สูตรโกงฉบับเด็กเรียน - บทที่ 327 ลาออกทั้งทีม
บทที่ 327 ลาออกทั้งทีม
หลายๆ คนมักจะนำการประชุมทั้งสองแห่งมาเปรียบเทียบกันด้วยเหตุผลหลายประการ
และหลายคนก็เชื่อว่าโมลโดและไป๋เยี่ยพ่ายแพ้จนขายหน้าเลยด้วยซ้ำ
เพราะการประชาสัมพันธ์อย่างล้นหลามล้วนมุ่งตรงไปที่มอริสและคนอื่นๆมากกว่า มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่เอ่ยถึงไป๋เยี่ย
หลังการประชุมจบลง นิตยสารและบล็อกต่างๆ ก็เริ่มพูดถึงผลการประชุม
ทว่าสื่อส่วนใหญ่กลับให้ความสนใจกับการประชุมที่เยอรมันมากกว่า การประชุมของไป่เยี่ยที่จีนจึงม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร
เมื่อสิ้นสุดการประชุมแล้ว ก็มีสำนักวารสารวิชาการหลายเจ้าติดต่อหามอริส โดยหวังว่าจะนำเนื้อหาและเอกสารในที่ประชุมออกมาเผยแพร่ลงวารสารของตนเองได้
มอริสจะเป็นคนเลือกวารสารที่จะตีพิมพ์เนื้อหาเหล่านั้นลงไป ทั้งหมดล้วนเป็นความสำเร็จในการรักษาที่พวกเขาได้ประสบและค้นคว้ามาตลอดหลายปีที่ผ่านมา
‘วารสารกระดูกและข้อแห่งเยอรมนี’ เป็นหนึ่งในวารสารสาขากระดูกและข้อที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลก โดยมีคะแนนไอเอฟสูงถึง 14.5 คะแนน
เพราะฉะนั้นเนื้อหาการบรรยายของการประชุมครั้งนี้จึงถูกตีพิมพ์ลงวารสารดังกล่าว แต่เพราะมีบทความค่อนข้างเยอะ จึงได้เลือกมาเพียงบางหัวข้อพิเศษเท่านั้นเพื่อความง่ายในการอ่าน
แต่ถึงกระนั้น ไป๋เยี่ยก็ไม่ได้ปล่อยให้ตนเองว่างแต่อย่างใด หลังจากที่การประชุมจบลง ไป๋เยี่ยก็ได้รวบรวมองค์ความรู้ด้านการศัลยกรรมกระดุกฉุกเฉินขึ้นเป็นหนังสือตามคำแนะนำของเกาเย่ว์หยางเพื่อให้ง่ายต่อการนำไปเผยแพร่
ไป๋เยี่ยไม่ได้ติดใจกับเรื่องนี้สักเท่าไหร่ อันที่จริงการทำความเข้าใจกับองค์ความรู้เชิงปฏิบัติขั้นสูงนี้เป็นเรื่องยาก แม้ว่าจะรวบรวมเป็นรูปเล่มแล้วก็ตาม ถ้าไป๋เยี่ยไม่ได้เป็นคนบรรยายเนื้อหาเหล่านี้เอง คนที่อ่านแค่หนังสือก็อาจจะไม่ได้รับความรู้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย
หลังจากที่ไป๋เยี่ยเรียบเรียงแล้ว เขาก็ติดต่อกับสำนักพิมพ์เพื่อตีพิมพ์หนังสือทันที เพราะว่าไป๋เยี่ยไม่ได้ตั้งใจจะวางแผงขายคนทั่วไปอยู่แล้ว เขาเพียงต้องการจัดทำหนังสือเพื่ออำนวยความสะดวกให้บรรดาผู้เข้าร่วมการประชุมเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในวันที่สามหลังการประชุมจบลง ก็เกิดเรื่องใหญ่ที่ดึงดูดความสนใจของคนจำนวนมากขึ้นในทันใด
สื่อของเยอรมนีรายงาน “วันนี้ ทางเรามีรายงานจากมหาวิทยาลัยไฮเซนเบิร์กว่าบุคลากรจากสถาบันกระดูกและข้อไฮเซนเบิร์กและสถาบันเวชศาสตร์ฉุกเฉินลาออกพร้อมกันเกือบสี่สิบคน ซึ่งในนั้นมีอาจารย์ระดับปริญญาเอกเจ็ดคน อาจารย์ระดับปริญญาโทยี่สิบสองคน ส่วนที่เหลือเป็นนักศึกษาโพสต์ด็อกและปริญญาเอก
กล่าวกันว่าทีมดังกล่าวคือทีมวิจัยชั้นนำของไฮเซนเบิร์ก ซึ่งเคยได้รับรางวัลระดับโลกมามากมาย รวมถึงรางวัลชนะเลิศ คิดค้นนวัตกรรมการศัลยกรรมกระดูกระดับโลก รางวัลความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเยอรมนี… และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย แรงจูงใจให้พวกเขาลาออกทั้งทีมคืออะไรกันแน่”
หลังจากที่ข่าวออกมา มันก็กลายเป็นข่าวใหญ่ในแวดวงทันที ไม่เพียงแต่ในแวดวงวิชาการเท่านั้น แต่สื่อมวลชนเจ้าอื่นๆ เองก็เริ่มตามสืบเรื่องนี้เหมือนกัน
หลังจากที่สื่อตรวจสอบแล้ว ก็พบว่าคนเหล่านี้ล้วนมีส่วนร่วมในการประชุมของโมลโดที่ประเทศจีน ผลลัพธ์ที่ออกมาทำให้ทุกคนรู้สึกตื่นตะลึงเข้าไปใหญ่
เพราะตอนนั้นไม่มีใครคิดว่าจะมีคนให้ความสนใจกับการประชุมของไป๋เยี่ยเลย ช่องว่างระหว่างไป๋เยี่ยกับมอริสนั้นกว้างมาก แต่ทำไมคนเหล่านี้ถึงลาออกกันนะ
หรือจะเป็นเพราะ…ถูกไล่ออกกันแน่
โจนส์ไล่พวกเขาออกเพราะไปเข้าร่วมการประชุมของคนอื่นแต่ไม่มาเข้าร่วมการประชุมของสถาบันตนเองเหรอ
ทว่าเหตุผลนี้ฟังไม่ขึ้นเลยสักนิด เสรีภาพทางวิชาการถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ไม่ว่าใครก็เข้าไปก้าวก่ายไม่ได้ ต่อให้จะเป็นวันหยุดก็ตาม
แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!
ตอนนี้โจนส์กำลังนั่งกังวลอยู่เช่นกัน เขามองดูกองจดหมายลาออกตรงหน้าด้วยสีหน้าหงุดหงิด ภายในใจเต็มไปด้วยความสับสนและขุ่นเคือง
ทำไงดี
ตั้งแต่คนพวกนี้ไปที่เมียนมา หลังจากกลับมาที่นี่ก็ทยอยลาออกทีละคน มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
คนแรกก็โมลโด ต่อมาก็เป็นอาคามอส และตอนนี้ยังมีคนอื่นๆ อีก
จะให้ผอ.แบบเราทำไงล่ะทีนี้
โจนส์ยิ่งคิดก็ยิ่งวิตก
เขาเงยหน้าขึ้นมองโยฮันก่อนจะปรับน้ำเสียงให้ผ่อนคลายลง “คุณโยฮัน ไฮเซนเบิร์กทำอะไรให้คุณเหรอ บอกผมหน่อยสิ”
โยฮันถอนหายใจ “ผอ.ครับ คนเราย่อมมีสิ่งที่ต้องไล่ไขว่คว้าอยู่แล้ว ตอนนี้ผมเองก็พบเป้าหมายของผมแล้ว ผมคิดว่าคุณน่าจะยินดีกับผมหน่อยนะครับ”
โจนส์แทบจะล้มโต๊ะเดี๋ยวนั้นเลย!
ตั้งแต่โมลโดลาออก เขาก็ต้องทนฟังประโยคนี้มามากกว่าสามสิบเกือบสี่สิบครั้ง ทำไมเหตุผลที่ทุกคนลาออกถึงมีแต่เหตุผลนี้ ไม่มีเหตุผลอื่นแล้วเหรอ
ไล่ตามเป้าหมายของตัวเอง?
ทำไมไม่คิดถึงคุณค่าของตัวเองบ้างล่ะ
โจนส์โกรธจนเกือบจะหลุดด่าพ่อล่อแม่ ทว่าโยฮันกลับพูดด้วยด้วยสีหน้าจริงจัง “ผอ.ครับ ในฐานะที่ผมเป็นหมอและนักวิจัย ผมรู้ดีว่าตัวผมเองยังมีข้อบกพร่องหลายจุด ผมไม่อยากให้ความรู้กับใครแบบผิดๆ อีกแล้วครับ ผมจะต้องปรับปรุงและสร้างคุณค่าให้กับตัวเองให้ได้!”
โจยส์รู้สึกราวกับว่าจะกระอักเลือดออกมา เขาข่มความโกรธไว้ภายในใจและบอกให้โยฮันออกไปก่อน
ส่วนเขาก็นั่งอยู่บนเก้าอี้อีกพักใหญ่ๆ ไม่อาจระงับอารมณ์ของตนเองได้
ถ้าการลาออกของโมลโดและอาคามอสคือการสูญเสียผู้นำด้านวิชาการของทั้งสองสาขา เปรียบดั่งการเดินเรือ ขอเพียงเรือยังอยู่ ต่อให้จะเปลี่ยนกัปตันเป็นคนอื่นก็ยังสามารถโลดแล่นต่อไปได้
แต่ตอนนี้ทั้งคนและเรือต่างถูกปล้นไปแล้ว ยังจะเหลืออะไรอีกนอกจากท้องทะเล!
มันเป็นเพราะอะไรกันแน่
หรือว่า…ทันใดนั้นโจนสืก็นึกขึ้นได้ถึงไป๋เยี่ย หรือว่าจะเป็นเขาจริงๆ
คนคนนี้เก่งกาจขนาดนั้นเชียวเหรอ
ระหว่างที่โจนส์กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดขังหวะความคิดของเขา
ทันใดนั้น ชายชาวอังกฤษวัยห้าสิบปีผู้มีรูปร่างสูงใหญ่พร้อมด้วยใบหน้าหล่อเหลาก็เดินเข้ามา ราวกับว่ารอบตัวของเขามีรังสีความมั่นใจแผ่อยู่
โจนส์ยันตัวขึ้นนั่งพร้อมกับเรียกสติคืนมา “มีอะไรเหรอครับ ศาสตราจารย์มอริส”
มอริสยิ้ม “ผอ.ที่เคารพ ผมได้ยินมาว่ามีคนกลุ่มหนึ่งต้องการลาออกจากที่นี่ เป็นความจริงเหรอครับ”
โจนส์ยักไหล่พลางชี้ไปยังกองจดหมายลาออกตรงหน้า “นี่ไงล่ะ”
มอริสยิ้มแล้วจึงส่ายหัวไปมา เขาค่อยๆ ดันกองจดหมายไปไว้ด้านข้างก่อนจะสบสายตากับโจนส์ “ผมคิดว่าผอ.ไม่ควรกังวลกับเรื่องนี้นะครับ ผมมาที่นี่ก็เพื่อจะช่วยคุณแก้ปัญหาเรื่องนี้ยังไงล่ะครับ”
โจนส์ถึงกับชะงักไป เขาเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายทันที
มอริสยกยิ้มอย่างผ่อนคลาย “การประชุมครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก พวกเราได้อะไรมาเยอะมากจริงๆ หลังจากจบการประชุม มีคนมากมายอยากมาทำงานที่ไฮเซนเบิร์ก อีกทั้งพวกเขายังเป็นผู้เชี่ยวชาญในแวดวงนี้อีกด้วย บางทีการรวมตัวของคนเหล่านี้อาจจะพอคลายความกังวลให้คุณได้บ้าง”
โจนส์ได้ฟังคำพูดของมอริสแล้วก็เบิกตากว้าง นี่เป็นเรื่องที่ดีจริงๆ ตอนแรกเขากังวลมากว่าจะอธิบายเรื่องนี้ให้ทางการฟังอย่างไรดี
ยิ่งไปกว่านั้น โจนส์ก็ได้บังเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา ตอนนี้อาจกล่าวได้ว่าสาขาศัลยกรรมกระดูกของไฮเซนเบิร์กกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ บางทีการลาออกของคนพวกนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องเลวร้ายก็ได้
อนาคตของไฮเซนเบิร์กจะต้องสดใสเช่นเคย ด้วยการนำของมอริสซึ่งเป็นผู้สืบทอดประสบการณ์ความรู้ของไฮเซนเบิร์กและเป็นผู้บูรณาการแก่นแท้แห่งวิทยาการตะวันตก
พูดตามตรง ในฐานะที่โจนส์เป็นผู้อำนวยการ เขาจึงตกอยู่ในภาวะกดดันอย่างมาก เพราะเขาไม่อาจทำให้เกียรติยศของไฮเซนเบิร์กต้องพังทลายลงแน่
โจนส์มองมอริสพลางคลี่ยิ้มออกมา “อืม ถ้างั้นเรื่องคัดเลือกบุคลากรผมให้เป็นหน้าที่ของคุณแล้วกัน คุณเป็นผอ.สถาบันวิจัยกระดูกและข้อ ผมเชื่อในศักยภาพของคุณ คนพวกนี้ที่จะเข้ามาจะกลายเป็นลูกทีมของคุณด้วย”