สุดยอดชาวประมง - บทที่ 563 สนามรบโบราณ
บทที่ 563 สนามรบโบราณ
บทที่ 563 สนามรบโบราณ
คนอื่นเป็นห่วงกลัวว่าเขาจะเป็นหรือตาย แต่เขากลับหลับฝันดีงั้นเหรอ ! แบบนี้ก็อธิบายได้อย่างชัดเจนแล้วว่า ทำไมอีกฝ่ายถึงไม่มีอาการผิดปกติอะไรเลยสักอย่าง ! หลังจากทุกคนมองสักพัก ใบหน้าก็ยิ้มออกมา ! เพราะไม่ว่ายังไง ขอแค่ศิษย์น้องไม่เป็นอะไรก็พอ !
ที่ฉู่เหินเพิ่งพูดไปนั้นเขาตั้งใจ ด้วยไม่อยากจะตอบคำถามของทุกคนตอนนี้ อีกทั้งถ้าคนอื่นรู้ว่าตัวเองมีพลังธาตุทั้งหมดถึง 4 ธาตุ ไม่แน่ว่าอาจจะมีคนไม่น้อยที่จะมาสู้กับตัวเอง !
พูดถึงการประลองครั้งนี้ ไม่สู้กล่าวว่าเป็นการรวบรวมสมบัติ ! ที่สนามรบโบราณนั้น ทุกหนแห่งเต็มไปด้วยหินแร่นับไม่ถ้วน ! มีทั้งหินแร่ธรรมดา และก็มีทั้งหินแร่ที่ล้ำค่ามาก ถ้าสามารถนำหินพวกนั้นกลับมาได้ จะต้องเป็นวัตถุดิบฝึกฝนให้กับคนในพรรคอย่างแน่นอน
ส่วนอีกอย่างที่น่าสนใจก็คือชิ้นส่วนพลัง ! อันเป็นของวิเศษที่อยู่ในสนามรบโบราณเช่นกัน และหากคนใดคนหนึ่งได้มันและคิดนำไปใช้กับตัวเองในอนาคต อย่าได้หวังเลย ! เพราะมันเป็นไปไม่ได้
ตอนที่ผู้เข้าแข่งขันออกมา แต่ละคนจะต้องถูกตรวจร่างกายอย่างจริงจัง ! และก่อนที่จะเข้าสนามรบโบราณ พวกเขาจะต้องเอาแหวนมิติของตัวเองส่งให้ จากนั้นก็จะได้รับแหวนมิติที่ทางผู้จัดการประลองเตรียมไว้ให้หนึ่งวง ดังนั้นถ้ามีใครกล้าแอบซ่อนของ น่ากลัวว่านั่นจะกลายเป็นเรื่องซวยที่สุดของคน ๆ นั้นแล้ว !
เมื่อทุกคนเข้าใจกฎดีอยู่แล้ว พวกเขาก็เลือกที่จะยอมมอบแต่โดยดี เพราะยังไงเสียทางผู้จัดก็จะให้ของรางวัลอย่างงามกับพวกเขาเป็นการตอบแทน ! ซึ่งฉู่เหินเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น แต่ในแหวนมิติของเขามีของวิเศษอยู่จำนวนมาก ดังนั้นชายหนุ่มจึงเลือกที่จะฝากมันไว้กับพี่ 6 ที่เขาวางใจแทน !
ตอนที่ทุกคนมาถึงด้านหน้าประตูทางเข้า ซึ่งภายในนั้นก็ได้จัดเตรียมของจำเป็นไว้ให้ในแหวนมิติทั้งหมดแล้ว ดังนั้นเมื่อเข้าไป พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องดิ้นรนหากันเองอีกต่อไป !
หลังจากตัวประกอบเล็ก ๆ อย่างฉู่เหินเข้าไปแล้ว เวลาไม่นานผู้จัดงานก็มาถึงแล้วเช่นกัน ! ซึ่งคนจาก 4 พรรคอำนาจใหญ่ก็ดูจะมีท่าทีเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาพากันยิ้มแหยะ ๆ ราวกับก่อนหน้านี้ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ! ส่วนชายชราที่ถูกทำลายพลังวรยุทธ์ เขาก็ถูกคนพากลับพรรคตัวเองไปรักษานานแล้ว !
เจ้าภาพการประลองที่มาถึงคนนี้เป็นถึงท่านอ๋องคนหนึ่งในราชวงศ์ ซึ่งเดิมทีคน ๆ นี้นั้นก็เป็นคนที่หยิ่งยโส ระหว่างเดินทางมา เขาไม่เห็นหัวใครทั้งสิ้น ! ยังไม่ต้องพูดถึงฐานะเลย แค่ด้วยพลังวรยุทธ์ของเขาก็ดูถูกคนอื่น ๆ ได้แล้ว ! เพราะอย่ามองว่าเป็นขั้นเทพดาราเหมือนกัน เพราะอีกฝ่ายนั้นสามารถสังหารคนที่เป็นขั้นเทพดาราได้อย่างง่ายดาย !
อย่างไรก็ตาม หลังจากเห็นศิษย์พี่หญิง 4 แสดงฝีมือ ท่านอ๋องผู้นี้ก็ไม่กล้าที่จะแสดงความหยิ่งยโสของตัวเองออกมาอีก ! ในความคิดเขา พลังวรยุทธ์ของแม่สาวคนนี้ เกรงว่าจะห่างไกลจากขั้นเทพดาราไปแล้ว เพราะชายชราก่อนหน้านี้ก็มีพลังไม่ต่างจากเขาเท่าไร ถึงแม้ด้านพลังโจมตีนั้นยังอ่อนแอกว่าเขาไม่กี่ส่วนก็ตามที
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ หากแต่ศิษย์พี่หญิง 4 ก็ยังไม่ได้ออกท่าทางแม้แต่กระบวนท่าเดียว ก่อนที่พลังวรยุทธ์จะถูกทำลายโดยเธอ เท่านี้ก็รับประกันได้แล้วว่าศิษย์พี่หญิง 4 เก่งกาจเพียงไหน ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะดูเบาเธอ !
ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้แวะพยักหน้าทักทายศิษย์พี่หญิง 4 เป็นคนแรก ก่อนจะค่อยเดินออกไปตรงกลางอย่างมั่นใจ ต่อมาก็โบกมือหนึ่งครั้ง เพื่อเรียกเวทีขนาดใหญ่ให้ปรากฏขึ้นมาอยู่ตรงหน้า ! และกระโดดขึ้นไปยืนอยู่บนนั้น
“ฉันจะไม่พูดนอกเรื่องให้มากความ กฎกติกาทั้งหมดเหมือนกับครั้งที่ผ่านมา สิ่งของที่พวกนายได้มาทั้งหมด พวกเราต้องแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ถ้าสามารถหาชิ้นส่วนพลังได้ พวกเรายินดีที่จะนำสิ่งของที่มีมูลเท่าเทียมกันมาแลก ! และเมื่อเข้าไปในสนามรบโบราณแล้ว ทุกคนอย่างได้ทำการก่อสงครามภายในอีก”
เมื่อสิ้นสุดประโยคนี้ ก็ทำให้พรรคทั้ง 4 มองหน้ากัน ด้วยไม่รู้ว่าอ๋องคนนี้ต้องการจะทำอะไรกันแน่ ! จากที่ตอนแรกเรื่องทำการต่อสู้ภายในก็เป็นคนของราชวงศ์บอกเอาไว้ มาวันนี้กลับบอกว่าไม่ให้สู้กันออกมา หรือว่ามีเรื่องอะไรปิดบังเอาไว้กัน ?
“ต้องขอประทานอภัยทุกท่าน ภายในสนามรบโบราณได้เกิดเรื่องที่พวกเราไม่ได้วางแผนไว้ มันเหมือนกับว่ามีสนามรบอีกทีหนึ่งเชื่อมต่อถึงกัน ! ทำให้สนามรบโบราณเรียกได้ว่าสมชื่อของมันแล้วจริง ๆ! เพราะภายในนั้นมีคนจากดาวนับไม่ถ้วนต่อสู้กันอยู่ พวกเราที่เข้าไปถือว่าน้อยที่สุด มีพละกำลังก็อ่อนแอที่สุด ถ้าเกิดมาสู้กันเองอีกล่ะก็ เกรงว่าจะไม่เหลืออะไรเลย”
เมื่อพูดจบทุกคนก็เกิดความโกลาหลขึ้นมา สนามรบโบราณเดิมเป็นสถานที่ ๆ ถูกทิ้งร้างเอาไว้ ! แต่มาวันนี้กลับกลายเป็นสนามรบอย่างแท้จริงไปแล้ว ! แบบนี้มันก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นไปอีกกว่าร้อยเท่าพันเท่า ! อีกทั้งจากที่อ๋องท่านนี้พูด คนที่เข้าไปนั้น ถ้ามีพลังวรยุทธ์ไม่ถึงขั้นจอมปราชญ์ดาราก็ไม่ต้องเข้าไปแล้ว เพราะเข้าไปก็เหมือนส่งตัวเองไปตาย !
กระทั่งขั้นจอมปราชญ์ดาราเมื่อเข้าไปในนั้นจะสามารถรักษาชีวิตได้หรือไม่ก็ยังตอบลำบาก ! เดิมทีครั้งนี้คนของราชวงศ์วางแผนว่าจะส่งขั้นเทพดารายอดฝีมือเข้าไป เพียงแต่พวกเขาเหล่านี้ไม่สามารถเข้าไปในสนามรบโบราณได้ และไม่ต้องพูดถึงขั้นเทพดารายอดฝีมือเลย เพราะกระทั่งขั้นจอมปราชญ์ดารายอดฝีมือ ก็ยังยากที่จะเข้าไปเช่นกัน ! ถ้าเห็นข้อความนี้จากที่อื่นโปรดกลับมาเยี่ยมเราบ้างนะ ขอบคุนจ้า
ดังนั้นด้วยความจำใจ พวกเขาถึงต้องส่งขั้นจอมปราชญ์ดาราเข้าไปแทน !
แท้ที่จริงแล้วคนจากราชวงศ์นั้นมีวิธีการพิเศษบางอย่าง ที่ทำให้สามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าภายในสนามรบนั้นมีพวกเทพดาราอยู่ ! หรือแม้กระทั่งยังมีพวกที่ขั้นสูงกว่าขั้นเทพดาราก็มี และถึงแม้ว่าพวกเขาจะสัมผัสได้เพียงบางเบา แต่อาศัยลมปราณที่บางเบาของเจ้าพวกนั้น ก็ทำให้พวกเขาวิตกกังวลแล้ว !
พอได้ยินอีกฝ่ายพูด พี่ 4 และพี่ 6 ก็เริ่มกระวนกระวายใจขึ้นมาบ้างแล้ว จากนั้นพวกเขาก็พากันมองหาฉู่เหินพร้อม ๆ กัน ! ถ้าเป็นอย่างที่อ๋องท่านนี้พูดจริง งั้นถ้าฉู่เหินเข้าไป มันก็ไม่เท่ากับส่งเขาไปตายเหรอ ! แต่ถ้าชายหนุ่มไม่เข้าไป งั้นแล้วชีวิตของพี่ 3 ก็จะตกอยู่ในอันตรายนะสิ !
“น้อง 9 นายเข้าไปไม่ได้นะ ต่อให้นายไม่เข้าไป บางทีพวกเราอาจจะหาวิธีอื่นช่วยพี่ 3 ได้ก็ได้ แต่ถ้านายเข้าไป เป็นไปได้ว่าพวกเราจะต้องสูญเสียศิษย์พี่ศิษย์น้องถึง 2 คนพร้อมกัน !” ที่ทุกคนคาดไม่ถึงคือคนที่ขัดขวางไม่ให้ฉู่เหินไปก็คือพี่หญิง 4 ! แต่ก็สามารถดูออกว่าพี่ 6 เองก็ไม่เห็นด้วย เพียงแต่เขาไม่กล้าพูดออกมาเท่านั้น
“น้อง 9 พี่หญิง 4 พูดถูกแล้ว นายฟังที่พี่หญิงพูดเถอะนะ ! ฉันไม่เชื่อว่าด้วยความสามารถของพวกเรา จะไม่สามารถช่วยชีวิตพี่ 3 ได้ ! อย่างมากก็ใช้ชีวิตแลกชีวิต เอาชีวิตฉันแลกกับชีวิตพี่ 3” คำพูดของพี่ 6 ทำให้ฉู่เหินซาบซึ้งใจมาก เพราะเขาสัมผัสได้ว่าสิ่งที่พี่ 6 พูดออกมานั้นเป็นความตั้งใจจริง !
“พี่หญิง 4 พี่ 6 ครั้งนี้ผมจำเป็นต้องไป ! เพราะผมสัมผัสได้จากในสนามรบโบราณ ถึงพลังบางอย่างที่มันร้องเรียกหาผมอยู่ แม้ว่าจะไม่แน่ใจว่ามันคือพลังอะไร แต่ผมกล้ารับประกันเลยว่ามันต้องเป็นสมบัติล้ำค่าอย่างแน่นอน !”
ฉู่เหินพูดว่าเขาสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่าง ส่วนจะอยู่ที่ไหนของสนามรบโบราณเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่าถ้าไม่พูดแบบนี้ พี่ 4 และพี่ 6 คงไม่ปล่อยเขาไปอย่างวางใจแน่ ๆ ส่วนที่เขาตั้งใจพูดสิ่งลึกลับแบบนี้ ก็เพื่อทำให้ทั้งสองตัดสินใจไม่ได้ !
เมื่อได้ยินแบบนั้น ทั้งสองก็เกิดอาการลังเลเล็กน้อย แต่พวกเขาก็รู้ดีว่าคำพูดของฉู่เหินมากกว่าครึ่งเป็นความเท็จ แต่ถ้าตัวเองไม่ให้ไปก็คงจะแย่มากเช่นกัน ! เพราะศิษย์น้องบอกว่ามีสมบัติอยู่ ดังนั้นพวกเขาถึงได้ลังเลไม่กล้าตัดสินใจ
“ศิษย์พี่ทั้งสองไม่ต้องเป็นห่วง ! แม้ว่าพลังวรยุทธ์ของผมจะยังไม่มากพอ แต่หากคนพวกนั้นต้องการสังหารผมก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน ถ้าสู้กันขึ้นมาจริง ๆ ละก็ ต่อให้เป็นขั้นจอมปราชญ์ระดับกลางผมก็ยังมีวิธีฆ่าได้อยู่ ! ยิ่งไปกว่านั้นวิชามายาเก้าพิภพสวรรค์ของผมก็ฝึกฝนจนชำนาญแล้ว แม้ว่าจะสู้ไม่ได้ แต่การจะหนีเอาชีวิตรอดก็ไม่ใช่ปัญหา !”
“ศิษย์พี่ทั้งสองโปรดวางใจ ! ศิษย์น้องของท่านไม่ใช่คนโง่ จะไม่ทำเรื่องให้ตัวเองไปตายเด็ดขาด !” หลังจากฉู่เหินพูดปลอบใจไป ทั้งสองก็จำต้องพยักหน้าอย่างจนปัญญา ทว่าพวกเขาก็ยังไม่วางใจ แอบให้ของวิเศษลับเฉพาะแก่ฉู่เหินด้วย 2-3 ชิ้น
และเมื่อเป็นของที่เอาไว้ปกป้องชีวิตตัวเองได้แน่นอนแบบนี้ มีหรือที่ฉู่เหินจะไม่เอา !