สุดยอดชาวประมง - บทที่ 62 ตะลึงสุดขีด
“ไอ๊หยา พวกเธอกำลังจะย้ายบ้านหรืออะไรกันแน่! เเค่มาเยี่ยมเอาของขวัญ 4 อย่างมาก็พอแล้ว เอาของมาทำไมมากมาย นี่ไม่ใช่ว่าซื้อของที่ขายตามข้างทางมาล่ะสิ!” ในขณะที่คนทั้งหลายกำลังช่วยกันถือของ ก็มีเสียงที่พูดจาไม่เข้าเรื่องเสียงหนึ่งดังขึ้น
หลังจากได้ยินคำพูดนี้ฉู่เหินก็ขมวดคิ้วทันที แต่เขารู้ดีว่าวันนี้เขาไม่สามารถแสดงความโกรธออกมาได้ ดังนั้นจึงได้แต่อดทนเอาไว้ อย่างไรก็ตามฉู่เหินไม่พูดก็ไม่ได้หมายความว่าเสี่ยวชิงจะไม่พูด
“ใช่แล้วค่ะ ตอนซื้อของหนูก็บอกเขาไปแล้ว แค่ซื้อของธรรมดาทั่วไปก็พอแล้ว ถึงยังไงก็มีคนที่ไม่รู้จักของดี ๆ แต่เขาไม่ยอมฟัง แค่จะซื้อโทรศัพท์ก็ซื้อโทรศัพท์ทอง M2017 เครื่องละ 6000 กว่ามา ดูสิยุ่งยากเปล่า ๆ! ยังมีอีกนะคะ เขายังซื้ออาหารเสริมและเสื้อผ้าอีก รวม ๆ แล้วใช้เงินไปตั้ง 20,000 หรือ 30,000 หยวนแน่ะ!”
หลังจากต่งกุ้ยเซียงได้ยินคำพูดของเสี่ยวชิง เธอก็ได้แต่อ้าปากค้าง เธอไม่มีวันเชื่อที่เสี่ยวชิงพูด ล้อเล่นน่า แค่ครอบครัวผียากไร้อย่างพวกมันจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าของขวัญกว่า 30,000 หยวน!
“ไอ้หนู แกคือฉู่เหินใช่ไหม? ฉันล่ะสงสัยจริง ๆ ทั้งตัวแกดูแล้วก็บ้าน ๆทั่วไป เสี่ยวชิงไปชอบแกตรงไหน อีกอย่าง แค่มาเข้าพบแค่นี้แกขี่รถสามล้อมาก็ได้ ไม่ต้องเลียนแบบคนอื่นหรอก รถคันนี้เช่ามาเท่าไหร่ล่ะ?”
ตอนแรกฉู่เหินคิดว่าจะไม่ใส่ใจผู้หญิงคนนี้ แต่เขาไม่คิดว่าการกระทำทุกอย่างจะคอยหาเรื่องเขา นี่ทำให้ฉู่เหินเริ่มมีสีหน้าไม่ดี
“ผมไม่แน่ใจว่าต้องเรียกคุณว่าอะไร แต่ดูจากอายุของคุณเรียกว่าคุณยายน่าจะเหมาะสมที่สุดแล้วนะครับ! คุณยายครับ รถคันนี้ผมไม่ได้เช่ามาแต่ว่าเพื่อนคนหนึ่งมอบให้เป็นของขวัญ รถ Audi คันละ 2-3 แสน มันดูแพงในสายตาของคุณเหรอครับ?” ทุกประโยคของฉู่เหินต่างเรียกเธอว่าคุณยาย นี่ทำให้ต่งกุ้ยเซียงโกรธมาก
อย่างไรก็ตามก่อนที่เธอจะอาละวาด น้องสาวของเธอต่งกุ้ยเจินก็พูดขึ้นก่อน “พี่สาว วันนี้พี่ยังไม่ได้กินยาใช่ไหม รีบกลับไปกินยาสิ!” คำพูดนี้ทำให้ต่งกุ้ยเซียงหงุดหงิดมาก
อย่างไรก็ตามขณะที่เธอกำลังจะพูดอะไรออกมาอีก เธอก็เห็นรถ Audi อีกคันแล่นมาแต่ไกล นี่ทำให้อารมณ์ของเธอกลับดีขึ้นมาอีก
“น้องสาว เรื่องนี้ฉันทำเพื่อเธอเลยนะ ไอ้เด็กคนนี้มันมีดีตรงไหน เดี๋ยวฉันจะแนะนำให้เธอรู้จักกับคนคนหนึ่ง เขาเป็นลูกชายคนโตของนายกเทศมนตรี แถมการนัดพบวันนี้ท่านนายกเทศมนตรียังมาด้วยตัวเองเลยนะ” เมื่อได้ยินคำพูดของพี่สาวต่งกุ้ยเจินก็โกรธมากจนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
ตอนนี้สีหน้าของซูวี่เหมยก็ไม่ดีนัก เดิมทีวันนี้เป็นเรื่องดี ๆ แต่ถูกผู้หญิงคนนี้ทำจนกลายเป็นอย่างนี้ไปแล้ว ถ้าหากไม่ได้อยู่ในสถานที่นี้เธอคงบีบคอผู้หญิงคนนี้ไปแล้ว นี่พระเจ้าเล่นตลกอะไร กล้ามาทำเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อน้องชายของเธอ ไม่สนว่าผู้หญิงคนนี้จะมีเบื้องหลังยังไง เธอจะต้องให้ผู้หญิงคนนี้ได้เห็นดีแน่
เมื่อรถ Audi A6 อีกคันจอดสนิท ก็มีคน 3 คนก้าวออกมาจากรถ คนแรกสวมแว่นตาสีทอง ท่าทางของเขาเหมือนพวกเจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่ต้องถามก็รู้ว่าคนคนนี้จะต้องเป็นนายกเทศมนตรีที่ต่งกุ้ยเซียงพูดถึง ส่วนอีก 2 คนที่อยู่ด้านข้าง คนหนึ่งอายุราว 20 ปีส่วนอีกคนเป็นคนขับรถอายุราว 30 ปี
เมื่อเห็นคนเหล่านั้นเดินเข้ามาใกล้ ฉู่เหินก็รู้สึกคุ้นหน้าพวกเขาและทันใดนั้นเองเขาก็จำได้ว่า ก่อนหน้านี้ที่ใครบางคนส่งตำรวจมาจับเขา ฉู่เหินก็ได้พบกับนายกเทศมนตรีคนนี้มาก่อน และเมื่อเห็นผู้ชายคนนี้ปรากฏตัวขึ้นมา ฉู่เหินก็อดทำหน้าแปลก ๆ ไม่ได้
“ไอ๊หยา ท่านนายกเทศมนตรีในที่สุดก็เชิญคุณมาจนได้ พ่อรูปหล่อคนนี้คือลูกชายคนโตของคุณใช่ไหมคะ แค่มองก็รู้ทันทีว่าเป็นคนหนุ่มที่มีความสามารถ อนาคตจะต้องประสบความสำเร็จแน่นอน” ต่งกุ้ยเซียงนั้นช่างมีความสามารถในการประจบเอาใจ เพิ่งได้พบนายกเทศมนตรีก็พูดจาจนใบหน้าของท่านนายกเทศมนตรีเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“ฉันต้องขอโทษจริง ๆ ที่ทำให้คุณต้องรอเป็นเวลานาน นั่งรถมาถึงครึ่งทางแล้วกลับมีธุระด่วนเข้ามาเลยทำให้มาช้าไปหน่อย ฉันมาตามนัดแล้ว งั้นก็เรียกเด็ก ๆ ออกมาสิ ทั้งคู่จะได้พบกัน!” หลังจากได้ยินคำพูดของนายกเทศมนตรีต่งกุ้ยเซียงก็พยักหน้ารับอย่างรวดเร็ว
“เสี่ยวชิง รีบมาพบท่านนายกเทศมนตรีหวังสิ มัวแต่กลัวอะไรอยู่ ผู้ชายผู้หญิงโตแล้วก็ต้องแต่งงาน นี่เป็นเรื่องธรรมดา” ฉู่เหินมองเสี่ยวชิงพร้อมถอนหายใจ เขายื่นมือออกไปแล้วตบบ่าเธอเบา ๆ
“ไปกันเถอะ ฉันจะพาเธอไปพบท่านนายกเทศมนตรีหวัง ฉันต้องการให้เขามอบคำอธิบายให้ฉัน!” จากนั้นฉู่เหินก็พาเสี่ยวชิงเดินไปหานายกเทศมนตรี แม้ว่าซูวี่เหมยจะกังวลเล็กน้อย แต่เธอก็รู้ว่าฉู่เหินตอนนี้ไม่เหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว ดังนั้นหลังจากคิดดูแล้วเธอก็เลือกที่จะเชื่อมั่นในตัวน้องชายของเธอ
“ท่านนายกเทศมนตรีหวัง ไม่ได้เจอคุณนานเลย คิดไม่ถึงว่าคุณจะดูยิ่งใหญ่กว่าเดิม วันนี้ถึงกับพาลูกชายมานัดพบกับแฟนของผม คุณคิดว่าทำแบบนี้มันดีแล้วงั้นเหรอ?” ฉู่เหินเดินออกมาจากฝูงชน หลังจากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดกับท่านนายกเทศมนตรีหวัง
นายกเทศมนตรีหวังที่เดิมมีท่าทียืนยืดอกยกหัวอย่างเย่อหยิ่ง เมื่อเห็นฉู่เหินเดินออกมา ร่างกายของเขาก็สั่นสะท้าน เขารู้ดีว่าชายหนุ่มที่อยู่ข้างหน้านี้ไม่สามารถล่วงเกินได้ เนื่องเพราะเบื้องหลังเด็กคนนี้มีผู้มีอิทธิพลหนุนหลังอยู่!
เรื่องเมื่อครั้งก่อนเขาทราบเป็นอย่างดี เหตุการณ์ในคราวนั้นทำให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานทั้งเล็กใหญ่ของเมืองถูกไล่ออกไปกว่า 40-50 คน!
ว่ากันว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังในครั้งนั้นพร้อมกับครอบครัวของเขาเกือบจะถูกถอนรากถอนโคนไปทั้งหมด ทุกวันนี้ใครบ้างที่ไม่เคยมีสิ่งสกปรกบนก้นของตัวเอง! หากมีการตรวจสอบจริง ๆ คงมีไม่กี่คนที่รอดไปได้ ตอนนี้เมื่อเขาเห็นฉู่เหินยืนอยู่ตรงหน้า ตัวเขาก็อดที่จะตกใจไม่ได้
สิ่งที่ทำให้เขากลัวจริง ๆ ก็คือสิ่งที่ฉู่เหินเพิ่งพูดถึงเมื่อกี้ นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน วันนี้เขาพาลูกชายมานัดพบตามคำแนะนำของผู้หญิงแซ่ต่งคนนี้ เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นการส่วนตัว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามีเรื่องราวมากมายที่เขาไม่รู้ เด็กผู้หญิงที่นัดพบกับลูกชายของเขาดูเหมือนจะเป็นแฟนสาวของคุณชายฉู่ท่านนี้
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เขาก็ตัวสั่นจนแทบจะล้มลงไปบนพื้น ในตอนนี้เขาได้แต่ก่นด่าบรรพบุรุษ 18 รุ่นของต่งกุ้ยเซียงอยู่ในใจ หลอกลวง นี่มันหลอกลวงกันชัด ๆ! ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีทางเลือกอื่น แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าชายผู้นี้ ถ้าเขาพูดผิดไป หน้าที่การงานของเขาคงต้องจบลงตรงนี้เป็นแน่
“คุณฉู่ ผมไม่คิดเลยว่าจะได้พบคุณที่นี่ ช่างเป็นเกียรติของผมจริง ๆ! อย่าเข้าใจผิด ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย วันนี้ที่มาก็เป็นเพราะผู้หญิงคนนี้ชักนำมา ต่อให้ผมกล้ากว่านี้อีกร้อยเท่าก็ไม่กล้ายุ่งเกี่ยวกับแฟนของคุณแน่นอนครับ!”
ตอนนี้นายกเทศมนตรีหวังไม่มีทางเลือก เขาได้แต่ก้มหัวและพูดกับฉู่เหิน ถ้าหากเขามีโอกาสเลือกอีกครั้ง เขาจะไม่มีวันมาที่หมู่บ้านชนบทแห่งนี้เป็นอันขาด นี่มันเป็นการทรมานตัวเองชัด ๆ
เหตุการณ์ตรงหน้าทำให้ต่งกุ้ยเซียงตกตะลึงอย่างสุดขีด นี่มันอะไรกันเนี่ย? นายกเทศมนตรีที่มีเกียรติกลับก้มหัวคารวะไอ้ยาจกนี่! พระเจ้าช่วย! โลกนี้มันบ้าไปแล้ว แมวแต่งกับหนูไปแล้วหรือไง!
หลังจากอาการตกตะลึงผ่านไป ต่งกุ้ยเซียงก็ตกอยู่ในความหวาดกลัวอย่างสิ้นเชิง เธอไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น คนใหญ่คนโตกลายเป็นเช่นนี้ในทันทีได้อย่างไร? ไม่เข้าใจจริงๆ มันเข้าใจยากเกินไป!
“นายกเทศมนตรีหวัง คุณไม่ต้องทำอย่างนี้ ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด แต่ผมเห็นลูกชายของคุณดวงตาดูเลื่อนลอย คิดว่าน่าจะเป็นเพราะสมองมีปัญหาใช่ไหมครับ คุณพาลูกชายออกมานัดพบ คิดจะใช้อิทธิพลหรือเงินบังคับคนอื่นหรือว่าคิดจะทำอะไรกันแน่?”
เมื่อได้ยินฉู่เหินพูดขึ้นมา ทุกคนถึงได้พบว่าชายหนุ่มหน้าตาท่าทางหล่อเหลาที่อยู่กับนายกเทศมนตรีหวังนั้นเป็นคนปัญญาอ่อน! ถึงตอนนี้ญาติและเพื่อนเกือบทั้งหมดพากันมองไปที่ต่งกุ้ยเซียงด้วยความโกรธแค้น ผู้หญิงคนนี้ไม่เพียงแต่ชั่วร้ายเท่านั้น เธอยังต้องการผลักไสให้ผู้หญิงดี ๆ อย่างเสี่ยวชิงต้องตกลงไปในกองไฟอีกด้วย!
Next