สุดยอดเซนต์ตัวปลอมแห่งยุค - ตอนที่ 61 มหามาร ออคโต
‘เจ้าเงา’ – ออคโต คือมหามารที่ทำหน้าที่รับใช้อเล็กเซีย
เกิดในก้นบึ้งที่ไร้แสงสว่างของทะเลกอนซาเลส ซึ่งถูกตั้งชื่อตามองครักษ์ของเซนต์คนแรกอัลเฟรีย ผู้ปลิดชีวิตตนเองด้วยการกระโดดลงไปในทะเลนั้น
มันวิวัฒนาการมาจากหมึกพัพเพ็ท และมีสติปัญญาเทียบเคียงกับเด็กมนุษย์อายุสามขวบปี
หมึกสายพันธุ์นี้มีมันสมองใหญ่กว่าหมึกทั่วไป ส่งผลให้พวกมันศีรษะโตและเคลื่อยไหวได้เชื่องช้าไปด้วย
แต่หมึกสายพันธุ์นี้ก็มีชื่อเสียงในด้านวิธีการเอาตัวรอด พวกมันไร้ซึ่งความสามารถในการต่อสู้ใดๆ และวิธีการเอาตัวรอดของพวกมันก็คิอการลอบเกาะติดสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ และใช้สารพิษที่สร้างในการเข้าควบคุมสมองของสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น จึงเป็นที่มาของชื่อหมึกพัพเพ็ท(หุ่นเชิด)
จากนั้นพวกมันก็จะใช้ร่างกายของสิ่งมีชีวิตนั้นในการหาอาหารมาประทังชีวิตตนเอง
สิ่งมีชีวิตที่โดนควบคุมจะค่อยๆตายลงอย่างช้าๆเนื่องจากไม่ได้รับสารอาหาร เมื่อมันตายลงก็จะถูกหมึกพัพเพ็ทจับกิน ส่วนเจ้าหมึกก็จะหาสิ่งมีชีวิตตัวใหม่มาใช้เป็นหุ่นเชิดตัวต่อไป
เป็นสายพันธุ์ที่น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก
เจ้าหมึกตัวนี้ถูกคลื่นซัดมาติดฝั่ง และถูกเปลี่ยนให้เป็นปีศาจด้วยฝีมือของแม่มดรุ่นก่อน กริเซลด้า
ชื่อของมันคือออคโต
แม้จะมีสติปัญญาที่ชาญฉลาดกว่าปีศาจทั่วไป มันกลับขาดซึ่งความสามารถในการต่อสู้ ทำให้แม่มดกริเซลด้าไม่พอใจ
จริงอยู่ที่มันสามารถเข้าควบคุมร่างกายของปีศาจที่แข็งแกร่งกว่าได้ แต่ถ้าอย่างนั้นก็แค่ใช้ปีศาจตัวนั้นตั้งแต่แรกสิ
มันคงพอจะมีประโยชน์อยู่บ้างถ้าใช้ในการควบคุมมนุษย์ที่มีอำนาจและตำแหน่ง…แต่ฝ่ายของแม่มดในยุคนั้นมีพลังอำนาจที่สูงในระดับที่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำเช่นนั้นเลย
เพราะว่าเซนต์ลิเลียผู้สมควรจะปราบกริเซลด้าไม่อาจทำหน้าที่ของเธอได้สำเร็จ
ยุคสมัยของกริเซลด้านั้นจึงยาวนานกว่ายุคมืดปกติ กองทัพของเธอนับวันจะมีแต่แข็งแกร่งขึ้นในขณะที่พวกมนุษย์ค่อยๆอ่อนแอลง
ด้วยความห่างชั้นขนาดนี้ กริเซลด้าจึงไม่มีความหวาดกลัวต่อเซนต์คนต่อไปแท้แต่นิดเดียว
ความเผลอเรอนี้เองที่เปิดช่องว่างให้เธอถูกปราบโดยอเล็กเซีย เป็นการจากไปอย่างโง่เขลาของแม่มดผู้หยิ่งทระนง
ก็อย่างที่ว่านั่นล่ะ ออคโตไม่เคยได้รับความดีความชอบใดๆในยุคของกริเซลด้าแม้แต่ครั้งเดียว
มันถูกเปลี่ยนเป็นปีศาจ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
และในเมื่อมันเป็นปีศาจ สัญชาตญานทั้งหมดในร่างก็พยายามที่จะมุ่งเป้าให้มันโจมตีมนุษย์
แต่ถึงอย่างนั้น มันก็เป็นแค่หมึกอ่อนแอตัวหนึ่ง
ในการโจมตีครั้งแรกๆนั้น มันคิดแค่ว่าตัวใหญ่กว่าจะแข็งแกร่งกว่า จึงเข้าควบคุมร่างของชาวประมงคนหนึ่งที่อยู่แถวๆนั้นแล้วเข้าไปอาละวาดในหมู่บ้าน แต่ก็ถูกพวกทหารจับกุมได้อย่างง่ายดาย
ความแข็งแกร่งของมนุษย์นั้นไม่ได้วัดที่ขนาด ชาวประมงคนนั้นออกจะอ่อนแอเสียด้วยซ้ำ
ถ้าใช้เสือหรือหมีน่าจะดีกว่าแท้ๆ
ในเวลาต่อมา มันก็ถูกส่งต่อให้กับราชาไอส์ อันด์ อายที่ 13 แห่งราชอาณาจักรบิลเบอรี่และโดนส่งไปยังคุกใต้ดิน
มีปีศาจจำนวนมากถูกขังอยู่ที่นี่ เพื่อใช้ในการฆ่าเซนต์อเล็กเซียหลังจากกลับมาจากการปราบแม่มด
เมื่ออยู่ที่นั่น ออคโตก็ถูกจับยัดไว้ในขวดโหลใส่น้ำทะเลอย่างลวกๆ เมื่อทหารยามที่เฝ้าอยู่หลับลง มันก็สามารถดันฝาขวดออกมาเป็นอิสระได้ พร้อมกับขโมยกุญแจไปด้วย
มันเข้าควบคุมปีศาจที่มีร่างกายใหญ่กว่า เพื่อใช้กุญแจในการปลดกรงขังปีศาจออก
มันสั่งให้ปีศาจที่ควบคุมอยู่เข้าต่อสู้กับปีศาจอีกตัว และเมื่อทั้งคู่เหนื่อยล้าจากการต่อสู้ ออคโตก็จับพวกมันทั้งสองกิน
ออคโตรู้ได้ด้วยสัญชาตญานว่าการที่ปีศาจเข้าสู้และกลินกินกันเองจะทำให้แข็งแกร่งขึ้น
หากทหารยามรายงานเรื่องที่มีปีศาจหายไปให้เบื้องบนรู้ล่ะก็ ออคโตก็อาจจะถูกหยุดไว้ได้
เมื่อทหารยามคนนั้นตื่นขึ้นมา ก็พบเห็นร่องรอยของปีศาจฆ่ากันเอง และปีศาจที่หายไป
ไม่มีทางที่ทหารยามจะไม่รู้อยู่แล้ว แต่ออคโตในตอนนั้นไปฉลาดพอที่จะคิดถึงเรื่องนั้น
แต่ทหารยามก็ไม่ได้รายงานออกไป
หากเรื่องที่ปีศาจหายไปเข้าหูเบื้องบนล่ะก็ ทหารยามคนนั้นก็จะถูกลงโทษ และในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดก็อาจถึงขั้นหัวหลุดเลยก็ได้
เขาจึงแจ้งรายงานเท็จไปว่าไม่มีสิ่งผิดปกติ
ความเห็นแก่ตัวของทหารคนนั้นช่วยออคโตไว้
และแล้ววันแห่งโชคชะตาก็มาถึง
อเล็กเซียผู้ปราบแม่มด ได้กลายเป็นแม่มดคนถัดไป และถูกส่งมายังคุกใต้ดินแห่งนี้
ปีศาจทั้งหมดรวมทั้งออคโตถูกปลดปล่อยออกมา หวังจะให้ฆ่าอเล็กเซีย
แต่ออคโตไม่ได้โจมตีอเล็กเซีย
มันรู้ได้โดยสัญชาตญานว่าเธอผู้นี้คือนายของมัน
มันจึงกลายมาเป็นพวกพ้องของเธอ และขึ้นเป็นผู้นำของเหล่าปีศาจเพื่อช่วยเธอหลบหนีออกมาในที่สุด
ออคโตในเวลานั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าปีศาจทั่วไป ปีศาจทั้งหลายในนั้นจึงทำตามคำสั่งของมันได้โดยง่าย
หลังจากที่ออคโตพาอเล็กเซียหลบหนีมาได้สำเร็จ อเล็กเซียก็ปฏิบัติกับมันเหมือนเป็นผู้ติดตามคนสนิท
ออคโตกลายมาเป็นมหามารได้สำเร็จในเวลาต่อมา ในปัจจุบันมันเป็นปีศาจที่มีสติปัญญาทัดเทียมมนุษย์ และใช้เวทมนตร์ในการควบคุมสภาพแวดล้อมให้กลายเป็นสภาพใกล้เคียงกับใต้ทะเลลึก และมันก็สามารถใช้ชีวิตบนบกได้โดยไม่ติดขัดอะไรแล้ว
ในครั้งนี้ เพื่อจะปกป้องเจ้านายของมัน ออคโตก็ได้เริ่มเคลื่อนไหวภายใต้เงามืดของสถาบันแห่งนี้
เจ้านายของมันหวาดกลัวเซนต์คนปัจจุบัน เอบริสเสียยิ่งกว่าอะไร
หากออคโตสามารถฆ่าหรือเข้าควบคุมเธอได้ ภัยอันตรายก็จะหมดไป แต่มันก็รู้ตัวดีว่านั่นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
อย่างแรกเลย ไม่มีโอกาสใดให้มันสามารถแตะต้องเอลริสได้
ถึงไม่พูดถึงเรื่องพลังของเซนต์ แค่พลังเวทย์ของเธออย่างเดียวก็ไม่มีใครในโลกสู้เธอได้แล้ว
หากออคโตพยายามที่จะใช้หนวดของมันแตะเธอ ก็คงจะถูกกำแพงพลังเวทย์ฆ่าในทันที
หรือต่อให้มันสามารถจับต้องเธอได้ พิษของมันก็คงจะโดนเธอชำระล้างในฉับพลันอยู่ดี
ถ้าจะมีช่องว่างอะไรที่เป็นไปได้ก็คงเป็นตอนที่เธอนอนหลับ แต่จากรายงานของดิแอส นอกจากที่องครักษ์เลย์ล่าจะคอยเฝ้าห้องของเธออยู่ตลอดแล้ว เธอยังกางบาเรียป้องกันเอาไว้รอบห้องระหว่างที่เธอนอน ไม่สามารถแทรกซึมเข้าไปได้เลย
‘เข้าใจล่ะ แสดงว่าเธอคนนั้นรอบคอบพอที่จะไม่เปิดช่องว่างแม้ในเวลาที่นอนหลับสินะ’
ถึงแม้จะครอบครองพลังมหาศาลแต่ก็ไม่เผลอตัว เป็นศัตรูแบบที่จัดการด้วยได้ยากที่สุด
แผนของออคโตจึงไม่ได้เล็งไปที่เอลริสโดยตรง แต่เป็นการหันเหความสนใจของเธอออกห่างจากสถาบัน
เหตุผลที่เอลริสจะยังอาศัยอยู่ที่นี่คงเป็นเพราะว่าเธอสงสัยว่าอเล็กเซียนั้นซ่อนตัวอยู่ในสถาบัน
มันจะต้องเปลี่ยนความคิดนี้ของเธอ
หากแม่มดปรากฏตัวขึ้นที่อื่น ถ้าเช่นนั้นเธอก็จะไม่มีทางเลือกนอกจากไล่ตามไป
แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ได้แปลว่าอเล็กเซียต้องไปอยู่ที่อื่นจริงๆ
จริงอยู่ที่หากอเล็กเซียเทเลพอร์ตหนีไปจะมีประโยชน์ต่อตัวเธอมากกว่า แต่ถ้าเจ้านายไม่อยากจะไป ออคโตก็คงทำอะไรไม่ได้
เป้าหมายของออคโตคือการทำให้ดูเหมือนว่ามีแม่มดคนอื่นนอกจากอเล็กเซีย…ถ้าจะพูดก็คือ การสร้างตัวตายตัวแทนขึ้นมาและปล่อยเจ้านั่นออกไปอาละวาดนอกสถาบัน
เพื่อการนั้น มันซ่อนตัวเองในเงามืด ใฝ่หานักเรียนที่เหมาะสมจะมารับหน้าที่เป็น”แม่มด”
หากเป็นคนที่หยิ่งยโสแบบกริเซลด้าและเป็นที่รังเกียจของคนรอบข้างก็คงจะดี
หากอีกฝ่ายเป็นที่รักจะผิดแผนเอาได้
หากผู้คนคิดว่า “ไม่มีทางเลยที่เธอคนนี้จะเป็นแม่มด” แผนที่วางไว้ก็จะพังทลายลง ต้องเป็นคนที่ทำให้ใครๆคิดว่า “ถ้าคนอย่างนี้ล่ะก็ จะเป็นแม่มดก็คงไม่แปลก”
และแล้ว ออคโตก็พบเข้ากับนักเรียนคนหนึ่ง
นักเรียนสาวที่วิ่งไปพร้อมกับน้ำตา…เส้นผมสีเงินส่องประกาย เอเทอร์น่านั่นเอง
เธอเป็นหนึ่งในนักเรียนที่มีความสัมพันธ์กับเอลริส และเป็นหนึ่งในเหยื่อของเหตุการณ์ฟาร่า ตามที่ได้อ่านมาจากรายงานชองดิแอส
แน่นอนว่าเธอไม่ใช่เป้าหมายที่เหมาะสมเลย
เอลริสเป็นคนบอกเองเลยว่า “เธอไม่ใช่แม่มด” แค่นั้นก็ทำให้เธอไม่สามารถเป็นตัวแทนได้แล้ว
แต่เธอก็ยังสามารถใช้เป็นแผนสำรองในการล่อเอลริสออกไปได้
ยังต้องหาตัวแทนของแม่มดเป็นคนอื่นก็จริง…แต่เธอคนนี้ก็สมควรเก็บไว้ใช้งานเช่นกัน
ว่าแล้วออคโตก็คืบคลานเข้าหาเอเทอร์น่า
.
ตั้งแต่ที่ให้อาวุธพวกเวอร์เนลไปก็ผ่านมาแล้ววันนึง
แผนต่อจากนั้นก็อยู่ที่ว่าใครจะมาหาบ้างหลังจบคาบเรียน
ถ้าไม่มีใครมาจะเอาไงดีล่ะเนี่ย? นี่ล่ะที่เป็นห่วง…ที่ทำได้ก็แค่เชื่อว่าพวกนั้นจะเป็นคนดีล่ะมั้ง?
เอาจริงๆชั้นก็ไม่คิดหรอกนะว่าคนที่โดนบังคับไปสู้จะรอดกลับมาจากการต่อสู้กับแม่มดได้น่ะ ถ้าสมัครใจยังไงก็ดีกว่า
ใครที่มาชั้นก็จะนับเข้าทีมหมดนั่นแหละ
ให้ตายเถอะ อเล็กเซียนี่มันเลวจริงๆ ใช่ ความผิดอเล็กเซียนั่นแหละ
ถ้าเป็นลาสบอสปกตินี่จบไปนานแล้วแท้ๆ ที่ต้องมาทำเรื่องยุ่งยากแบบนี้ก็เพราะนิสัยขี้ขลาดของเธอคนเดียวเลย
ถ้าพวกเวอร์เนลตกลงที่จะมาด้วยล่ะก็…คงจะเป็นการต่อสู้ที่ลำบากน่าดู
ยังมีบอสที่เป็นมหามารเหลืออีกตัวนึงด้วย
ชื่อของมันคือออคโต หรือที่ถูกแม่มดเรียกว่าเจ้าเงา
เป็นตัวหยึกหยึยสีดำสนิท ค่อนข้างจะน่ารังเกียจ
ปีศาจที่เป็นคนสนิทของแม่มด
ชั้นก็เคยเจอมาแล้วครั้งนึงอ่ะนะ
จำได้ป่ะ เงาดำที่พยายามจะล่อลวงเวอร์เนลเข้าสู่ด้านมืดเมื่อสามปีก่อนน่ะ? ไอ้นั่นแหละ
มันมีความสามารถในการควบคุมร่างกายผู้อื่น มันจึงมองว่าเวอร์เนลเป็นหุ่นเชิดชั้นยอด
ตัวจริงของมันคือมหามารปลาหมึก ที่ตัวดำเมี่ยมแบบนั้นก็เพราะมันเคยอาศัยอยู่ใต้ทะเลลึกที่ไม่มีแสง เลยปรับสภาพรอบๆมันตามความเคยชิน
จริงๆเห็นดำๆแบบนั้น มันคือเวทย์น้ำที่หุ้มตัวมันอยู่อ่ะนะ
ไม่รู้ว่าทำไมปลาหมึกถึงฉลาดนักพอกลายมาเป็นมหารมาร แต่ก็นั่นแหละ มันฉลาดพอตัวเลย
เห็นว่าเคยโดนจับยัดขวดแต่ก็เปิดออกมาได้เองด้วย
หมึกอาจจะตัวเล็กก็จริง แต่พวกมันมีสมองเก้าส่วน ใช้ในการควบคุมหนวดทั้งแปดของมัน แถมยังมีหัวใจตั้งสามดวง
แต่ละหนวดมีอยู่ประมาณ 200 ปุ่ม แต่ละปุ่มก็เทียบได้กับขาข้างหนึ่ง เท่ากับว่ามันมีกว่า 1600 ขา แถมแต่ละขายังมีประสาทการดมกลิ่นด้วยนะเออ
ได้ยินว่าถึงสมองจะไม่ได้สั่ง หนวดก็ยังสามารถขยับได้เองด้วย
เคยเห็นในเน็ตอยู่ว่า…พวกนักวิชาการมีความเห็นว่า ถ้าปลาหมึกมีอายุขัยสูงกว่านี้ล่ะก็ มันจะเป็นเผ่าพันธุ์ที่จะวิวัฒนาการมาครองโลกแทนที่มนุษย์ได้
ถ้าจะพูดก็คือ ปลาหมึกเป็นสัตว์ที่อร่อย ฉลาด ทนทาน แม่นยำ และอร่อย(พูดสองรอบเผื่อไม่เข้าใจ)
ไงต่อนะ?
เออ จะว่าไปก็แปลก พอถึงเวลานัด เอเทอร์น่ากลับไม่ได้อยู่ด้วย
ก็ไม่ได้แปลกขนาดนั้นที่เธอจะไม่อยากร่วมด้วย เธอไม่มีเหตุผลต้องเอาชีวิตตัวเองเข้ามาเสี่ยงแบบไม่มีสาเหตุ
เธอเข้าโรงเรียนนี้มาเพราะเป็นห่วงเวอร์เนล ไม่ได้อยากจะเป็นอัศวินอะไรตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
พอมาคิดดู นี่ก็ถือเป็นเรื่องปกติ
ถ้าคิดในแง่ดี ก็คือมีคนมาร่วมด้วยตั้งเจ็ดคน ถือว่าน่ายินดี
“เอ่ออ…ท่านเอลริสครับ พอจะเห็นเอเทอร์น่าบ้างรึเปล่าครับ?”
ตอนที่ชั้นกำลังจะบอกขอบคุณที่อุตส่าห์มา เวอร์เนลก็ถามขัดชั้นก่อน
เขาถามว่าชั้นเห็นเอเทอร์น่ามั้ย แต่วันนี้ก็ยังไม่เห็นเลยนะ
ถ้าลองคิดดู เธอก็ไม่ได้เข้าเรียนในวันนี้ด้วย
ช่วงนี้มีเรื่องให้คิดเยอะ เลยไม่ได้เหล่มองสาวๆแบบทุกทีเลย
ไม่ได้เจอจริงๆนั่นแหละ
…เป็นหวัดรึเปล่านะ? ถ้าอย่างนั้นชั้นก็ควรไปเยี่ยมแล้วรักษาให้ในทันที
“ผมถามรูมเมทของเธอแล้ว แต่เหมือนว่าเธอจะไม่ได้กลับมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วน่ะครับ”
รูมเมทคนนั้นไม่คิดว่าแปลกบ้างเรอะ?
จริงๆมันก็ไม่ได้แปลกเท่าไรในสถาบันเวทมนตร์แห่งนี้ที่นักเรียนจะไม่ได้กลับมาที่หอพัก
อาจจะหมกตัวในห้องสมุดจนดึกดื่นแล้วก็หลับไป ไม่ก็ฝึกแบบโต้รุ่งที่สนามฝึก
การที่รูมเมทจะไม่คิดว่ามันแปลกแล้วเข้านอนก็ไม่ใช่จะเป็นไปไม่ได้
ถึงติ่นมาไม่เจอ ก็อาจจะคิดแค่ว่ากลับดึกแล้วตื่นเร็วไปฝึกตอนเช้าก็เป็นได้
มันจะเริ่มน่าสงสัยก็ตอนที่เธอไม่ได้เข้าคลาสเรียนด้วยนี่แหละ
“ไปหาในจุดที่เธอไปเป็นประจำหรือยังคะ?”
“ผมหาทุกที่แล้วครับ…แต่ไม่เจอเธอเลย”
เวอร์เนลรู้สึกกระวนกระวายอย่างมาก
สำหรับเขาแล้ว เอเทอร์น่าก็เป็นเหมือนครอบครัวคนหนึ่ง
การที่เธอจู่ๆก็หายไปอย่างนี้ จะเป็นห่วงขนาดนี้ก็ปกติ
“เป็นไปได้มั้ยที่เธอจะไปซ่อนตัวเพราะรู้สึกผิดที่ไม่ได้เข้าร่วมภารกิจนี้ด้วย”
“คิดว่าไม่…นะครับ”
เลย์ล่ายกความเป็นไปได้หนึ่งขึ้นมา
ก็จริงอยู่…เธออาจจะรู้สึกผิดที่ปฏิเสธภารกิจสำคัญจนไม่กล้าสู้หน้าใครก็ได้
หรือไม่ก็ ที่เธอไม่มาก็เป็นการบอกว่าเธอปฏิเสธภารกิจนี้
ประมาณว่า “ไม่ต้องเอาชั้นไปเกี่ยวด้วยเลยนะ! อย่ามายุ่งกับชั้น จะไปไหนก็ไป! ปล่อยชั้นอยู่คนเดียวเถอะ–!”
ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร คนไม่มีเสน่ห์อย่างชั้นก็งี้แหละ
แต่ถ้าเธอไปเกี่ยวข้องอะไรกับปัญหายุ่งยากล่ะก็ นั่นคงจะปล่อยไปไม่ได้
ไม่มีทางเลือก ต้องเปลี่ยนแผนก่อนแล้ว
จนกว่าจะแน่ใจว่าเอเทอร์น่าปลอดภัยดี ชั้นคงคุยเรื่องภารกิจไม่ได้หรอก
“ไปตามหาเธอกันเถอะค่ะ ถ้าคิดมากไปเองก็คงจะดี แต่ก็จะมองข้ามโอกาสที่เธอไปพบกับปัญหาใหญ่เข้าไม่ได้หรอกนะคะ”
ตอนนี้การตามหาเอเทอร์น่าต้องมาก่อน
ชั้นก็ไม่คิดหรอกนะว่าจะมีปัญหาอะไรมาก แต่ก็ต้องเผื่อไว้ก่อนแหละ