สูตรโกงฉบับเด็กเรียน - บทที่ 331 สุขสันต์วันเกิด
บทที่ 331 สุขสันต์วันเกิด
ระหว่างที่ทำเกี๊ยว หูไฉ่อวิ๋นก็เอาแต่ชื่นชมหลีจื่อเหยียนพร้อมกับเหน็บแนบไป๋เยี่ยไปด้วย
แต่ถึงกระนั้นไป๋เยี่ยก็ไม่ได้สนใจ เขากลับล้างมือเตรียมที่จะช่วยงานด้วยท่าทีเบิกบานใจ
ถึงแม้ว่าแม่จะชอบพูดจาเหน็บก็ตาม แต่ในใจของเธอก็ภาคภูมิใจมาก อย่างไรเธอก็มักจะไม่ชื่นชมไป๋เยี่ยออกนอกหน้าอยู่แล้ว
แบบนี้จื่อเหยียนจะคิดอย่างไร
ไป๋เยี่ยยังคงยิ้มแย้ม อย่างไรเสียนี่ก็เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข
แม้แต่การฟังแม่บ่นตอนว่างๆ ก็กลายเป็นเรื่องน่าสุขใจ
เมื่อหูไฉ่อวิ๋นเห็นไป๋เยี่ยเดินมาก็เอ่ยขึ้นด้วยท่าทีรังเกียจ “ไปตรงนู้นไป แม่กับจื่อเหยียนกำลังตั้งใจทำอยู่ มาก็ทำเละเปล่าๆ ห่อเกี๊ยวซะเป็นซาลาเปาเลย ฮึ่ม เรียนเก่งแล้วก็ต้องทำงานบ้านให้เก่งด้วย ดูสิ เกี๊ยวพวกนั้นออกจะสวย”
ไป๋เยี่ยยิ้ม เขาไม่รู้จะทำอะไรจึงไปนั่งบนโซฟาแทน
เมื่อหลีจื่อเหยียนได้ยินหูไฉ่อวิ๋นชื่นชมตนเองแต่กลับเหน็บแนมไป๋เยี่ย ภายในใจก็นึกขบขันอย่างไม่มีเหตุผล
เพราะไป๋เยี่ยนั้นโดดเด่นมาก เขาประสบความสำเร็จมากมายตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนก็เป็นคนเก่ง
เธอได้ไปชมพิธีตัดริบบิ้นวันเปิดตัวสถาบันเช่นกัน พอนึกถึงเรื่องนี้แล้วก็อดรู้สึกต้นตันใจไม่ได้
ไป๋เยี่ยเพิ่งจะอายุยี่สิบห้าปี เพิ่งจะเรียนปริญญาโทปีแรกแท้ๆ
แต่สิ่งที่เขาทำนั้นเกินกว่าที่แพทย์คนอื่นๆ จะทำได้ แม้แต่บรรดานักวิชาการเองก็ยังด้อยกว่าเขาเลย
นอกจากนี้ ศิษย์ของเขาอย่างโมลโดและอาคามอสก็ล้วนเป็นศาสตราจารย์ ผู้เชี่ยวชาญและอาจารย์ระดับปริญญาเอกที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก
ไม่อาจนำวุฒิการศึกษามาประเมินค่าไป๋เยี่ยได้เลย
นั่นทำให้หลีจื่อเหยียนรู้สึกด้อยเล็กน้อย
ทว่าตอนนี้ การได้เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งถูกแม่พูดจบเหน็บแนมที่บ้านพร้อมกับนั่งพูดคุยหัวเราะเล่นบนโซฟา ช่างเป็นภาพที่จับต้องได้เสียจริง
หลีจื่อเหยียนพลันนึกถึงสิ่งที่พ่อเคยพูดไว้ ‘ผู้ชายน่ะ ตอนอยู่นอกบ้านต้องทำตัวสูงส่ง แต่พออยู่ในบ้านก็มีหน้าที่แค่เก็บกวาดทำอาหาร’
ไม่ว่าภายนอกเขาจะดูยิ่งใหญ่แค่ไหน แต่เมื่ออยู่ที่บ้านเขาก็เป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น หากไม่มีตำแหน่งหน้าที่และความสำเร็จอันรุ่งโรจน์ เขาก็เป็นแค่คนทั่วๆ ไปคนหนึ่ง
ระหว่างที่ทั้งสามคนกำลังพูดคุยหัวเราะกันอยู่นั้น เสียงกริ่งหน้าประตูก็ดังขึ้น ไป๋เยี่ยจึงลุกขึ้นไปเปิดประตูและพบว่าไป๋ตงหลินกับไป๋หลิงกลับบ้านมาพร้อมกับเค้กกล่องหนึ่งและอาหารสำเร็จรูปนิดหน่อย
ไป๋เยี่ยถามขึ้นด้วยความฉงน “วันนี้เป็นวันเกิดผมเหรอ”
ทันใดนั้น หลีจื่อเหยียนที่อยู่ด้านข้างก็ชะงักไปครู่หนึ่ง ไม้นวดแป้งในมือของเธอก็พลันหยุดลงด้วย
เพราะเธอรู้ว่าวันนี้ก็เป็นวันเกิดของเธอเหมือนกัน!
เพียงแต่…เธอจำไม่ได้ว่าตั้งแต่เด็กจนโตเธอมีโอกาสได้ฉลองวันเกิดกี่ครั้ง แม่ของเธอจากไปตั้งแต่ยังเด็ก พ่อก็งานยุ่ง วันเกิดของเธอจึงค่อยๆ ถูกลืมเลือนไป
แต่…ทำอย่างไรพวกเขาถึงจะรู้
หลีจื่อเหยียนคิดแล้วก็ส่ายหัวไปมา บางทีเธออาจจะคิดมากไป
แต่พอนึกถึงทีไร หลีจื่อเหยียนก็อดรู้สึกกลัดกลุ้มใจเล็กน้อย เมื่อเห็นครอบครัวสี่คนฉลองวันเกิดด้วยกันได้อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา จู่ๆ เธอก็รู้สึกคัดจมูกขึ้นมา
สำหรับเธอแล้ว เงินทอง อำนาจบารมี ความสวยงาม…และอื่นๆ ไม่ใช่สิ่งที่เธอโหยหาที่สุด
สิ่งที่เธอต้องการคือ ‘บ้าน’ ที่ปลอดภัยและมั่นคง เป็นบ้านที่สมบูรณ์แบบ
เธอไม่เคยเจอแม่เลยสักครั้ง ความรักจากคนในครอบครัวจึงเป็นสิ่งของราคาแพงที่เธอไม่อาจเอื้อมถึง
เมื่อโตขึ้น ทุกครั้งที่เธอได้เห็นครอบครัวของคนอื่นๆ มารวมตัวกันเพื่อเป่าเทียนวันเกิดให้ลูก เธอก็มักจะวิ่งหนีไป
เวลาลูกบ้านอื่นทำข้อสอบได้เกือบเต็มก็มักจะได้รางวัลหรือของเล่นจากพ่อแม่ แต่ทุกครั้งที่เธอกลับบ้านมาพร้อมคะแนนสอบเต็มร้อย เธอกลับได้รับเพียงการต้อนรับหน้าประตูบ้านอันแสนเฉยชาและอาหารที่ถูกซื้อมาไว้แล้วเท่านั้น
เธอเข้าใจว่าพ่อของเธองานยุ่งมาก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่โหยหาความสุข
ไป๋ตงหลินยิ้มเยาะ “หลบไปๆ ไม่ได้ซื้อให้เอ็งซะหน่อย เอามือออกไปเดี๋ยวนี้”
ไป๋เยี่ยยิ้มแห้ง “แค่ขอดูเอง”
ไป๋หลิงยกมือป้องปากพลางเอ่ยทั้งรอยยิ้ม “เดี๋ยวค่อยดู”
เกี๊ยวที่ปรุงสุกแล้วถูกนำมาวางไว้บนโต๊ะ ไป๋ตงหลินซื้อเค้กและอาหารมามากมายหลายจาน ถ้าโต๊ะไม่ใหญ่พอก็คงไม่มีที่วางอาหารเหล่านั้น
หูไฉ่อวิ๋นเปิดกล่องเค้ก พลางเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “อายุยี่สิบห้าแล้วนี่ มาๆ มาปักเทียนกัน ยี่สิบห้าเล่มนะ หลิงเอ๋อร์มาปักเทียนให้พี่จื่อเหยียนเร็ว”
หลีจื่อเหยียนชะงักไปครู่หนึ่ง ฉลองให้เรางั้นเหรอ
เธอไม่ได้โง่ เธอคาดเดาได้จากน้ำเสียงของอีกฝ่าย
เธอเห็นเพียงเทียนยี่สิบห้าเล่มที่ถูกปักลงบนเค้ก บนหน้าเค้กก็มีป้ายช็อกโกแลตที่เขียนคำว่า ‘สุขสันต์วันเกิด’ วางไว้
เธอถึงกับอึ้งไปครู่หนึ่ง…
ไป๋หลิงหัวเราะเบาๆ “พี่จื่อเหยียน รีบเป่าเทียนเร็ว”
หูไฉ่อวิ๋นยิ้ม “ใช่แล้ว จื่อเหยียนรีบอธิษฐานและเป่าเทียนสิ”
ไป๋ตงหลินกระแอม “มาๆ ร้องเพลงกัน แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู…”
ในที่สุดไป๋เยี่ยก็เข้าใจแล้ว ที่แท้วันนี้ก็เป็นวันเกิดของจื่อเหยียนนี่เอง!
แย่แล้ว ของขวัญล่ะ
ไม่มีของขวัญวันเกิดให้จะดูน่าเกลียดไหมเนี่ย ไป๋เยี่ยคิดแล้วก็เหลือบมองไป๋ตงหลินด้วยสายตาขุ่นเคือง “เถ้าแก่ไป๋ ไหงเอาเปรียบลูกชายแบบนี้ล่ะ!”
ไป๋ตงหลินกะพริบตาปริบๆ “พูดเรื่องอะไรกันน่ะ”
ไป๋เยี่ยถึงกับหมดหนทาง!
หลีจื่อเหยียนฟังเพลงวันเกิดที่ดังอยู่รอบๆ ตัว น้ำตาของเธอค่อยๆ ไหลรินลงมาจนไม่อาจหยุดยั้งได้!
สิ้นเสียงเพลงวันเกิด เธอก็กุมมือขึ้นมาบริเวณหน้าอกเพื่ออธิษฐานก่อนจะหลับตาลงช้าๆ แพขนตายาวของเธอยังเปรอะหยาดน้ำตาสะท้อนแสงแวววาวคล้ายดวงดาว
ไม่นานนักเธอก็ลืมตาขึ้นและเป่าเทียนทั้งหมดในรวดเดียว
หลีจื่อเหยียนมองไปที่ทั้งสี่คนก่อนจะเอ่ยทั้งน้ำตา “ขอบคุณทุกคนนะคะ”
ไป๋ตงหลินพูดขึ้น “วันนี้เป็นวันเกิดหนูนี่ พ่อหนูบอกมาว่าจะต้องไปรับเคสผ่าตัด จริงๆ วันนี้เขาต้องอยู่ที่บ้านนั่นแหละ แต่…”
“เขามาขอให้พวกเราช่วยฉลองวันเกิดให้หนูแทน ดูนี่สิ เกี๊ยวขึ้นฉ่ายกับมูสเค้กที่หนูชอบ อาหารที่หนูชอบ…เหล่าหลี่เป็นคนบอกพวกเรามาเอง”
เถ้าแก่ไป๋มองหลีจื่อเหยียนที่เอาแต่ยืนน้ำตานองหน้าพลางถอนหายใจออกมา “จริงๆ แล้วเหล่าหลี่รู้สึกติดค้างหนูมากเลยนะ แต่เขาแสดงออกมาไม่ได้ ทุกครั้งที่เขาดื่มจนเมาเขาก็มักจะมาร้องไห้ให้ฟัง อันที่จริงเขาจำทุกรายละเอียดของหนูได้หมดเลยนะ ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ ยันเรื่องใหญ่ๆ เขาจำมันได้ดีมากเลยล่ะ”
“เหล่าหลี่…เป็นพวกปากแข็งน่ะ เขาเขียนทุกอย่างลงในสมุดโน้ตเล่มนี้ นี่คือทั้งหมดที่เขาอยากจะบอกหนู ทุกครั้งที่เห็นหนุไม่มีความสุข เขาก็จะเขียนลงไปในนี้”
“จื่อเหยียน จริงๆ พ่อหนูน่ะรักหนูมากนะ!”
ไป๋ตงหลินพูดจบก็ยื่นสมุดโน้ตเล่มนั้นให้หลีจื่อเหยียน
หลีจื่อเหยียนถึงกับน้ำตาแตก หูไฉ่อวิ๋นเข้ามาโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขนพลางปลอบโยนและช่วยซับน้ำตาให้เธอ
ไม่นานนักหลีจื่อเหยียนก็กอดสมุดโน้ตเล่มนั้นไว้แน่นราวกับว่ามันเป็นสมบัติล้ำค่า
หูไฉ่อวิ๋นยิ้ม “เอาน่า วันนี้เป็นวันเกิดของจื่อเหยียน อย่าพูดเรื่องเศร้าๆ เลย มาชนแก้วฉลองวันเกิดให้จื่อเหยียนเถอะ!”
หลังจากดื่มฉลองวันเกิดแล้ว หูไฉ่อวิ๋นก็หยิบสร้อยข้อมือออกมาให้จื่อเหยียนพลางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “นี่ของขวัญจากป้า จื่อเหยียน ต่อไปก็มองว่าป้าเป็นคนในครอบครัวนะ ไม่มีอะไรทำก็มาหาป้าได้ ป้าชอบหนูมากเลย!”
หลีจื่อเหยียนพยักหน้าอย่างขอบคุณ ส่วนไป๋ตงหลินก็ยื่นกล่องให้หลีจื่อเหยียนอย่างยิ้มแย้ม “จื่อเหยียน ลุงก็ด้วย ลุงชอบลูกสาวมากกว่า แต่น่าเสียดายที่ไอ้ลูกคนแรกมันดันเป็นลูกชายนี่สิ มาๆ นี่ของขวัญจากลุง”
ไป๋หลิงยิ้ม “พี่จื่อเหยียน หนูทำเค้กก้อนนี้เอง ถือว่ามันเป็นของขวัญแล้วกันนะ”
ไป๋เยี่ยเห็นว่าเป็นตาของเขาแล้วก็ได้แต่ทำตัวไม่ถูก ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกถึงแรงตบเบาๆ เมื่อหันหลังกลับไปก็พบว่าไป๋ตงหลินกำลังยื่นมือออกมาจากใต้โต๊ะ มันเป็นกล่องของขวัญนั่นเอง
ไป๋เยี่ยถอนหายใจด้วยความโล่งอก มิตรภาพระหว่างเขากับเหล่าไป๋ยังไม่ถูกทำลายลง!
เขาเหลือบมองไป๋ตงหลินด้วยความขอบคุณก่อนจะเอ่ยทั้งรอยยิ้ม “สุขสันต์วันเกิดนะ จื่อเหยียน!”
ไป๋เยี่ยเปิดกล่องของขวัญออกมาทันที ตรงหน้าเขาปรากฏจี้คริสตัลเส้นหนึ่ง มันไม่ได้มีค่ามากนัก แต่กลับดูสวยงามเป็นพิเศษ และที่สำคัญที่สุดคือมันดูเข้ากับหลีจื่อเหยียนมาก
เดิมทีหลีจื่อเหยียนคิดจะปฏิเสธ ทว่ากลับถูกคนอื่นๆ โน้มน้าวจนต้องยอมจำนน
เธอจดจำความรู้สึกนี้ไว้ในใจ
มันช่างลึกซึ้งเหลือเกิน!