สูตรโกงฉบับเด็กเรียน - ตอนที่ 151 รับภารกิจงานวิจัย
ตอนที่ 151 รับภารกิจงานวิจัย
ขณะที่ไป๋เยี่ยกำลังเดินออกจากห้องผู้อำนวยการ เสียงแจ้งเตือนจากระบบก็ดังขึ้น
[ติ๊ง! ยอมรับงานวิจัยของจางฮั่นหลิน
รายละเอียดภารกิจ: ทำรายงานเสนอหัวข้องานวิจัยเสร็จสิ้นภายในเวลาที่กำหนด (ก่อนสำเร็จการศึกษา) ได้รับการอนุมัติจากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ ได้รับทุนสนับสนุนจากกองทุนโครงการระดับวิทยาลัย และจัดตั้งโครงการได้สำเร็จ!
รางวัลสำเร็จภารกิจ: 1. ค่าประสบการณ์ทักษะงานวิจัย 2. โอกาสจับรางวัลหมวดงานวิจัย]
ไป๋เยี่ยชะงัก…นี่คือภารกิจของเราเหรอ
ภารกิจงานวิจัยงั้นเหรอ รางวัลสำเร็จภารกิจคือค่าประสบการณ์ทักษะงานวิจัยด้วยแฮะ แถมยังได้จับรางวัลหมวดงานวิจัยอีก
นับตั้งแต่ที่ระบบมีการอัปเดต ทักษะวิชาต่างๆ ก็ได้แตกแขนงออกเป็นทักษะด้านงานวิจัยและทักษะภาคปฏิบัติ แม้แต่ค่าประสบการณ์และรางวัลยังต่างไปจากเมื่อก่อน
ทุกอย่างดูแปลกใหม่สำหรับไป๋เยี่ย ในที่สุดไป๋เยี่ยก็ได้รับรู้ถึงความยากลำบากในการทำงานวิจัย มันทำให้เขารู้สึกว่าประสบการณ์นี้ไม่มีขีดจำกัด และยังต่อยอดไปได้เรื่อยๆ
คิดได้ดังนั้น ไป๋เยี่ยก็กลับไปที่หอพักทันที
เมื่อไป๋เยี่ยกลับมาถึงหอพัก เขาก็ตรงไปที่ลิ้นชัก หยิบสมุดบันทึกออกมา และเริ่มวางแผนโครงการของเขา
ก่อนจะเขียนรายงานเสนอหัวข้อ เขาจะต้องเขียนภาพรวมของงานวิจัยเสียก่อน ภาพรวมคืออะไร ก็คือการเขียนความคืบหน้าของงานวิจัยที่กำลังจะทำ
จะเขียนอะไรดี
เราควรเขียนเรื่องผลกระทบของอาหารหนูบีวาย-วันต่อคะแนนบีพีเอฟเอชของหนูทดลองลงไปดีไหม
ในปัจจุบัน เกณฑ์การประเมินแบบบีพีเอฟเอชยังไม่ถูกรับรอง และยังไม่ได้รับการยืนยันว่าเป็นเกณฑ์การประเมินที่เป็นที่น่ายอมรับและมีประสิทธิภาพพอ
ไป๋เยี่ยคิดเรื่องนี้อยู่พักหนึ่ง จนสุดท้ายแล้วเขาก็ตัดสินใจว่าจะรอไปก่อนจนกว่าวารสาร ‘การส่งเสริมการใช้สัตว์ทดลอง’ ของเอ็มไอโอจะอนุมัติเหณฑ์การประเมินของตน
ก็คง…ใช้เวลาอีกไม่นานใช่ไหม
คิดแล้วไป๋เยี่ยก็ปิดสมุดบันทึกลงและเงยขึ้นมองเวลา ตอนนี้ก็เป็นเวลาสิบเอ็ดโมงแล้ว
ตอนบ่ายไป๋เยี่ยมีนัดไปถ่ายรายการกับหยางจ่านที่สถานีโทรทัศน์ วันนี้ยังไม่ใช่การถ่ายสอดทด แต่เป็นเพียงการซ้อมเท่านั้น
การถ่ายทอดสดจะเกิดขึ้นในอีกสามวัน เขาจึงต้องเข้าไปดูสถานที่จริงและทำความคุ้นเคยกับเวทีเสียก่อน
ไป๋เยี่ยยุ่งมากจนไม่ได้นึกถึงสิ่งที่ต้องพูดเลย วันนี้เขาต้องลองมาสื่อสารกับพิธีกรเพื่อความสะดวกในการร่วมงานกันก่อน
ตอนเที่ยง ไป๋เยี่ยไปกินข้าวเที่ยงที่ร้านอาหารเพียงลำพัง สิ่งที่ทำให้ไป๋เยี่ยรู้สึกมีความสุขก็คงจะเป็นการที่เขาเห็นว่าคุณป้าที่คอยเดินเสิร์ฟอาหารไม่เดินมือสั่นอีกต่อไปแล้ว คงเป็นเรื่องที่ดี…
ไป๋เยี่ยเองก็ให้ความสนใจกับการรักษาโรคพาร์กินสันเช่นกัน เขาจะต้องศึกษาประเด็นนี้ให้ลึกยิ่งขึ้น!
สุดท้ายแล้ว ชีวิตของคนเราก็ล้วนเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ ทุกสิ่งล้วนเป็นการเรียนรู้! และทุกสิ่งคือการเรียนรู้!
ไป๋เยี่ยนึกขึ้นได้ว่าเคยมีรุ่นพี่คนหนึ่งในมหาวิทยาลัยตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับข้อห้ามและผลกระทบของการรับประทานแตงโมในทุกฤดูกาล สรรพคุณของมะเขือเทศต่อการทำงานของหัวใจ เป็นต้น…
บทความเหล่านั้นเคยเป็นที่โด่งดังและได้รับความสนใจจากผู้คนมากมายมาก่อน
แม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาต้องมาออกทีวีก็ตาม แต่นี่กลับเป็นครั้งแรกที่เขาได้รับเชิญให้เข้าร่วมในรายการดังกล่าว ทำเอาไป๋เยี่ยอดตื่นเต้นไม่ได้
หยางจ่านเป็นผู้อำนวยการกองบรรณาธิการของสถานีโทรทัศน์ อันที่จริงเขาไม่มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบในการบันทึกรายการ แต่เพราะเขาเห็นว่าไป๋เยี่ยเพิ่งมาที่นี่ครั้งแรก จึงตั้งใจมาให้คำแนะนำแก่เขา
‘ใกล้ชิดสุขภาพ ใส่ใจสุขภาพ’ เป็นรายการเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพที่จะมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญและอาจารย์จากโรงพยาบาลและมหาวิทยาลัยหลายแห่ง ตลอดจนผู้สืบทอดศาสตร์การแพทย์แผนจีนโบราณอันทรงคุณค่ามาให้ความรู้เรื่องสุขภาพ
ตอนแรกหยางจ่านเองก็อยากรู้เหตุผลที่ทางเจ้าของรายการเลือกไป๋เยี่ยมาเป็นหนึ่งในวิทยากรเช่นกัน แต่หลังจากที่เขาได้เรียนรู้ถึงการกระทำหลายๆ อย่างของไป๋เยี่ยและหนังสือ ‘บุกเบิกการแพทย์แผนจีน’ เขาก็ตระหนักได้ทันทีว่าเขาประเมินไป๋เยี่ยต่ำเกินไปจริงๆ
ไป๋เยี่ยรู้สึกประหม่าทุกครั้งที่ต้องพูดเรื่องการไปหาหมอ เพราะทักษะภาคปฏิบัติของเขายังอ่อนเกินกว่าจะเป็นหมอได้
แต่ถ้าหากเป็นเรื่องการดูแลสุขภาพล่ะก็ ไป๋เยี่ยถนัดมาก เขาบรรยายเรื่องนี้ได้อย่างกระจ่างและมีเหตุผล
ที่ผ่านมามีผู้เชี่ยวชาญหลายท่านได้พูดคุยเกี่ยวกับการป้องกันและรักษาโรคแล้ว
ตัวอย่างเช่น วิทยากรในตอนที่แล้วคือผู้อำนวยการหวังเจี้ยนเฉียงจากแผนกโรคผิวหนัง เขาพูดคุยเกี่ยวกับการวินิจฉัยและการป้องกันโรคผิวหนังอักเสบและลมพิษที่พบบ่อย การเอาใจใส่กับอาหารการกิน การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต และแนวทางการรักษาโรคสำหรับผู้ป่วยโรคดังกล่าว
การบรรยายของรายการค่อนข้างเป็นมืออาชีพ เปรียบเสมือนเป็นการประชมสัมพันธ์ความรู้ทางการแพทย์ ทุกคนจึงเต็มใจเข้าร่วมรายการนี้
เมื่อไป๋เยี่ยมาถึง หยางจ่านก็พาเขาไปที่สตูดิโอ ถึงแม้ว่าสถานีโทรทัศน์จิ้นซีจะไม่ใช่ช่องโทรทัศน์ยอดนิยมเท่าไหร่ ทว่าสตูดิโอก็ยังดูเป็นมืออาชีพอยู่
พิธีกรเป็นสาวสวยมากประสบการณ์วัยสามสิบห้าปี เธอสวมชุดกี่เพ้าเข้ารูป ดูแล้วมีเสน่ห์มาก
หยางจ่านมองไป๋เยี่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่ต้องกังวล พวกเราใช้วิธีอัดเทปน่ะ ไว้ถึงวันนั้นเราจะอัดรายการกันตอนบ่ายแล้วออกอากาศตอนสามทุ่ม ยังพอมีเวลาให้ซ้อมอยู่น่า วันนี้เราลองมาต่อบทกันก่อน แล้วก็ นี่คือ ‘เหอหลิง’ พิธีกรดาวรุ่งประจำสถานีโทรทัศน์จิ้นซี!”
ไป๋เยี่ยยิ้มและยื่นมือออกมา “สวัสดีครับ พี่เหอ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้มาออกทีวี ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ”
เหอหลิงเม้มริมฝีปาก “ไม่เป็นไร ฉันเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของอัจฉริยะแห่งจิ้นซีมานานแล้วค่ะ ในที่สุดเราก็ได้มาเจอกัน คุณดูสดใสมากเลย เป็นดาราได้เลยนะคะเนี่ย”
บ่ายวันนั้น ไป๋เยี่ยเอาแต่นั่งคิดเรื่องเนื้อหาที่เขาต้องพูด โดยต้องนำเนื้อหาไปให้บรรณาธิการตรวจสอบอีกที ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการพูดคุยตอบโต้กันกับเหอหลิง
ผู้ชมจะเป็นผู้ตัดสินเนื้อหาการบรรยายหลังรายการจบลง โดยหัวข้อหลักของวันนี้ก็คือ ‘อาหารการกินในชีวิตประจำวัน’
การรับประทานอาหารที่มีสรรพคุณช่วยบำบัดถือเป็นประเด็นทางการแพทย์แผนจีนที่น่าสนใจมาก เพราะมีสมุนไพรจีนหลายชนิดที่มีความเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเรามาก
ตัวอย่างเช่น หัวไชเท้า ขิงสด ขิงแห้ง ยี่หร่า เนื้อแกะ มันเทศ ต้นหอม และพริกไทย ล้วนเป็นสมุนไพรจีนทั้งนั้น
แม้แต่ตำรับยาโบราณก็มีต้นกำเนิดมาจากตำรับยาที่มีชื่อเสียงหลายตำรับ เช่น ซุปขิงสดต้มกับเนื้อแกะก็เป็นยาที่ดีสำหรับรักษาโรคหวัด แล้วยังเป็นอาหารได้อีกด้วย
ไป๋เยี่ยมีความรู้มากมาย อีกทั้งเขายังเข้าใจความรู้พื้นฐานเหล่านี้ได้อย่างถ่องแท้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ เลย
เมื่อรวมเข้ากับเรื่องตำรับยาโบราณที่น่าสนใจแล้วก็ยิ่งทำให้ผู้ฟังดำดิ่งไปกับความลึกซึ้งของการแพทย์แผนจีนด้วย
เดิมทีนี้ควรจะเป็นแค่การซ้อมออกอากาศเท่านั้น แต่กลับกลายเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้กันแทน เพราะวิธีการพูดของไป๋เยี่ยวิเศษมากจนดึงดูดความสนใจของทุกคนได้
เหอหลิงถามไป๋เยี่ยอย่างคาดหวัง “นั่นคือที่มาที่แท้จริงของเกี๊ยวสินะคะ”
ไป๋เยี่ยยิ้มพร้อมพยักหน้า “อันที่จริง นี่ก็เป็นเรื่องราวที่สืบทอดกันมาแต่ช้านานด้วย ความน่าเชื่อถือก็ยังมีขอบเขตที่จำกัดอยู่ แต่ว่า เรื่องราวทั้งหมดอาจจะไม่จริงก็ได้ แต่เหตุผลย่อมเป็นจริงเสมอ!”
ว่ากันว่าฮัวโต๋เคยเดินผ่านหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งมีผู้คนล้มป่วยมากมายช่วงปีใหม่ทุกปี บ้างก็ท้องเสีย บ้างก็ท้องอืด…หลังจากที่ฮัวโต๋ไปที่นั่นก็ได้ศึกษาสถานการณ์และปรุงอาหารชนิดหนึ่งขึ้นมา และเรียกมันว่า ‘เกี๊ยว’
ส่วนผสมของเกี๊ยว ได้แก่ เนื้อแกะ ขิง ต้นหอม กระเทียม หัวไชเท้า ยี่หร่า นำส่วนผสมมาสับให้ละเอียดและห่อด้วยแป้ง
เนื้อแกะให้ความอบอุ่นและเป็นยาชูกำลัง ขิงไล่ความเย็นและแก้อาเจียน ต้นหอมและกระเทียมบำรุงธาตุหยางได้ ทั้งยังช่วยไล่ความเย็น บรรเทาอาการปวด และปรับลมปราณกระเพาะอาหาร หัวไชเท้าช่วยบำรุงลมปราณ ย่อยอาหาร และขจัดความเมื่อยล้าได้ เมื่อนำมาผสมกันจะได้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง!
Comments for chapter "ตอนที่ 151 รับภารกิจงานวิจัย"
MANGA DISCUSSION
Leave a Reply Cancel reply
This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.
Pakpao
มาอัพไวๆน้า สนุกมากก