สุดยอดชาวประมง - บทที่ 575 กระบี่มรณะ
บทที่ 575 กระบี่มรณะ
บทที่ 575 กระบี่มรณะ
เมื่อเห็นฉากนี้ เจ้าเสือตัวนั้นก็ยืนยันกับตัวเองได้ว่าคนตรงหน้าเป็นคนที่เขารอแน่ ! ต้องเข้าใจว่าตำราเล่มนั้นเขาเคยหยิบมาดูไม่ใช่ครั้งสองครั้ง แต่ทุกครั้งที่เจ้าเสือหยิบมามันกลับไม่เคยเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย อย่างไรก็ตาม ทันทีที่คนตรงหน้าหยิบมัน ตำราก็เข้าไปอยู่ในหัวของเขาแล้ว ! ทำให้เขาคิดว่าสิ่งที่ตัวเองคิดนั้นถูกต้อง
ขณะเดียวกันฉู่เหินก็รู้แล้วว่ากระบี่ที่วางอยู่ตรงหน้าตัวเองนั้นมีชื่อเรียกว่ากระบี่มรณะ ด้วยมันเต็มไปด้วยจิตสังหารนับไม่ถ้วน ทำให้คนธรรมดาไม่สามารถควบคุมได้ และอาศัยแค่เพียงจิตสังหารของตัวกระบี่ก็ทำให้จิตของคน ๆ นั้นบาดเจ็บ หรือแม้กระทั่งร่างกายแตกสลาย !
ทันทีที่ฉู่เหินเห็นกระบี่เล่มนี้ เขาก็ถูกมันดึงดูดไปทันที กระบี่เล่มนี้มันราวกับมีเวทมนต์ ทำให้เขาที่มองมันไม่อาจบังคับร่างกายและจิตใจให้สงบลงได้ จนต้องเดินเข้าหามัน ก่อนยื่นมือข้างหนึ่งไปหยิบกระบี่มาไว้ในมือ และแค่เพียงสัมผัส ชายหนุ่มก็รู้สึกได้ในทันทีถึงจิตสังหารมากมายนับไม่ถ้วนที่พุ่งเข้ามาในหัวของเขา !
พลังพวกนี้มันบ้าคลั่งมาก ราวกับต้องการทำลายจิตใจของเขาให้หมดสิ้น ทว่าจิตวิญญาณของฉู่เหินกับคนทั่วไปไม่เหมือนกัน ต้องเข้าใจว่าเขาได้สามจิตวิญญาณกลับคืนมาแล้ว ถือว่ามีจิตวิญญาณที่ควบถ้วยสมบูรณ์อย่างแท้จริง ! ดังนั้นหลังจากที่เจอจิตสังหารพวกนี้เข้าไป จิตวิญญาณของชายหนุ่มก็เพียงสั่นไหวเล็กน้อยเท่านั้น ก่อนที่จะกลับมาเป็นปกติ
แต่ดูเหมือนกระบี่ดำจะไม่พอใจกับสิ่งที่ได้ จึงใจส่งจิตสังหารเข้าหัวฉู่เหินอีกครั้ง แต่ทว่าชายหนุ่มไม่สนใจแม้แต่น้อย เพราะว่าจิตสังหารพวกนี้ทำอะไรเขาไม่ได้อยู่แล้ว ! หลังจากที่จิตสังหารพวกนี้พุ่งเข้ามาในหัวและไม่เกิดผลอีกรอบ สุดท้ายมันก็ละทิ้งความตั้งใจไปอย่างหมดแรง !
ตอนนี้เองที่นิ้วชี้ของฉู่เหินปรากฏรอยแผลเล็ก ๆ มีเลือดหยดหนึ่งซึมเข้าสู่ตัวกระบี่ ! และตามมาด้วยกระบี่ดำที่ส่งแสงสว่างขึ้นในพริบตา ! จากนั้นมันก็ลอยจากมือของชายหนุ่มขึ้นไปอยู่เหนือหัว ก่อนที่เขาจะรีบนั่งลงและโคจรพลังเข้าไปในกระบี่ดำนั่น !
หลังจากใส่พลังตัวเองเข้าไปในตัวกระบี่ เขาก็ยิ่งรู้สึกตัวเองกับกระบี่มรณะมีความสัมพันธ์ลึกลับบางอย่าง กระทั่งมีความรู้สึกคุ้นมืออย่างประหลาด !
คล้ายกับรับรู้ถึงความคิดชายหนุ่ม เจ้ากระบี่ดำเล่มก็พลันเปล่งแสงสว่างจ้าออกมา ดู ๆ แล้วเหมือนสแตนเลสธรรมดามาสร้างกระบี่ยังไงยังงั้น !
หลังจากขั้นตอนทุกอย่างเสร็จสิ้น เขาก็เก็บไข่มุกนำโชคทุกเม็ดกลับไป ! และเมื่อเสร็จธุระกับที่นี่แล้ว ฉู่เหินก็เตรียมจะจากไป แต่เมื่อหันกลับไปมองเสือตัวนั้น เขาก็ถามออกไปด้วยความสงสัย
“นายวางแผนในอนาคตต่อไปยังไง ของวิเศษที่นี่ฉันเก็บไปหมดแล้ว นายก็ไม่มีอะไรให้เฝ้าสมบัติที่นี่อีกแล้ว” ฉู่เหินหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเสือตัวนี้จะตามตัวเองไปที่กลุ่มเสือขาว เนื่องจากพลังวรยุทธของมันจะทำให้เขาปลอดภัยยิ่งขึ้น
“ฉันฆ่าเวลาอยู่ที่นี่เบื่อหน่ายพอแล้ว ในเมื่อภารกิจเสร็จสิ้น ฉันก็จะกลับไปบ้างแล้วเหมือนกัน หวังว่าสักวันนายจะได้ไปที่บ้านเกิดของฉันดู บ้านของฉันเป็นสถานที่ที่สวยมาก ที่นั่นมีทั้งน้ำและก็ภูเขา มันเรียกว่าหุบเขารัตติกาล ส่วนฉันชื่อว่าหูเหมิง !”
เมื่อพูดจบก็เห็นหูเหมิงค่อย ๆ หายไปจากตรงนี้อย่างรวดเร็วราวกับสายลม !
ฉู่เหินยืนส่งอีกฝ่ายเงียบ ๆ สักพัก ก่อนจะหมุนตัวจากไปเช่นกัน !
เขากุมกระบี่มรณะไว้ในมือขณะเดินทางต่อไป !
ข้างนอกแสนไกล ไกลจนไม่รู้ว่าไกลเท่าไร มีชายชราหนึ่งคนพูดกับชายหนุ่มคนหนึ่งว่า “เดินทางในสนามรบชิงคง เธอต้องระวังตัวให้ดี แผนที่ที่ฉันให้ไปเป็นสิ่งของที่บรรพบุรุษมองให้”
“หากเห็นเสือตัวหนึ่งเฝ้าอยู่หน้าถ้ำ ถ้าเขามีของจะให้ เธอต้องทำเหมือนไม่อยากได้ หลังจากปฏิเสธ 4 ครั้ง เธอถึงจะได้ของวิเศษในถ้ำ จงจำไว้ว่าของในถ้ำสำคัญมาก ห้ามทำสูญหายเด็ดขาด” หลังจากชายหนุ่มได้ยินดังนั้น ก็พยักหน้าอย่างจริงจัง จากนั้นก็ออกเดินทางไปที่สนามรบชิงคง
หลังชายหนุ่มจากไป อยู่ ๆ นัยน์ตาของชายชราก็เจือความโหดเหี้ยม “คิดจริง ๆ หรือว่าสมบัติที่แกซ่อนเอาไว้ฉันจะหาไม่เจอ ? หลังจากความพยายามหลายหมื่นปี ในที่สุดฉันก็พบว่าแกซ่อนมันไว้ที่ไหน ! เช่นนี้สมบัติที่แกคิดจะมอบให้ลูกหลานของแกก็ไม่มีวันแล้ว ! อยากรู้จริงว่าถ้าแกรู้ว่าฉันไปเอามันออกมาแล้วแกจะรู้สึกยังไง !”
เมื่อพูดจบเขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะอย่างอดไม่อยู่ แต่ถ้าเขารู้ว่าสมบัติที่เขาต้องการถูกฉู่เหินเอาไปแล้ว ไม่รู้ว่าเขาจะรู้สึกยังไง !
หลังจากพวกพี่หวังตาย เดิมทีโชคลาภของพวกนี้ที่ลอยอยู่เหนือหัวก็ต้องหายไปในอากาศ แต่ฉู่เหินที่ผ่านมาเห็นพอดี ดังนั้นมีหรือที่เขาจะปล่อยให้โชคพวกนี้ลอยหายไป ! ดังนั้นเขาจึงรีบหาวิธีดูดซึมเอาโชคของทั้ง 3 คนนี้มาเป็นของตัวเองเสีย !
การดูดซึมโชคของทั้งสามนั้น เขาไม่สามารถรับไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ด้วยมีส่วนหนึ่งที่สลายหายไปในอากาศ แต่ฉู่เหินก็คิดว่าแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ! ด้วยนี้ไม่ใช่ของที่เขาคิดว่าจะได้รับ เพราะการที่ได้ก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว ไม่จำเป็นต้องพูดให้มากความ !
หลังจากเขารับโชคของทั้งสามไป จู่ ๆ ฉู่เหินก็รู้สึกว่าตันเถียนของตัวเองเกินความสั่นไหว ต่อมาพลังขั้นครึ่งจอมปราชญ์ระดับกลางของเขาก็ขึ้นมาอยู่ที่ขั้นครึ่งจอมปราชญ์ระดับสูง ! ผลลัพธ์ของโชคพวกนี้ให้เกิดกว่าที่เขาคาดไว้มากทีเดียว !
เขาคิดไปกระทั่งว่าถ้าเขาดูดโชคของไข่มุกนำโชคทั้งหมดแล้ว เป็นไปได้ที่เขาจะเลื่อนขั้นจอมปราชญ์ได้ ชายหนุ่มชั่งใจอยู่นาน ก่อนที่เขาจะเลือกอดกลั้นเอาไว้ ! เพราะต้องเข้าใจว่าถ้าโชคลาภที่อยู่เหนือหัวเข้มข้นเกินไป มันย่อมไม่ใช่เรื่องดีเท่าไรเหมือนกัน ! ด้วยแบบนั้นจะทำให้โดนคนอื่นหมายหัวได้
ในสนามรบชิงคงนั้น มีคนที่พลังวรยุทธ์สูงกว่าตัวเองหลายหมื่นคน ถ้าเกิดพวกเขาพบว่าโชคลาภของตนเองเข้มข้นมากแบบนี้ หากพวกนั้นไม่ใจเต้นอยากได้เป็นเจ้าของ ฉู่เหินย่อมไม่มีวันเชื่อ ! เพราะแบบนี้เขาจึงไม่กล้าดึงโชคลาภมาโดยตรง
ธรรมดาแล้วโชคสีขาว 2 อันสามารถบีบอัดให้เล็กลงเท่าไข่มุกนำโชคสีขาว 1 เม็ด ! ดังนั้นชายหนุ่มเลยลังเล ก่อนจะไม่ทำการดูดซึมต่อ ! ด้วยไม่แน่ใจว่าไข่มุกพวกนี้อาจจะเอากลับไปแลกแต้มผลงานที่เมืองได้ ! และถึงตอนนั้นเขาก็จะได้ตั๋วกลับบ้านเร็วขึ้น
หลังจากมองซ้ายมองขวา เขาก็ใช้วิชาเก้าแปดแปลงกาย เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นพี่หวัง ! วิชาแปลงกายเก้าแปดตอนนี้เขาเพิ่งจะเริ่มควบคุม ดังนั้นจึงมีเพียงภายนอกเท่านั้นที่เหมือนพี่หวัง สำหรับจิตนั้นยังทำไม่ได้ หากแต่เท่านี้ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว !
ตามที่ในตำราวิชาแปลงกายเก้าแปดบันทึกไว้ หลังจากฝึกฝนวิชานี้จนเชี่ยวชาญ ไม่ใช่แค่ภายนอกเท่านั้นที่จะเลียนแบบได้ แม้แต่พลังการโจมตีเองก็จะเหมือนกว่าครึ่ง และอย่าดูถูกพลังโจมตี 50 เปอร์เซ็นต์นี้เด็ดขาด เพราะถ้าแปลงกายเป็นจิตวิญญาณสัตว์ อย่างสัตว์เทพหรือว่าสัตว์เทวะ งั้นแล้วพลังโจมตี 50 เปอร์เซ็นต์ก็ไม่ใช่น้อย ๆ เลย !
อีกทั้งหลังจากฝึกวิชาแปลงกายเก้าแปดจนเชี่ยวชาญ ก็ยังสามารถแยกร่างได้ และร่างแยกนั้นก็จะมีพลังโจมตีของร่างต้นด้วยครึ่งหนึ่ง !
ยิ่งฉู่เหินทำความเข้าใจวิชาแปลงกายเก้าแปดได้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่ามันเป็นอาวุธที่สุดยอดมาก ! ก่อนที่จะตัดสินใจเดินออกไปจากที่นี่ ตรงไปที่กลุ่มเสือขาว
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ออกไปได้ไม่นาน ก็มีชายหนุ่มหน้าสวยปรากฏกายใกล้ถ้ำแห่งนี้ แต่ทว่าเมื่อคนคนนี้มาถึง เขาก็พบว่าหน้าถ้ำไม่มีสัตว์อารักขาอยู่เลย ดังนั้นหลังจากลังเลเล็กน้อยก็ตัดสินใจลองเข้าไปในถ้ำดู
ทว่าตอนนี้ภายในถ้ำนั้นว่างเปล่า ไม่มีสิ่งใดเหลืออยู่เลย ! ฉู่เหินนั้นแม้กระทั่งโต๊ะยังเอาไปด้วย แม้แต่เกล็ดสวย ๆ ที่กำแพงก็ยังถูกเขาเก็บไปด้วย ! ทำให้ถ้ำเล็ก ๆ นี้กลายเป็นถ้ำที่ว่างเปล่า ไม่มีสิ่งใดอยู่เลย ทำให้คนคนนี้มองด้วยสายตาโง่งมไปเลย