สูตรโกงฉบับเด็กเรียน - ตอนที่ 49 แก้ไขสถานการณ์
ตอนที่ 49 แก้ไขสถานการณ์
สามสิบนาทีผ่านไปไวเหมือนโกหก ทุกคนใกล้ทำข้อสอบเสร็จกันแล้ว
เพราะว่าคนที่แยกประเภทยาได้ก็ทำเสร็จไปนานแล้ว ส่วนคนที่แยกไม่ออกนั้น ถึงให้เวลาทำทั้งวันก็ทำไม่เสร็จแน่นอน!
หลังจากที่กรรมการได้ปรึกษากันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็กรอกคะแนนลงบนกระดาษทีละใบ
จริงๆ แล้วตอนนี้ผู้เข้าสอบส่วนใหญ่น่าจะรู้คะแนนของตัวเองบ้างแล้ว และรู้อยู่แก่ใจว่าตนเองน่าจะทำได้สักกี่คะแนน
ช่วงต่อไปคือช่วงถามตอบ ซึ่งบางคนก็หมดหวังไปแล้ว
“ต่อไปเป็นช่วงถามตอบ พวกเราจะถามคำถามหนึ่งข้อกับผู้เข้าแข่งขันแต่ละคน พวกคุณมีเวลาเตรียมตัวหนึ่งนาที และมีเวลาตอบคำถามสามนาที เริ่มได้!” จางเสวียเวิ่นกล่าว
เขาเตรียมคำถามมาเยอะมาก ซึ่งไม่ได้มีแค่คำถามทางวิชาการ แต่ยังมีคำถามจริยธรรมแพทย์และการปฏิบัติตนต่อคนไข้ด้วย
“คุณได้พบกับเด็กหญิงคนหนึ่งที่โรงพยาบาล เธอต้องการถ่ายเลือดด่วน แต่ในคลังเลือดไม่มีเลือดเหลืออยู่เลย เด็กหญิงมีเลือดกรุ๊ปโอ แม่ของเธอมีเลือดกรุ๊ปเอ พ่อของเธอมีเลือดกรุ๊ปเอบี ส่วนลุงข้างบ้านมีเลือดกรุ๊ปโอ คำถามคือ คุณจะสื่อสารกับคนในครอบครัวเธออย่างไร”
เมื่อผู้ชมด้านล่างเวทีได้ฟังคำถามก็พากันงงไปชั่วขณะ จะแก้ปัญหานี้อย่างไรดี ในเมื่อนี่คือข้อสอบวัดความเป็นหมอ!
“เฮ้ย! แบบนี้ก็ได้เหรอ”
“คำถามโหดไป ปล่อยจอยเถอะ…”
“คุณเป็นแพทย์จากเมืองหลวง ระหว่างที่คุณกำลังนั่งรถไฟไปเมืองอวิ๋นหนานนั้นก็ได้เจอกับคนไข้ที่กำลังจะคลอดลูก ถ้าคุณไม่ช่วยเธอไว้ อาจจะมีสองชีวิตที่ต้องสูญเสียไป ทว่าคุณเองก็ไม่มั่นใจว่าจะช่วยชีวิตเธอได้หรือไม่ คุณจะช่วยเธอหรือไม่”
มีผู้ใช้วีไอพีบนเวยป๋อคนหนึ่งได้กล่าวถึงคำถามนี้ “จะช่วยหรือไม่ช่วย ถ้าไม่ช่วยแล้วถูกคนอื่นมองว่าเป็นหมอแต่ดันปล่อยให้คนตาย คุณจะทำยังไง แต่ถ้าช่วยแล้วไม่รอดใครจะเป็นคนรับผิดชอบ ถ้าช่วยได้แค่ลูกแต่แม่เป็นอะไรไปคุณจะจัดการยังไง ถ้าเลือดออกมาก หรือติดเชื้อขึ้นมา ก็เป็นความรับผิดชอบของหมออีก!”
คอมเมนต์ด้านล่างต่างก็เห็นด้วยกับผู้ใช้คนนี้ ในขณะเดียวกันคำถามนี้ก็ดึงดูดผู้ชมเข้ามาจำนวนมาก ทำให้เรตติ้งของรายการพุ่งกระฉูด
“หญิงสาวแซ่หยาง อายุยี่สิบหกปีคลอดลูกคนแรกครบหนึ่งเดือน เป็นทารกเพศหญิง น้ำหนักสองพันเก้าร้อยหกสิบกรัม ซึ่งทารกมีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ จากการตรวจร่างกายโดยแพทย์ พบว่าทารกมีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ตั้งแต่กำเนิด แพทย์จึงอธิบายอาการป่วยของทารกให้ทางครอบครัวฟังว่าไม่ต้องกังวลเรื่องการรักษาปากแหว่งเพดานโหว่ เพียงแค่ต้องเข้ารับการผ่าตัดทวารหนักโดยด่วน ซึ่งการผ่าตัดนั้นค่อนข้างง่าย หลังจากที่ครอบครัวได้ปรึกษากันแล้วก็คิดว่าหากทารกมีภาวะบกพร่องเช่นนี้ก็อาจจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตต่อไปได้ จึงตัดสินใจให้ทางโรงพยาบาลเป็นผู้จัดการเรื่องนี้แทน คุณจะทำอย่างไร”
ข้อนี้เป็นคำถามจริยธรรมแพทย์ ส่วนจะจัดการอย่างไรนั้น แพทย์ไม่มีสิทธิ์ หรือความรับผิดชอบ หรือหน้าที่ไปจัดการกับเด็กอยู่แล้ว แต่แพทย์เองก็ปฏิเสธการตัดสินใจของทางครอบครัวไม่ได้ ปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลย คุณจะจัดการอย่างไรดี
ระหว่างนั้นผู้ชมทั้งหมดต่างหันมาให้ความสนใจกับคำตอบที่ถูกต้อง
อันที่จริงคำตอบนั้นไม่แน่นอน มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้นที่จะจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งถือเป็นศักยภาพอย่างหนึ่ง และนี่ก็คือข้อสอบที่มุ่งทดสอบความสามารถด้านการจัดการกับปัญหา!
ในขณะที่อาจารย์แพทย์ท่านหนึ่งกำลังจะหยิบไมโครโฟนขึ้นมาถามคำถามไป๋เยี่ยนั้น จู่ๆ เขาก็ไออย่างรุนแรง ไอจนทรงตัวไม่อยู่และล้มลงไปกับพื้น
เขาเป็นลมไปแล้ว!
ไป๋เยี่ยยืนช็อก เขาคือเหลาสวี่ที่เล่นหมากรุกชนะจางเสวียเวิ่นไม่ใช่เหรอ
ทันใดนั้น หน้างานก็ตกอยู่ในความตื่นตระหนก
พิธีกรเองก็ลนลานจนเหลียงหย่งต้องวิ่งขึ้นไปดูสถานการณ์บนเวที
ส่วนฉีปิงก็โทรเบอร์ 120 ซึ่งเป็นเบอร์ของหน่วยปฐมพยาบาลฉุกเฉินทันที
เหล่าอาจารย์แพทย์ต่างก็รีบเข้ามาล้อมเหลาสวี่ จางเสวียเวิ่นจึงตะโกนเสียงดังลั่น “หยุด! ทุกคนอย่าเพิ่งเข้ามา”
อาจารย์แพทย์ทั้งเก้าคนก็ได้แต่ยืนตรวจสอบสถานการณ์ไป
ส่วนผู้ชมด้านล่างเวทีนั้นก็ตกใจจนพูดไม่ออก การถ่ายทอดสดยังคงดำเนินต่อไป ไม่ได้ยกเลิกแต่อย่างใด!
ผู้ชมทุกคนต่างได้เห็นเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุ จู่ๆ อาจารย์ก็เป็นลม!
“ให้ตายเถอะ นี่เล่นละครกันใช่ไหม ทดสอบการแก้ไขสถานการณ์เหรอ”
“คนบนนั้นอะ โง่เหรอ ไม่เห็นเหรอว่าตรงนั้นเป็นไงบ้าง โง่เง่าสิ้นดี!”
“เฮ้ย ฉันรู้จักอาจารย์ท่านนี้ ท่านเป็นอาจารย์จากเมืองเทียนจิงของพวกเรา ชื่อว่า ‘สวี่โฮ่วเต้า’ เชี่ยวชาญด้านการฝังเข็มและเป็นที่รู้จักของทั้งประเทศในนาม ‘ปรมาจารย์แห่งการฝังเข็ม’ เลยนะ! ท่าน…ท่านเป็นอะไรไปเหรอ”
ทุกคนใจเสียกันหมด!
ใครๆ ก็พูดไม่ออกถ้าต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ระหว่างการถ่ายทอดสด
หลังจากนั้นอาจารย์แพทย์ทั้งสิบคนได้ผลัดกันตรวจและวินิฉัยเบื้องต้น
ทันใดนั้นก็มีเด็กสาวคนหนึ่งรีบวิ่งมาทางนี้พร้อมกับสีหน้าร้อนรนและน้ำตาไหลพราก
“คุณปู่! คุณปู่ของหนูเป็นอะไรไป…ข…เขาเคยเป็นโรคหลอดลมอักเสบและโรคหอบหืดมาก่อน แถมช่วงนี้อาการยังกำเริบอยู่บ่อยครั้งด้วย เดิมทีไม่อยากให้ท่านมาร่วมกิจกรรมแบบนี้สักเท่าไหร่ แต่ตอนนี้…”
จางเสวียเวิ่นถอนหายใจ “นังหนู อย่าใจร้อน ไม่มีอะไรร้ายแรงหรอก น่าจะแค่เสมหะ!”
ซึ่งอาจารย์แพทย์คนอื่นๆ ก็พากันพยักหน้า “ใช่แล้ว!”
เด็กสาวผงะไป ก่อนจะหันไปจ้องอาจารย์แพทย์ตาเขม็งและกล่าวว่า “รู้ว่าเป็นอะไรแล้วยังไม่รีบรักษาอีก แค่พูดจะไปมีประโยชน์อะไรคะ!”
จางเสวียเวิ่นจึงเอ่ยขึ้น “งั้นใครมีเข็มฝังเข็มไหม ผมขอหน่อยสิ”
ทว่าในขณะเดียวกัน ไป๋เยี่ยก็เดินขึ้นมา เขาลองสังเกตผู้เฒ่าสวี่ที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นและพบว่าผู้เฒ่าสวี่หายใจแรงมาก มีเสมหะในลำคอ ทำให้หายใจติดขัด ไป๋เยี่ยจึงยื่นมือไปสัมผัสชีพจร พบว่าชีพจรของเขานั้นเต้นเร็วและลื่น
จู่ๆ ไป๋เยี่ยก็นึกถึงตำรับยาจีนที่เคยอ่านมาก่อน ซึ่งเป็นตำรับยารักษาอาการมีเสมหะ เขาจึงลุกเดินกลับไปที่กะละมังที่เต็มไปด้วยตัวยาและคลำหาปาโต้ว[1]มาวางไว้บนกระดาษฝ้าย บิมันจนแตกให้น้ำมันจากเมล็ดซึมออกมาบนกระดาษ
หลังจากนั้นไป๋เยี่ยก็ใช้กระดาษห่อเมล็ดปั้นเซี่ย[2]ไว้ แล้วใช้ไมโครโฟนทุบตัวยาจนแตกละเอียด จากนั้นเขาก็รีบฝ่าฝูงชนเข้าไปหาผู้เฒ่าสวี่
เขาจุดกระดาษเปื้อนน้ำมันด้วยไฟแช็ก ให้ผู้เฒ่าสวี่สูดดมควันจากสมุนไพรเข้าไป จากนั้นจึงเป่าควันจากเมล็ดปั้นเซี่ยแล้วจุดควันจากกระดาษเปื้อนน้ำมันเมล็ดปาโต้วต่อ
ผ่านไปราวๆ ครึ่งนาที จู่ๆ ผู้เฒ่าสวี่ก็หายใจแรงขึ้นเรื่อยๆ และไอออกมา เขาไออย่างรุนแรงก่อนจะบ้วนเสมหะปนเลือดออกมา!
ผ่านไปอีกครึ่งนาทีเขาก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น!
เขาจึงตระหนักว่าทุกคนกำลังจ้องมองตน ผู้เฒ่าสวี่กล่าวขอโทษทั้งรอยยิ้ม จากนั้นก็ค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งบนเก้าอี้โดยที่มีไป๋เยี่ยคอยพยุงร่างไว้
ทุกคนตะลึง!
ผู้ช่วยของจางเสวียเวิ่นกลับเพิ่งนำเข็มมาให้ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ต้องใช้มันแล้ว!
ทันทีที่เด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มรวบผมทรงหางม้าเรียบๆ เห็นว่าคุณปู่ของเธอฟื้นแล้วก็ดีใจจนน้ำตาไหล
“คุณปู่ไม่เป็นอะไรแล้ว! เสี่ยวซีตกใจแทบแย่”
จากนั้นเธอก็กวาดสายตามองอาจารย์แพทย์ทั้งเก้าคน “เป็นยอดปรมาจารย์กันแท้ๆ แต่ยังสู้เด็กหนุ่มแค่คนเดียวไม่ได้เลย! เหอะ!”
ผู้เฒ่าทั้งเก้าคนถึงกับพูดไม่ออก วันนี้พวกเขาไม่คาดคิดว่าจะต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ แม้แต่พวกเขาเองก็ไม่ได้รู้ไปเสียทุกเรื่อง อีกทั้งพวกเขาก็ไม่ได้พกเข็มฝังเข็มติดตัวมาด้วย มิเช่นนั้นก็คงได้ใช้แล้ว
ทว่าก็ไม่มีใครคิดว่าเด็กหนุ่มผู้นี้จะหายาที่เหมาะสมจากในกองยาจีนมากมายหลายชนิดได้! แถมยังเป็นผู้ช่วยชีวิตชายชราอีกด้วย!
นี่มัน…น่าทึ่งสุดๆ ไปเลย!
[1] ปาโต้ว คือสมุนไพรชนิดหนึ่ง มีฤทธิ์ช่วยรักษาแผล
[2] ปั้นเซี่ย คือสมุนไพรชนิดหนึ่ง มีฤทธิ์ละลายเสมหะ