สูตรโกงฉบับเด็กเรียน - บทที่ 403 รอโอกาส จบเล่ม 1 อาจไม่มีตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้
บทที่ 403 รอโอกาส
ไป๋เยี่ยยินดีกับการได้รับตำแหน่งประธานสาขาเวชศาสตร์มาก มันช่างมาได้เหมาะเจาะจริงๆ
การได้เป็นประธานแผนสาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉินย่อมเป็นผลดีต่อแผนการของเขาอย่างแน่นอน
ดังนั้นไป๋เยี่ยจะทำให้การจัดตั้งครั้งนี้ยิ่งใหญ่สะเทือนฟ้าดินเลยทีเดียว!
เขาต้องการสร้างความปั่นป่วนโดยการทำอะไรสุดพิเศษ!
การประชุมวันนี้ถูกจัดขึ้นก็เพื่อการนี้!
ไป๋เยี่ยจะต้องอธิบายขั้นตอนของแผนการนี้ให้ดี!
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่มีของที่จับรางวัลได้ทั้งสิบอย่างนั้น แต่ทีมวิจัยของไป๋เยี่ยก็ได้พัฒนาสิ่งอื่นๆ ขึ้นมามากมาย แม้จะไม่ใช่สิ่งที่อาศัยเทคโนโลยีขั้นสูง แต่ก็ถือเป็นนวัตกรรมที่ดี
ตัวเอกคือองค์ความรู้ด้านการแพทย์ฉุกเฉินของไป๋เยี่ย
ส่วนอุปกรณ์ทั้งสิบอย่างนั้นคือพร็อพประกอบฉากที่ทำให้แผนการนี้ดูสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นไปอีก
ตอนนี้ทุกอย่างพร้อมแล้ว เหลือแค่รอโอกาสเท่านั้น!
แต่ก็ไม่รู้ว่าโอกาสจะมาเมื่อไหร่…
การประชุมดำเนินไปอย่างราบรื่น แต่ละแผนกเริ่มรายงานความคืบหน้า ซึ่งล้วนแล้วแต่จะเป็นข่าวดี ทำให้ไป๋เยี่ยพอใจมาก
หลังการประชุม โจวเม่า อาคามอสและคนอื่นๆ ก็ยังอยู่ต่อ
โจวเม่ามีท่าทีสงบนิ่ง เขาเป็นคนใส่ใจกับเรื่องต่างๆ มาก ตอนแรกเขาอยากจะทำทุกอย่างด้วยตนเอง แต่ตอนนี้เขากลายเป็นผู้จัดการให้ไป๋เยี่ยเสียอย่างนั้น
เขายินดีทำทุกอย่างที่ไป๋เยี่ยขอ
เพราะเขาพบว่า ถ้าเขาทำมันด้วยตนเอง ขีดจำกัดความสามารถของตนก็คงอยู่ต่ำมาก แต่เมื่อได้ฟังไป๋เยี่ยพูดเรื่องการพัฒนา เขาก็รู้สึกทึ่งกับความคิดของไป๋เยี่ยมาก
ทว่าอุปกรณ์ต่างๆ ที่ไป๋เยี่ยคิดค้นขึ้นมากลับทำให้โจวเม่าเริ่มหวาดกลัว จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าอนาคตของไป๋เยี่ยอาจจะกว้างไกลดั่งทะเลดาวในนิยายก็เป็นได้!
ผู้ชายคนนี้ลึกล้ำมากจริงๆ!
มากเสียจนโจวเม่าตัดสินใจได้ว่าเขาควรจะทำอะไรบ้าง
อาคามอสพูดขึ้น “อาจารย์ครับ ผมติดต่อกับทางยุโรปและอเมริกาแล้ว ตอนนี้พวกเขาเฝ้ารอการเผยแพร่องค์ความรู้ของคุณ ถ้ามันเป็นไปตามที่คุณพูด เราจะจัดงานสัมมนาเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ติดต่อกันและเผยแพร่ความรู้เวชศาสตร์ฉุกเฉินให้สาธารณชน ผมเชื่อว่าทุกคนจะต้องอยากมาเข้าร่วมแน่ทำให้!”
“ตอนนี้ศูนย์กู้ภัยนานาชาติก็ติดต่อผมมาแล้วด้วย ทางนั้นขอให้ผมจองตั๋วงานสัมมนาให้สักยี่สิบใบ ถึงตอนนั้นจะมีคนมาเข้าร่วมแน่นอน”
“ตอนนี้พวกเรามีตั๋วเข้างานประมาณห้าพันใบ ผมกังวลมากว่าเราจะไปหาสถานที่ใหญ่ขนาดนั้นได้ไง…ฮ่าๆ”
ไป๋เยี่ยพยักหน้า หลังจากเหตุการณ์ของสวีเสี่ยวเฉียน ความรู้ด้านการแพทย์ฉุกเฉินของไป๋เยี่ยก็ถูกเผยแพร่ออกไปและได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก เขาจึงตัดสินใจจัดงานสัมมนาครั้งใหญ่หลังจากที่ก่อตั้งสาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉินเรียบร้อยแล้ว
งานสัมมนาจะกินเวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ โดยไป๋เยี่ย อาคามอส โยฮันและคนอื่นๆ จะเป็นผู้บรรยาย
ตอนนี้อาคามอสกำลังติดต่อผู้ที่จะมาเข้าร่วมอยู่
จู่ๆ โยฮันก็เดินขมวดคิ้วเข้ามาถาม “อาจารย์…ผมสงสัยอย่างหนึ่ง เราก็เตรียมการพร้อมแล้วนี่นา ตอนนี้เรารออะไรอยู่หรือครับ”
ไป๋เยี่ยได้แต่ยิ้ม ไม่พูดอะไรต่อ
ไป๋เยี่ยกำลังรออะไรอยู่กันแน่
แน่นอน เขากำลังรอให้สมาชิกทีมฝึกกว่าสองร้อยคนแสดงศักยภาพออกมา
ไป๋เยี่ยยกยิ้ม “อีกไม่กี่วันเดี๋ยวคุณก็รู้ครับ”
อันที่จริงทั้งโจวเม่าและอาคามอสก็ตั้งตารอฟังคำตอบของคำถามนั้นเช่นกัน แต่พวกเขาเลือกที่จะไม่ถาม เพราะถ้าไป๋เยี่ยอยากพูดจริงๆ เขาจะพูดออกมาเอง แต่ถ้าไป๋เยี่ยไม่อยากพูดก็ไม่จำเป็นต้องไปถามเขา
บางครั้งหัวหน้าก็ไม่ชอบลูกน้องขี้นินทา เพราะคนพวกนี้ไม่ได้แค่นินทาเรื่องคนอื่นๆ แต่ยังชอบนำเรื่องของหัวหน้าไปพูดลับหลังด้วย มีหัวหน้าคนไหนไม่มีความลับบ้าง ถ้าเผลอหลุดปากพูดออกมาก็จบเห่กันพอดี
แน่นอนว่าโยฮันก็แค่พูดไม่คิดเท่านั้น ไป๋เยี่ยจึงไม่ได้สนใจ
ไม่นานโยฮันและอาคามอสก็ขอตัวกลับไปก่อน พวกเขายังมีงานต้องทำอีกเยอะ
ส่วนไป๋เยี่ยและโจวเม่าก็มานั่งพูดคุยกันต่อ โจวเม่ารินชาให้ไป๋เยี่ยตามความเคยชิน
ไม่นานนัก โจวเม่าก็ยื่นเอกสารบางอย่างมาให้ไป๋เยี่ย
“เสี่ยวเยี่ย ผมคิดเรื่องนี้มาสักพักแล้ว ลองอ่านดูสิ ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็เซ็นชื่อนะ”
ไป๋เยี่ยถึงกับชะงักไป “นี่มันอะไรกันครับ ลุงโจว”
ระหว่างการประชุม โจวเม่าจะเรียกไป๋เยี่ยว่าหัวหน้า หรือเจ้านาย แต่เมื่ออยู่นอกเวลางาน ไป๋เยี่ยก็จะเรียกโจวเม่าว่าลุงโจว ส่วนโจวเม่าก็เรียกไป๋เยี่ยว่าเสี่ยวเยี่ย
โจวเม่าพูดด้วยรอยยิ้ม “ลองอ่านก่อน อาจจะเป็นเซอร์ไพร์สก็ได้!”
ไป๋เยี่ยหยิบเอกสารขึ้นมาด้วยความสงสัย เมื่อเห็นชื่อที่อยู่บนนั้นเขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย รอยยิ้มจางลง “ลุงโจวนี่ชอบตีเหล็กตอนยังร้อนจริงๆ ลุงก็รู้ว่าตอนนี้ผมไม่มีเงินแล้ว นี่ลุงตั้งใจหรือเปล่าเนี่ย”
โจวเม่าพูดด้วยน้ำเสียงติดตลก “เจ้าเด็กนี่ คิดว่าลุงโจวเป็นคนแบบไหนกัน”
ไป๋เยี่ยหยุดเล่นตลกและกลับมาจริงจัง “ลุงโจว วันนี้ไม่ใช่วันเอพริลฟูลส์แล้วก็ไม่ใช่วันเกิดผมด้วย ลุงคิดจะทำอะไรกันครับ จะเกษียณตัวเองล่วงหน้าแล้วเหรอครับ”
โจวเม่าหัวเราะเบาๆ “เสี่ยวเยี่ย ผมจะไม่ปิดบังคุณอีกต่อไป ความสามารถของลุงมีจำกัด จะให้ดูแลบริษัทเล็กๆ น่ะไม่มีปัญหาหรอก แต่ตอนนี้บริษัทของคุณก็โตขึ้นเรื่อยๆ ลุงถือหุ้นต่อไปไม่ไหวหรอก”
“ถ้าผมจะทำตามแผนของคุณต่อไป ผมก็คงไม่มีอิสระแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้หรอก”
“หลังจากคิดเรื่องหุ้นมาสักพักแล้ว ผมเลยตัดสินใจจะโอนหุ้นให้คุณ ส่วนราคาก็คำนวณตามมูลค่าของบริษัทในตลาดเลย”
ไป๋เยี่ยเบิกตากว้าง “ลุงโจว ทำไมไม่รออีกหน่อยล่ะครับ บางทีอีกหนึ่งปีข้างหน้าลุงอาจจะมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นสิบเท่าก็ได้ ลุงจะทำแบบนี้จริงๆ เหรอครับ”
โจวเม่ายิ้มจางๆ “ลุงโจวของคุณเก่งเรื่องการข่มใจนะ ไม่งั้นผมคงไม่ประสบความสำเร็จแบบทุกวันนี้หรอก”
ทั้งสองคุยกันบ่อยมาก ไป๋เยี่ยเข้าใจในสิ่งที่โจวเม่าคิด เขาจึงไม่คัดค้านอีกต่อไป เรื่องบางเรื่องก็ไม่ควรพูดออกมา ควรปล่อยให้มันผสมอยู่ในชาถ้วยนี้ไป
ไป๋เยี่ยดื่มชาหมดในอึกเดียว รสชาติดี ทั้งเข้มข้นและมีกลิ่นหอม!
โจวเม่าก็ดื่มชาหมดในอึกเดียวเช่นกัน รสชาติดี ทั้งกลมกล่อมและชวนให้คิดถึงวันวาน