สูตรโกงฉบับเด็กเรียน - บทที่ 237 ขอจับมือหน่อย
บทที่ 237 ขอจับมือหน่อย
ไม่กี่วันมานี้ ไป๋เยี่ยใช้เวลาไปกับการจัดห้องนอนของเขาให้เป็นห้องอ่านหนังสือ
ส่วนห้องอื่นไป๋เยี่ยขี้เกียจจัด เขาไม่ใช่พวกย้ำคิดย้ำทำ ถึงแม้ว่าจะใส่ใจกับหลายๆ อย่าง แต่บางอย่างก็แค่ทำแบบลวกๆ เท่านั้น
ไป๋เยี่ยมองห้องอ่านหนังสือที่ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้วก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ ไว้วันอื่นเขาจะซื้อชั้นอ่านหนังสือมาไว้ที่ห้องอีก
ถ้ามีเวลาหน่อยเขาก็จะซื้อพู่กัน แท่นฝนหมึก และกระดาษกลับมาลองฝึกเขียนพู่กันด้วย เผื่อครั้งหน้าจะได้ลองประชันฝีมือกับเถ้าแก่ไป๋
พวกคนมีฐานะมักจะชอบภาพเขียนพู่กันที่วาดขึ้นเองให้คนอื่นๆ ต่อไปถ้าพวกเขามีชื่อเสียงขึ้นมาจะได้มีผลงานภาพวาดที่สวยงามเป็นของตนเอง ดูแล้วมีระดับ
ไป๋เยี่ยนั่งลงบนเก้าอี้และหยิบซองจดหมายที่เจียลี่มอบให้ออกมา
เขาฉีกซองจดหมาย และพบว่าด้านในมีเอกสารแนบมาด้วยสองฉบับ
ฉบับแรกเป็นจดหมายเชิญ
ฉบับที่สองเป็นหนังสือแต่งตั้ง
อันที่จริงเอกสารสองฉบับนี้เป็นเอกสารเชิญชวนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดแนวทางปฏิบัติทางการแพทย์บริเวณทวารหนัก ส่วนหนังสือแต่งตั้งคือการแต่งตั้งให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาแผนงานต่างๆ ตามที่สมาคมได้ลงคะแนนเสียงกันไว้
ทันใดนั้นก็มีเสียงแว่วเข้ามาในหัว
[ติ๊ง! ภารกิจการเดินทางไปโตเกียวสิ้นสุดลงแล้ว กำลังสรุปผลภารกิจลับ…]
ไป๋เยี่ยนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะเปิดแถบภารกิจขึ้นมา ยังมีภารกิจที่ยังไม่ได้สรุปผลอยู่
[ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้เปิดใช้งานภารกิจลับระหว่างที่เดินทางไปโตเกียว
เงื่อนไขภารกิจ:
1. ได้รับรางวัลผลงานดีเด่นของปีนี้
2. มีส่วนร่วมในการกำหนดแนวทางปฏิบัติทางการแพทย์บริเวณทวารหนักของปีนี้
กำลังสรุปผล โปรดรอสักครู่…]
[แจ้งเตือน ภารกิจดังกล่าวเป็นภารกิจลับ มีรางวัลมหาศาล
หากทำสำเร็จตามเงื่อนไขหนึ่งข้อจะได้รับโอกาสจับรางวัล 6 ดาว 1 ครั้ง และสุ่มเพิ่มเลเวลวิชาพื้นฐานหนึ่งวิชาเป็นเลเวล 6
หากทำสำเร็จตามเงื่อนไขทั้งสองข้อจะได้รับโอกาสจับรางวัล 6 ดาว 2 ครั้ง และเลือกเพิ่มเลเวลวิชาพื้นฐานวิชาใดก็ได้เป็นเลเวล 6]
ภารกิจนี้เป็นภารกิจลับที่มีรางวัลมหาศาลตามที่ว่าจริงๆ!
เหตุผลที่งานมอบรางวัลถูกเลื่อนออกไป ก็เพราะว่าอัตราสำเร็จของภารกิจนั้นยังไม่สูงมาก จึงเลื่อนออกไปก่อนเพื่อให้ไป๋เยี่ยได้มีโอกาสรับรางวัลมากขึ้นนั่นเอง
ตอนนี้ไป๋เยี่ยได้เป็นทั้งผู้ชนะรางวัลผลงานดีเด่นและเป็นผู้มีส่วนร่วมในการจัดทำแนวทางปฏิบัติทางการแพทย์บริเวณทวารหนัก ภารกิจจึงสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
[ติ๊ง! สรุปผลเสร็จสิ้นแล้ว ยินดีด้วย คุณได้รับโอกาสเพิ่มเลเวลวิชา 1 ครั้ง เลือกเพิ่มเลเวลวิชาพื้นฐานใดก็ได้ขึ้นเป็นเลเวล 6]
[ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับโอกาสจับรางวัล 6 ดาว 2 ครั้ง รางวัลไม่มีหมวดหมู่ รางวัลที่สุ่มได้จึงอาจจะอยู่ในหมวดใดก็ได้]
ไป๋เยี่ยสัมผัสได้ถึงรสชาติของชีวิต ยังไม่ทันทำอะไรก็มีคนยื่นมือมาช่วยเหลือเสียแล้ว คิดอยากอัปเลเวลวิชาก็ได้รางวัลจากการทำภารกิจมาพอดี
นี่แหละนะ การเปิดใช้งานสมาชิกตลอดชีพ…คือชีวิตที่สมบูรณ์แบบ…
แค่กๆ ผ่านไปครู่หนึ่ง ไป๋เยี่ยก็เริ่มครุ่นคิด
ตอนนี้เขามีค่าประสบการณ์แบบสุ่มห้าหมื่นแต้ม และมีโอกาสอัปเลเวลวิชาพื้นฐานขึ้นเป็นเลเวลหกหนึ่งครั้ง
ในขณะที่ทักษะกายภาพบำบัดเลเวลห้าต้องมีเลเวลวิชากายวิภาคศาสตร์และวิชากระดูกและข้อถึงเลเวลห้าด้วย
ตอนนี้เลเวลวิชากายวิภาคศาสตร์ของไป๋เยี่ยใกล้จะขึ้นเลเวลสี่เต็มที ส่วนวิชากระดูกและข้อพื้นฐานเพิ่งจะมีเลเวลศูนย์เท่านั้น…
ด้วยการคำนวณอย่างรอบคอบไม่ให้ตนเองเสียผลประโยชน์ ไป๋เยี่ยจึงตัดสินใจอัปเลเวลวิชากระดูกและข้อขึ้นเป็นเลเวลหกด้วย
และเขาต้องใช้ค่าประสบการณ์อีกกว่าสามหมื่นห้าพันแต้มในการอัปเลเวลวิชากายวิภาคศาสตร์ขึ้นเป็นเลเวลห้า ไป๋เยี่ยจึงเลือกอัปเลเวลทันที
[ติ๊ง! วิชาพื้นฐาน: วิชากายวิภาคศาสตร์ได้อัปเกรดเป็นเลเวลห้า]
[ติ๊ง! วิชาพื้นฐาน: วิชากระดูกและข้อได้อัปเกรดเป็นเลเวลหก]
หลังจากอัปเกรดทักษะสองครั้งแล้ว ทักษะกายภาพบำบัดของไป๋เยี่ยก็ปลดล็อกทันที
[ติ๊ง! ปลดล็อกทักษะกายภาพบำบัดเรียบร้อยแล้ว คุณได้รับทักษะเลเวลห้า]
เมื่อหลับตาลง ไป๋เยี่ยก็สัมผัสได้ถึงความรู้จำนวนมากที่แล่นเข้ามาในหัวเขา มันผสมปนเปกันไปหมด…หลังจากที่ตกอยู่ในภวังค์ครู่หนึ่ง ไป๋เยี่ยก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น
กายภาพบำบัดเป็นทักษะทั่วไปที่พบได้ในแผนกศัลยกรรมกระดูกเพื่อที่จะทดสอบฝีมือของแพทย์ โดยมีจุดเน้นที่การรักษาอาการกระดูกเคลื่อน กระดูกเคล็ด ข้อเคลื่อนและกระดูกหัก…
หัวใจสำคัญคือลดอาการบาดเจ็บ โดยใช้วิธีกายภาพบำบัดที่ไม่ก่อให้เกิดบาดแผล ซึ่งช่วยลดความยุ่งยากในการรักษา ลดโอกาสติดเชื้อและที่สำคัญคือมีค่าใช้จ่ายไม่แพง!
หัตถการเกี่ยวกับกระดูกและข้ออาจจะมีค่าใช้จ่ายสูงเป็นหมื่นหยวน แค่ตะปูหรือเหล็กดามไม่กี่ชิ้นก็มีราคาสูงแล้ว ไม่รวมถึงค่าผ่าตัด เย็บแผลและค่าหมอ ค่าพยาบาลอีก…
กายภาพบำบัดเป็นวิธีการรักษาที่ทำได้ง่าย เมื่อทำกายภาพบำบัดเสร็จก็รักษาต่อด้วยการใส่เฝือกก็เพียงพอแล้ว
แน่นอนว่าการทำกายภาพบำบัดก็มีข้อจำกัดเช่นกัน เคสกระดูกหักหลายเคสก็ไม่เหมาะกับการรักษาด้วยการทำกายภาพบำบัด ที่สำคัญคือทักษะนี้มีความยากในการเรียนรู้ ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ
และเพราะว่าการรักษาด้วยวิธีการนี้ทำเงินได้น้อย ทางโรงพยาบาลจึงไม่ค่อยใส่ใจกับมันนัก
ถึงกระนั้น โรงพยาบาลก็เป็นหน่วยงานหนึ่ง ถ้ากระดูกหักก็รักษาได้ในราคาไม่กี่ร้อยหยวนด้วยวิธีกายภาพบำบัด ในขณะที่วิธีผ่าตัดมีค่าใช้จ่ายกว่าสองหมื่นหยวน…艾琳小說
ใครจะยอมจ่าย
แต่คิดหรือว่ากายภาพบำบัดจะง่ายขนาดนั้น เกิดคุณเป็นอะไรขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ ถ้ากายภาพบำบัดสำเร็จก็ถือว่าดีไป แต่ถ้าไม่…คุณก็อาจจะพิการไปตลอดชีวิต เตรียมบอกลางานของคุณได้เลย!
นับตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้ามาเป็นหมอ คำสอนแรกที่อาจารย์พร่ำบอกก็คือ ‘เซฟตัวเองด้วย‘
ใช่แล้ว!
เรียนหมอมาเกือบสิบปี ในที่สุดก็ได้ขึ้นวอร์ด แต่ยังไม่ทันได้เริ่มงานก็จบชีวิตในเส้นทางนี้เสียแล้ว…
การ ‘เซฟตัวเอง‘ ที่ว่าหมายถึงการไม่คุยโวโอ้อวด ทำแค่เรื่องที่ตนเองทำได้ เรื่องไหนทำไม่ได้ก็อย่าทำ
เช่น ถ้าคนไข้มีอาการเข้าขั้นวิกฤต ห้ามลองรักษาเองเด็ดขาด ช่วยได้ก็คือได้ ช่วยไม่ได้ก็คือไม่ได้ ห้ามบอกว่าลองรักษาดูเด็ดขาด!
ถึงตอนนั้น คุณจะไม่ได้ล้มเหลวแค่การช่วยชีวิตผู้ป่วย แต่ยังทำให้การติดตามอาการของโรคช้าไปด้วย ซึ่งนั้นถือเป็นความรับผิดชอบของคุณทั้งหมด
ต้องรู้จักเซฟตนเองอย่างชาญฉลาดด้วย
อย่างไรก็ตาม ต้องบอกว่าวิธีกายภาพบำบัดถือเป็นวิธีการรักษาที่ดีจริงๆ ไม่ใช่แค่กับกระดูกและข้อเท่านั้น แต่ยังดีต่อการรักษาอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ การนวดและการยืดกล้ามเนื้ออีกด้วย
และเมื่อพูดถึงกายภาพบำบัด เราก็ต้องมีความเข้าใจในระบบกล้ามเนื้อและกระดูกของมนุษย์ด้วย จึงจะจัดระเบียบโครงสร้างต่างๆ เหล่านี้ได้
ไป๋เยี่ยพลันคิดว่าเขาน่าจะหาอาชีพเสริมจากทักษะนี้อย่างไปเป็นหมอนวดก็ได้~
ทว่าการนวดและกายภาพบำบัดก็ยังมีจุดที่แตกต่างกันอยู่บ้าง
ขั้นตอนต่อไปคือต้องอัปเลเวลทักษะการฉายรังสีขึ้นเป็นเลเวลสี่ ตอนนี้ไป๋เยี่ยมีค่าประสบการณ์เหลืออยู่หนึ่งหมื่นห้าพันแต้ม แน่นอนว่าไม่พอ จากเลเวลศูนย์ไปเลเวลสี่ต้องใช้ค่าประสบการณ์หนึ่งหมื่นเก้าพันแต้ม หมายความว่าเขายังขาดค่าประสบการณ์อีกสี่พันแต้ม ช่วงนี้คงต้องพยายามให้หนักหน่อยแล้ว
ต่อไปก็ได้เวลาจับรางวัล!
เมื่อนึกถึงโอกาสจับรางวัลระดับหกดาวสองครั้ง ไป๋เยี่ยก็อดตื่นเต้นไม่ได้
จู่ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังแทรกขึ้นมา
ไป๋เยี่ยคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาและพบว่าคนที่โทรมาคือหัวหน้าเหอที่ส่งใบสมัครมาให้เขานั่นเอง
ไป๋เยี่ยชิงทักทายก่อน “สวัสดีครับ หัวหน้าเหอ”
อีกฝ่ายยิ้ม “เสี่ยวเยี่ย ใบสมัครของคุณได้รับการอนุมัติแล้ว แต่เราต้องใช้รูปถ่ายและลายเซ็นของคุณด้วย คุณต้องมาที่นี่เองนะ”
ที่แท้ก็เป็นเรื่องอนุมัติใบสมัครโครงการเชียนเหรินนี่เอง
หัวหน้าเหอกล่าวเสียงเบา “แล้วก็ ‘ท่าน’ อยู่ที่นี่ด้วย คุณรีบมาหน่อยก็ดี พอดีว่า ‘ท่าน’ ก็อยากเจอคุณเหมือนกัน”
ไป๋เยี่ยได้ยินดังนั้นก็ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว แววตาของเขาเปล่งประกายขึ้นมาในทันใด!
พูดไม่ทันขาดคำจริงๆ ดูเหมือนวันนี้เราจะมีวาจาศักดิ์สิทธิ์!
‘ท่าน’ อยากเจอ ทั้งทีก็ต้องไปสิ! ต้องไปแน่นอน!
ไม่ใช่แค่ไปอย่างเดียว ได้จับมือด้วยก็ยังดี…