สูตรโกงฉบับเด็กเรียน - บทที่ 308 ปฏิเสธ
บทที่ 308 ปฏิเสธ
เฉินเจิ้นปั่งจริงจังมาก หากก่อนหน้านี้เขาเกิดสงสัยในความสามารถของไป๋เยี่ย เขาก็คงส่งคำเชิญให้ไป๋เยี่ยไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าคำเชิญนั้นจะจริงจังหรือไม่ ไป๋เยี่ยก็มีแผนของตนเองอยู่แล้ว
เข้าร่วมกองทัพงั้นเหรอ
ไม่มีทาง
แต่ถ้าเป็นการสร้างระบบแพทย์ภาคสนาม เขาทำได้
นั่นหมายความว่าอย่างไร
เถ้าแก่ไป๋และไป๋เยี่ยพูดคุยกันถึงเรื่องนี้แล้ว ทั้งฝักฝ่าย แวดวงและทีมคือสิ่งที่ไม่มีวันมั่นคง
หากคุณต้องการยืนหยัดและก้าวไปได้ไกลขึ้น คุณจะต้องสร้างฝ่ายของคุณเอง
นี่คือเงื่อนไขเพื่อความอยู่รอดเพียงหนึ่งเดียว
ไป๋เยี่ยมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยที่สุดอยู่ในมือ ซึ่งการรักษาพยาบาลเป็นงานที่มุ่งเน้นการบริการอย่างหนึ่ง
ไป๋เยี่ยไม่ใช่เด็กที่ไม่เข้าใจอะไรเลย เมื่อเขาเห็นว่าผู้มีอำนาจให้ความไว้วางใจเขา เขาก็รู้สึกปลาบปลื้มไม่น้อยเลย
กลับกัน ประสบการณ์ที่เขาสั่งสมมานับหลายปีก็สอนเขาว่าบางสิ่งบางอย่างก็ไม่ใช่อย่างที่คุณเห็น คุณต้องมีจิตใจที่หนักแน่นพอ
หากคุณยังมองไม่เห็นสิ่งนั้น การป้องกันตนเองอย่างชาญฉลาดก็ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดเสมอ
อย่างไรก็ตาม ไม่มีอะไรสามารถขัดขวางความเคารพของไป๋เยี่ยที่มีต่อเฉินเจิ้นปั่งได้ ไม่ใช่เพราะเฉินเจิ้นปั่งมีตำแหน่งที่สูงส่ง แต่เป็นเพราะต่อให้เขาจะมีตำแหน่งสูงเพียงใดก็ยังคงทำเพื่อทหารคนอื่นๆ ด้วย เพียงแค่นี้ก็ควรค่าแก่การเคารพแล้ว
ไป๋เยี่ยมองดูเฉินเจิ้นปั่งผู้เคร่งขรึมก่อนจะเอ่ยอย่างจริงจัง “ผมจะช่วยก่อตั้งทีมกู้ภัยฉุกเฉินครับ แล้วผมก็จะช่วยปลูกฝังบุคลากรด้านการแพทย์ฉุกเฉินด้วย ทั้งหมดนั้นผมทำได้ครับ”
เมื่อเฉินเจิ้นปั่งได้เห็นความมุ่งมั่นจริงจังของไป๋เยี่ย เขาก็รู้สึกเบิกบานใจจนยิ้มออกมา
ทันทีที่รถจอดลงหน้าประตูห้องทำงาน เฉินเจิ้นปั่งก็พาไป๋เยี่ยเข้าไปด้านใน
เมื่อเข้ามาแล้ว เฉินเจิ้นปั่งก็ยังคงรู้สึกตื่นเต้นอยู่เล็กน้อย หากไป๋เยี่ยฝึกฝนกลุ่มบุคลากรระดับสูงได้จริง มันจะเป็นประโยชน์ต่อความมั่นคงทางการแพทย์ของกองทัพแน่นอน
เฉินเจิ้นปั่งโพล่งออกมาทันที “ดีมาก! ไว้ถึงวันนั้นเมื่อไหร่ ผมจะเลื่อนตำแหน่งให้คุณ!”
ไป๋เยี่ยยิ้มพลางส่ายหัวไปมา เฉินเจิ้นปั่งใจกว้างมากถึงขั้นจะเลื่อนตำแหน่งให้เขา
ตำแหน่งทางทหารอาจเป็นตำแหน่งที่เลื่อนขึ้นได้ยากที่สุดแล้ว
หากพูดกันตามตรง ไป๋เยี่ยไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย เขาจึงส่ายหัวไปมาและพูดกับเฉินเจิ้นปั่ง “ท่านครับ ผมเกรงใจท่านมากเลย แต่ว่า…ผมไม่ได้จะเข้าร่วมกองทัพน่ะครับ ผมซาบซึ้งในน้ำใจของท่านนะครับ”
หัวใจของเฉินเจิ้นปั่งเต้นระรัว ถึงแม้ว่าเขาจะเตรียมใจไว้แล้ว แต่เขาก็ยังหวังว่าไป๋เยี่ยจะมาเข้าร่วมด้วย
แต่สุดท้าย…ไป๋เยี่ยก็ปฏิเสธ
เฉินเจิ้นปั่งถอนหายใจ “ทำไมล่ะ”
ไป๋เยี่ยตอบ “ผมเป็นคนรักอิสระครับ เลยคิดว่าตัวเองน่าจะไม่เข้ากับบรรยากาศเคร่งครัดในทัพ แล้วผมก็คิดว่าลักษณะงานของผมที่ต้องเดินทางไปไหนมาไหนบ่อยๆ…อาจจะไม่เหมาะกับการเข้าร่วมกองทัพเท่าไหร่ครับ”
อันที่จริงการเป็นทหารนั้นมีข้อจำกัดมากมาย ซึ่งเหตุผลของไป๋เยี่ยต่อเรื่องนี้ก็ค่อนข้างมีมูล
“พ่อของคุณเป็นไงบ้าง” ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเฉินเจิ้นปั่งถึงยิงคำถามนี้ออกมา ไป๋เยี่ยนิ่งไป เขาไม่คิดเลยว่าจู่ๆ เฉินเจิ้นปั่งจะถามถึงเถ้าแก่ไป๋ มันช่างทำให้เขารู้สึกประหลาดใจจริงๆ
“สบายดีครับ ขอบคุณที่เป็นห่วงครับท่าน”
เฉินเจิ้นปั่งถอนหายใจก่อนจะถอดหมวกออกมาวางลงบนโต๊ะ แล้วจึงเอ่ยช้าๆ “จริงๆ แล้ว ตอนนั้นผมก็ชื่นชมตงหลินมากนะ ผมรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนั้นคงทำให้เขาเจ็บใจ … ”
ไป๋เยี่ยแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ ได้แต่ฟังเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไร
จนในที่สุดเฉินเจิ้นปั่งก็พูดขึ้น “ถ้าเขามีเวลาก็มานั่งดื่มกับผมหน่อยสิ หลังจากที่เขาออกไปก็ไม่เคยมาที่นี่อีกเลย ได้ยินว่าแม้แต่งานเลี้ยงของเพื่อนรุ่นเดียวกันเขายังไม่เคยไปเลย”
ไป๋เยี่ยยิ้มแห้ง “ผมจะบอกเขาแน่นอนครับ”
ทันทีที่ไป๋เยี่ยพูดจบ ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบชั่วครู่ เฉินเจิ้นปั่งกำลังคิดเรื่องหนึ่งอยู่ ถ้าไป๋เยี่ยช่วยกองทัพสร้างทีมแพทย์แล้ว เขาจะตอบแทนไป๋เยี่ยอย่างไรดี
หลังจากนั้นไม่นาน เฉินเจิ้นปั่งก็ถามขึ้น “คุณอยากได้โรงพยาบาล 980 เหรอ”
เมื่อไป๋เยี่ยได้ยินเฉินเจิ้นปั่งเริ่มหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา เขาก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย เรื่องแบบนี้เราควรออกปากเองไม่ใช่เหรอ
ไป๋เยี่ยเองก็ไม่อ้อมค้อมใดๆ เขาได้แต่จ้องไปที่เฉินเจิ้นปังแล้วพยักหน้า “ใช่ครับ ผมต้องการสร้างสถาบันวิจัยกระดูก ซึ่งต้องใช้โรงพยาบาล 980 เป็นสถานที่ก่อตั้ง”
หลังจากที่เฉินเจิ้นปั่งได้ฟังคำพูดของไป๋เยี่ย เขาก็เงียบและจ้องมองไปข้างหน้าโดยไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
ผ่านไปราวๆ สองสามนาที เฉินเจิ้นปั่งก็จ้องเข้าไปในดวงตาของไป๋เยี่ย “บางที…ผมอาจจะยกมันให้คุณได้”
ไป๋เยี่ยถึงกับตะลึง เขาไม่คิดเลยว่าเฉินเจิ้นปั่งจะพูดอย่างนั้น!
นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ นี่เป็นโครงการใหญ่ที่มีมูลค่ามากกว่าหนึ่งพันล้านหยวน ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ยักษ์ ไม่ว่าจะสำหรับใครก็ตาม
ถึงแม้ว่าพื้นที่เขตกองทัพจะใหญ่โต แต่โรงพยาบาล 980 ก็ไม่ใช่สิ่งที่เฉินเจิ้นปั่งคิดจะให้ใครง่ายๆ!
จริงที่ว่าเฉินเจิ้นปั่งตัดสินใจเพียงลำพังไม่ได้ แต่ในฐานะที่เขาเป็นบุคคลระดับสูงในกองทัพ เขาจึงมีอำนาจในการตัดสินใจขั้นสุดท้าย
ไป๋เยี่ยเอ่ยปาก เขาไม่รู้จะพูดอะไรเลยจริงๆ “เอ่อ…หัวหน้า สะดวกไหมครับ”
เฉินเจิ้นปั่งเงียบไป ก่อนจะเอ่ย “ถ้าคุณจะใช้มันสร้างบ้าน ผมคงไม่สะดวกแน่นอน แต่ถ้าคุณใช้มันเพื่อสร้างสถาบันวิจัย ผมสะดวกมาก”
ไป๋เยี่ยถึงกับชะงัก หมายความว่าไง
ทันใดนั้นเฉินเจิ้นปั่งก็ถามขึ้น “แล้ว…บนพื้นที่ขนาดใหญ่ขนาดนี้ คุณวางแผนจะสร้างสถาบันวิจัย ‘อย่างเดียว’ จริงเหรอ”
เฉินเจิ้นปั่งเน้นเสียงคำว่า ‘อย่างเดียว’
ทันใดนั้น ไป๋เยี่ยก็เบิกตากว้าง เขารู้สึกราวกับว่าในหัวสมองของเรามีหน้าต่างเปิดอยู่
ใช่แล้ว!
เราสามารถสร้าง ‘สถาบันวิจัยการแพทย์ฉุกเฉิน’ พร้อมกันได้ด้วย!
เมื่อเฉินเจิ้นปั่งเห็นว่าไป๋เยี่ยตระหนักได้แล้วก็คลี่ยิ้มบางๆ “การช่วยกองทัพฝึกฝนบุคลากรด้านการแพทย์ฉุกเฉินนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่ทำได้ในหนึ่งหรือสองวัน”
“นี่เป็นภารกิจระยะยาวที่เด็ดเดี่ยวและสำคัญ ผมคิดว่าถ้าคุณสร้างสถาบันวิจัยการแพทย์ฉุกเฉินในที่ตั้งของโรงพยาบาล 980 มันจะเป็นประโยชน์ต่อการฝึกอบรมบุคลากรในอนาคต!”
ไป๋เยี่ยไม่คาดคิดว่าเฉินเจิ้นปังจะคิดเรื่องนี้ได้ จึงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ทว่านี่ก็เป็นวิธีที่ดีที่สุด ในการที่เขาจะได้ที่ดินมาครอบครอง
อย่างไรก็ตาม ไป๋เยี่ยเองก็ไม่เคยคาดหวังว่าสิ่งดีๆ จะเกิดขึ้น
เฉินเจิ้นปั่งพูดต่อ “การสร้างทีมแพทย์ฉุกเฉินเป็นแนวทางที่กองทัพของเรากำลังดำเนินการและปรับปรุงมาโดยตลอด นี่คือสิ่งที่กองทัพจำเป็นต้องทำ เราปล่อยให้คุณใช้จ่ายเงินเพื่อมันเองไม่ได้”
คำพูดของเฉินเจิ้นปั่งทำให้ดวงตาของไป๋เยี่ยลุกเป็นประกาย
หมายความว่าไง
ผู้บัญชาการก็คือผู้บัญชาการ เขาต้องมีอะไรแน่ๆ!
เมื่อพูดมาถึงขนาดนี้แล้ว เฉินเจิ้นปั่งก็พูดต่อ “อย่างไรก็ตาม ผมจำเป็นต้องหารือเรื่องนี้กับผู้บังคับบัญชาสูงสุดก่อน อย่างไรเสีย ผมก็ไม่ใช่คนตัดสินใจทั้งหมด ช่วงนี้คุณก็เตรียมเรื่องให้พร้อมแล้วก็รอฟังข่าว เตรียมสร้างสถาบันวิจัยได้เลย”