สุดยอดชาวประมง - บทที่ 65 ความประหลาดใจที่แม่ไก่ตัวใหญ่
บทที่ 65 ความประหลาดใจที่แม่ไก่ตัวใหญ่นำมาให้
หลังจากฉู่เหินได้ยินประโยคนี้ เขาเกือบจะกระโดดขึ้นด้วยความตื่นเต้น เขาไม่คิดว่าต้นไม้เล็ก ๆ ที่ตัวเขาคิดว่าเป็นสิ่งที่มีค่าน้อยที่สุดจะมีค่ามากขนาดนี้ เพียงแต่ต้นไม้นี้โตช้าเกินไปและต้องใช้เวลา 300 ปีกว่าจะได้กินผลของมัน
อย่างไรก็ตามเขาก็คิดออกว่าตัวเขามีดินวิเศษอยู่ในมือ บางทีเขาอาจจะใช้ดินนี้เพื่อปลูกมัน มันอาจจะสามารถเร่งความเร็วในการเติบโตของต้นไม้นี้ก็ได้ หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เขายิ่งตื่นเต้นมากขึ้นและอยากจะลองมันเดี๋ยวนี้เลย
ฉู่เหินยิ้มออกมาและนำต้นทะเลดาวเก็บเข้าไปในแหวนมิติของเขา จากนั้นเขาก็หันไปหาเสี่ยวชิงและพูดว่า “แม่ไก่ตัวนี้เอาไปให้คุณลุงคุณป้าเลี้ยงดีไหม?”
“พี่เหิน พี่แน่ใจเหรอว่านี่คือไก่?” เสี่ยวชิงพูดออกมาด้วยท่าทางเหลือเชื่อ ล้อเล่นน่า ไก่ที่ไหนจะตัวใหญ่ขนาดนี้? ถ้าบอกว่าเป็นสุนัขก็ยังพอว่า!
“เด็กโง่ แต่ละสายพันธุ์มันก็มีความแตกต่างกันตามธรรมชาติ ไก่ตัวนี้เรียกว่าไก่ฟ้าภูเขา เนื่องจากมันเป็นสายพันธุ์พิเศษมันเลยตัวใหญ่กว่าปกติ ไม่มีอะไรต้องกังวลหรอกน่า” เมื่อได้ยินฉู่เหินพูดแบบนั้น เสี่ยวชิงจึงได้แต่พยักหน้า
“แล้วฉันควรจะบอกกับที่บ้านตอนเอากลับไปยังไงดีคะ?” หลังจากได้ยินคำถามนี้ ฉู่เหินก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเขินอายนิดหน่อย เขาไม่สามารถบอกได้ว่าเขาทอดแหได้มา
“ถ้าอย่างนั้นก็บอกว่าเพื่อนให้มาก็แล้วกัน” หลังจากคิดอยู่พักหนึ่งฉู่เหินก็คิดคำตอบนี้ออกมา ไม่ว่าคนอื่นจะเชื่อก็ดี ไม่เชื่อก็ดี ยังไงก็ทำอะไรไม่ได้ เสี่ยวชิงก็คิดถึงปัญหานี้ จากนั้นเธอก็พยักหน้าและไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำแบบนี้เท่านั้น
หมู่บ้านต้าหวังก็มีท่าเรือสำหรับจอดเรือประมง แต่มันไม่สะดวกเท่ากับหมู่บ้านชาวประมงไหก่าง ท่าเรือสำหรับจอดเรือประมงของหมู่บ้านชาวประมงไหก่างนั้นเป็นชายหาดที่ค่อย ๆเพิ่มระดับขึ้น ดังนั้นจึงสะดวกในการเข้าและออกทะเล แต่หมู่บ้านต้าหวังนั้นไม่เป็นแบบนั้น เพราะท่าเรือของพวกเขานั้นกลับเป็นท่าเรือน้ำลึก
ดังนั้นที่ท่าเรือของหมู่บ้านต้าหวังจึงเป็นสะพานไม้ที่คนสร้างขึ้นมา พวกฉู่เหินทั้งสองคนเมื่อกลับมาถึง พวกเขาจึงบังคับเรือประมงเข้าไปที่ท่าเรือ หลังจากผูกสายเคเบิลจากเรือหาปลาเข้ากับต้นไม้บนชายฝั่งก่อนจะเขาก็โยนสมอเรือลง จากนั้นทั้งสองก็กลับไปหาครอบครัวหลิว!
เมื่อพวกเขาเอาแม่ไก่ตัวใหญ่เดินเข้าไปในหมู่บ้านก็ทำให้เกิดความตกใจขนานใหญ่ คนในชนบทส่วนมากล้วนแต่เคยเห็นไก่ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นไก่ตัวใหญ่ขนาดนี้
เมื่อเสี่ยวชิงนำแม่ไก่ตัวใหญ่กลับถึงบ้าน ทุกคนในครอบครัวหลิวก็ถูกแม่ไก่ตัวนี้ทำให้ตกใจ เมื่อมองดูไก่ตัวใหญ่ที่กำลังชูคออย่างหยิ่งยโสราวกับมันสามารถเอาชนะทุกคนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่มันเดินไปเดินมาในสนามหญ้าและทิ้งรอยเท้าเล็กๆของมันไปทั่ว นั่นก็ทำให้ผู้คนรู้สึกราวกับว่าท่านผู้ว่าการมาตรวจเยี่ยมผู้คนอย่างไรอย่างนั้น
“เสี่ยวชิง นี่มันคืออะไรกันน่ะ” เมื่อเสี่ยวเฟิงวิ่งออกมาจากบ้าน เธอก็ต้องตกใจเมื่อเห็นแม่ไก่ตัวใหญ่อยู่ข้างหลังเสี่ยวชิง
“นี่คือไก่ฟ้าภูเขาที่เพื่อนของพี่เหินส่งมาให้ เขาว่าไข่ของไก่ฟ้านี้มีคุณค่าทางโภชนาการมาก พี่เหินเลยยกมันให้กับพ่อแม่ของเรา” เมื่อได้ยินเรื่องนี้ ญาติและเพื่อนของครอบครัวหลิวต่างพากันอิจฉาอย่างมาก ไม่ต้องถามพวกเขาก็รู้ว่าไก่ฟ้าภูเขานี้ต้องหายากมาก ไม่พูดถึงเรื่องอื่น เอาแค่รูปร่างของมันก็ดูใหญ่เป็นพิเศษแล้ว
ฉู่เหินถอดเชือกที่ผูกติดกับคอของไก่ฟ้าออก แล้วพูดขู่มันเบา ๆ “แกฟังนะ อยู่ที่นี่ดี ๆ ถึงเวลาวางไข่ก็วางไข่ อย่าได้หนีไปไหน ไม่งั้นถ้าฉันจับแกได้ละก็แกจะกลายเป็นไก่ต้มแน่ ๆ”
พูดแล้วก็แปลก เมื่อไก่ตัวนั้นได้ยินคำพูดของฉู่เหิน มันก็ตัวสั่นราวกับว่ามันเข้าใจคำพูดของเขาจริง ๆ!
จากนั้นแม่ไก่ตัวใหญ่นี้ก็กลายเป็นจุดรวมสายตาของทุกคนในบ้าน มันเดินไปมาในลานบ้านของเสี่ยวชิงเดินขึ้นเดินลง ยิ่งไปกว่านั้นมันไม่ได้กลัวคนเลยแม้แต่น้อย ซึ่งนี่ทำให้ทุกคนยิ่งอยากรู้อยากเห็นมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามช่วงเวลาดี ๆ ก็อยู่ไม่นานนัก แม่ไก่ตัวใหญ่หลังจากเดินไม่หยุดอยู่พักหนึ่ง มันก็เริ่มส่งเสียงดังออกมาตลอดเวลา เมื่อแม่ของเสี่ยวชิงนำอาหารจำนวนมากใส่อ่างมาให้มัน ตอนนี้เองที่ท่าทีของเจ้าไก่เปลี่ยนไป มันทำราวกับว่าได้พบเห็นสมบัติล้ำค่าและเริ่มจิกกินอาหารในอ่างไม่หยุด
อ่างที่เต็มไปด้วยอาหารถูกกินจนหมดในไม่ช้า เมื่อกินเสร็จเจ้าไก่ตัวใหญ่มันก็เงยหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ และเริ่มเดินอย่างต่อเนื่อง พลางมองไปรอบ ๆ ราวกับกำลังมองหาบางสิ่งบางอย่าง ก่อนที่มันจะพบเข้ากับกองฟืนที่วางอยู่ในลานบ้านของเสี่ยวชิง
จากนั้นไก่ตัวใหญ่ก็วิ่งไปที่กองฟืน มันทิ้งตัวลงบนกองฟืนนั้น เมื่อเห็นแม่ไก่นั่งลง คนทั้งหมดก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา แต่ไม่นานหลังจากนั้นสัก 5 นาทีแม่ไก่ก็เริ่มร้องออกมาเสียงดังซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ทุกคนรีบเข้าไปดูอย่างใกล้ชิด แต่ก็ต้องตกใจเมื่อพบว่ามีไข่ขนาดใหญ่วางอยู่บนกองฟืน ไข่นี้มีขนาดใหญ่มาก น่ากลัวว่ามันจะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางกว่าครึ่งเมตร แม้แต่ไข่นกกระจอกเทศก็ยังสู้ไม่ได้!
เสี่ยวเฟิงอุ้มไข่ขนาดใหญ่ฟองนั้นเข้าไปในบ้าน และเฝ้าดูอย่างไม่เบื่อหน่าย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเจอไข่ฟองใหญ่ขนาดนี้ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เสี่ยวเฟิงจึงถ่ายรูปไข่และโพสต์รายละเอียดของมันลงในอินเทอร์เน็ต
ไม่นานไข่นี้ก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมาก ล้อเล่นน่า ไข่ที่มีขนาดใหญ่กว่าไข่นกกระจอกเทศ มีหรือที่จะไม่ทำให้ทุกคนรู้สึกเหลือเชื่อและอยากรู้อยากเห็น
ในที่สุดเสี่ยวเฟิงก็ขายไข่นี้ทางอินเทอร์เน็ตในราคา 1,000 หยวน ซึ่งผู้ซื้อจะมารับไข่ที่บ้านของเธอเองในภายหลัง ส่วนคนที่ซื้อไม่ทันก็ได้แต่บ่นเสียดายไม่หยุด เมื่อเห็นแบบนั้นเสี่ยวเฟิงก็บอกพวกเขาทางอินเทอร์เน็ตว่าเธอจะขายมันอีกถ้าหากไก่วางไข่ในวันพรุ่งนี้
อย่างไรก็ตามความประหลาดใจที่แม่ไก่ตัวนี้นำมาให้ ก็ไม่ได้น้อยกว่ามังกรทะเลทั้ง 3 ตัวที่ฉู่เหินขายในครั้งที่แล้วเลย เมื่อพ่อแม่ของเสี่ยวชิงเห็นว่าไก่ตัวนี้มีค่ามาก พวกเขาก็อดเกรงใจไม่ได้และบอกให้ฉู่เหินนำมันกลับไป
เรื่องนี้ฉู่เหินได้แต่ยิ้ม เขาไม่เคยคิดจะนำมันกลับเลย นี่มันเป็นของที่เขามอบให้พ่อตาแม่ยาย แบบนี้จะนำมันกลับไปได้ยังไง
หลังจากงานเลี้ยงครอบครัวที่แสนอร่อยจบลงไป ฉู่เหินและคนอื่น ๆ ก็ลากลับอย่างเป็นทางการ และเพราะที่บ้านของฉู่เหินมีเสี่ยวฟู๋อยู่ ดังนั้นเสี่ยวชิงจึงจะกลับไปพร้อมฉู่เหินด้วยเช่นกัน ตอนนี้ถึงแม้เสี่ยวชิงจะไม่ต้องการกลับไปอีก พ่อแม่ของเธอก็คงไม่เห็นด้วย อย่าล้อเล่นน่า ลูกเขยที่ดีขนาดนี้ถ้าไม่เฝ้าไว้ให้ดี ถ้าเกิดคนอื่นแย่งไปจะทำยังไง!
วันนี้พี่สะใภ้ได้นั่งรถที่คนขับรถหลิวเป็นคนขับไปก่อนแล้ว เหตุที่เธอกลับไปก็เป็นเพราะเธอมั่นใจแล้วว่าเรื่องทุกอย่างในบ้านเป็นระเบียบเรียบร้อยดีแล้ว ที่สำคัญที่สุดก็คือพวกเขาไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีกต่อไป นอกจากนี้ซูวี่เหมยยังรู้เรื่องที่ฉู่เหินกำลังเตรียมจะสร้างบ้านพักเพื่อให้พี่ชายของเขาไปพักฟื้นหลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้วอีกด้วย
เมื่อรวมกับสิ่งที่เธอได้เห็นและได้ยินแล้ว พอเธอกลับถึงโรงพยาบาล เธอก็บอกหวงเจี้ยนหมิงถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั้งหมดในครอบครัวให้กับผู้เป็นสามีฟัง ซึ่งนั่นก็ทำให้เขามีความสุขมากหลังจากที่ได้ยิน ไหนจะเรื่องข่าวดีของฉู่เหินอีก พวกเขามองดูเรื่องทั้งหมดนี้อย่างมีความสุข
ฉู่เหินและเสี่ยวชิงปรึกษากันเรื่องที่จะส่งเสี่ยวฟู๋กลับไปในอีก 3 วันข้างหน้า การเดินทางไปกลับครั้งหนึ่งนั้นใช้เวลา 3-4 วัน ดังนั้นหลังจากที่ฉู่เหินเตรียมตัวแล้ว อีก 2 วันเขาก็จะทำภารกิจทั้ง 3 ครั้งให้เสร็จก่อนที่จะออกเดินทาง
ตอนนี้ หลังจากที่ระบบได้รับการอัพเกรดเป็นระดับที่ 2 ใน 1 สัปดาห์เขาสามารถทอดแหได้ 3 ครั้ง แถมเขายังสามารถควบคุมช่วงเวลาในการทอดแหได้เอง ต่อให้จะทอดแห 3 ครั้งต่อวันก็ยังได้ วันมะรืนนี้จะเป็นวันจันทร์แล้ว ดังนั้นฉู่เหินจึงตัดสินใจจะทอดแหทั้ง 3 ครั้งในวันนั้นเลย
ด้วยวิธีนี้ เขาจะมีเวลาว่างสำหรับไปกลับมากกว่า 10 วัน เพราะระหว่างทางไปส่งเสี่ยวฟู๋นั้น ฉู่เหินไม่แน่ใจว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือไม่ ดังนั้นการเผื่อเวลาไว้ย่อมจะดีกว่า
Next