สุดยอดชาวประมง - บทที่ 612 ได้เพลิงพิโรธมาอีกหนึ่ง
บทที่ 612 ได้เพลิงพิโรธมาอีกหนึ่ง
บทที่ 612 ได้เพลิงพิโรธมาอีกหนึ่ง
ไฟแห่งความว่างเปล่ามองเห็นสิ่งที่ฉู่เหินกระทำก็อ้าปากค้างอย่างตกตะลึง เช่นเดียวกับหัวใจที่สั่นระรัวไปด้วยไม่หยุด ! นี้ตัวเองมาเจอกับตัวประหลาดอะไรเข้าเนี่ย !
และเหตุที่มันพูดแบบนี้ ก็เพราะเปลวไฟแห่งความว่างเปล่าสามารถสัมผัสได้เลยว่าพลังมายาของอีกฝ่ายกำลังพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด อีกทั้งพลังที่ว่าก็ดูจะมีกลิ่นอายคล้าย ๆ กับของตัวเองเลย !
ฉากนี้ทำให้หัวสมองของมันว่างเปล่าในทันที กระทั่งในใจเริ่มจะรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาแล้ว ด้วยรู้สึกว่าตัวเองช่างโชคร้ายอะไรเช่นนี้ ถ้ารู้ว่าอีกฝ่ายเป็นตัวประหลาดแบบนี้คงไม่ยุ่งด้วยตั้งแต่แรก !
ยิ่งผ่านไปนานเท่าไหร่ พลังมายาของอีกฝ่ายก็ยิ่งเป็นรูปเป็นร่างและทรงพลังมากขึ้นเท่านั้น และแม้ว่าเมื่อเทียบกับตัวเองแล้วจะยังห่างชั้นกันอยู่มาก แต่การพัฒนามาได้ถึงขนาดนี้ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ก็นับว่าอัจฉริยะแล้ว !
ถึงตอนนี้มันก็ไม่เหลืออารมณ์โกรธอีกต่อไปแล้ว ! เพราะต่อให้ต่อต้านไปก็ไร้ประโยชน์ และเมื่อคิดแบบนี้ มันก็ทำการหลับไปทั้ง ๆ อย่างนั้นเลย !
ครั้งนี้ถือฉู่เหินได้รับโชคครั้งใหญ่ไม่เบา ! เพราะมาตอนนี้เขาได้เข้าถึงพลังมายาอย่างถ่องแท้แล้ว ! ซึ่งก็เป็นเพราะมีไฟแห่งความว่างเปล่าเข้ามาในร่างกายนี่แหละ !!!
แมวนพเวทย์นั้นมีพลังมายาที่ตายตัว ไม่มีความยืดหยุ่น เป็นพลังมายาเพียงวิชาเดียว ดังนั้นแม้ว่าทั้งสองจะมีวิชามายาเหมือนกัน แต่มันก็กลับแตกต่างกันอย่างมาก ! จนเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าพลังมายาของเปลวไฟชนิดนี้แข็งแกร่งกว่าหลายเท่า !
ทว่าเมื่อฉู่เหินเข้าถึงวิชานี้ เขาก็พลันพบเข้ากับปัญหา ด้วยเพราะวิชานี้มีข้อเสียที่ใหญ่มาก และนั่นก็คือการที่เขาต้องเข้าไปในจิตวิญญาณของอีกฝ่าย ซึ่งถ้าพลังมายาของตัวเองไม่สามารถทำให้อีกฝ่ายตายได้ งั้นแล้ววิญญาณของเขาก็จะถูกกักขังอยู่กับอีกฝ่ายตลอดไป !
ทว่าในจังหวะนั้นเอง ฉู่เหินก็ขึ้นมาได้ ว่ามันก็ไม่เห็นจำเป็นต้องใช้วิญญาณทั้งหมดเลยหนิน่า แค่ส่วนหนึ่งก็พอแล้ว !!!
และเมื่อคิดได้แบบนั้น ความต้องการที่จะครอบครองไฟแห่งความว่างเปล่าของชายหนุ่มก็พลันเพิ่มสูงขึ้นไปอีก ก่อนที่จะกลับมาตั้งสมาธิ ทำใจตั้งมั่นว่าจะไม่ปล่อยมันออกไปเด็ดขาด !!
หลังจากนั้นไม่นาน ในหัวของฉู่เหินก็มีความคิดผุดขึ้นมามากมาย จนได้ออกมาเป็นแผนการ ที่ว่าจะพูดล้างสมองเพื่อให้เปลวไฟนี้ยินยอมพร้อมใจที่จะติดตามไปเอง
เพราะต้องเข้าใจว่าของวิเศษพวกนี้มักจะมีความหยิ่งในศักดิ์ศรีตัวเองมาก และการจะให้พวกมันยอมแต่โดยดีก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย !
ในใจของฉู่เหินคิดวิธีต่าง ๆ นานา แต่ก็ยังไม่ได้วิธีที่ดีเลยสักอย่าง จนกระทั่ง…
“ลูกพี่ ผมนับถือลูกพี่มากเลย ! คุณเหมือนแสงสว่างที่คอยนำทางของผมเลย ! การได้พบกับลูกพี่เป็นอะไรที่โชคดีที่สุดแล้ว เพียงแค่มองก็รู้แล้วว่าในอนาคตลูกพี่จะต้องกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ! ผมละปลาบปลื้มจนไม่รู้จะพูดออกมายังไงแล้ว ! โดยเฉพาะรูปร่างหน้าตาอันหล่อเหลาของลูกพี่ที่มันทำให้ผมนับถือ !!”
ในตอนแรกฉู่เหินคิดว่าตัวเองหูฝาด แต่เมื่อสังเกตดี ๆ เขาก็พบว่ามันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ! จนทำให้ชายหนุ่มถึงกับมึนงงไปเล็กน้อย ก่อนที่จะเข้าใจว่าอีกฝ่ายกลัวว่าตัวเองจะฆ่ามัน ! ซึ่งอันที่จริงแล้วนั้น มันก็ไม่มีทางเลยที่เขาจะทำลายมันทิ้ง !
แต่เป็นเช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะเท่านี้ก็ไม่ต้องพูดเยอะแล้ว แต่ฉู่เหินรู้ดีว่าตัวเองไม่ควรตอบรับอีกฝ่ายง่าย ๆ ไม่งั้นมันจะนึกว่าตัวเองยังมีอะไรให้ต่อรองได้ !
“ทำไมฉันถึงรู้สึกว่านายอยากจะติดตามฉันนัก แต่ว่านายก็น่าจะรู้ว่าในร่างกายของฉันไม่ใช่ที่พักอาศัยของใคร…” ฉู่เหินที่เพิ่งพูดจบ ก็ทำให้หัวใจของไฟแห่งความว่างเปล่าเต้นระรัวในทันที ! จากนั้นเขาก็สัมผัสได้จากในร่างกายตัวเอง ว่าไฟแห่งความว่างเปล่ามันกลัวจนฉี่แทบแตกแล้ว !
ต้องเข้าใจว่าในร่างกายของฉู่เหินนั้นไม่ค่อยปกติ ! เพราะมันเต็มไปด้วยระบบป้องกันและที่อาศัยของสิ่งมีชีวิตระดับตำนาน ! ไม่ว่าจะเป็นอัคคีสังสารวัฏ หรือหม้อเซียนเผ่ากู้ที่แผ่กลิ่นอายอันตรายจาง ๆ ออกมาแทบตลอดเวลา !
ซึ่งก็ไม่ใช่แค่นั้น เพราะยังมีกระบี่ดำที่เต็มไปด้วยไอสังหารและแรงอาฆาตที่รุนแรง กับเพลิงพิโรธอีกชนิดหนึ่งที่แฝงอยู่ และมันก็ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะภายในร่างของฉู่เหินก็ยังมีเสือขาวที่เป็นสัตว์เซียนอีกหนึ่งตัว !!!
ทุกสิ่งอย่างที่ไฟแห่งความว่างเปล่าสัมผัสได้ ทำให้มันแทบจะอยากจะร้องไห้ออกมาแล้วแล้ว พร้อมกับเกิดความคิดในใจขึ้นมาว่า ลูกพี่คุณเก่งกาจถึงเพียงนี้ แล้วทำไมเมื่อกี้ถึงไม่เปิดเผยออกมาห๊ะ ! ถ้าคุณพี่แสดงพลังออกมาเสียหน่อย ตัวมันก็คงไม่ทำท่าทีแบบนั้นแล้ว !
เมื่อได้ยินสิ่งที่มันคิด ฉู่เหินก็อดขำไม่ได้ด้วยรู้สึกสะใจ เนื่องจากเมื่อครู่อีกฝ่ายทรมานจิตใจตัวเองไม่น้อยเลย และถ้าไม่ใช่เพราะเขาได้สามจิตวิญญาณกลับมาแล้ว ก็เกรงว่าคงเสร็จเจ้านี่ไปนานแล้ว !
ผ่านไปสักพัก ฉู่เหินก็เกิดความคิดขึ้นมาอย่างหนึ่ง ก่อนจะร้องถามเจ้านี่ว่าสามารถทำได้หรือไม่ และเมื่อเพลิงพิโรธในกายได้ยินที่ฉู่เหินถาม มันก็รีบสายหัว พร้อมกับทำทีครุ่นคิด แล้วจึงเปลี่ยนเป็นเห็นด้วยว่าความคิดของฉู่เหินดูจะมีเหตุผลดี !
เมื่อเรื่องเป็นแบบนี้ ฉู่เหินก็เห็นเพลิงพิโรธหลับตาลง ทำท่าทีเคร่งเครียดกับอะไรบางอย่าง…
“วิญญาณของมนุษย์ก็เป็นมวลอย่างหนึ่ง ทว่ามันก็นับเป็นเพียงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ! ดังนั้นเมื่อเวลาที่ว่ามาถึง นายจะไปไหนก็ไปได้เลย !!!”
ฉู่เหินตั้งใจพูดสิ่งที่ตนเองคิดออกมา ซึ่งมันก็ทำให้ไฟแห่งความว่างเปล่าลืมตาขึ้น พร้อมกับเกิดความรู้สึกราวกับว่าตัวเองเพิ่งจะได้เรียนรู้อะไรที่ลึกล้ำเข้าให้แล้ว !!!
จู่ ๆ มันก็คิดว่าถ้าเกิดรู้จักอีกฝ่ายให้เร็วกว่านี้ ตัวเองก็คงไม่เป็นแบบนี้จนพ่ายไปอย่างที่เห็น แต่ทว่าถ้ามองอีกแง่ ถ้าไม่แพ้วันนี้ งั้นแล้วมันก็คงไม่ได้พบเจอชายหนุ่ม และได้เรียนรู้เรื่องอะไรแบบนี้หรอก !!!!
เมื่อฉู่เหินได้รับชัยชนะอย่างสวยงามในครั้งนี้ไป สายฟ้ารอบ ๆ ก็คล้ายจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ! ก่อนเป็นสายฟ้ามากมายที่ก่อตัวขึ้นบนท้องฟ้า และเกิดเป็นช่องว่างขนาดใหญ่ที่มีสายฟ้าวาบผ่านออกมาตลอดเวลา !