สูตรโกงฉบับเด็กเรียน - บทที่ 346 ความเมตตาจากระบบ
บทที่ 346 ความเมตตาจากระบบ
หลังจากที่ไป๋เยี่ยรักษาครูซสำเร็จแล้ว เขาก็ใช้เวลาพักผ่อนเพียงระยะสั้นๆ ก่อนจะไปสมทบกับทีมแพทย์เพื่อรักษาคนอื่นๆ ต่อไป ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่พ้นขีดอันตราย
นอกจากไป๋เยี่ยแล้ว ก็ยังมีโมลโดและนิคสันที่อยู่ในทุกการผ่าตัด มีเพียงแพทย์คนอื่นๆ ที่เวียนกันเข้ามาในแต่ละเคส
ไม่สิ!
คงต้องเรียกว่าพวกเขาแย่งกันมา
“นีโอ เมื่อกี้คุณเพิ่งจะรักษาครูซมา คุณเหนื่อยเกินไปแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ ผมจัดการเอง!”
“ไม่! ผมไม่เหนื่อยเลย!”
“ถึงจะไม่เหนื่อยก็ต้องพักผ่อนนะ รู้ไหมว่าการรักษาคนไข้ต้องใช้สมาธิน่ะ ความเหนื่อยคือการขาดความรับผิดชอบอย่างหนึ่งนะ”
“ถูกต้อง ผมไปเอง ต้องให้ผมไปนะ!”
ทุกคนต่างกระตือรือร้นกับการเข้าไปมีส่วนร่วมในการรักษากับไป๋เยี่ย ทั้งยังได้สังเกตกระบวนการผ่าตัดอย่างใกล้ชิดด้วยความหวังเล็กๆ ว่าจะถเรียนรู้อะไรบางอย่างได้
อาการของคนอื่นๆ ไม่ร้ายแรงเท่าของครูซ ไป๋เยี่ยจึงนำทีมแพทย์และเริ่มการรักษาต่อไปในทันที
การถ่ายวิดีโอยังคงดำเนินต่อไปตามคำร้องขอของทุกคน แพทย์ที่ไม่ได้เข้าร่วมการผ่าตัดก็คอยสังเกตการผ่าตัดจากในห้องพัก
แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้มีการถ่ายทอดสดออกอากาศอีกต่อไ
ผู้เชี่ยวชาญกว่าสามสิบคนผลัดกันร่วมมือรักษาผู้บาดเจ็บกับไป๋เยี่ย ในที่สุดการรักษาก็สิ้นสุดลงเมื่อเวลาหกโมงเย็น
ไป๋เยี่ยเหนื่อยมาก จนเรียกได้ว่าเขาแทบจะถ่างตาตลอดทั้งคืน
ทว่าคนอื่นๆ กลับดูเหมือนจะยังผ่าตัดกันไม่หนำใจ
หลังจากผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว ไป๋เยี่ยก็เดินขึ้นไปบนรถพยาบาลและผล็อยหลับไปในทันที เขาไม่ได้พักผ่อนเลยหลังจากที่เหนื่อยมาทั้งวัน เขาปรายตามองทิวทัศน์ยามค่ำคืนของลอสแจงเจลิสอยู่ครู่หนึ่ง…
สีหน้าของทุคนแฝงแววเกรงใจจึงไม่มีใครกล้าเข้าไปรบกวน
กว่าไป๋เยี่ยจะตื่นก็เป็นเวลาสามทุ่มแล้ว ลอสแองเจลิสในตอนกลางคืน…ช่างไม่มีอะไรน่าจรรโลงใจเลย
หลังจากที่วินน์ ปะธานค่ายมาร์เวลเดินทางมาถึงที่ เขาก็ตรงไปหาไป๋เยี่ยด้วยท่าทีตื้นตันใจและสำนึกในบุญคุณอันใหญ่หลวงทันที
“ขอบคุณมากจริงๆ ครับ! ขอบคุณที่กล้าเดินทางมาไกล ถ้าครั้งนี้ไม่ใช่เพราะคุณช่วยชีวิตครูซไว้ได้ ผมคงจะต้องโทษตัวเองไปตลอดชีวิต!”
ชายร่างผอมอายุราวๆ ห้าสิบปีดูเหมือนคนทั่วๆ ไป ไม่มีใครคิดว่าเขาคือประธานค่ายมาร์เวล
มันเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าครั้งนี้ตนหมดเงินกับการยื้อชีวิตค่ายมาร์เวลไปตั้งเท่าไหร่ ทว่าไป๋เยี่ยเองก็รู้ว่าเขาหมดเงินไปเยอะกับการจ้างเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวมาส่งตนเองถึงที่นี่
ไป๋เยี่ยยิ้ม “นี่คือสิ่งที่ผมควรทำอยู่แล้วครับ”
วินน์แต่งกายด้วยชุดสูทสีเงินและรองเท้าหนังสีดำขลับ ถึแม้เขาจะไม่ได้เป็นคนร่างสูง แต่ยามที่เขายืนกลับดูสง่างามมาก
“ผมจองมื้ออาหารไว้ที่โรงแรมซิลเวอร์ หวังว่าคุณจะไม่ปฏิเสธนะ ไม่งั้นถ้าคุณกลับจีนไป เพื่อนคนจีนของผมจะต้องบอกว่ามาร์เวลใจแคบแน่ๆ!”
บางทีวินน์อาจจะมีอารมณ์ขันเพราะว่าครูซได้รับการรักษาที่ประสบความสำเร็จก็เป็นได้
ช่างเป็นมื้ออาหารเย็นอันแสนเลิศรส อย่างน้อยๆ ไป๋เยี่ยก็ได้ลิ้มลองอาหารฝรั่งเศสแท้ๆ
ร้านอาหารแห่งนี้เป็นร้านอาหารระดับมิชลินสามดาวที่ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างมีความใฝ่ฝันที่จะมาดินเนอร์ที่นี่ แต่ใช่ว่ามีเงินอย่างเดียวแล้วจะจองได้
ถึงแม้ว่าการดินเนอร์ที่นี่จะไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นมื้ออาหารส่วนตัว ทว่าตอนนี้มันก็ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น
ทุกคนในร้านล้วนเป็นทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีส่วนร่วมในการรักษาครั้งนี้
และไป๋เยี่ยก็กลายเป็นตัวเอกอย่างไม่ต้องสงสัย
ตอนแรกทุกคนคิดว่าไป๋เยี่ยต้องภูมิใจที่ตนประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย กว่าทุกคนกลับค้นพบว่าเขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มวัยใสคนหนึ่งที่ไม่แม้แต่จะวางมาดเลยสักครั้ง
มื้ออาหารเย็นนี้ชวนให้รู้สึกจรรโลงใจนัก อย่างน้อยๆ เขาก็รู้สึกอิ่มเอิบทั้งทางรสสัมผัสและทางสายตา
หลังมื้ออาหาร วินน์ก็หยิบเช็คออกมาจากกระเป๋าของเขาและเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ไป๋เยี่ย ผมคิดว่าการได้รู้จักกับคุณในวันนี้มีประโยชน์กว่าการซื้อประกันซะอีก!”
“นี่คือค่าตอบแทนของคุณ โปรดรับมันไว้!”
ไป๋เยี่ยไม่ได้ปฏิเสธ เขากล่าวขอบคุณและรับเช็คมูลค่าสองล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มา
ไป๋เยี่ยผงะไปเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถาม “คุณวินน์ นี่มันมากกว่าที่พูดไว้อีกนะครับ”
วินน์คลี่ยิ้ม “ไม่หรอก ครั้งนี้พวกเราได้เห็นถึงความพยายามของคุณไป๋แล้ว ครูซมอบให้คุณหนึ่งล้านดอลลาร์ ส่วนอีกหนึ่งล้านมาจากคนอื่นๆ ซึ่งก็คือทีมงานของเรา ผมยังต้องจ่ายค่ารักษาให้คุณอีกนะ”
ไป๋เยี่ยยิ้มพลางพยักหน้า เขาไม่ได้ขาดแคลนเงินแต่อย่างใด ทว่าความรู้เหล่านี้คือสิ่งที่ไม่อาจประเมินค่าได้ การกู้ภัยครั้งนี้มีคุณค่าต่อเขามากจริงๆ
วินน์นั่งอยู่กับไป๋เยี่ยก่อนจะเอ่ยปากพูดต่อ “จริงๆ แล้ว ผมชื่นชมคุณมากเลยนะ คุณนำพาความสะดวกสบายมาให้ผู้คนมากมาย”
วินน์พูดจบก็ยกขาขึ้นแล้วชี้ไปที่เข่าของเขา “ผมได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าทั้งสองข้าง ก่อนจะไปรักษา ผมขี่จักรยานไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่หลังจากที่ไปผ่าตัดมาเมื่อเดือนมีนาคมปีก่อนผมก็รู้สึกดีขึ้นมากๆ ได้ไปแข่งปั่นจักรยานระยะทางสิบกิโลเมตรและสอยรางวัลที่สองกลับมาได้ด้วยละ!”
หลังจากที่ได้พูดคุยกับวินน์มานานนับชั่วโมง ไป๋เยี่ยก็รู้สึกว่าประธานค่ายคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลย เขาเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ ความกระตือรือร้น เจือปนด้วยความไร้เดียงสาและดื้อรั้น
โมนิกาไม่ได้มาดินเนอร์ด้วย ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดกันแน่ อาจจะเป็นเพราะว่าเธอไม่ค่อยพอใจวินน์ก็เป็นได้
ทว่าก่อนจะมาที่นี่ โมนิกาก็ได้มอบนาฬิกาข้อมือเรือนหนึ่งให้ไป๋เยี่ยพร้อมทั้งขอข้อมูลการติดต่อจากเขา เธอรู้สึกขอบคุณไป๋เยี่ยมากเมื่อเห็นว่าอาการของพี่ชายเธอเริ่มจะคงที่แล้ว
ไป๋เยี่ยให้ข้อมูลติดต่อไป ทว่าเขาไม่ได้รับนาฬิกาเรือนนั้นมา
หากกล่าวตามตรงก็คงต้องบอกว่าการกู้ภัยครั้งนี้ได้มอบค่าประสบการณ์มากมายให้แก่ไป๋เยี่ย ค่าประสบการณ์ของเขาเพิ่มขึ้นราวๆ สองพันแต้ม
นี่ถือเป็นผลดีต่อการอัปเลเวลทักษะศัลยกรรมกระดูกที่ไม่ได้อัปเกรดมานานแล้ว
หลังจากกลับมาถึงโรงแรม ไป๋เยี่ยก็แผ่ตัวลงบนเตียงพร้อมกับมองหน้าจอโปร่งแสงตรงหน้า
ตอนนี้ทักษะศัลยกรรมกระดูกของเขาอยู่ที่ เลเวล 6: 89000/100000 ส่วนทักษะศัลยกรรมกระดูกฉุกเฉินอยู่ที่ เลเวล 6: 81200/100000
ถ้าต้องการอัปเลเวลขึ้นเป็นเจ็ด ปัญหาย่อมไม่ใช่เรื่องเวลาอีกต่อไป
แต่เพราะการจะหาค่าประสบการณ์กว่าหนึ่งหมื่นแต้มมาได้นั้นช่างเป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญ
ระหว่างที่ไป๋เยี่ยกำลังจะเตรียมตัวนอน เขาก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากระบบ
[ติ๊ง! ภารกิจช่วยชีวิตครูซสำเร็จอย่างสมบูรณ์แบบ ได้รับโอกาสจับรางวัลระดับ 5 ดาว 1 ครั้ง และแต้มสมาชิก 50 แต้ม]
นี่มันความเมตตาจากระบบชัดๆ!
นี่แหละระบบ!
ระบบมีไว้ทำอะไรกันล่ะ
นี่มันดัชนีทองคำ[1]ชัดๆ ที่แท้เจ้าระบบที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้บริการสมาชิกก็เป็นของก็อปห่วยๆ นี่เอง
ไป๋เยี่ยผู้กำลังเบิกบานใจรีบหยัดตัวขึ้นนั่งในทันใด เขาตัดสินใจกดจับรางวัลเพื่อเฉลิมฉลองให้กับค่ำคืนอันมีเสน่ห์นี้
รางวัลระดับห้าดาวก็ต้องเป็นของดีอยู่แล้ว
ไป๋เยี่ยคาดหวังกับมันมากจริงๆ
จานหมุนขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นตงหน้า ไป๋เยี่ยยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย ทันใดนั้นจานหมุนนั้นก็เริ่มหมุนอย่างบ้าคลั่ง
หยุด!
ทันทีที่จานหยุดหมุน ก็มีตะปูเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นต่อหน้าไป๋เยี่ย
ไป๋เยี่ยผงะไปครู่หนึ่งก่อนจะหยิบสิ่งนั้นขึ้นมาดู ปรากฏว่ามันคือ ‘ตะปู’ จริงๆ!
ไป๋เยี่ยประหลาดใจเล็กน้อย มันต้องไม่ใช่ตะปูธรรมดาแน่นอน เพราะเขาเชื่อว่าระบบยังรักเขาอยู่!
[1] ดัชนีทองคำหมายถึงสูตรโกงต่างๆ