สุดยอดชาวประมง - บทที่ 564 ลูกของฉัน
บทที่ 564 ลูกของฉัน
บทที่ 564 ลูกของฉัน
การจะเข้าไปสนามรบโบราณ จำเป็นต้องผ่านวงเวทย์เคลื่อนย้าย ซึ่งเจ้าวงเวทย์เคลื่อนย้ายที่ว่า ก็จำต้องใช้มันผ่านเขตพิเศษแห่งหนึ่ง โดยเขตนี้มันค่อนข้างที่จะแปลกประหลาด พลังวรยุทธ์ขั้นที่เกินกว่าขั้นจอมปราชญ์จะเข้าไม่ได้ ! เพราะแบบนี้ถึงได้เอาสถานที่ ๆ สำคัญแบบนี้เป็นสถานที่ประลอง
วงเวทย์เคลื่อนย้ายนั้นสามารถไปได้ไกลหลายแสนล้านกิโลก็จริง แต่ว่าแต่ละพรรคเองก็มีเครื่องมือสื่อสารระหว่างกันอยู่แล้ว ถึงตอนนั้นก็สามารถใช้เครื่องมือพวกนี้ค้นหาตำแหน่งได้ ดังนั้นหลังจากทุกคนยืนประจำตำแหน่งดีแล้ว ก็มีแสงสว่างโอบล้อมร่างกายของลูกศิษย์แต่ละคนให้หายไป
คนที่เข้าไปในครั้งนี้เรียกได้ว่าต้องแบกภาระหน้าที่หนักที่สุด โดยพวกเขาแต่ละคนมีเวลาเพียง 3 เดือนเท่านั้น และหลังจาก 3 เดือน วงเวทย์เคลื่อนย้ายก็จะปิดโดยอัตโนมัติ ถ้าไม่สามารถออกมาได้ ก็ต้องรอไปอีก 10 ปี แต่เอาแค่ 3 เดือนก็ไม่แน่ใจเลยว่าจะรอดชีวิตออกมาได้ งั้นจะนับประสาอะไรกับ 10 ปี !
ตอนนี้ในสนามรบโบราณมันก็เป็นอย่างที่อ๋องคนนั้นพูด ที่ว่าได้เละเป็นโจ๊กไปนานแล้ว ! ไม่สามารถเรียกว่าเป็นสนามรบโบราณได้อีก แต่ต้องเรียกมันว่าสนามรบชิงคง(จักรวาล) โดยในสนามรบชิงคงนั้นไม่ได้แยกสัญชาติ ไม่ได้แยกเผ่า ไม่ได้แยกดวงดาว เพียงแค่แบ่งออกเป็นสี่จัตุรเทพ !
สี่จัตุรเทพนั้นแบ่งเป็น หงส์ไฟ เต่าดำ มังกรเขียว เสือขาว ! ขอแค่รู้จักใครสักคนในกลุ่มสี่จตุรเทพก็จะสามารถเข้าร่วมกลุ่มนั้นได้เลย แต่หลังจากที่เข้ากลุ่มไปแล้ว จะไม่สามารถกลับใจได้อีก ไม่งั้นก็เตรียมรับบทลงโทษได้เลย ! อีกทั้งแต่ละคนที่ได้เข้ากลุ่มสี่จตุรเทพ จะต้องมีแต้มผลงานมากพอจึงสามารถจากไปได้ !
แน่นอนว่าที่บอกว่าจากไปก็คือจากไปจากสนามรบชิงคงแห่งนี้ ! ซึ่งเจ้าแต้มผลงานในสนามรบชิงคงนี้ก็เรียกได้ว่านำไปใช้ได้หลายอย่างทีเดียว มันไม่เพียงแต่จะสามารถนำไปแลกกับสิ่งของฝึกฝนพลังต่าง ๆ ได้ แม้แต่ชิ้นส่วนพลังก็สามารถแลกได้เช่นกัน ! เท่านี้ก็รู้ได้ว่าแต้มผลงานนั้นมีประโยชน์มากขนาดไหน !
อีกทั้งวิธีที่จะได้แต้มผลงานก็มีหลายวิธี เช่นออกไปเก็บรวบรวมสิ่งของมาจากภายนอก และนำเอาสิ่งของเหล่านั้นมาให้แก่กลุ่มที่ตัวเองอยู่ เพื่อแลกกับแต้มผลงาน ขณะเดียวกันก็สามารถฆ่าศัตรูแลกแต้มได้ ยิ่งฆ่าได้เยอะ คุณก็จะยิ่งได้แต้มผลงานมากเท่านั้น ! ซึ่งถ้าคุณสามารถฆ่าศัตรูระดับสูงได้ แต้มผลงานก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นหลายเท่า !
ในมิติแห่งนี้มีเพียงการสังหาร เพียงแค่คุณกล้าเดินจากกลุ่มของตัวเองไป คุณก็เตรียมโดนล่าสังหารได้เลย ! ดังนั้นในที่แห่งนี้ไม่จึงเพียงแต่ต้องพึ่งความสามารถของตัวเอง มันยังต้องดูดวงของคุณด้วยว่าโชคดีแค่ไหน ! และก็เพราะแบบนี้เอง ในสนามรบจึงมีสิ่งของวิเศษชิ้นหนึ่งที่เรียกกันว่าเครื่องรางโชคลาภอยู่ !
เมื่อคุณสังหารศัตรูหนึ่งคน เครื่องรางโชคลาภของศัตรูที่คุณสังหารก็จะได้ไป ! หลังจากได้เครื่องรางโชคลาภมาแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือยืนยันตัวตนให้เรียบร้อย ก่อนที่เครื่องรางโชคลาภจะเปลี่ยนกลายเป็นอุปกรณ์คุ้มกันภัย และเปลี่ยนเป็นอุปกรณ์โจมตี !
อีกทั้งเมื่อนำเอาเครื่องรางโชคลาภไปหลอมยา หลอมอาวุธ เปอร์เซ็นต์ที่มันจะสำเร็จก็จะกลายเป็นร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยเครื่องรางโชคลาภนั้นมีหลายสี แบ่งออกเป็น สีชมพู สีเหลือง สีส้ม สีแดงและสีม่วง ! ซึ่งถ้าคุณได้ครอบครองสีม่วงละก็ กระทั่งพวกขั้นพลังวรยุทธ์เทพดาราระดับสูงเห็นคุณยังต้องหลบไปซ่อนตัว !!!
เพราะถ้าเครื่องรางโชคลาภสีม่วงระเบิด ต่อให้เป็นขั้นเทพดาราก็ตายเรียบหมดแน่ ! เพียงแต่หลายปีมานี้ที่สนามรบชิงคง ยังไม่มีใครเคยได้เครื่องรางโชคลาภสีม่วงเลยสักคน ดังนั้นถ้าคิดอยากจะได้สีแบบนี้ คุณก็ต้องฆ่าคนอีกเยอะถึงจะทำได้
แต่มีเรื่องที่คุณต้องรู้อย่างหนึ่ง ก็คือหลังจากยืนยันตัวตนเสร็จแล้ว ใครที่ไม่มีพรสวรรค์มากพอและคิดอยากจะแย่งมันไปจากร่างกายคนอื่น ก็คล้ายจะเป็นไปไม่ได้อีก ดังนั้นถ้าคิดจะแย่ง ก็ต้องทำก่อนการยื่นยันตัวตนเท่านั้น !
นอกจากนี้แล้ว เครื่องรางโชคลาภก็ยังสามารถแลกเปลี่ยนแต้มผลงานได้เยอะทีเดียว ! ดังนั้นถ้าพูดว่าอะไรที่มีมูลค่ามากที่สุดในสนามรบชิงคง ก็ต้องเป็นเครื่องรางโชคลาภอย่างไม่ต้องสงสัย อีกทั้งถ้าคุณเข้าไปในตลาดมืดเพื่อทำการแลกเปลี่ยน เครื่องรางโชคลาภก็จะสามารถใช้แลกของได้มากหลายเท่าตัว !
คนที่ได้เครื่องรางโชคลาภก็จะยิ้มแก้มปริ ส่วนคนที่สูญเสียเครื่องรางโชคลาภสีหน้าก็จะอมทุกข์ อย่างคำกล่าวที่ว่ามีคนสุขก็ย่อมต้องมีคนทุกข์ ! และที่สนามรบชิงคงนี้เอง มีคนหนึ่งชื่อว่าหวังซานเหนียง ที่ไม่ใช่คนธรรมดา เป็นถึงอัจฉริยะของพรรคอำนาจใหญ่สักพรรคหนึ่ง ! เพราะหลังจากที่เธอเข้ามาที่สนามรบชิงคง ก็อยู่ที่นี่มาเป็นเวลา 3 ร้อยกว่าปีแล้ว !
และหลังจากอยู่ในนี้มานาน เธอก็ได้แต่งงานเป็นคู่ชีวิตกับคน ๆ หนึ่ง ! ซึ่งในช่วงปีที่ 2 หลังจากแต่งงาน เธอก็ได้ให้กำเนิดเด็กออกมาหนึ่งคน ทำให้ทั้ง 3 คน 1 ครอบครัวผ่านไปอย่างมีความสุข ! ทว่าน่าเสียดายที่มันคงอยู่ได้ไม่นาน ตอนที่เกิดสงครามภายนอก สามีของหวังซานเหนียงก็ได้เสียชีวิตลงในศึกครั้งนั้น
เธอเพียงคนเดียวต้องเลี้ยงดูลูกหนึ่งคนจึงค่อนข้างที่จะลำบาก ! เมื่อต้องออกไปสู้ข้างนอก เด็กที่ไม่มีใครดูแลก็จะเป็นอันตรายได้ ! ด้วยความอับจนหนทาง เธอจึงต้องใช้วิธีฆ่าคนชิงทรัพย์ แย่งชิงเครื่องรางโชคลาภมาเป็นของตัวเอง ! อย่างคำที่กล่าวว่า ความจริงย่อมปิดไม่มิด ผ่านไปไม่กี่ปีสิ่งที่เธอได้ทำเอาไว้ก็ถูกคนอื่นรับรู้เข้าแล้ว !!!
ต้องเข้าใจว่ากลุ่มสี่จตุรเทพนั้นไม่อนุญาตให้ฆ่ากันเอง แต่หญิงสาวกลับไม่สนใจ เพื่อรักษาชีวิตตัวเอง คนกลุ่มตัวเองก็สังหารได้เช่นกัน ดังนั้นหลังจากที่มีคนค้นพบว่าเธอฆ่าคนไปจำนวนนับไม่ถ้วน พวกเขาก็พากันออกไปไล่ฆ่าเธอในทันที !
เมื่อสังหารอีกฝ่ายไปหนึ่งชีวิต ชีวิตของตัวเองก็จะสามารถรักษาไว้ได้ต่อไป หากแต่เด็กทารกในอ้อมแขนของเธอกลับหมดสิ้นสัญญาณชีวิตไปแล้ว ! ทำให้หวังซานเหนียงกลายเป็นคนบ้าสติแตก จนตอนนี้ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่เด็กทารกได้เปลี่ยนเป็นท่อนไม้ อยู่ในอ้อมแขนเธอ
คนที่ไล่สังหารเธอ เมื่อเห็นว่าเธอกลายสภาพเป็นแบบนี้ไปแล้ว ก็ถึงกับล้มเลิกที่จะสังหารเธอ ! ด้วยสงสารผู้ที่มีทั้งพรสวรรค์และหน้าตางดงามผู้หนึ่ง ที่ต้องมากลายสภาพเป็นหญิงสติไม่ดีแบบนี้ !
เดิมทีเธอคนนี้ถือว่าเป็นกำลังหลักของกลุ่มเสือขาวคนหนึ่ง ! เพียงแต่น่าเสียดายที่หลังจากเธอกลายเป็นบ้า กลุ่มเสือขาวก็ทอดทิ้งเธอในที่สุด ! แต่ว่าโชคยังดีที่คนของกลุ่มหงส์ไฟเห็นเธอแล้วสงสาร จึงรับเธอเอาไว้ ! ทำให้ตอนนี้เธอกำลังยืนอุ้มทารกปลอม ๆ ไว้ในอ้อมแขนที่ด้านนอกของพื้นที่กลุ่มหงส์ไฟ ส่วนปากก็ร้องเพลงกล่อมเด็กไม่หยุด
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เองที่ชั้นบรรยากาศเกิดความเคลื่อนไหว ก่อนมีเงาร่างหนึ่งตกลงมา ! ทั้งยังตกลงมาที่เธอพอดิบพอดีเสียด้วย ทำให้ทารกท่อนไม้ตัวปลอมของเธอแตกออก ! ซึ่งคน ๆ นี้ไม่ใช่ใครอื่น เขาก็คือฉู่เหินนั่นเอง !
ชายหนุ่มคิดไม่ถึงเลยว่าวงเวทย์เคลื่อนย้ายจะไม่ปกติขนาดนี้ จนเขาไม่ทันตั้งตัว ตกลงไปทั้ง ๆ แบบนั้น ! และด้วยความแข็งแกร่งของร่างกายฉู่เหิน มันก็ทำให้ท่อนไม้เล็ก ๆ นั่นแตกทันที ! ก่อนที่เขาจะต้องรู้สึกเจ็บปวดเมื่อถูกคน ๆ หนึ่งกักเขาเอาไว้กับพื้น !
“ลูกน้อย พริบตาเดียวทำไมลูกตัวโตขนาดนี้แล้ว ! ดีจริง ในที่สุดก็ได้เห็นลูกแม่โตแล้ว !” หวังซานเหนียงอุ้มฉู่เหินด้วยสีหน้าดีใจ ! ต่อมาก็หอมแก้มชายหนุ่มทั้งสองข้าง ! ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาเป็นสาย
ฉู่เหินที่ถูกฉากนี้ทำให้ตกตะลึงไป จากนั้นเขาก็เงยหน้ามองหญิงสาวคนนี้ด้วยไม่รู้นี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่เมื่อสังเกตดี ๆ เขาก็พบว่านัยน์ตาของคน ๆ นี้ไร้แวว พูดไม่เป็นภาษา ดังนั้นฉู่เหินจึงยืนยันกับตัวเองได้ว่าสติของคน ๆ นี้มีปัญหา !
หลังจากรู้แบบนั้น เขาก็ทำท่าจะลงจากตัวของผู้หญิงคนนี้ แต่เมื่อหวังซานเหนียงเห็นฉู่เหินลงมา เธอก็ทนไม่ได้ ! ต้องเข้าใจว่าหลายปีมานี้ในที่สุดลูกของเธอก็เติบโตขึ้นมาได้แล้ว ดังนั้นเธอจะไปยอมให้เขาไปจากอ้อมแขนตัวเองได้ยังไง !
“ลูกจ๋าเป็นเด็กดีนะ อย่าดื้ออย่าซน ไม่งั้นแม่จะตีก้นเจ้า !” เมื่อพูดจบ ฉู่เหินก็พบว่าพลังวรยุทธ์ทั้งหมดของตัวเองถูกผนึกเอาไว้ อีกทั้งเขายังสัมผัสได้ว่าพลังวรยุทธ์ของผู้หญิงคนนี้ น่ากลัวว่าจะมากกว่าศิษย์พี่ 6 ของตนเสียอีก ! แต่ยังดีที่อ่อนแอกว่าพลังของพี่ 4 ไม่น้อย !
“ขอโทษนะครับ กรุณาปล่อยผมไปเถอะ ! ตัวผมใหญ่ขนาดนี้จะมาให้คุณอุ้มได้ยังไง มันใช่เรื่องเหรอ !” แม้ว่าเขาจะรู้ว่าอีกฝ่ายฟังเขาไม่รู้เรื่อง แต่ฉู่เหินก็อยากจะลองพูดประโยคนี้ดู !