สุดยอดเซนต์ตัวปลอมแห่งยุค - ตอนที่ 67 เริ่มต้นการฝึกพิเศษ
ตูไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้นเมื่อคืนนะ ใจป่ะ?
เอาล่ะครับท่านผู้ชม เปิดตอนมาเราก็หนีความความเป็นจริงกันแล้ว สหิลโรลเพลย์ของชั้นก็ต้องพยายามให้หนักหน่อยล่ะวันนี้
เมื่อวานนี้เกิดเรื่องขึ้นเยอะแยะเลยนะ ทั้งสาวตัวประกอบโดนเจ้าหมึกควบคุมเอย ทั้งเอเทอร์น่าออกอาการคลั่งขึ้นมาเอย แต่เรื่องมันจบแล้วก็แล้วกันไป
ตอนกลางคืนมีอะไรเหรอ? ตูไม่เห็นรู้เรื่องเลย…ตอนชั้นขึ้นไปซ่อมดาดฟ้านี่ก็ไม่เห็นวี่แววใครเลยนะ ไม่มีใครจริงจริ๊ง(สำคัญมาก เลยต้องพูดย้ำ)
และแล้วเช้าวันรุ่งขึ้นก็มาถึง เวอร์เนล เอเทอร์น่า แมรี่ ไอน่า ตัวประกอบเอ ฟิโอร่า ไอ้แว่นโรคจิต เรียกด้ว่าเป็นทีมเวอร์เนล+แล้วก็มีอีกคน…อะไรไบท์เนี่ยแหละ
คนเดียวที่ติดท็อป 8 แต่ไม่ได้มาจากกลุ่มเวอร์เนลไง ที่กล้ามใหญ่ๆอ่ะ
ทั้ง 8 คนมารวมตัวตามที่ชั้นนัดไว้เลย
แต่เอเทอร์น่าเอ๊ย ถ้าไม่สบายก็กลับบ้านไปก่อนก็ได้นะ
ไม่ใช่ว่าไม่อยากได้เธอในทีมนะเออ เอาจริงๆเธอเป็นกำลังให้ได้มากเลยในการต่อสู้กับแม่มด
แต่ว่าไงดีล่ะ เธอเพิ่งจะอกหักมาหมาดๆ ด้วยฝีมือของตูเองด้วยนี่สิ
ไม่สิ ไม่สิ ไอ้อีเวนต์สารภาพรักเมื่อวานไม่ได้เกิดขึ้นจริง ชั้นแค่หลอนไปเอง ไม่นับ ไม่นับ
แต่จะให้เธอที่อกหักเพราะชั้นมาเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องชั้นมันก็นะ
ต้องเป็นจิตใจระดับนักบุญแล้วล่ะ ถึงจะมองข้ามเรื่องนี้ไปได้…เออ ก็เป็นเซนต์จริงๆนี่นา
“ท่านเอลริสคะ?”
“เข้าใจแล้วจ้ะ”
ระหว่างที่คิดเรื่อยเปื่อยอยู่ เลย์ล่าก็ทักให้ชั้นเริ่มพูดได้แล้ว
รู้น่า กำลังจะพูดเนี่ย
แต่ก่อนหน้านั้น ขอถามให้แน่ใจอีกรอบละกัน
ถ้ามาเกี่ยงทีหลังนี่น่ารำคาญแย่
“อย่างที่ชั้นเคยบอกไปครั้งก่อนเลยค่ะ หากพวกคุณได้ฟังเรื่องที่จะพูดต่อไปนี้ ก็จะไม่สามารถหันหลังกลับไปได้อีกแล้ว แน่ใจแล้วใช่ไหมคะ?”
ชั้นพูดแบบขู่ไปหน่อยๆ แต่ก็ดูจะไม่มีใครคิดถอยกลับ
อุมุ ความตั้งใจแน่วแน่ดีนี่พวกนาย สมเป็นปาร์ตี้ตัวเอก
ต่างจากชั้นลิบเลย อย่างชั้นเนี่ย ความแน่วแน่อะไรพวกนี้ไม่มีหรอกนะ
ก็แค่ว่าตัวชั้นน่ะแข็งแกร่งเกินไปจนไม่มีอะไรที่ทำให้ชั้นกลัวได้ก็เท่านั้น
ใครสักคนเคยบอกไว้ “ความกล้า”ที่แท้จริงก็คือความมุ่งมั่นที่จะเผชิญหน้ากับความกลัว
ความตั้งใจที่จะฝ่าฟันอุปสรรคไปให้ได้ ไม่ว่าจะมีขวากหนามขวางอยู่เท่าไร
ตั้งแต่แรก ชั้นน่ะไม่มีของอย่างความกลัวอยู่แล้วด้วย
เพราะว่าชั้นน่ะแข็งแกร่งถึงระดับที่ไม่ว่าอะไรก็ไม่สามารถนับเป็นอุปสรรคได้
เป็นคนยโสโอหัง มั่นใจในตัวเองแบบนั้นนั่นแหละ
ถึงได้เป็นขยะไงล่ะ เนื้อในน่ะ ตัวชั้นเทียบกับเจ้าพวกนี้ไม่ได้เลย
“…ชั้นเข้าใจถึงความมุ่งมั่นของพวกคุณแล้วค่ะ ถ้าเช่นนั้นก็ขอเข้าเรื่องเลย ณ สถาบันแห่งนี้…ด้านล่างของชั้นฝึกฝนใต้ดินลงไปอีก จะเป็นที่ซ่อนของแม่มดคนปัจจุบัน อเล็กเซีย”
คำพูดของชั้นทำให้อึ้งกันไปเป็นแถบๆ
มีแค่เลย์ล่าและไอ้แว่นโรคจิตเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้แล้ว
ชั้นเคยบอกไปแล้วอ่ะนะ ก็ไม่แปลกอะไร
คนที่ดูจะตกใจที่สุดก็คือด็อกอะไรสักอย่างคุง
“เอ๊ะ!? ท่านอเล็กเซียเป็นแม่มดหรอกหรือ!?” จะมาตกใจอะไรกับข่าวเก่าแบบนั้นกัน
มาคิดดูดีๆ หมอนี่เป็นคนเดียวที่ไม่รู้เรื่องนี้นี่นา
“เหตุผลที่แม่มดไม่หนีหายไปก็เพราะทางเธอคิดว่าชั้นยังไม่รู้ตัว แต่ถ้าเธอรู้สึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาเมื่อไรล่ะก็ ไม่ว่าตัวชั้นจะไปเองหรือส่งอัศวินเข้าไป ทันทีที่เธอสัมผัสได้ เธอก็จะใช้เวทย์เทเลพอร์ตหลบหนีไปทันทีเลย และหากเธอกลบหนีไปได้ล่ะก็ อาจจะต้องมีผู้เคราะห์ร้ายเพิ่มอีก…อาจเป็นร้อย หรือเป็นพันราย…”
พวกเวอร์เนลยืนเงียบฟังชั้นอธิบาย
อย่าเอาแต่เงียบดิ นี่ทำให้ชั้นคิดว่าพวกนายแอบหลับกันนะเนี่ย พูดอะไรหน่อยดิเฮ้ย
“เพราะเช่นนั้น เราจะต้องตัดสินเรื่องนี้ให้ได้ภายในสถาบันนี้ โดยไม่ปล่อยโอกาสให้เธอสามารถใช้เวทย์เทเลพอร์ตได้สำเร็จ เพราะเช่นนั้นเราจึงต้องการบุคลากรที่มีความสามารถ แต่ไม่ใช่อัศวิน….หรือก็คือพวกคุณที่อยู่ที่นี่อย่างไรล่ะคะ”
“อะ เอิ่ม…แล้วเราจะจัดการกับเทเลพอร์ตได้ยังไงหรือคะ?”
ไอน่าถามคำถามตามที่คิดไว้เลย
แล้วชั้นก็เลยอธิบาย ปฏิบัติการณ์สุญญากาศให้ฟัง
แผนก็คือ ตัวชั้นจะสร้างบาเรียคลุมเอาไว้ทั้งสถาบัน รวมทั้งชั้นใต้ดิน ป้องกันไม่ให้คนข้างในนอกจากชั้นสามารถฟื้นฟูพลังเวทย์ได้
ถ้าใช้เร็วเกินไป แม่มดก็จะสามารถใช้พลังเวทย์ในร่างเพื่อใช้งานเทเลพอร์ตได้ จึงต้องให้ใครสักคนคอยหลอกล่อเธอไว้ และตัดกำลังของเธอให้น้อยลงเสียก่อน
ใครสักคนในที่นี้ ก็คือพวกคุณทั้งแปดคนอย่างไรล่ะ
อย่สงที่คิด ทุกๆคนดูจะกระวนกระวายกันหมดหลังได้ยินคำอธิบายของชั้น
“พวกเราจะต้อง….สู้กับแม่มด”
“…เป็นความรับผิดชอบที่หนักอึ้งเลยนะเนี่ย”
เสียงของเวอร์เนลสั่นเครือ ส่วนแมรี่ก็สีหน้ามืดหม่น
ทุกคนดูเหมือนจะคิดแบบเดียวกันหมด คนที่ดูจะทุกข์ร้อนน้อยที่สุดก็เห็นจะเป็นด็อกคุง
“หึ…น่าสนใจดีนี่ ตัวผมน่ะแข็งแหร่งเกินกว่าที่จะมาอุดอู้อยู่ในสถาบันนี้ไปแล้ว ในงานประลองนี่ก็ใช้พลังไปแค่ห้าสิบเปอร์เซนต์เท่านั้น การต่อสู้ครั้งนี้นี่ล่ะที่จะดึงศักยภาพที่แท้จริงของผมออกมาได้ หวังว่าแม่มดจะทนไม้ทนมือการโจมตีของผมให้ได้แล้วกัน”
เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย ไอ้หมอนี่ตายแหงเลย
ก็ถือว่าดีกว่ากลัวจนวิ่งหางจุกตูดหายไปล่ะมั้ง
เห็นบอกว่าใช้พลังไปแค่ครึ่งเดียว แต่จริงๆแล้วเพราะว่าแพ้ตั้งแต่กระบวนท่าแรกๆ เรียกว่ามีโอกาสได้ใช้แค่ครึ่งเดียวน่าจะถูกกว่า
เรียกว่าโดนจัดการก่อนจะทันได้เอาจริงซะอีก กากซะไม่มี
“ในปฏิบัติการณ์นี้ อัศวินอย่างเลย์ล่าจะไม่สามารถเข้าร่วมด้วยได้ค่ะ และถึงแม้ว่าเงาดำที่เป็นสมุนคนสนิทของแม่มดจะถูกจัดการไปแล้วในเหตุการณ์เมื่อวาน แต่ก็ยังมีปีศาจซ่อนตัวอยู่กับแม่มดเป็นจำนวนไม่น้อยเลย”
พวกปีศาจก็น่าจะแข็งแกร่งระดับเดียวกับมังกรที่โดนชั้นตื้บไปนั่นแหละ
ถ้าเจอกับชั้นล่ะก็ พวกมันก็ไม่ต่างอะไรจากมด ยิงตู้มทีเดียวก็กระจุยไปเป็นร้อยแล้ว แต่สำหรับคนปกตินี่ ปีศาจพวกนั้นแต่ละตัวจะต้องใช้อัศวินหลายคนในการปราบ
คนที่พอจะปราบพวกมันได้ด้วยตัวคนเดียวก็คงมีแค่ดิแอส ลุงฟ็อกซ์ แล้วก็เลย์ล่า ประมาณนั้น
เอเทอร์น่าที่พลังเซนต์ตื่นขึ้นมา และเวอร์เนลที่สามารถควบคุมพลังความมืดได้ก็ถือว่าแกร่งกว่าเลย์ล่าซะอีก ก็คงจัดการได้เหมือนกัน
ถ้าสามารถจัดการพวกลูกกระจ๊อกได้จนเหลือแค่แม่มดก็คงดีอ่ะนะ แต่ก็ไม่มีวิธีที่จะทำแบบนั้นได้
คงต้องให้เอเทอร์น่าเป็นแกนหลักในการจัดการพวกลูกสมุน…แล้วก็ให้อีกกลุ่มนึงไปต่อสู้กับแม่มด
ว่าแล้วเชียว ต้องให้เวอร์เนลไปสู้กับแม่มดจริงๆนั่นแหละ แล้วก็คนคอยสนับสนุนอีกซักคนสองคน
ถึงจะมีอาวุธของชั้นคอยบัฟให้ ก็คงจะเป็นศึกที่โหดหินเอาเรื่องเลย
“นี่จะเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากค่ะ แต่ว่า…เพื่อปิดฉากวังวนอันโหดร้ายที่มีมาตั้งแต่โบราณกาลนี้ กรุณาให้ชั้นยืมพลังด้วยเถอะค่ะ”
พูดซะดิบดี แต่เนื้อความก็คล้ายๆกับขอให้ไปตายนั่นแหละ
เป็นคำขอที่โหดร้ายสุดๆเลยนะเนี่ย
ชั้นก็นึกว่าจะได้ไปนอนชิลบนสวรรค์หลังตาย แต่ดูทรงนี่ตูจะได้ตกนรกซะล่ะมั้งเนี่ย
…ถ้าไม่มีใครตายก็ถือว่าโอเคมั้ง…หวังว่านะ…
“ขอถามอย่างหนึ่งได้มั้ยครับ? เรื่องที่เซนต์จะกลายเป็นแม่มดรุ่นต่อไปหลังจากปราบแม่มดสำเร็จ…มีวิธีแก้ปัญหานี้แล้วหรือครับ?”
ด็อกคุงที่เพิ่งจะได้ยินเรื่องนี้เป็นครั้งแรกก็ตกใจถามว่า “เอ๊ะ!? เซนต์จะกลายเป็นแม่มดเหรอ!?”
ไม่ต้องห่วงไป ปัญหานี้น่ะมันไม่มีผลกับชั้นแต่แรกแล้ว
เพราะว่าเป็นตัวปลอมนี่นา ชั้นจะไม่กลายเป็นแม่มดหรอกนะ
ชั้นจึงตอบกลับไปอย่างมั่นใจ
“ค่ะ ถึงแม้ตัวชั้นจะปราบแม่มดไป ชั้นก็จะไม่กลายเป็นแม่มดค่ะ วังวนอันโหดร้ายนี้จะต้องจบลงในยุคสมัยของชั้น”
“…เข้าใจแล้วครับ ผมเชื่อในตัวท่านเอลริส”
ไปต้องห่วงไปน่าเวอร์เนล
ชั้นไม่กลายเป็นแม่มดหรอก เพราะเป็นไม่ได้นี่นา
ชั้นก็แค่ตาย แล้วก็ได้ไปชิลลิ่งในโลกหน้าแค่นั้นแหละ
“ทั้งประเภทและจำนวนของปีศาจที่อยู่ชั้นใต้ดินถูกเปิดเผยผ่านทางคำพยากรณ์ของโหรแล้วค่ะ ตั้งแต่นี้ไป จะเป็นการฝึกพิเศษเพื่อเตรียมพวกคุณให้พร้อมกับการต่อกรกับปีศาจเหล่านั้น”
สมุนปีศาจที่จะเจอในเกมมีอยู่ห้าตัว
มังกร บาโฟเม็ต กริฟฟอน คิเมร่า และบาสิลิสก์
แต่ตอนที่ถามเจ้าเต่าไป ทั้งประเภทและจำนวนก็ดูจะต่างออกไป
คงเป็นเพราะว่าพวกมันถูกเอามาใช้ในอีเวนท์ฟาร่าไปแล้ว
ถูกเปลี่ยนเป็นไวเวิร์น มิโนเทารัส ฮิปโปกริฟ และออโธรอส เหลือแค่สี่ตัว
ถ้าเป็นในเกมล่ะก็ เจ้าพวกนี้จะถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำกว่ามังกร
พวกมันก็ไม่อ่อนหรอก แต่ก็ยังด้อยกว่าห้าตัวก่อน
ถึงอย่างนั้นต่อให้เป็นอัศวินก็ยังยากที่จะจัดการพวกมันได้ จะประมาทไม่ได้เด็ดขาด
ตั้งแต่นี้ไป พวกเวอร์เนลจะถูกชั้นพาไปรับการฝึกพิเศษ
“การฝึกหรือครับ?”
“ค่ะ อาณาเขตที่ถูกปีศาจเข้ายึดครองถูกชั้นเอาคืนกลับมาจนเกือบหมดแล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีสถานที่ชุมของปีศาจเหลืออยู่ในโลกนี้ ถึงแม้จะมีอยู่ไม่มากก็ตาม”
เฮ้ย ตรงนั้นน่ะ อย่าเรียกตูว่าไร้ประโยชน์นะเฟ้ย
ฟิโอริอาจจะเล็กกว่าโลกเก่าก็จริง แต่ก็ยังเป็นโลกทั้งใบ
ต่อให้ชั้นจะบินเร็วแค่ไหน แข็งแกร่งแค่ไหน หรือมีอัศวินที่เก่งกาจอยู่เท่าใด ก็จัดการกับปีศาจทั้งโลกไม่ไหวหรอกนะ
เพราะว่าตั้งแต่แรกแล้วยุคของเซนต์รุ่นก่อนๆชั้น…ก่อนเอเทอร์น่าน่ะ อาณาเขตของมนุษยชาติมีอยู่จริงๆแค่หนึ่งในห้าส่วนเท่านั้นแหละ ที่เหลือก็โดนปีศาจยึดไปหมดแล้ว
ไม่สิ ไม่ถึงหนึ่งในห้าด้วยซ้ำ
โลกนี้ก็เหมือนกับเกมRPGยุคเก่า สถานที่ที่ปลอดภัยจริงๆมีแค่ภายในกำแพงเมือง หรือก็คือ แค่เดินออกนอกอาณาเขตเมืองก็มีโอกาสถูกปีศาจโจมตีได้ในทันที
หมู่บ้านถูกโจมตีไม่เว้นแต่ละวัน ปีศาจเข้ารุกราน คนตายเพิ่มขึ้นเป็นขโยง
เอาจริงๆแล้ว ปาณาเขตของมนุษยชาติก็มีอยู่แค่ภายในกำแพงเมืองเท่านั้นเอง
แค่ก้าวออกนอกประตูเมืองปุ๊บ โอกาสเจอปีศาจก็พุ่งทะยานอย่างกับเหมRPGสมัยเครื่องแฟมิลี่
รู้มั้ยว่าการที่ชั้นเปลี่ยน99เปอร์เซนต์ของพื้นที่ทั้งหมดให้กลายเป็นอาณาเขตของมนุษยชาติได้นี่มันเจ๋งแค่ไหน
ตั้งแต่ที่ชั้นมาเกิดใหม่นี่สถานการณ์ก็แทบจะพลิกจากหน้ามือเป็นหลังตีน จากที่มีปีศาจอยู่ทุกหกแห่งตอนนี้ก็กลายเป็นแทบจะสูญพันธุ์ไปแล้ว
ชั้นไม่ได้ไร้ประโยชน์นะเว้ย…มีประโยชน์นะโว้ย!
ถ้าเทียบแล้วต้องบอกว่าชั้นนี่เก่งด้วยซ้ำ…! มั้งนะ…! คิดว่า…!
“ประเทศเกาะที่อยู่ห่างออกไปจากทวีปนี้ ชื่อว่า ฟุกุเทน ยังคงมีฝูงปีศาจอาศัยอยู่ค่ะ เราจะใช้ที่นั่นเป็นสถานที่ฝึกพิเศษกัน”
ชื่ออย่างเป็นทางการก็คือ ออดินารี่ ฟุกุเทน
เป็นประเทศห่างไกล ปกครองโดยพระราชาชื่อว่า โยรุ
เหตุผลที่ยังมีปีศาจอาศัยอยู่ที่นั่นได้ ก็เพราะว่าที่นั่นคือสถานที่ที่สงบสุขที่สุดในโลก
ยุคสมัยเปลี่ยน เซนต์เปลี่ยน และแม่มดก็เปลี่ยนไปตามกาลเวลา อาณาเขตของปีศาจก็ค่อยๆขยับขยายขึ้นไปเรื่อยๆ
แต่ในประวัติศาสตร์ที่มีมาอย่างยาวนานนั้น ที่แห่งนี้เป็นสถานที่เดียวที่ไม่เคยตกอยู่ในการปกครองของแม่มดเลย
เพราะว่าถึงแม้ปีศาจจะไปถึงที่นั่นได้ การที่จะยกทัพไปกลับนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก
เป้าหมายของแม่มดคือการรุกรานประเทศและอาณาเขตให้ได้มากที่สุด
ฉะนั้นการจะทุ่มกำลังส่งปีศาจไปยังประเทศที่อยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่อย่างมาก ล้อมรอบไปด้วยทะเล ส่งปีศาจไปก็เหมือนให้ไปติดเกาะ ไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย
ตั้งแต่แรกแล้ว ปีศาจที่จะไปถึงประเทศนั้นได้ก็ต้องเป็นปีศาจที่สามารถว่ายน้ำเป็นเวลานานได้เท่านั้น
ฉะนั้นแล้ว สำหรับประชาชนของฟุกุเทน การต่อสู้ดิ้นรนของคนในทวีปใหญ่นั้นไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาจะต้องใส่ใจเลย
ขนาดชั้นเองยังไม่เคยไปที่นั่นสักครั้ง ตั้งแต่แรกแล้วที่เกาะนั้นก็ไม่ได้มีปีศาจอะไรมากมาย แถมจะไปแต่ละทียังอยู่ซะไกล
ต้องบอกว่า นี่เป็นเกาะเดียวในโลกนี้ที่อิทธิพลของชั้นส่งไปไม่ถึง
กลายเป็นว่าเกาะที่เคยสงบสุขที่สุดในโลกเพราะมีปีศาจอยู่น้อย ดันกลายมาเป็นเกาะที่อันตรายที่สุดเพราะเป็นที่เดียวที่ปีศาจยังหลงเหลืออยู่
ต้องบอกว่าโชคดีนะที่ชั้นปล่อยมันไว้ได้นานขนาดนี้
เท่านี้ก็มีสถานที่ดีๆที่สามารถใช้ฝึกพวกเวอร์เนลได้แล้ว
ว่าไปแล้ว…ดูเหมือนว่าชั้นจะมันส์มือมากไปหน่อย จนดูเหมือนว่าแทบจะไม่มีปีศาจหลงเหลือบนโลกแล้วนะเนี่ย
พวกที่เหลือส่วนใหญ่ก็เข้าร่วมกองทัพโจมตีอาณาจักรบิลเบอรี่เมื่อครั้งที่แล้วไปด้วย
หลังจากเหตุการณ์นั้นมา ชั้นก็แทบจะตรวจหาปีศาจที่ไหนไม่เจอเลย
พวกทหารและอัศวินก็มีการตระเวนตรวจหาปีศาจ แต่ก็ไม่มีรายงานว่าเจออะไรเหมือนกัน
…เอาล่ะสิ นี่ดูทรงแล้วตูน่าจะทำพวกมันสูญพันธุ์จริงๆแล้วนะเนี่ย
เดี๋ยวนี้ขนาดกระต่ายมีเขาหรือสไลม์ พวกตัวป่าแรกทั่วไปในเกมRPGยังหายไปกันหมดได้เลย
สไลม์ยังว่าไปอย่าง เพราะเห็นว่าเป็นศัตรูที่ตายยากเอาเรื่อง แต่กระต่ายมีเขานี่แทบจะไร้พิษภัย จนคนสามารถเอามาเลี้ยงดูเล่นได้เนื่องจากควาน่ารักของมัน
ขนาดตัวน่ารักแบบนั้นยังหายเกลี้ยงเลยอ่ะ
เฮ้ย ไม่เป็นไรน่า! ยังเหลืออยู่นิดนึงยังดีกว่าไม่มีเหลือเลยนะ!
ไอ้เรื่องเมื่อก่อนน่ะช่างมันเถอะ! ไปเที่ยวเกาะกันดีกว่า!