สูตรโกงฉบับเด็กเรียน - บทที่ 257 ความผิด!
บทที่ 257 ความผิด!
เดิมทีเรื่องนี้เป็นเพียงข่าวซุบซิบและไม่ได้รับความสนใจจากผู้คนมากนัก อย่างไรเสีย ดาราก็เป็นฐานันดรพิเศษ แค่เผลอตดก็ติดบอร์ดฮ็อตเสิร์ชแล้ว
สิ่งที่นักข่าวซุบซิบถนัดคือการบิดเบือนข้อมูลเป็นเรื่องปกติ
บางทีนักข่าวบันเทิงคนนี้อาจแค่อยากเล่าเรื่องของหวงจิ้ง ทว่าไป๋เยี่ยกลับกลายเป็นประเด็นแทน
แต่การแนบรูปของไป๋เยี่ยด้วยแบบนี้ชักน่าสงสัยว่าจะไม่ใช่การให้อั่งเปาทั่วๆ ไป
การปล่อยเฟคนิวส์ถือเป็นความผิด!
ไป๋เยี่ยขมวดคิ้ว พลันรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา ไม่ว่าใครถูกใส่ไฟแบบนี้ก็คงรู้สึกแย่กันหมด
แม้ว่าตอนนี้จะไม่ค่อยมีคนสนใจเรื่องนี้ แต่การเผยแพร่ข่าวผ่านทางออนไลน์นั้นรวดเร็วมากและอาจก่อประเด็นร้อนขึ้นมาได้ในระยะเวลาอันสั้น
ถังฮั่นเห็นดังนั้นก็ถามขึ้น “มีอะไรเหรอ”
ไป๋เยี่ยยังคงยิ้ม “มีคนเล่นงานผมอยู่”
เมื่อคนอื่นได้ฟังก็เกิดความสงสับขึ้น ตอนนี้ไป๋เยี่ยเป็นหุ้นส่วนและเสาหลักแห่งอนาคตของน่าย่า ใครกำลังเล่นงานเขากันแน่
ต่างคนต่างผลัดกันรับโทรศัพท์มาอ่านข่าว เมื่ออ่านจบแล้วพวกเขาก็ได้แต่อึ้ง
ถังฮั่นพูดหยอก “เหอะๆ เดี๋ยวนี้สื่อพัฒนาเร็วจัง ใครๆ ก็โพสต์บทความลงเน็ตได้ทั้งนั้นแหละ แถมยังไม่กลัวโดนเอาเรื่องด้วย!”
เฉินนั่วเหยียนพยักหน้า “ได้เลย ไว้ผมจะจัดการเรื่องนี้ให้เอง ผมสนิทกับเจ้าของเว็บไซต์นี้ เดี๋ยวจะบอกให้เขาลบออกให้”
เฉียนหย่าอวี้หัวเราะแห้ง “เหอะๆ ในซองก็มีแค่หมื่นกว่าหยวนเท่านั้นแหละ ไม่รู้อะไรกันบ้างเลย เสี่ยวเยี่ยของพวกเราแจกโบนัสสิ้นปีให้พนักงานคนละร้อยล้าน แค่หมื่นหยวนจะไปสู้อะไรได้”
ทุกคนพากันหัวเราะลั่น เป็นเช่นนั้นจริงๆ อย่าว่าแต่เงินหมื่น แม้แต่เงินแสนไป๋เยี่ยยังไม่สนใจเลย
ใครจะยอมทำลายชื่อเสียงของตนเองเพียงเพราะรับอั่งเปาซองเดียวกันล่ะ
เฉินนั่วเหยียนหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเจ้าของเว็บไซต์ ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย แค่พูดคุยกันเล็กน้อยก็ตกลงกันได้แล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่สักนิด
สำหรับทุกคนตรงนี้แล้ว เรื่องนี้เป็นแค่เรื่องขี้ปะติ๋ว เพียงขอให้เฉินนั่วเหยียนยกโทรศัพท์หาเจ้าของเว็บไซต์เรื่องก็เงียบแล้ว
ทุกคนถือโอกาสนี้ดื่มกันเล็กน้อย ดื่มจนมีความสุขแล้วบรรยากาศก็จะมีชีวิตชีวาขึ้น แม้ว่าจะไม่ได้เล่าทุกเรื่อง แต่ทุกคนก็จะเล่าสิ่งที่ตนอยากเล่าออกมาได้ตามต้องการ
เฉินนั่วเหยียนดื่มหนักสุดทั้งที่ตนคออ่อนที่สุด ส่วนเฉียนหย่าอวี้ก็คอยรินเหล้าให้เขาพลางยิ้มไปด้วย ในขณะที่ถังฮั่นเป็นคนที่รักษาภาพพจน์ จึงไม่ดื่มเยอะนัก แต่ก็ไม่ได้ปล่อยให้บรรยากาศเงียบ
ส่วนไป๋เยี่ยจะค่อนข้างเป็นคนสบายๆ ไม่ค่อยปฏิเสธใคร เพราะเขาก็ดื่มได้
ทุกคนดื่มกันตั้งแต่ที่โรงแรมมาจนถึงร้านคาราโอเกะ เฉินนั่วเหยียนโทรเรียกสาวๆ มาร้องเพลงเป็นเพื่อนเขา
ทุกคนสังสรรค์กันจนค่ำ จากนั้นก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
วันรุ่งขึ้น ไป๋เยี่ยก็เตรียมไปขึ้นวอร์ดที่โรงพยาบาลตามปกติ ช่วงนี้ผู้ป่วยลากลับบ้านเกือบทุกคนแล้ว ไป๋เยี่ยจึงมีเวลาว่าง วันนี้บริษัทกำลังจะแจกโบนัสสิ้นปี ในฐานะที่ไป๋เยี่ยเป็นหุ้นส่วนจึงต้องไปเข้าร่วมด้วย
แต่เมื่อเขามาถึงแผนกในตอนเช้า เขาก็สังเกตว่าบรรยากาศการเปลี่ยนกะนั้นดูไม่ชอบกลสักเท่าไหร่ หลี่เจี้ยนเหว่ยเองก็ขมวดคิ้วแน่น ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ แพทย์คนอื่นๆ ก็เอาแต่เงียบไม่พูดไม่จา เมื่อเห็นไป๋เยี่ยเดินเข้ามา ทุกคนก็หันมาทางไป๋เยี่ยทันที
ไป๋เย่ถามหลิวเสี่ยวกังอย่างสงสัย “มีอะไรกันเหรอครับ อาจารย์หลิว”
หลิวเสี่ยวกังชะงัก “นี่คุณไม่รู้เหรอ”
ไป๋เยี่ยส่ายหัวไปมาด้วยความงุนงง
จู่ๆ หลี่เจี้ยนเหว่ยก็เอ่ยขึ้น “นักศึกษาฝึกงานออกไปสักครู่ หมออยู่ที่นี่ก่อน มาประชุมกัน”
นักศึกษาที่อยู่รอบๆ ทยอยเดินออกไปข้างนอกทีละคน ทันทีที่ประตูปิดลง หลี่เจี้ยนเหว่ยก็พูดต่อ “ไป๋เยี่ย ลองเปิดเวยป๋อสิ”
ทันทีที่ไป๋เยี่ยเปิดเวยป๋อขึ้นมา ก็มีข้อความหนึ่งปรากฏขึ้นบนบอร์ดฮ็อตเสิร์ช
[หมอที่โรงพยาบาลผู่เจ๋อรับอั่งเปา หวงจิ้งถูกย้ายโรงพยาบาล]
ไป๋เยี่ยเข้าใจได้ในทันที ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง!
หลังจากกดเข้าไปในลิงก์แล้ว ก็พบว่ามีการค้นหาและคอมเมนต์เกี่ยวกับเรื่องนี้นับแสนรายการ ซึ่งทั้งหมดล้วนเกี่ยวกับประเด็นหมอกระดูกและข้อที่ผู่เจ๋อรับซองอั่งเปา
มีคนถ่ายภาพตอนที่ไป๋เยี่ยกำลังปฏิเสธซองอั่งเปาจากหวังชงและภาพอั่งเปาซองหนาบนโต๊ะไว้รูปถ่าย
แถมด้านล่างก็ยังมีคอมเมนต์จำนวนมาก
[หมอต้องมีคุณธรรม แต่หมอทุกวันนี้จิตใจต่ำทรามลงมาก หมอแบบนี้ต้องถูกล่าแม่มด! ต้องถูกเปิดโปง!]
[ใช่แล้ว หวงจิ้งของพวกเราขาหักจนหมดสภาพแบบนั้นยังจะรับเงินอีก ยังมีจรรยาบรรณอยู่บ้างไหม รับเงินมาแต่ไม่ยอมรักษาเพราะเห็นแก่เงินสินะ]
[…]
[โรงพยาบาลผู่เจ๋อจะต้องมีบทลงโทษสำหรับปลาเน่าที่แฝงตัวอยู่ในทีมแพทย์!]
[ในซองหนาๆ นั่นมีอยู่หมื่นหยวนเลยไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงไม่รักษาล่ะ หนึ่งหมื่นนี่ยังไม่พออีกเหรอ]
[พวกเขาอาจจะอยากได้สักแสน เข้าใจไหม]
คอมเมนต์ล่างๆ ยิ่งด่ากันหยาบคายไปใหญ่ บ้างก็ด่าไป๋เยี่ยสาดเสียเทเสีย
อย่างไรก็ตาม ทุกคนก็สังเกตว่าช่วงนี้หวงจิ้งไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหวเลย ราวกับว่าเรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเธอ
หวงจิ้งกลายเป็นผู้เสียหายของเรื่องนี้ แฟนคลับกว่าสิบล้านคนบนเวยป๋อต่างส่งข้อความอวยพรเธอ โดยหวังว่าไอดอลของพวกเขาจะหายดีในเร็ววัน
[มาสนับสนุนไอดอลของเราในการต่อสู้กับคนชั่วเถอะ หยุดสร้างความเสื่อมเสียให้สังคมแล้วหันมาทำตามไอดอลดีกว่า]
[หวังว่าไอดอลของฉันจะหายไวๆ แล้วมีผลงานการแสดงสุดน่าทึ่งออกมาเยอะๆ]
[ถ้าอาการของหวงจิ้งสุดที่รักของพวกเราแย่ลงกว่านี้เพราะความล่าช้าล่ะก็ แฟนๆ นับล้านจะไปจิกหัวลากเศษขยะอย่างแกมาแน่ๆ!]
ในสายตาของแฟนๆ หวงจิ้งกลายเป็นผู้ต่อต้านความเสื่อมเสียในสังคม ในขณะที่ไป๋เยี่ยกลายเป็นผู้ร้ายที่เห็นแก่เงินและคิดจะโกงเงินดารา
ไป๋เยี่ยอ่านจบก็ส่ายหัวไปมา เขาปิดหน้าจอโทรศัพท์ลงและพูดขึ้น “ผมไม่ได้รับซองนั้นมา”
หลี่เจี้ยนเหว่ยพยักหน้า “เสี่ยวกังเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟังอย่างละเอียดแล้ว เราต้องต่อสู้กับเรื่องนี้ จะไม่มีการประนีประนอมเรื่องพรรค์นี้เด็ดขาด! ไม่ต้องห่วงนะเสี่ยวเยี่ย ทางโรงพยาบาลจะเป็นพยานให้คุณเอง! ขอแค่มีพวกผมก็ไม่ต้องกังวลแล้ว!”
บ่ายวันนั้น หลี่เจี้ยนเหว่ยและไป๋เยี่ยก็ไปที่ศูนย์ควบคุมกล้องวงจรปิดเพื่อขอดูเทปบันทึกจากกล้องวงจรปิดบริเวณห้องทำงานแพทย์และโถงทางเดินในระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์นี้
เทปวงจรปิดภายในโรงพยาบาลจะถูกเก็บไว้เป็นเวลาสองสัปดาห์ โชคดีที่เหตุการณ์นี้เพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นานนัก ภาพเหตุการณ์ในห้องทำงานจึงถูกกู้คืนมาทั้งหมด
กล้องในโรงพยาบาล ธนาคาร ห้องเรียนและสำนักงานราชการหลายแห่งนั้นมีฟังก์ชั่นบันทึกเทปที่ต่างจากกล้องทั่วไป
เนื่องจากโรงพยาบาลเป็นสถานที่ที่มีข้อพิพาททางการแพทย์เกิดขึ้นบ่อยครั้ง จึงต้องให้ความสำคัญกับการรวบรวมหลักฐานเป็นพิเศษ กล้องในห้องทำงานแพทย์ส่วนใหญ่จึงต้องมีฟังก์ชั่นบันทึกเทปด้วย
เมื่อภาพเหตุการณ์ถูกกู้คืนมาแล้ว ความจริงก็ถูกเปิดเผยทันที!
หลี่เจี้ยนเหว่ยเห็นว่าหวงจิ้งเป็นคนบอกให้หวังชงวางซองจดหมายไว้บนโต๊ะแล้วถ่ายรูปเก็บไว้
หลี่เจี้ยนเหว่ยแค่นหัวเราะ “มองว่าพวกเราโง่มากเลยสินะ!”
ไป๋เยี่ยได้แต่หยิบโทรศัพท์ออกมาเงียบๆ และกดโทรหาหมายเลขแปลกแต่ก็คุ้นเคยในเวลาเดียวกัน
ไป๋เยี่ยเป็นคนรักษาภาพพจน์ของตนเอง ถ้าคนอื่นดีต่อเขาเขาก็ดีตอบ แต่ถ้ามีคนมาระรานเขาล่ะก็ เขาไม่มีวันปล่อยไว้แน่!
ไป๋เยี่ยไม่มีทางเห็นใจศัตรูเด็ดขาด!
ทันทีที่กดโทรออก ไป๋เยี่ยก็ตัดสายลง ถ้าพึ่งพาเขาด้วยเรื่องขี้ปะติ๋วแค่นี้ดูจะเล่นใหญ่เกินไปหน่อย
รอก่อนเถอะ!
หลังจากที่หลี่เจี้ยนเหว่ยและไป๋เยี่ยรวบรวมหลักฐานเสร็จแล้ว พวกเขาก็ไปหาที่ปรึกษาด้านกฎหมายของโรงพยาบาลทันที
ข้อพิพาททางการแพทย์มักเกิดขึ้นในโรงพยาบาล ดังนั้นที่ปรึกษาด้านกฎหมายจึงได้รับการว่าจ้างด้วยเงินเดือนที่สูงมาโดยตลอด
หลังจากที่ปรึกษาทราบเรื่องแล้ว เขาก็พยักหน้า “ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเราเถอะ!”
ไม่นานหลังจากนั้น โรงพยาบาลผู่เจ๋อก็ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ
[ทางโรงพยาบาลจะแถลงเกี่ยวกับกรณีซองจดหมายที่นักศึกษาแพทย์ไป๋เยี่ยได้รับโดยละเอียด ทางโรงพยาบาลไม่เคยรับซองจดหมายจากคุณหวงจิ้งแม้แต่ซองเดียว ในทางกลับกัน เงินจำนวนหนึ่งหมื่นหยวนนั้นได้ถูกเก็บเป็นค่ามัดจำในการเข้ารับการรักษาพยาบาลแล้ว จนถึงทุกวันนี้ อีกฝ่ายก็ยังคงไม่มาทำเรื่องออกจากโรงพยาบาล การเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จในครั้งนี้…จะถือว่ามีความผิดทางกฎหมายอาญา
ทางโรงพยาบาลจะเอาผิดคุณหวงจิ้งตามความผิดที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด และจะดำเนินคดีกับคุณหวงจิ้งข้อหาใส่ร้ายนักศึกษาแพทย์ไป๋เยี่ย…]
และในวันเดียวกัน บรรดาคนที่แชร์ข่าวของผู่เจ๋อเกินห้าร้อยครั้งก็ได้รับหมายศาลอิเล็กทรอนิกส์กันถ้วนหน้า
นี่ไม่ใช่เรื่องตลก บัญชีผู้ใช้ที่ผ่านการยืนยันตัวตนบนเวยป๋อล้วนมีชื่อสกุลจริง ในยุคที่ข้อมูลมีความสำคัญเช่นนี้ การรวบรวมข้อมูลผู้ใช้ไว้ถือเป็นเรื่องที่ควรระวัง
หมายศาลฉบับกระดาษก็คงจะไปถึงในไม่ช้าแล้ว