สูตรโกงฉบับเด็กเรียน - ตอนที่ 2 สวมร่างเด็กเรียน
ตอนที่ 2 สวมร่างเด็กเรียน
หลังจากกลับมาถึงหอพัก ไป๋เยี่ยก็ล้มตัวลงบนเตียง บนหน้าจอโปร่งแสงตรงหน้ามีข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นมา
[ผู้ใช้งานโปรดรับภารกิจปัจจุบัน]
ไป๋เยี่ยสยบความสงสัยในใจไว้ และกดปุ่ม ‘ภารกิจ’ บนหน้าจอ จากนั้นหน้าภารกิจก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าไป๋เยี่ย
[ภารกิจที่หนึ่ง: เพิ่มเลเวลทักษะวิชาด้านการแพทย์แผนจีน]
คำชี้แจง: ในฐานะที่เป็นนักศึกษาสาขาการบูรณาการการแพทย์แผนจีนและแผนปัจจุบันที่มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์ จะต้องเพียบพร้อมไปด้วยความรู้ด้านการแพทย์แผนจีนและแผนปัจจุบัน วิชาแพทย์แผนจีนเป็นวิชาที่อุดมไปด้วยประสบการณ์ทางคลินิกและมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ถือเป็นสมบัติที่ประเมินค่ามิได้
ข้อกำหนด: เพิ่มเลเวลวิชาด้านการแพทย์แผนจีนหนึ่งวิชาภายในสิบวัน เริ่มนับเวลาหลังจากอ่านคำว่า ‘เริ่มทำภารกิจ’ (สามารถกลับมาเลือกรับได้อีกครั้ง)
รางวัล: แต้มสมาชิกสิบแต้ม โอกาสจับรางวัลหนึ่งดาว จำนวนหนึ่งครั้ง
[ภารกิจที่สอง: ออกปฏิบัติงานที่วอร์ดผู้ป่วยนอกกับอาจารย์ชื่อดัง]
คำชี้แจง: ในฐานะที่เป็นแพทย์ที่มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์ จะต้องฝึกฝนตนเองโดยการปฏิบัติงานในวอร์ดผู้ป่วยนอก ไม่แนะนำให้ทำงานโดยไม่คำนึงถึงสภาพความเป็นจริง ประสบการณ์การเรียนในชั้นคลินิกและการทดสอบความรู้เป็นสิ่งที่จำเป็น
ข้อกำหนด: ออกปฏิบัติงานในวอร์ดผู้ป่วยนอกกับอาจารย์ชื่อดังต่อเนื่องเป็นเวลาหนึ่งเดือน กำหนดว่าต้องมีเคสผู้ป่วยนอกไม่ต่ำกว่าสามสิบคนต่อครึ่งวัน (สามารถทำภารกิจซ้ำได้)
รางวัล: แต้มสมาชิกยี่สิบแต้ม โอกาสจับรางวัลหนึ่งดาว จำนวนหนึ่งครั้ง
[ภารกิจที่สาม: สอบเข้าให้ได้]
คำชี้แจง: ในฐานะที่เป็นนักศึกษาแพทย์ หากไม่ได้สอบก็แปลว่าหมดโอกาส เพื่อที่จะยกระดับการฝึกฝนตนเองและทักษะความรู้ในสาขาที่กำลังศึกษาอยู่ การสอบเข้าจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้!
ข้อกำหนด: การสอบเข้าประจำปีนี้ใกล้เข้ามาแล้ว สอบเข้าให้ได้และนำหนังสือแจ้งรับเข้ามาแสดง (ทำภารกิจได้ครั้งเดียว)
รางวัล: แต้มสมาชิกห้าสิบแต้ม โอกาสจับรางวัลสามดาว จำนวนหนึ่งครั้ง
[ภารกิจที่สี่: หาเงิน]
คำชี้แจง: แผนสมาชิกตลอดชีพไม่ใช่การกุศล ในฐานะที่เป็นผู้ใช้วีไอพีอันเป็นที่เคารพ โปรดรับรองว่ายอดเงินในบัตรธนาคารเพียงพอสำหรับค่าสมาชิกของเดือนถัดไป (ภารกิจที่จำเป็นต้องทำ)
ข้อกำหนด: หาเงินให้ได้สามพันหยวน (ภารกิจระยะยาวสำหรับสมาชิกเลเวลหนึ่ง)
รางวัล: แต้มสมาชิกสิบแต้ม โอกาสจับรางวัลหนึ่งดาว จำนวนหนึ่งครั้ง (รางวัลสำหรับเดือนถัดไป)
ในตอนนี้มีภารกิจบนหน้าต่างเพียงสี่ภารกิจ ไป๋เยี่ยอ่านอยู่ครู่หนึ่ง ที่แท้ถ้าทำภารกิจสำเร็จก็จะได้รับแต้มนี่เอง แถมยังมีโอกาสจับรางวัลอีกด้วย แล้วก็ยังแบ่งการจับรางวัลเป็นระดับดาวด้วยเหรอ แปลว่าของที่จับได้ก็ไม่เหมือนกันน่ะสิ!
ไป๋เยี่ยคาดหวังกับสิ่งนี้สุดๆ
เพิ่มเลเวลวิชาด้านการแพทย์แผนจีนจะได้สิบแต้ม เมื่อไป๋เยี่ยมองไปยังวิชาแพทย์แผนจีนที่เป็นเลเวลศูนย์ทั้งหมดก็อดส่ายหัวไม่ได้ ดูเหมือนว่าเราจะชิลไปหน่อยจริงๆแฮะ
ไปทำงานในวอร์ดกับอาจารย์ชื่อดังหนึ่งเดือน ถึงแม้ว่านี่จะไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่ระยะเวลามันนานเกินไป คงจะทำไม่ได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ
ส่วนข้อที่สาม สอบเข้า! ไป๋เยี่ยจำวันสอบเข้าได้อย่างชัดเจน เขาเริ่มเตรียมตัวตั้งแต่วินาทีที่ชีวิตมหาวิทยาลัยได้เริ่มต้นขึ้น ถ้าไม่ใช่เพราะการปรับเปลี่ยนระบบครั้งนั้นล่ะก็นะ ผลการเรียนของไป๋เยี่ยอยู่ในระดับคงเส้นคงวา แต่น่าเสียดายที่สิ่งที่เขาเตรียมมาคือความรู้ด้านการแพทย์แผนปัจจุบัน ไม่ใช่การแพทย์แผนจีน ตอนนี้จึงทำได้เพียงสอบเข้าเป็นนักศึกษาแพทย์แผนจีนเท่านั้น
ถ้าอยากสอบได้ก็ต้องตั้งใจเรียนวิชาแพทย์แผนจีนเพื่อแต้มห้าสิบแต้ม มันคุ้มค่ามาก
แต่มันจะยากไปหน่อยไหม! เพราะว่าวันนี้เป็นวันที่หนึ่งเดือนธันวาคม ห่างจากวันสอบแค่ยี่สิบวันเอง
จะทำได้ไหมนะ
ส่วนข้อที่สี่คงไม่ต้องพูดถึง จะได้รับรางวัลในเดือนถัดไป ดูเหมือนว่าข้อที่ทำได้ในระยะเวลาอันสั้นนี้จะมีแค่ข้อหนึ่ง
ตามหลักสูตรแล้ว วิทยาลัยแพทย์จะให้เข้าเรียนชั้นคลินิกตอนปีห้า ช่วงปีห้าจะต้องใช้เวลาทั้งปีไปกับการฝึกงานที่โรงพยาบาล อีกทั้งยังมีนักศึกษาแพทย์หลายคนที่จะสอบเข้าไปเรียนต่อ เพราะฉะนั้นในตอนนี้ทุกคนคงจะกำลังเตรียมตัวสำหรับการสอบกันหมด
ไป๋เยี่ยกระโดดลงจากเตียง ก่อนจะไปหยิบหนังสือเล่มใหม่เอี่ยมจากบนชั้นหนังสือทีละเล่ม
‘ทฤษฎีพื้นฐานการแพทย์แผนจีน’ ‘การวินิฉัยโรคด้วยการแพทย์แผนจีน’ ‘วิชาเวชกรรม’ ‘อายุรศาสตร์แพทย์แผนจีน’ ‘วิชาฝังเข็ม’
หนังสือเหล่านี้คือวิชาที่จำเป็นสำหรับการสอบเข้าสาขาแพทย์แผนจีน
ไป๋เยี่ยสูดหายใจเข้าพร้อมกับให้กำลังใจตนเอง เขานำหนังสือใส่ลงในกระเป๋าและมุ่งหน้าไปยังห้องสมุด
เพราะว่าช่วงนี้เป็นช่วงใกล้สอบ ที่นั่งในห้องสมุดจึงเต็มไปด้วยคน
มันไม่ง่ายเอาเสียเลย ไป๋เยี่ยหาที่นั่งโล่งๆ ได้ที่หนึ่ง เขาหยิบหนังสือ ‘ทฤษฎีพื้นฐานการแพทย์แผนจีน’ ออกมาอ่าน
ตอนนี้เลเวลวิชาทฤษฎีพื้นฐานการแพทย์แผนจีนของเขาคือ เลเวล 0: 670/1000
ไป๋เยี่ยอ่านคำว่า ‘เริ่มทำภารกิจ’ ในใจและรับภารกิจที่หนึ่งมา
[ติ๊ง! เริ่มทำภารกิจที่หนึ่ง เวลาคงเหลือ 9 วัน 23 ชั่วโมง 59 นาที…]
ไป๋เยี่ยเปิดหน้าสารบัญหนังสือขึ้นมาอ่านดูรอบหนึ่งก่อน
บทที่หนึ่งคือแนวคิดปรัชญาพื้นฐานของการแพทย์แผนจีน กล่าวถึงสารจำเป็นของชีวิต หยินหยาง ธาตุทั้งห้า รวมถึงแนวคิดทั้งหมดของมันเป็นหลัก เป็นการชี้แนะถึงพื้นฐานด้านปรัชญาของการแพทย์แผนจีน
ไป๋เยี่ยอ่านด้วยความตั้งใจ หยินหยางคือหนทางแห่งฟ้าดิน คือกฎเกณฑ์ของทุกสรรพสิ่ง คือบ่อเกิดแห่งความแปรเปลี่ยนของเหล่าสรรพสิ่ง คือรากฐานแห่งการถือกำเนิดและมลายสิ้นไป อันประกอบด้วยสัจธรรมอันยิ่งใหญ่…
เมื่อก่อนตอนเรียน เขาไม่เคยตั้งใจฟังเลย แถมยังคิดว่าเป็นเรื่องง่ายอีกด้วย แต่ในตอนนี้เขากลับต้องมานั่งอ่านด้วยตนเอง ไป๋เยี่ยมึนไปหมด ไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหนดี
หยินหยาง ธาตุทั้งห้า…หล่อเลี้ยงเลือดลม รุงรังชะมัด
จู่ๆ ไป๋เยี่ยก็นึกขึ้นได้ถึงสิทธิพิเศษข้อที่สาม
[สวมร่างเด็กเรียน! สามวันต่อเดือน]
เจ้านี่คงจะมีประโยชน์แหละมั้ง แค่ฟังชื่อก็รู้สึกว่าเจ๋งแล้ว
ไป๋เยี่ยอ่านคำว่า ‘สวมวิญญาณเด็กเรียน’ ในใจ
[ติ๊ง! สวมร่างเด็กเรียนสำเร็จ เวลาคงเหลือ 3 วัน 23 ชั่วโมง 59 นาที…]
เพียงชั่วพริบตา ไป๋เยี่ยก็รู้สึกได้ถึงความปลอดโปร่งภายในสมองของเขา ราวกับว่ามีน้ำเย็นไหลผ่าน มันสว่างจ้าสุดๆไปเลย!
คราวนี้ไป๋เยี่ยสงบสติอารมณ์ลงและเริ่มตั้งใจอ่านหนังสือ
ไป๋เยี่ยสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่จับต้องไม่ได้ซึ่งกำลังชี้นำแนวทางให้กับเขาอยู่
การเคลื่อนไหวของลมปราณ ขั้วตรงกันข้ามของหยินและหยาง การส่งต่อและรับสาร การทำงานต่างๆ…ช่วงเวลาตอนนี้มันช่างวิเศษถึงเพียงนี้เชียว
หลังจากที่อ่านบทแรกจบ ไป๋เยี่ยก็อ่านบทที่สองต่อ สารจำเป็น ลมปราณ เลือด ของเหลว และราศี สารจำเป็นคืออะไร ลมปราณคืออะไร ลมปราณมีหน้าที่ใด เลือดในศาสตร์แพทย์แผนจีนคือเลือดแบบไหน ราศีคืออะไร แล้วสิ่งเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไรบ้าง ไป๋เยี่ยในขณะนี้ราวกับได้ดำดิ่งลงไปในโลกแห่งศาสตร์แพทย์แผนจีนแล้ว
ต่อมาเป็นเรื่องอวัยวะตันทั้งห้า อวัยวะกลวงทั้งหก และทางเชื่อมระหว่างอวัยวะ
ไป๋เยี่ยดื่มด่ำอยู่ในภวังค์ ที่แท้โลกแห่งการแพทย์แผนจีนก็วิเศษถึงเพียงนี้นี่เอง เขายิ่งอ่านก็ยิ่งชอบ ถ้าหากเขาก้าวเข้าไปในประตูวิเศษบานใหญ่นี้ ก็คงเหมือนกับได้พบเจอโลกใบใหม่
ช่วงเวลาอันดื่มด่ำนี้ย่อมผ่านไปอย่างรวดเร็ว คนในห้องสมุดน้อยลงเรื่อยๆ แต่ไป๋เยี่ยกลับไม่รู้สึกตัวเลย เขายังคงดำดิ่งอยู่ภายในโลกแห่งทฤษฎีการแพทย์แผนจีน
จนกระทั่งมีคนมาตบไหล่เขา เขาจึงตื่นขึ้นมาจากภวังค์ลึกลับนั่น
“สี่ทุ่มครึ่งแล้วหนู ห้องสมุดจะปิดแล้ว” คุณป้าผู้ดูแลห้องสมุดเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม
ไป๋เยี่ยดึงสติคืนมา เห็นรอบๆ ไม่มีคนแล้ว เขาจึงรีบเก็บข้าวของ “ขอโทษครับป้า ผมไม่ได้ดูเวลาเลย”
คุณป้ายิ้มพลางส่ายหัวไปมา “ไม่เป็นไรจ้า ใกล้สอบแล้วนี่เนอะ ป้ารู้พวกหนูคงเครียดมาก คงเหนื่อยสินะ พักผ่อนเยอะๆ นะจ๊ะ”
ห้องสมุดอยู่ห่างจากหอพักไม่ไกลนัก ใช้เวลาเดินทางเพียงไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว ไป๋เยี่ยเดินไปตามถนนโดยที่ในหัวยังเต็มไปด้วยทฤษฎีพื้นฐานการแพทย์แผนจีน เขาวางหนังสือลงพลางรู้สึกได้ถึงความรู้ที่กำลังหลอมรวมกันเป็นหนึ่งราวกับสายน้ำที่กำลังไหลหลั่งสู่คูคลอง
ไป๋เยี่ยสาบานว่าเขาไม่เคยรู้สึกหลงใหลในเรื่องพวกนี้มาก่อน
ตอนนี้เอง ไป๋เยี่ยก็เห็นข้อความแจ้งเตือนปรากฏบนหน้าจอโปร่งแสง
[ออกจากสถานะเรียนรู้ ต้องการปิดโหมดสวมร่างเด็กเรียนหรือไม่ เวลาคงเหลือปัจจุบัน: 2 วัน 12 ชั่วโมง]
ไป๋เยี่ยอึ้งไปชั่วครู่ นี่เรานั่งแช่ในห้องสมุดถึงสิบสองชั่วโมงเลยเหรอ
คิดได้เช่นนั้นไป๋เยี่ยก็ลูบท้องตนเอง ก็ว่าทำไมหิว…
ตั้งแต่ที่กลับมาจากร้านอินเทอร์เน็ตเมื่อเช้า อยู่ที่หอสักพักหนึ่งแล้วถึงออกไปหอสมุด ไม่น่าเชื่อว่าจะผ่านไปสิบสองชั่วโมงแล้ว
ไป๋เยี่ยอยากจะหาอะไรกินสักหน่อย แต่เงินในบัตรกลับมีไม่พอ จะไปซื้ออะไรกินได้เล่า!
โชคดีที่ในบัตรอาหารของเขายังเหลือเงินอยู่สองร้อยหยวน พรุ่งนี้เช้าคงต้องไปกินอาหารเช้าที่โรงอาหาร
ไป๋เยี่ยคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาดูเลเวลของวิชาทฤษฎีพื้นฐานการแพทย์แผนจีน แล้วก็ต้องชะงักไปชั่วขณะ
[ทฤษฎีพื้นฐานการแพทย์แผนจีน: เลเวล 0: 800/1000]
วันเดียวได้ค่าประสบการณ์มา 130 เองงั้นเหรอ
โหดไปหน่อยมั้ง!