สูตรโกงฉบับเด็กเรียน - บทที่ 349 รับสมัคร
บทที่ 349 รับสมัคร
โรงพยาบาลลอสแอนเจลิสเป็นสถานพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือมากในลอสแอนเจลิส ซึ่งสถานะของ ‘ร็อคกี้’ หัวหน้าแผนกศัลยกรรมกระดูกก็มีสถานะไม่ธรรมดาเช่นกัน
ในฐานะที่ฮิลล์เป็นถึงนายกเทศมนตรี เขาจึงคุ้นเคยกับผู้คนจากทุกแขนง ทุกครั้งที่เขาลงเลือกตั้ง เขาก็จะพยายามอย่างมากในการพิชิตใจบุคลากรระดับสูงในแต่ละสาขาอาชีพ
เมื่อร็อคกี้ได้ยินว่าไป๋เยี่ยกำลังรับสมัครบุคลากร เขาก็ถึงกับตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เขาได้เห็นสถาบันวิจัยของไป๋เยี่ยจากในวิดีโอแล้ว
เดิมทีเขาคิดว่าสถาบันวิจัยแห่งนี้จะต้องเป็นสถาบันวิจัยที่มีมาตรฐานและเทคโนโลยีสูง แต่เขาไม่คาดคิดเลยว่าทุกอย่างจะยังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมการ
นี่คงเป็นข่าวดีสินะ
แน่นอน!
เพราะมันหมายความว่าเราจะร่วมมือกันได้!
จะได้ร่วมมือกับสถาบันวิจัยชั้นนำไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสถาบันวิจัยของไป๋เยี่ยที่มีผู้คนนับไม่ถ้วนจากทั่วทุกมุมโลกกำลังจับตาดูอยู่
ร็อคกี้จึงไม่กล้าแม้แต่จะคิดว่าโรงพยาบาลลอสแอนเจลิสจะมีโอกาสได้ร่วมมือกับอีกฝ่าย ทว่าตอนนี้ดูเหมือนว่าโอกาสจะมาถึงแล้ว!
ร็อคกี้ยังอายุน้อย เขาไม่เหมือนกับหัวหน้าแผนกคนอื่นๆ เขากล้าลงมือทำ อีกทั้งเขายังอยากทำให้โรงพยาบาลประจำรัฐแห่งนี้ยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งขึ้น เพื่อที่จะนำเสนอแผนกศัลยกรรมกระดูกของที่นี่
ร็อคกี้จึงแทรกขึ้นในทันที “ผมขออนุญาตถามนะครับ ตอนนี้สถาบันวิจัยของคุณไป๋เยี่ยขาดบุคลากรฝ่ายไหนบ้างเหรอครับ บางทีผมอาจจะช่วยได้”
ไป๋เยี่ยมองไปทางคนอื่นๆ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยพบคนตรงหน้ามาก่อน แต่ก็พอจะเดาได้จากการแต่งกายว่าเขาน่าจะเป็นหัวหน้าแผนกของที่นี่ ไป๋เยี่ยจึงส่งยิ้มให้ “สถาบันวิจัยกระดูกของผมเพิ่งจะก่อตั้งเองครับ ตอนนี้เราขาดแคลนบุคลากรแทบทุกฝ่ายเลย เช่น ฝ่ายวิจัย ฝ่ายปฏิบัติงานในคลินิก ฝ่ายทดลอง แล้วก็ฝ่ายบริหารจัดการครับ คุณพอจะมีคำแนะนำดีๆ บ้างไหมครับ”
ร็อคกี้ยิ้มตอบ “ผมร็อคกี้ มิลล์สเป็นหัวหน้าแผนกศัลยกรรมกระดูกที่โรงพยาบาลลอสแอนเจลิสครับ ผู้อำนวยการวิทยาลัยแพทย์แคลิฟอร์เนียก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นของผมครับ ถึงแม้ว่ามหาวิทยาลัยแห่งนี้จะไม่ได้มีชื่อเสียงระดับโลก แต่เทียบกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ ในอเมริกาแล้ว วิชาการของที่นี่ก็ดีจริงๆ และที่สำคัญพรุ่งนี้ก็เป็นวันครบรอบสามสิบปีของวิทยาลัยแพทย์ด้วย บางทีผมอาจจะพาคุณไป๋เยี่ยไปเข้าร่วมงานที่นั่นแล้วก็หารับสมัครคนไปพลางๆ ได้นะครับ”
ไป๋เยี่ยได้ฟังดังนั้นก็ไม่ได้ปฏิเสธ พูดตามตรง ไป๋เยี่ยชื่นชอบวิทยาการการแพทย์ของอเมริกามากกว่าของประเทศตนเองเสียอีก
ไม่ใช่เพราะมาตรฐาน แต่เป็นเพราะรูปแบบการเรียนการสอนที่แตกต่างกัน
เพราะว่านักศึกษาระดับปริญญาตรีในสหรัฐอเมริกานั้นจะไม่ได้รับอนุญาตให้เรียนแพทย์แต่แรก จะต้องเรียนสาขาอื่นๆ มาก่อน และเมื่อผ่านการทดสอบระดับปริญญาโทแล้วจึงจะเรียนแพทย์ได้อย่างเป็นระบบ
ในขณะที่ประเทศจีนนั้น การเรียนแพทย์จะเริ่มต้นตั้งแต่ระดับปริญญาตรี หลักสูตรระดับปริญญาตรีจนถึงปริญญาเอกจะเป็นหลักสูตรการแพทย์ทั้งหมด แต่ระดับปริญญาตรีจะมีเนื้อหาที่ครอบคลุมและค่อนข้างกว้างมากกว่า หรืออาจจะกล่าวได้ว่าเป็นเนื้อหาที่ผิวเผิน เมื่อถึงระดับปริญญาโทขึ้นไป ก็จะได้ศึกษาในหลักสูตรเฉพาะทาง และเมื่อไปถึงระดับปริญญาเอกก็จะได้ศึกษาในประเด็นเล็กๆ ที่มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะเลือกเรียนหลักสูตรแพทยศาสตร์ในระดับปริญญาตรี เมื่อเรียนปริญญาโทก็เรียนต่อสาขาโรคประสาทและสมอง และในระดับปริญญาเอกก็เลือกเรียนต่อเฉพาะทางด้านโรคพาร์กินสัน
ไป๋เยี่ยมองว่าหลักสูตรแบบนี้ไม่มีปัญหา แต่มีข้อเสียตรงเรื่องการสร้างแนวคิด
ซึ่งตอนนี้วิทยาลัยแพทย์ยูเนียนที่ปักกิ่งก็ได้เริ่มทำการทดลองแล้ว โดยอนุญาตให้นักศึกษาที่ไม่ได้เรียนแพทย์มาในระดับปริญญาตรีสามารถเรียนแพทย์ได้ในระดับปริญญาโทขึ้นไป ซึ่งจะปลูกฝังองค์ความรู้ทางการแพทย์ที่ต้องได้รับการฝึกอบรมมาตลอดหกปี เช่นนี้ก็จะได้เห็นว่าอัจฉริยะนั้นแท้จริงแล้วเป็นอย่างไร
แต่ถึงกระนั้น ในปัจจุบันก็ยังมีนักศึกษาเพียงรุ่นเดียวเท่านั้น ยังคงติดตามดูผลลัพธ์ต่อไปได้
เพราะว่าการพัฒนาองค์ความรู้ทางการแพทย์นับวันยิ่งต้องอาศัยนวัตกรรมและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น อีกทั้งในระยะยาว แพทยศาสตร์จะเป็นสาขาที่ต้องแยกตัวออกจากสาขาวิชาชีพอื่นๆ ในสังคม ซึ่งไม่เอื้อต่อการพัฒนาแต่อย่างใด
เมื่อนักศึกษาทั้งสองประเภทจบการศึกษาและเข้าสู่ตลาดแรงงาน บางทีนักศึกษาที่จบจากหลักสูตรของประเทศจีนอาจจะมีความแข็งแกร่งในช่วงแรก แต่ต่อไปนักศึกษาที่จบจากหลักสูตรแบบอเมริกาจะไปได้ไกลมากกว่า!
ซึ่งพวกเขาก็มักจะนำความแปลกใหม่มาสู่เส้นทางการพัฒนาสาขาวิชานี้!
ตัวอย่างเช่น เหตุใดการแพทย์ในต่างประเทศจึงพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็ว นั่นเป็นเพราะการขยายตัวของแนวคิดที่เกิดขึ้นในระดับปริญญาตรี
อุปกรณ์ทางการแพทย์จำนวนมากก็เป็นผลิตภัณฑ์จากนักศึกษาสาขาวิศวกรรมที่เลือกเดินตามเส้นทางแห่งการแพทย์ต่อในภายหลัง พวกเขาเริ่มศึกษาและแก้ไขปัญหาโดยนำความรู้ทางการแพทย์มาผสมผสาน เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็ย่อมเกิดการพัฒนาใหม่ๆ ขึ้นมา
ซึ่งไป๋เยี่ยเองก็สนใจในบุคลากรที่มีแนวความคิดหลากหลายเช่นกัน
ตัวอย่างเช่น การวิจัยและพัฒนาหุ่นยนต์ศัลยกรรมกระดูกในปัจจุบัน จะต้องอาศัยบุคลากรที่มีทักษะระดับสูงในหลากหลายแขนง เช่นคนที่มีทั้งทักษะชีววิทยาเลเวลห้า หรือวิศวกรรมเครื่องกลเลเวลหก ย่อมมีข้อดีกว่าบุคลากรสองคนที่มีเพียงทักษะเดียวเท่านั้น
เพราะฉะนั้น ไป๋เยี่ยจึงหวังว่าจะมีบุคลากรระดับสูงสมัครเข้ามาบ้าง ปกติแล้วไป๋เยี่ยจะไม่ชอบนำสิ่งของใดๆ กลับมาใช้ใหม่ แต่สำหรับบุคลากรแล้ว เขากลับสนใจเป็นอย่างมาก
ไป๋เยี่ยเชื่อว่าดวงตารอบรู้ของเขาจะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน
เขาจะปล่อยให้คนจากสหรัฐดึงบุคลากรคุณภาพจากจีนไปไม่ได้ จะต้องหาวิธีแก้แค้นที่เหมาะสม และดึงคนเก่งๆ จากประเทศเขามาให้ได้
จากนั้นก็ใช้วิถีชีวิตแบบชาวจีนในการกลืนกลินพวกเขาเสีย
ไป๋เยี่ยมั่นใจว่าประเทศจีนจะเอาชนะสหรัฐอเมริกาได้อย่างแน่นอน
หลังจากได้พูดคุยกับคนอื่นๆ ไป๋เยี่ยก็ล้มเลิกความคิดที่จะกลับบ้านไปทันที
วันนี้เถ้าแก่ไป๋โทรมาบอกว่าเขาจะออกเดินทางแล้ว และจะมาถึงนิวยอร์กในวันพรุ่งนี้ ไป๋เยี่ยได้ยินก็คิดว่าเป็นเรื่องดี เขาจะได้ไม่ต้องเดินทางไปมา รอให้ครอบครัวเขามาถึงนิวยอร์กก่อน ไปเจอกันสักหน่อยแล้วค่อยกลับจีน
ไป๋เยี่ยจึงเริ่มวางแผนการเดินทางตลอดสัปดาห์นี้
เรียกได้ว่าตารางแน่นเอี๊ยดเลยทีเดียว
ไป๋เยี่ยหวังว่าหลังจากหนึ่งสัปดาห์นี้ เขาจะดึงตัวบุคลากรชั้นยอดกลับไปได้หลายคน!
นี่คือแสงแห่งชัยชนะของประเทศชาติสินะ
บ่ายวันนั้น ไป๋เยี่ยจึงได้เข้าร่วมการประชุมเล็กๆ ในแผนกตามคำเชิญชวนของร็อคกี้
เนื้อหาการประชุมส่วนใหญ่จะเป็นการอธิบายประเด็นที่คลุมเครือในการผ่าตัดของไป๋เยี่ยเมื่อวานนี้
ถึงแม้ว่าการประชุมจะใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง แต่ทุกคนกลับรู้สึกว่าตนได้รับประโยชน์มากมาย ทุกคนที่นั่นต่างมีท่าทีกะตือรือร้น
เมื่อได้พูดคุยกับไป๋เยี่ย พวกเขาก็มักจะมองข้ามเรื่องอายุของไป๋เยี่ยไป
เพราะว่าพลังที่แฝงอยู่ในตัวไป๋เยี่ยนั้น ไม่มีใครเทียบเคียงได้
เวลาห้าโมงเย็น ทุกคนต่างรีบเลิกงาน
ร็อคกี้พูดกับไป๋เยี่ยด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ “คืนนี้มีแมตช์เลเกอร์ส[1]กับร็อคเก็ตส์[2]นะ ผมรอแมตช์นี้มานานแล้ว จะมัวช้าไม่ได้”
ทว่าเมื่อร็อคกี้เห็นท่าทีสับสนของไป๋เยี่ยก็ค่อยๆ เผยรอยยิ้มออกมา “ที่ลอสแอนเจลิสน่ะมีแลนด์มาร์คไม่กี่อย่างหรอก อย่างแรกคือฮอลลีวูด อย่างที่สองคือสเตเปิลส์เซ็นเตอร์และอย่างสุดท้ายลอสแอนเจลิสดอกเจอร์ส!”d
“ผมคงไม่ต้องพูดถึงฮอลลีวูดแล้วแหละ มันเป็นฐานทัพภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ที่รวบรวมคนดังระดับโลกไว้มากมาย ที่นั่นมีซุปเปอร์สตาร์หลายคน เป็นเรื่องปกติที่จะได้เจอกับดาราชั้นนำพวกนั้น ส่วนสเตเปิลส์เซ็นเตอร์ก็เป็นสนามกีฬาแห่งเดียวของเอ็นบีเอที่ถูกใช้โดยทีมลอสแอนเจลิสเลเกอร์สและลอสแอนเจลิสคลิปเปอร์ส คุณอาจจะพอได้ยินมาบ้าง แล้วยังมีทีมกีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในแอลเออย่างลอสแอนเจลิสดอกเจอร์สอีกด้วย นี่เป็นทีมกีฬาที่คนชื่นชอบมากที่สุด แถมยังคว้าแชมป์มาหลายรายการอีกด้วย!”
ไป๋เยี่ยพยักหน้า กีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาคืออเมริกันฟุตบอล อันดับที่สองคือเบสบอลและอันดับที่สามคือบาสเก็ตบอล
และเพราะว่าเอ็นบีเอได้รับความร่วมมือระหว่างประเทศมากขึ้น จึงได้รับความนิยมไปทั่วโลก
ส่วนลอสแอนเจลิสดอดเจอร์สก็เป็นทีมเบสบอลที่ได้รับความนิยมอย่างมากในลอสแอนเจลิส
ในสหรัฐอเมริกา กีฬาเบสบอลเป็นที่นิยมมากกว่าบาสเก็ตบอลพอสมควร
ทว่าไป๋เยี่ยไม่ได้สนใจนัก เขาสนใจเอ็นบีเอมากกว่า อย่างไรเสียเขาก็ติดตามเอ็นบีเอมาหลายปีแล้ว ได้มาลอสแอนเจลิสทั้งทีก็ควรจะดูสักแมตช์
ดังนั้นเมื่อไป๋เยี่ยได้ฟังสิ่งที่ร็อคกี้พูด เขาก็เอ่ยถามขึ้นด้วยความสนใจ “ตอนนี้ผมยังซื้อตั๋วได้อยู่ไหมครับ”
ร็อคกี้ยิ้ม “น่าจะได้นะ ผลงานของเลเกอร์สไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เลยไม่ค่อยมีคนไปดูน่ะ วันนี้เป็นแมตช์ระหว่างเลเกอร์สกับร็อคเก็ตส์ แฟนๆ ของฮาร์เดน[3]ก็ไม่ใช่น้อยๆ”
อย่างไรก็ตาม เมื่อฮิลล์รู้ว่าไป๋เยี่ยอยากไปชมการแข่งขันบาสเก็ตบอล เขาก็รีบส่งตั๋วแถวหน้าสองใบมาให้ไป๋เยี่ยทันที
นั่นทำให้ร็อคกี้มีความสุขมาก ในฐานะแฟนกีฬา การได้ไปดูแมตช์การแข่งขันใกล้ๆ ถือเป็นเรื่องน่ายินดีมากเลยทีเดียว
การดูสดน่าตื่นตาตื่นใจกว่าการดูผ่านโทรทัศน์มาก ไป๋เยี่ยประทับใจกับช็อตดังค์และบรรยากาศที่ดีเจในสนามสร้างไว้ ช่วยให้ผู้คนที่มาดูแมตช์นี้พลิดเพลินไปด้วย
หลังจบเกม ไป๋เยี่ยและร็อคกี้ยังไม่หนำใจ พวกเขาจึงไปดื่มเบียร์กันที่บาร์ใกล้ๆ และตกลงนัดหมายกันว่าจะไปที่วิทยาลัยแพทย์ในวันรุ่งขึ้น
วิทยาลัยแพทย์แคลิฟอร์เนียไม่ได้ตั้งอยู่ในตัวเมือง แต่เป็นที่ดินขนาดใหญ่ในเขตชานเมืองฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ที่ล้อมรอบด้วยภูเขาและแม่น้ำ นับเป็นทำเลที่ไม่เลวเลย
วันนี้เป็นวันครบรอบวันสถานปนาวิทยาลัย ฮิลล์ซึ่งเป็นนายกเทศมนตรีเองก็ตั้งใจจะไปเข้าร่วมด้วย ตลอดสามสิบปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียได้ผลิตบุคลากรมากความสามารถออกมาหลายราย ในปัจจุบันวิทยาลัยแพทย์แคลิฟอร์เนียจึงมีชีวิตชีวามาก
ในฐานะที่ร็อคกี้เป็นศิษย์ดีเด่น เขาจึงได้เป็นตัวแทนขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ด้วย
วันครบรอบวันสถาปนาสถาบันของต่างประเทศนั้นมีความโดดเด่นอย่างหนึ่ง นั่นคือจะมีการแนะแนวอาชีพแก่รุ่นน้องเพื่อเป็นการตอบแทนสถาบันและผู้อาวุโส
โดยทั่วไปแล้วในวิทยาลัยแพทย์นั้น ทุนการศึกษาจะครอบคลุมทุกคน มีบริษัทและองค์กรหลายแห่งคอยมอบทุนการศึกษาและทุนสนับสนุนให้กับสถาบัน และจะมีการลงนามทำสัญญาล่วงหน้าให้กับบัณฑิตดีเด่นอีกด้วย
ขณะนี้เป็นช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลรับสมัครงาน ดังนั้นหลายหน่วยงานในลอสแอนเจลิสจึงเล็งโอกาสนี้ไว้
ร็อคกี้พาไป๋เยี่ยไปพบผู้อำนวยการวิทยาลัยแพทย์ด้วยตนเอง เมื่อผู้อำนวยการรู้ว่าไป๋เยี่ยมาที่นี่เขาก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เขาได้รับการขนานนามว่าเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ของลอสแอนเจลิส ผู้คนในแวดวงแพทย์ย่อมเคยได้ยินชื่อของไป๋เยี่ยมาก่อน
หลังจากที่ผู้อำนวยการได้ทราบว่าไป๋เยี่ยต้องการเข้ามารับสมัครบุคลากร เขาก็ดีใจมากและตกลงว่าจะช่วยประชาสัมพันธ์ให้ไป๋เยี่ย
หลังวันครบรอบวันสถาปนาวิทยาลัย ผู้อำนวยการก็ได้ประชาสัมพันธ์ในวิทยาเขตว่าไป๋เยี่ยผู้เป็นผู้ช่วยชีวิตทอม ครูซจะจัดมหกรรมรับสมัครงานที่วิทยาลัยเพื่อเฟ้นหาบุคลากรด้านงานวิจัยทางการแพทย์ ผู้ที่สนใจลองลงสมัครได้
[1] เลเกอร์ส (Lakers) ชื่อทีมบาสเก็ตบอลใน NBA
[2] ร็อคเก็ตส์ (Rockets) ชื่อทีมบาสเก็ตบอลใน NBA
[3] เจมส์ ฮาร์เดน (James Harden) นักกีฬาบอสเก็ตบอลของทีมลอสแอนเจลิสคลิปเปอร์ส