สูตรโกงฉบับเด็กเรียน - บทที่ 377 เซอร์ไพร์ส
บทที่ 377 เซอร์ไพร์ส
บริษัทเอสพีโอเอ็มเป็นบริษัทผลิตเครื่องมือทางการแพทย์ขนาดใหญ่ มีสถานะในสากลโลกมายาวนานกว่าบริษัทอื่นๆ อย่างจอห์นสันแอนด์จอห์นสันและไฟเซอร์ ซึ่งความรุ่งเรืองของบริษัทนั้นเริ่มต้นขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่งในฐานะอุตสาหกรรมด้านการทหาร
บริษัทเอสพีโอเอ็มตั้งอยู่ในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ตอนนั้นบริษัทยังเป็นเพียงโรงงานผลิตปุ๋ยเล็กๆ ในเมืองเท่านั้น
ขณะนั้นตรงกับช่วงสงครามพอดี จู่ๆ ‘บรูซ ไฟน์แมน’ ที่กำลังศึกษาอยู่ที่เอ็มไอทีก็ลาออกจากมหาวิทยาลัยและหันมาเริ่มศึกษาเรื่องดินปืน
อย่างไรก็ตาม บรูซก็มีความสามารถมากในด้านการวิจัยและพัฒนาดินปืนอยู่พอสมควร ระหว่างช่วงสงครามเขาจึงคอยจัดหาดินปืนมาไว้ในคลังอาวุธและทำเงินได้มหาศาลเลยทีเดียว
หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่งสิ้นสุดลง โรงงานผลิตดินปืนของไฟน์แมนก็ยิ่งมีบทบาทมากขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เพราะว่าหลังจากญี่ปุ่นทิ้งระเบิดลงที่ท่าเรือเพิร์ลฮาร์เบอร์ ฝั่งสหรัฐอเมริกาเองก็ต้องการชี้แจงข้อสงสัยต่างๆ ระหว่างการทำสงคราม เพื่อความมั่นคงและเสถียรภาพของประเทศชาติ
ดังนั้นสหรัฐอเมริกาจึงดำเนินการจัดระเบียบบริษัทเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการทหารในประเทศ บริษัทเอสพีโอเอ็มจึงได้รับโทษหนักข้อหาเป็นผู้จัดหาทรัพยากรให้ฝั่งญี่ปุ่น
บริษัทเอสพีโอเอ็มที่ใกล้จะล้มละลายเต็มที จึงเปลี่ยนแปลงตนเองภายในระยะเวลาอันสั้น และเริ่มหันมาทำงานวิจัยและพัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์แทน
บรูซเปลี่ยนชื่อบริษัทของตนเอง ซึ่งนั่นเทียบเท่ากับการขีดเส้นแบ่งระหว่างบทบาทอุตสาหกรรมทหารในอดีตอย่างชัดเจนและกลายมาเป็นบริษัทเอสพีโอเอ็มในที่สุด
นี่คือประวัติความเป็นมาของบริษัทเอสพีโอเอ็มที่ดำเนินกิจการอยู่ทุกวันนี้
ไป๋เยี่ยติดต่อกับเอสเซ็น ซึ่งเป็นผู้จัดการในประเทศจีนของเอสพีโอเอ็มตามข้อมูลติดต่อที่ได้รับมาจากหลี่เจี้ยนเหว่ย
หลังจากที่เอสเซ็นเข้าใจจุดประสงค์ของไป๋เยี่ยแล้ว เขาก็ชี้แจงมาทันที “เครื่องตรวจสอบสมดุลฮอร์โมนดีเอ็มแอล-2764ที เป็นผลิตภัณฑ์จากงานวิจัยชิ้นล่าสุดของบริษัท ยังไม่ได้รับการพัฒนาไปถึงระดับนานาชาติ แต่ถ้าคุณต้องการมันจริงๆ ผมก็ช่วยติดต่อกับบริษัทให้ได้ แต่ว่า…ราคาอาจจะสูงขึ้นหน่อยนะครับ”
ไป๋เยี่ยพยักหน้า เขาได้หาข้อมูลมาบ้างแล้ว เครื่องตรวจสอบสมดุลฮอร์โมนผ่านการอนุมัติโดยเอฟดีเอของสหรัฐอเมริกาและได้รับการอนุญาตให้วางจำหน่ายแล้ว
หลังจากได้ฟังดังนั้นแล้ว ไป๋เยี่ยก็พยักหน้า “ครับ ถ้าอย่างนั้นก็รบกวนคุณเอสเซ็นด้วยครับ”
แต่ถึงกระนั้นกว่าอีกฝ่ายจะตอบรับก็ใช้เวลาเกินหนึ่งวันเนื่องด้วยเหตุผลต่างๆ
ระหว่างนั้น ไป๋เยี่ยก็ได้รับสายจากหนานเฟยซี
“ฮ่าๆ ไป๋เยี่ย มานี่เร็ว มีความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องที่นายฝากฉันทำครั้งก่อนน่ะ!”
ไป๋เยี่ยได้ยินก็ตื่นเต้นขึ้นมา
เขาวางสายลงและรีบไปที่สถาบันวิจัยทันที
หลังจากที่หนานเฟยซีกลับมาที่ประเทศจีน ไป๋เยี่ยก็ให้เขามาทำงานในสถาบันวิจัยกระดูก โดยจัดให้พื้นที่ชั้นสิบหกเป็นศูนย์วิจัยวัสดุ เพื่อที่หนานเฟยซีจะได้มีสมาธิทำงานวิจัยของเขา
ต่อมาไป๋เยี่ยก็นำตะปูที่ได้มาจากการสุ่มรางวัลมาให้หนานเฟยซี โดยบอกว่ามันคือสิ่งที่เขาค้นพบจากการทดลองโดยบังเอิญ จากนั้นก็ขอให้หนานเฟยซีช่วยศึกษาส่วนประกอบและวิธีผลิตของมัน
อันที่จริงไป๋เยี่ยก็ไม่ได้คาดหวังมากนัก เพราะว่าการจะวิจัยตะปูชิ้นนั้นต้องอาศัยทักษะวัสดุศาสตร์เลเวลหก ในขณะที่หนานเฟยซีมีทักษะเลเวลห้าเท่านั้น
ความตั้งใจของไป๋เยี่ยคือปล่อยให้เขาค่อยๆ ค้นคว้ามันไป อย่างน้อยก็พอมีความหวังบ้าง
หลังจากที่เปิดประตูชั้นสิบหกแล้ว ไป๋เยี่ยก็ต้องตกตะลึงเม่อเห็นสภาพของหนานเฟยซี ผมเผ้าของเขายุ่งเหยิงไม่เป็นทรง แถมยังปล่อยให้หนวดขึ้นหร็อมแหร็ม
ไป๋เยี่ยมองไปรอบๆ พลางคิดว่าถ้าไม่ใช่เพราะภารโรงตั้งใจทำความสะอาดล่ะก็ คงไม่มีใครกล้าเข้ามาเหยียบสถาบันแห่งนี้หรอก
ในสถาบันวิจัยวัสดุมีพนักงานทั้งหมดสิบสองคน รวมถึงหนานเฟยซีที่เป็นหัวหน้าทีม ทว่าสภาพของเขาในตอนนี้กลับทำให้ไป๋เยี่ยรู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อย
ถ้าไม่ใช่เพราะต้องวิจัยตะปูเล่มนี้ หนานเฟยซีก็คงไม่อยู่ในสภาพนี้หรอก
แต่เมื่อไป๋เยี่ยมองแววตาอันเปล่งประกายของคนตรงหน้า เขาก็แทบกลืนคำพูดสวยหรูเหล่านั้นลงไป
หนานเฟยซีเห็นว่าไป๋เยี่ยมาแล้วก็ลากอีกฝ่ายไปที่ห้องแลบด้วยท่าทีตื่นเต้นพลางหันไปทางผู้ช่วยข้างๆ “เหล่าหลิว หยิบอันนั้นมาเร็ว! เอามาให้เจ้านายดูหน่อย ฮ่าๆ ถ้านายไม่มีโบนัสให้ ฉันจะเป็นคนแรกที่ลาออกเลยคอยดู!”
หนานเฟยซีพูดจบ ชายสวมแว่นที่อยู่ข้างๆ ก็ยื่นสิ่งนั้นให้ไป๋เยี่ยดูทั้งรอยยิ้ม “ดูนี่สิครับ”
ไป๋เยี่ยยื่นมือไปหยิบสิ่งนั้นขึ้นมาก่อนจะพินิจพิจารณามันอย่างละเอียด มันเป็นวัสดุสีขาวที่มีลักษณะคล้ายบิสกิต
น้ำหนักมันไม่เบาหรือหนักเกินไป แต่เมื่อออกแรงบีบจะมีเนื้อสัมผัสบางอย่าง
หนานเฟยซียิ้ม “ลองจับดูดีๆ สิ เหมือนกับอันที่ให้ฉันมาก่อนหน้านี้ไหม”
“อ้อ เหล่าหลิว ช่วยอ่านข้อมูลของมันให้หัวหน้าไป๋ฟังหน่อยนะครับ เผื่อว่าเขาจะมีความคิดอะไร”
ชายคนนั้นอ่านรายงานในมือ “เราตั้งชื่อสารนี้ว่า ‘สารโพลีเมอร์กรดแลคติกชนิดเคแอล’ เป็นสารชีวภาพ มีแรงดัดงอเริ่มต้นที่ 370 เอ็มพีเอ แรงต้านแรงเฉือน 310 เอ็มพีเอ หลังจากที่เราลองทดสอบความแข็งแรงโดยการใช้แรงกดเป็นเวลานานและจำลองสภาพแวดล้อมต่างๆ แล้ว คาดว่ามันจะมีอายุการใช้งานประมาณสิบสองถึงยี่สิบสัปดาห์…”
ไป๋เยี่ยได้ฟังแล้วก็อดตะลึงไม่ได้ เขาไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะใช้เวลาวิจัยเร็วขนาดนี้
เดิมทีเขาคิดว่าจะต้องใช้เวลาสามถึงห้าปีหรือไม่ก็อย่างน้อยๆ หนึ่งปีด้วยซ้ำ
เซอร์ไพร์สจริงๆ!
ไป๋เยี่ยคิดแล้วก็ตื่นเต้น เขาจึงใช้ดวงตารอบรู้ยืนยันข้อมูลดังกล่าว
[ติ๊ง! ค้นพบวัสดุระดับหกดาว: สารโพลีเมอร์กรดแลคติกชนิดเคแอล จะจับคู่กับผลิตภัณฑ์ตะปูยึดกระดูกที่ได้รับจากการจับรางวัลโดยอัตโนมัติ ความเข้ากันของวัสดุคือ 99% หลังจากตรวจสอบแล้วพบว่านำสารนี้มาใช้ผลิตตะปูเชื่อมกระดูกได้]
ไป๋เยี่ยได้ฟังก็รู้สึกปิติยินดีมาก สำเร็จแล้ว!
ฮะฮ่า!
ทว่าดูเหมือนมันจะไม่ได้จบแค่นั้น ยังคงมีข้อความแจ้งเตือนจากระบบปรากฏขึ้นมาอีก
[ติ๊ง! พัฒนาวัสดุผลิตตะปูเชื่อมกระดูกสำเร็จแล้ว ได้รับรางวัลจากระบบดังต่อไปนี้: แปลนผลิตตะปูเชื่อมกระดูก]
ไป๋เยี่ยยิ้ม ได้เจ้านี่มาก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลยแหละนะ
ไป๋เยี่ยมีข้อมูลและขั้นตอนการผลิตอยู่แล้ว แต่เพราะว่านี่เป็นสิ่งที่ระบบส่งมาให้ เขาจึงไม่ปฏิเสธ
หนานเฟยซีหัวเราะ “เป็นยังไงบ้าง เจ๋งไหมพวก บอกได้เลยว่ามันต้องขายดีมากแน่ๆ จากที่ลองพิจารณาตามคุณสมบัติของมันแล้ว ฉันคิดว่ามันจะดีต่อร่างกายของมนุษย์แน่นอน ถือเป็นวัสดุที่ปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงชนิดหนึ่งเลยแหละ”
“ยิ่งเป็นวัสดุที่ใช้ศัลยกรรมกระดูกด้วยแล้ว ลองคิดดูสิ มันแข็งแรงถึงขนาดนี้ แข็งเทียบเท่าวัสดุโลหะผสมเลยนะ ที่สำคัญคือมันถูกดูดซึมได้และยังปลอดภัยอีกด้วย ฉันลองตรวจสอบข้อมูลดูแล้ว ตอนนี้วัสดุที่ใช้กันมากมายยังเป็นโลหะผสมอยู่เลย เพราะฉะนั้น เจ้าสิ่งนี้น่ะ จะช่วยเปลี่ยนแปลงโลกของเราได้!”