สุดยอดชาวประมง - บทที่ 609 อสนีทะเลเพลิง
บทที่ 609 อสนีทะเลเพลิง
บทที่ 609 อสนีทะเลเพลิง
สุดท้ายแม่ทัพเต่าดำก็สามารถนำชิ้นส่วนพลังมาได้ 40 ชิ้นสำเร็จ ซึ่งในส่วนนี้แม่ทัพหงส์เพลิงไม่คิดจะรับไว้ เขาเลือกที่จะมอบมันให้กับฉู่เหินทั้งหมด ด้วยในความคิดเขานั้น ถ้าไม่มีฉู่เหินมาช่วยแล้ว ก็คงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้ของพวกนี้มาจากอีกฝ่าย !
กลับเป็นฉู่เหินที่ได้ยินแล้วไม่ได้รู้สึกใส่ใจเท่าไร อีกทั้งเขายังให้แม่ทัพหงส์เพลิงเอากลับไปครึ่งหนึ่ง ! ด้วยในเมื่อพวกเขาร่วมมือกัน งั้นแล้วก็ควรจะได้รับอะไรเท่า ๆ กันสิ ! จนทำให้สุดท้ายแม่ทัพหงส์เพลิงก็ปฏิเสธฉู่เหินไม่ลง ได้แต่รับมา 23 ชิ้น !
เรื่องราวดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว ต่อไปก็ให้กลุ่มกิเลนจัดการธุระตนเองต่อ ซึ่งการจะหาสถานที่ตั้งที่เหมาะสมนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก ! ไม่ใช่เพราะดวงดาวนี้มีพื้นที่น้อย แต่การจะเลือกที่ตั้งเมืองอันดับแรกจำเป็นต้องมีแหล่งพลังที่มากเพียงพอ ไม่งั้นจะไม่สามารถให้คนในกลุ่มพลังบำเพ็ญเพียรพลังยุทธ์ได้ !
สุดท้ายก็เป็นฮวามู่ตันที่เดินเข้ามาให้คำแนะนำ ด้วยการบอกว่าตรงกลางระหว่างกลุ่มหงส์เพลิงและกลุ่มมังกรเขียวมีที่ที่พิเศษมากตั้งอยู่ ได้ยินมาว่าที่นั้นมีมิติเล็ก ๆ ที่ค่อนข้างพิเศษ เพราะถึงแม้จะเต็มไปด้วยอันตรายมากมาย แต่ภายในก็มากไปด้วยพลังที่เข้มข้นมากเช่นกัน !!!
อีกทั้งตั้งแต่ในอดีตกาล ที่นี่ก็มีตำนานเล่าขานเรื่องหนึ่ง ว่ามีของวิเศษลึกลับชิ้นหนึ่ง ที่ถ้าใครได้ครอบครองก็จะได้รับโชคลาภมหาศาล กับสิทธิ์ในการบำเพ็ญเพียรรับพลังจากในมิติเล็กนั้นได้ไม่มีจำกัด !!!
พอฉู่เหินได้ยินดังนั้นก็ถามรายละเอียดต่อ ทำให้ชายหนุ่มได้รู้ว่าสถานที่นั้นเรียกว่าอสนีทะเลเพลิง ที่เต็มไปด้วยพลังธาตุไฟและสายฟ้า ! ซึ่งหลายปีมานี้ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่เข้าไปในนั้น ทว่าก็ไม่มีสักคนที่สามารถนำของวิเศษลึกลับนั่นกลับมาได้
คนที่โชคดีหน่อยไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถออกมาโดยไม่บาดเจ็บ เพราะคนส่วนมากล้วนแต่ได้รับบาดเจ็บหนัก ไปจนถึงตายอยู่ที่นั่นเลยก็มี !!!
นอกจากนี้แล้ว ที่แห่งนั้นก็ยังไม่แบ่งแยกสูงต่ำ ดูเพียงพรสวรรค์ ทำให้คนที่มีพรสวรรค์สูงสามารถอยู่ภายในนี้นานขึ้น และได้รับผลดีกว่าคนอื่น !!
พอได้ยินดังนี้ฉู่เหินก็เริ่มสนใจ อยากลองไปดูสักครั้ง ด้วยถ้าสามารถใช้เป็นที่ตั้งเมืองกิเลนได้จริง ๆ งั้นแล้วตนเองก็ถือว่าได้ผลประโยชน์ไปด้วย และแบบนั้น มันก็ไม่มีอะไรน่ายินดีไปกว่านี้แล้ว !
เมื่อฉู่เหินตัดสินใจแล้ว ก็ไม่คิดจะลังเลอีก รีบสั่งให้แม่ทัพนายกองรวมตัวเตรียมเข้าไปในมิติเล็กนั่นทันที !
ทหารกลุ่มใหญ่เคลื่อนพลกลับไม่ได้รวดเร็วอะไรนัก จากที่นี่ไปถึงเมืองหงส์เพลิงให้เวลา 6 ถึง 7 วัน และในตอนที่ทหารทั้งหมดกลับพร้อม ๆ กันแบบนี้ มันก็ทำให้มองไปทางไหนก็เต็มไปด้วยฝูงคน !
ซึ่งหลังจากถึงเมืองหงส์เพลิงแล้ว ฉู่เหินก็ไม่ได้หยุดพัก กลับบอกลาแม่ทัพหงส์เพลิงและเคลื่อนทัพต่อทันที !
ซึ่งทหารหมื่นคนที่เดิมเคยเป็นคนของกลุ่มหงส์เพลิงเองก็ไม่ได้หยุดอยู่ที่นี่เช่นกัน เพราะตอนนี้พวกเขาได้กลายเป็นคนของกลุ่มกิเลนแล้ว โดยในจุดนี้นั้น แม่ทัพหงส์เพลิงก็ไม่ได้ถืออะไรมาก คนเพียง 1 หมื่นคนเท่านั้น เขาสามารถหามาเพิ่มเมื่อไรก็ได้ทุกเมื่อ !
เช่นเดียวกับหวังซานเหนียง ฮวามู่ตันและคนอื่น ๆ ที่เดินทางไปด้วยกัน !
เดิมทีแล้วนั้น หลิวซินยี่อยากจะอยู่ที่กลุ่มหงส์เพลิง เนื่องจากเธอทรยศทั้งกลุ่มเต่าดำและเสือขาวมา ! แต่ตอนนี้เธอไม่กลัวแล้ว เพราะแม่ทัพเสือขาวตายแล้ว ส่วนแม่ทัพเต่าดำก็พ่ายแพ้แก่ฉู่เหิน ทำให้เธอเลือกที่จะติดตามชายหนุ่มต่อไป !
นอกจากนี้ ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็เคยเป็นสามีภรรยากันในช่วงระยะเวลาหนึ่งไม่ใช่หรือ ! และเพียงแค่ประโยคนี้ของเธอ ก็ทำให้ฉู่เหินอดจะตัวสั่นเล็กน้อยไม่ได้ กระทั่งพูดต่อประโยคกันเขายังไม่กล้าเลย !
เมื่อเห็นท่าทางหลีกหนีของฉู่เหิน หลิวซินยี่ก็อดรู้สึกเสียใจเล็ก ๆ ไม่ได้ ! ทว่าหวังซานเหนียงไม่ได้คิดอย่างนั้น ด้วยในสายตาของหวังซานหนียงแล้ว หลิวซินยี่นับเป็นลูกสะใภ้ของตน !
ยิ่งเห็นแบบนี้ ฉู่เหินก็ยิ่งรู้สึกพูดไม่ออก จนกระทั่งเขาต้องแอบกระซิบบอกกับหวังซานเหนียงว่าตนมีภรรยารออยู่ที่บ้านอยู่แล้ว แต่ประโยคต่อมาของหวังซานเหนียงก็ถึงกับทำเขาทึ่มไปเลย
“ลูกมีเมียกี่คนนะ ? ลูกผู้ชายจะมีสามภรรยาสี่อนุไม่เห็นจะแปลกเลย !” เพียงประโยคเดียวนั้นฉู่เหินก็ไม่รู้แล้วว่าควรจะพูดอะไรต่อดี ความเป็นจริงกับสิ่งที่ตนเคยถูกปลูกฝั่งมามันไม่เหมือนกันเลย ดังนั้นความคิดของพวกเขาจึงไม่เหมือนกัน เพราะในสายตาของหวังซานเหนียงแล้ว มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้ชายจะมีสามภรรยาสี่อนุเช่นนี้
ผิดกับสิ่งที่ฉู่เหินได้รับการปลูกฝั่งมาแต่เด็ก ว่าชีวิตคู่ควรจะมีสามีและภรรยาแค่คนเดียวเท่านั้นถึงจะถูกต้อง ! …เมื่อหัวใจของชายหนุ่มคิดถึงตรงนี้ เขาก็พลันนึกถึงหญิงชรานั่นที่ลักพาตัวภรรยาอีกคนของตัวเองไป !
หลังจากหวังซานเหนียงได้ยินเรื่องราวของลูกชายตัวเอง เธอก็โกรธมาก ! ด้วยคิดไม่ถึงว่าลูกชายตัวเองไปเจอเรื่องราวแบบนี้มา ! ก่อนที่เธอจะบอกฉู่เหินว่าอย่ากลัวหญิงแก่คนนั้นไป เพราะเดี๋ยวตัวเธอจะไปตามหาอีกฝ่ายให้เอง !!
ว่าแล้วหวังซานเหนียงก็พลันถามว่าหญิงแก่คนนั้นหน้าตาเป็นยังไง และเมื่อฉู่เหินบรรยาย แววตาลุกโชนก็ปรากฏในดวงตาของหวังซานเหนียงทันที ! ก่อนที่หวังซานเหนีงจะสเก็ตภาพขึ้นมาและติดประกาศไปทั่วทั้งดวงดาว ! ว่าถ้าใครให้เบาะแส ก็รับไปเลยกับชิ้นส่วนพลัง 2 ชิ้น !
เมื่อแม่ทัพหงส์เพลิงได้ยินเรื่องนี้ เขาเองก็เพิ่มประกาศรางวัลอีกหนึ่งฉบับเข้าไป ทำให้ไม่ว่าใครล่ะตามที่ให้เบาะแส ก็จะได้รับรางวัลไปถึงสองต่อ !!
เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำให้ทั่วทั้งสนามรบชิงคงแตกตื่นขึ้น จนรูปสเก็ตนั้นปลิวไปทั่วทั้งดวงดาว ทำให้ทุกคนได้เห็นกันทั่ว ! ต้องเข้าใจว่าของรางวัลได้มาถึง 2 เท่าเชียวนะ ! ของแบบนี้ใครจะอดใจไหว แล้วก็เพราะแบบนี้ ที่ทำให้หญิงแก่คนนั้นมีชื่อเสียงขึ้นมาในทันที !!!
แม้ว่าจะไม่เคยเห็นหน้าคนคนนี้ที่สนามรบชิงคงมาก่อน แต่คนจากสนามรบชิงคงนั้นก็มาจากหลากหลายดวงดาว ทำให้ขอเพียงคนคนนั้นเดินออกมาข้างนอก ก็ต้องรู้แน่ว่าหญิงชราที่ว่าเป็นคนของดาวดวงไหน !
ตอนแรกแม่ทัพมังกรเขียวเตรียมตัวจะออกมาช่วยเหลือกลุ่มหงส์เพลิง เพียงแต่พวกเขาอยู่ไกลเกินไปจึงเสียเวลาไปกับการเดินทางเยอะ จนทำให้เกิดการเปลี่ยนใจ แวะไปทำลายกลุ่มเต่าดำแทน !!!
แล้วก็เพราะแบบนี้ ที่ทำให้พวกเขารู้สึกติดหนี้บุญคุณ จนเมื่อกลุ่มหงส์เพลิงและกลุ่มกิเลนติดประกาศ พวกเขาก็ไม่ลังเลที่จะช่วยตามหาด้วย !
ทางด้านแม่ทัพกลุ่มเต่าดำเอง เขาก็ทำการประกาศด้วยเช่นกันเพื่อเอาใจฉู่เหิน เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะเปลี่ยนใจมาฆ่าตัวเอง !!!!
ระหว่างทางที่ฉู่เหินกลับมา ชายหนุ่มก็ได้สั่งให้คนไปรวบรวมเรื่องชั่วที่แม่ทัพเสือขาวได้กระทำมาทั้งหมด ! ต้องเข้าใจว่าอีกฝ่ายไม่เพียงฆ่าพี่ชายแท้ ๆ ของตัวเอง เพราะเขายังได้กระทำเรื่องชั่วช้าอื่น ๆ เอาไว้มากมาย ! และก็เป็นตอนนี้นี่เอง ที่คนทั่วทั้งสนามรบชิงคงได้รู้ว่าแม่ทัพเสือขาวเป็นคนน่าขยะแขยงเพียงไหน !
ซึ่งจากทั้งหมดที่ว่ามา ฉู่เหินก็ไม่ได้กล่าวหาลอย ๆ แม้แต่น้อย เพราะเขามีหลักฐานทุกเรื่องที่อีกฝ่ายเคยกระทำไว้ทั้งหมด มีกระทั่งพยานปากด้วยซ้ำไป ! ทำให้ในตอนนี้ทุกคนถึงเพิ่งจะตาสว่าง โดยเฉพาะผู้อาวุโสเสือขาวคนนั้นที่ถึงกับตะลึงอ้าปากค้างเมื่อเห็นฉากนี้เข้า