สูตรโกงฉบับเด็กเรียน - บทที่ 181 เงินทุนก้อนแรก
บทที่ 181 เงินทุนก้อนแรก
การประชุมยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น!
ต่อไปบริษัทที่ดำเนินโครงการตามสาขาต่างๆ จะต้องเข้ารับการปรึกษาหารือเพิ่มเติมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการทำงานขั้นต่อไป
เจ้าหน้าที่พาไป๋เยี่ยและพ่างจื่อไปที่หน่วยสาธารณสุข และเริ่มการหารือเกี่ยวกับความร่วมมือโดยละเอียด
พวกเขากำลังพูดคุยกับหัวหน้าหน่วยสาธารณสุขของมณฑลจิ้นซี ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบงานด้านสาธารณสุขทั้งหมดอยู่
ชายคนนั้นมองไป๋เยี่ยและพ่างจื่อด้วยรอยยิ้ม “เด็กสมัยนี้นี่อนาคตไกลจริงๆ!”
ทั้งคู่ตอบรับอีกฝ่ายพร้อมกับกล่าวขอบคุณ
จ้าวเลี่ยงเคยเป็นอดีตรองผู้อำนวยการกรมอนามัยซึ่งได้ปฏิรูปเป็นคณะกรรมการวางแผนสุขภาพและครอบครัวแห่งชาติ แต่ถึงอย่างไรงานของเขาก็ไม่ได้ต่างจากเดิมมากนัก
“อันที่จริง ผมอยากขอบคุณพวกคุณที่สร้างแอปพลิเคชั่นเฮลท์ตี้จิ้นซีมากเลยครับ มันช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องการลงทะเบียนและการเข้ารับการรักษาพยาบาลได้จริงๆ เป็นความคิดที่ดีมากเลยครับ และมันจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีแน่นอน นี่ไม่ใช่แค่การเริ่มต้นธุรกิจเท่านั้น แต่นี่คือโครงการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนที่แท้จริง”
“ผมขอเข้าเรื่องเลยแล้วกัน จริงๆ แล้วผมมีแนวทางมาเสนอพวกคุณสองแนวทาง หนึ่งคือขายแอปพลิเคชั่นนี้ให้กับรัฐ ภาครัฐจะเป็นผู้รับผิดชอบในการพัฒนาตัวแอปต่อไปเอง”
ทันทีที่ไป๋เยี่ยและพ่างจื่อได้ฟัง พวกเขาก็แทบสะดุ้งโหยงไปตามๆ กัน พวกเขาคงจะไม่บังคับให้เราขายใช่ไหม
จ้าวเลี่ยงมองทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม “ไม่ต้องห่วงครับ ภาครัฐไม่มีทางเอาเปรียบคุณแน่นอน หากคุณโอนกรรมสิทธิ์ของแอปนี้ไปให้ทางรัฐ คุณจะได้รับค่าโอนย้ายกรรมสิทธิ์หลายสิบล้านหยวนถึงร้อยล้านหยวนแน่นอน”
จะสิบล้านหรือร้อยล้านก็เป็นจำนวนเงินที่เยอะมากอยู่ดี ทั้งคู่จึงหันมามองหน้ากัน แล้วแนวทางที่สองล่ะ
พ่างจื่อจึงถามออกไปด้วยความลังเล “แล้วแนวทางที่สองล่ะครับ”
จ้าวเลี่ยงยิ้ม “แนวทางที่สองอาจจะได้เงินไม่เยอะเท่านั้นนะครับ เราจะให้พวกคุณพัฒนาแอปพลิเคชั่นนี้เป็นแบบเอาท์ซอร์สน่ะครับ ซึ่งพวกคุณต้องคอยดูแลระบบของแอปให้ดี อย่าให้เกิดปัญหากับการลงทะเบียนเด็ดขาด เพราะนี่เป็นโครงการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน ทางเราจะให้ความร่วมมือกับคุณเป็นอย่างดี นี่จะเป็นโครงการขนาดใหญ่โครงการหนึ่ง คุณคิดว่าคุณทำได้ไหม”
ไป๋เยี่ยและพ่างจื่อมองหน้ากัน พวกเขารู้สึกตื่นเต้นสุดๆ นี่มันเป้าหมายของพวกเราไม่ใช่เหรอ
พ่างจื่อจึงโพล่งออกไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “เราเลือกแนวทางที่สองครับ!”
จ้าวเลี่ยงได้แต่ยิ้ม “แนวทางที่สองงั้นเหรอ ดีมาก ผมก็ชอบแนวทางนี้เหมือนกัน เพราะว่าแอปพลิเคชั่นประเภทนี้ถูกวางระบบมาดีแล้ว และไม่จำเป็นต้องนำไปเปิดตัวในตลาดอยู่แล้ว ผมเองก็หวังว่าคุณจะเลือกแนวทางนี้เหมือนกัน แต่พวกคุณจะมีศักยภาพเพียงพอที่จะพัฒนาให้มันกลายเป็นแอปพลิเคชั่นทางการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดและน่าเชื่อถือที่สุดในจิ้นซีหรือเปล่า”
ทั้งคู่เงียบไป
นั่นสิ เรามีศักยภาพขนาดนั้นหรือเปล่า
กำลังคนเพียงห้าคน ประกอบด้วยเจ้าของบริษัทสองคนกับโปรแกรมเมอร์อีกสามคน เราจะทำอย่างไรดีถึงจะพัฒนาแอปนี้ให้ยิ่งใหญ่ได้
จ้าวเลี่ยงพูดต่อ “อันที่จริงเราจะลองผสมผสานแนวทางแรกและแนวทางที่สองเข้าด้วยกันก็ได้นะ เรามีบริษัทที่มีศักยภาพพอที่จะร่วมพัฒนาไปกับคุณได้”
ระหว่างนั้นจ้าวเลี่ยงก็เรียกชายคนหนึ่งเข้ามา “ผมหวังว่าพวกคุณทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันพัฒนาแอปพลิเคชั่นไปด้วยกันนะครับ บริษัทอวี่เจ๋อเทคก็เป็นบริษัทที่มีศักยภาพเช่นกัน พวกคุณนำข้อดีของทั้งสองบริษัทออกมาร่วมกันพัฒนาแอปพลิเคชั่นที่สมบูรณ์แบบได้ แน่นอนครับว่าบริษัทอวี่เจ๋อเทคเป็นผู้ยื่นข้อเสนอนี้เข้ามาเอง ถ้าคุณได้รับความร่วมมือจากบริษัทพันธมิตรอื่นๆ แล้วก็ไม่เป็นไรครับ สิ่งที่ผมคาดหวังคือคุณจะขยายทีมพัฒนาของคุณได้โดยเร็วที่สุด ทำงานได้ดี เริ่มงานได้ไว และสร้างแพลตฟอร์มที่สมบูรณ์แบบอกมาได้ นี่คือกุญแจสำคัญครับ”
จ้าวอวี่เจ๋อรีบหันไปกล่าวขอบคุณจ้าวเลี่ยง “ขอบคุณที่มอบโอกาสนี้ให้ผมนะครับ ไม่ต้องห่วงเลยครับ ทางบริษัทอวี่เจ๋อเทคจะพยายามอย่างสุดความสามารถครับ”
ทว่าจู่ๆ พ่างจื่อก็ลุกพรวดขึ้นมา “ไม่ต้องห่วงครับผอ.จ้าว พวกเราจะเริ่มงานโดยเร็วที่สุด หากทางเราต้องการความร่วมมือจริงๆ ผมคิดว่าเราควรจะหาบริษัทที่มีแนวความคิดเข้ากับเรามากกว่าอวี่เจ๋อเทคนะครับ”
จ้าวเลี่ยงชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มออกมา ดูเหมือนว่าทั้งสองบริษัทจะมีเรื่องขัดแย้งกันเล็กน้อยสินะ “ได้ครับ ขอแค่คุณทำงานออกมาได้ดีก็พอแล้วครับ แน่นอนว่าทางเรามีกองทุนพิเศษที่จัดสรรไว้สำหรับโครงการนี้แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลนะครับ ในเมื่อพวกเราเป็นฝ่ายขอให้คุณทำ พวกเราก็จะไม่เอาเปรียบคุณแน่นอน”
จ้าวอวี่เจ๋อฟังคำพูดของพ่างจื่อก็ได้แต่กัดฟันและฝืนยิ้มออกมา ถึงจะเป็นเพราะว่าไม่สะดวกใจก็เถอะ แต่ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ได้รับการอนุญาตจากทางรัฐแล้ว มีผู้นำระดับสูงกำลังเฝ้าดูโครงการนี้อยู่ จ้าวอวี่เจ๋อจะไปทำอะไรได้
หลังจากที่จ้าวอวี่เจ๋อออกไปแล้ว จ้าวเลี่ยงก็พาทั้งสองคนไปกรอกเอกสารที่เกี่ยวข้องให้เรียบร้อยก่อนจะไปที่แผนกการเงิน
โครงการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาล ทั้งยังมีกองทุนพิเศษที่ได้รับการจัดสรรเป็นประจำทุกปี
ในความเป็นจริง มันก็เหมือนกับการที่รัฐบาลว่าจ้างหน่วยงานต่างๆ ไปสร้างถนน จึงต้องมีการมอบเงินทุนสำหรับการก่อสร้างถนนให้กับหน่วยงานนั้นๆ
อย่างไรก็ตาม บริษัทเย่ว์เถิงก็ยังอยู่แค่ขั้นตอนการร่างแบบเท่านั้น แพลตฟอร์มดังกล่าวยังไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเลยด้วยซ้ำ จึงยังรับเงินทุนในทันทีไม่ได้
แต่เพราะความพิเศษของโครงการนี้ หน่วยงานระดับสูงจึงตัดสินใจจัดหาเงินทุนบางส่วนเพื่อสร้างแพลตฟอร์มขึ้นมาก่อน จากนั้นจึงจะกำหนดค่าธรรมเนียมการดำเนินงานทุกปี
เท่ากับว่าไป๋เยี่ยกำลังทำงานให้รัฐบาลอยู่ ซึ่งรัฐบาลก็จะคอยอัดฉีดงบประมาณพิเศษให้เขาทุกปี
หลังจากที่ทั้งคู่ออกมาแล้ว พ่างจื่อก็ชูบัตรธนาคารขึ้นมาแล้วหัวเราะเสียงดังลั่น “รวยแล้วโว้ย รวยแล้ว! ฮ่าๆ…”
พ่างจื่อดึงไป๋เยี่ยเข้ามา “ไปกินซีฟู้ดกันเถอะ ไหนๆ ทุนก้อนแรกก็ได้ตั้งสองล้านหยวน! ให้ตายเถอะ ฉันดีใจจนตัวลอยแล้วเนี่ย ชื่อเย่ว์เถิงนี่มันเป็นมงคลจริงๆ! เยี่ยจื่อ พวกเรากำลังจะได้เริ่มงานแล้วนะ”
ไป๋เยี่ยได้แต่ยิ้ม “อืม กลับไปโทรเรียกพวกพี่ฉินมาก่อนเถอะ แต่บอกตามตรงนะ ถ้าเราจะทำงานนี้จริงๆ ทุนที่ได้มาสองล้านนี่อาจจะไม่พอด้วยซ้ำ ผอ.จ้าวบอกให้เราไปรวบรวมข้อมูลผู้ป่วยจากโรงพยาบาลระดับสองขึ้นไปในเมืองไท่หยวนให้เสร็จก่อนกลางเดือนกรกฎาคม เรามีเวลาไม่มากแล้ว!”
หลังจากที่ทั้งสองกลับมาถึงบริษัท พวกเขาก็โทรตามฉินเจิ้งและอีกสองคนมาประชุมกัน
แม้ว่าจะมีเพียงห้าคน แต่พวกเขาก็แบ่งงานกันได้ดีมาก ทว่าอย่างไรก็ตาม กำลังคนเพียงเท่านี้คงไม่เพียงพอแน่ๆ เพราะพวกเขายังมีงานมากมายที่ต้องทำต่อไป艾琳小說
ข้อสรุปที่ได้จากการประชุมคือต้องมีการจัดตั้งตัวแทนหนึ่งหรือสองคนให้ไปดูสถานการณ์ที่โรงพยาบาล ส่วนบริษัทต้องทำการขยายเซิร์ฟเวอร์และดูแลรักษาระบบให้เสถียร ซึ่ง ณ ตอนนี้กำลังคนของบริษัทไม่พอ และต้องมีการรับสมัครคนเข้ามา
ฉินเจิ้งบอกว่าพวกเขาไม่มีความจำเป็นที่ต้องรับสมัครบุคลากรที่มีเกรดดีหรือต้องการเงินเดือนสูง สิ่งที่บริษัทกำลังขาดแคลนก็คือบุคลากรทั่วๆ ไปเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาควรจะใช้โอกาสช่วงงานรับปริญญานี้ ตระเวนหานักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ เข้ามาทำงานด้วย
พวกเขาประชุมเสร็จกันตอนหกโมงเย็น เดิมทีไป๋เยี่ยและพ่างจื่อวางแผนจะกินอาหารค่ำที่บริษัท แต่พวกเขาก็ได้รับคำเชิญจากเพื่อนในคลาสให้มางานเลี้ยงอาหารค่ำด้วยกัน โดยหวังว่าทุกคนจะมาเข้าร่วม
ใกล้จะเรียนจบแล้ว โอกาสที่จะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันก็น้อยลงไปทุกที ทั้งคู่จึงตัดสินใจไปงานเลี้ยงแทน
พวกเขาทำได้เพียงเลื่อนงานเลี้ยงอาหารค่ำที่บริษัทออกไปก่อนเท่านั้น
แต่ถึงกระนั้น ไป๋เยี่ยและพ่างจื่อก็ยังคงมีน้ำใจ จึงส่งอั่งเปาซองละสองพันหยวนให้ทั้งสามคน อย่างไรเสียช่วงนี้ทุกคนก็ทุ่มเทเพื่อแอปเฮลท์ตี้จิ้นซีกันทั้งนั้น