั้งหมด !
ชายชราทราบดีถึงความร้ายกาจของคลื่นพลังเสียง ดังนั้นมาตอนนี้ที่เห็นพลังโจมตีของคลื่นพลังเสียงที่มากกว่าเดิมหลายร้อยเท่า ! ก็ทำให้เขาระมัดระวังและในเวลาเดียวกันก็รู้สึกหวาดกลัวหญิงสาวผู้นี้ด้วย !
มองการโจมตีที่พุ่งมาหาตนเองเต็มท้องฟ้า ก็เห็นเพียงชายชราสะบัดชายเสื้อ จนเกิดเป็นพายุแรงขึ้น ระหว่างที่พายุนี้เคลื่อนไหวก็เหมือนจะพัดเอาคลื่นพลังเสียงไปด้านข้าง ! ซึ่งตอนที่คลื่นพลังเสียงและพายุปะทะกัน มันก็ทำให้เสียงระเบิดดังสนั่นไปทั่วบริเวณ !
แรงระเบิดขนาดนี้ทำให้คนด้านล่างหลายคนต่างก็หน้าขาวซีด ! คนจำนวนมากที่อยู่ใกล้ ๆ ต่างก็ทนไม่ได้กระอักเลือดออกมาคำโต ! โชคยังดีที่ฉู่เหินอยู่ไกลจากทั้งสองพอตัว จึงได้รับแรงระเบิดน้อยที่สุด และทั้งหมดนี้ก็คือเจตนาของพี่หญิง 4 !
หลังจากเกิดแรงระเบิดรุนแรง พายุคลั่งก็ถูกทำให้เกิดรูขนาดใหญ่ หากแต่คลื่นพลังเสียงที่เหลือนั่นไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย ที่จะทะลุรูเหล่านั้นไป เมื่อเจอกับสิ่งกีดขวางก็จะระเบิดอย่างไม่ลังเล !
การระเบิดนี้ทำให้ใบหน้าของชายชราขาวซีดลงเรื่อย ๆ! ต้องเข้าใจว่าการปลดปล่อยพายุคลั่งเมื่อครู่ทำให้เขาสิ้นเปลืองพลังไปมาก เดิมทีเขานึกว่าแค่อาศัยวิชาพลังวายุคลั่ง คงจะพอพัดคลื่นเสียงของเธอไปได้ ! แต่เมื่อไม่ได้ผล เขาก็จนแต้มแล้ว !
ที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงก็คือหญิงสาวแข็งแกร่งมาก วิชาพายุคลั่งที่ตัวเองภูมิใจที่สุดถูกอีกฝ่ายทำลายในพริบตา ! ฉากนี้ทำให้เขาถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ! ตอนนี้ชายชราเข้าตาจนแล้ว ดูแล้วคงจะไม่ใช่คู่มือของอีกฝ่ายแน่ ๆ ดังนั้นจนเตรียมตัวที่จะหนี
สู้ก็สู้เขาไม่ได้ แต่ถ้าอยากจะวิ่งหนี เขาเชื่อว่าอีกฝ่ายจะต้องตามเขาไม่ทันแน่ ! ต้องเข้าใจว่าในเรื่องความเร็วนั้นเขาไม่เป็นสองรองใคร และในตอนที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ก็มีปีกงอกออกมาหนึ่งคู่ ! ราวกับอินทรีย์วายุ !
วิชาพายุคลั่งที่เขามีนั้นมาพร้อมกับปีกคู่นี้ ! เพียงแต่ปกติแล้วไม่ค่อยได้ใช้ จึงเก็บปีกวายุอัสนีเอาไว้ภายในร่างกายตัวเอง ดังนั้นคนทั่วไปจึงไม่มีใครรู้ แต่ถ้าเพื่อรักษาชีวิตแล้ว เขาก็จะเอาปีกคู่นี้ออกมา เพื่อช่วยในเรื่องของความเร็ว !
เมื่อเห็นตัวเองสู้ไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเลที่จะงอกปีกนี้จนเสื้อขาดเป็นรู ทว่าหลังจากนั้นปีกก็งอกมาจากหลัง เนื้อหนังบริเวณนั้นก็พลันบวมแดงเล็กน้อย กระทั่งเนื้อตรงนั้นก็เละไปแล้วด้วย ! ซึ่งนี้เองก็เป็นสาเหตุที่เขาไม่อยากจะใช้ปีกนี้เลย !
แม้ว่าปีกคู่นี้จะถูกหล่อหลอมเข้ากับร่างกายเขา แต่ตั้งแต่ต้นมันก็ต่อต้านเขามาตลอด ! ก่อนหน้านี้เขานึกว่าจะมีสักวันหนึ่งที่อยู่ด้วยกันได้ แต่เขาก็อยู่กับปีกคู่นี้มาหลายพันปีแล้ว อย่างไรก็ตามภายในหลายพันปี ไม่มีวันไหนเลยที่มันจะยอมรับเขา กลับเป็นเขาเองที่ถูกปีกคู่นี้ทรมาน !
และช่วงหลายร้อยปีมานี้ เจ้าปีกนี้ก็เริ่มที่จะทรมานหนักข้อขึ้น ! จนถึงตอนนี้ตำแหน่งที่ปีกนี้งอกมาก็ได้กลายเป็นเนื้อเละ ๆ ไปแล้ว ! เดิมทีเขาอยากจะเอาปีกนี้ออกไปซะ แต่ปีกนี้ได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกันไปแล้ว ถ้ากล้าเอาออกละก็ พลังวรยุทธของเขาต้องถูกทำลาย และก็เป็นไปได้ว่าชีวิตที่ยืดยาวนี้จะได้รับผลกระทบไปด้วย !
เพราะสาเหตุนี้เขาถึงไม่ใช่ปีกคู่นี้เลย ! แต่เมื่อถึงช่วงเวลาที่สำคัญถึงชีวิต ในที่สุดเขาก็เลือกที่จะเอาปีกออกมา ทว่าในขณะที่เขากำลังใช้ปีกนี้บินหนีจากไปให้ไกล เขากลับพบว่าคลื่นพลังเสียงได้รอบตัวเขาไว้จนมืดฟ้ามัวดินแล้ว !
ตอนนี้ต่อให้เขามีวิชาขั้นเทพขนาดไหนก็ไม่อาจหนีออกไปได้แล้ว จากนั้นก็เห็นเพียงนัยน์ตาของชายชราเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ! ต้องเข้าใจว่าหากพลังวรยุทธถูกทำลาย ชีวิตของเขาก็ได้มาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว ! ดังนั้นเขาจึงเริ่มคลุ้มคลั่งขึ้นมาบ้างแล้ว !
