หนทางรอดของนักบุญหญิงตัวปลอม - ตอนพิเศษ 6
“จะไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
ลีน่าเท้าคางมองเทือกเขาที่อยู่ไกลๆ เลออนยักไหล่หนึ่งทีเมื่อเห็นสีหน้าของลีน่า แล้วเอ่ยตอบ
“ไม่เป็นอะไรหรอก นางไปกับเซอร์ราธบัน สิ่งที่พวกเราต้องกังวลคือปีศาจที่อยู่ในเทือกเขานั้นต่างหาก”
“ปฏิเสธไม่ได้เลยแฮะ…”
เพราะอยู่กับราธบัน อย่างน้อยก็ไม่ต้องกังวลว่าเลโอน่าจะบาดเจ็บ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อดูจากภาพที่หายไปพร้อมกับราธบันตอนบ่าย ดูเหมือนเลโอน่าจะชำนาญกับการใช้เวทมนตร์มากขึ้นแล้ว อัศวินที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่กับจอมเวทที่ถึงแม้จะยังไม่แข็งแกร่งที่สุดแต่ก็จะเป็นที่สุดในไม่ช้า แถมนั่นยังอาจจะเป็นจักรพรรดินีนาถด้วย
“อันที่จริง ข้ามีคำพูดที่อยากบอกท่านตั้งมาถึงแล้ว แต่ได้พูดเอาตอนนี้”
“อะไรหรือ”
เลออนนำศีรษะเข้าไปใกล้ปลายนิ้วของลีน่าที่วางอยู่บนโซฟา มองเผินๆ ดูเหมือนลูกหมาที่อ้อนขอให้ลูบ แต่การเคลื่อนไหวและสายตาเหมือนกับสัตว์ร้ายไม่ผิดเพี้ยน
ลีน่าเบนสายตาที่มองเทือกเขาไกลๆ กลับมาด้านข้าง ตรงนั้นมีเลออนที่ดวงตาเปล่งประกายวิบวับราวกับกำลังรอให้นางมองตนอยู่ ลีน่าเอ่ยถาม
“ทำไมถึงไม่ใช้แหวนล่ะ”
โชคดีที่นางได้ยินเรื่องราวจากอีริสเลยรีบมาทัน แต่หากวันนี้นางมาถึงไม่ทันเวลาจะต้องเกิดสงครามขึ้นแน่ แม้แต่ในสถานการณ์เช่นนี้เลออนก็ยังไม่เรียกหานาง เลออนจับมือของลีน่าขึ้นมาเมื่อได้ยินคำถาม ก่อนจะจุมพิตที่ปลายนิ้วพลางตอบ
“เพราะมันไม่ใช่เรื่องด่วน หรือพูดให้ชัดคือมันเป็นเรื่องที่ข้าจัดการได้”
“แต่ว่า…”
“ลีน่า ข้า…ไม่สิ พวกเราต่างก็ต้องการสิ่งที่เดียวกัน”
ได้ยินคำว่า ‘พวกเรา’ ลีน่าก็หุบปาก เพราะนางรู้ว่าคำว่าพวกเราที่เลออนกล่าวถึงหมายถึงใคร
“การให้ท่านได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระในโลก ทุกคนต่างก็อยากจะคว้าข้อเท้าของท่านไว้ แต่ก็ไม่ทำเช่นนั้น”
“…”
สีหน้าของลีน่าพลันหม่นหมอง เลออนลุกขึ้นหอมแก้มนาง จากนั้นก็กล่าว
“แล้วก็ข้ากลัว”
“กลัว…”
“หากข้าเรียกท่านก็คงมาอยู่แล้ว มีครั้งที่หนึ่ง ครั้งที่สอง…เสร็จแล้วข้าก็จะเกิดความโลภ อยากให้ท่านอยู่ให้นานกว่านี้ อยากให้ท่านอยู่ข้างกันทุกวัน แล้วก็จะเกิดความต้องการอย่างแรงกล้าที่ไม่อยากให้ท่านจากไปอีกเลย…จนถึงกับกักขังท่านเอาไว้”
“…”
“เพราะอย่างนั้นข้าถึงได้อดทน เพื่อไม่ให้ตัวข้าทำลายอิสรภาพของท่าน”
ลีน่ามองเขาเมื่อได้ยินดังนั้น นี่คือองค์จักรพรรดิของจักรวรรดิที่กุมอำนาจทั่วทั้งทวีป ถ้าเขาคนนั้นตัดสินใจขึ้นมา…ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้ แน่นอนว่าราธบันคงไม่ปล่อยให้ทำเช่นนั้น แต่พวกเขาจะทนได้สักเท่าไรหากถูกคนทั้งโลกไล่ตาม ลีน่ายกมือขึ้นสางผมเขา และคราวนี้เป็นนางที่หอมแก้มอีกฝ่าย
“ขอบคุณนะ เลออน”
“…”
“ข้า…รู้สึกขอบคุณท่านมาตลอดจริงๆ”
นี่เป็นความจริง เลออนช่วยเหลือนางมากมายเหลือเกิน ไม่ใช่แค่ตัวนาง ทั้งอีริส ทั้งราธบัน รวมถึงเลโอน่าด้วย หลายเหตุการณ์ถูกแก้ไขได้ง่ายเพราะมีเลออนอยู่ นางต้องทำอย่างไรถึงจะตอบแทนความประทับใจนี้ได้
เลออนสัมผัสจุมพิตเบาๆ ที่ตกลงบนแก้มด้วยใบหน้าอารมณ์ดีพลางโอบเอวนางเข้ามากอด
“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณหรอก เพราะนั่นเป็นเรื่องที่ข้าสมควรทำแล้ว เพื่อจักรพรรดินีที่ข้ารัก”
จักรพรรดินี ลีน่าหลับตาเมื่อได้ยินคำนั้น
“บุคคลผู้ล้ำค่าที่สุดในจักรวรรดิแห่งนี้ วันนี้…”
เลออนเอ่ยกระซิบสิ่งที่ตนต้องการ
“อยู่เป็นภรรยาของข้านะ”
เลออนอุ้มลีน่าไปนอนบนเตียง
แม้จะเป็นห้องนอนที่สร้างขึ้นสำหรับองค์จักรพรรดิและจักรพรรดินี แต่ส่วนใหญ่เลออนต้องนอนในที่แห่งนี้คนเดียว
ที่ผ่านมาไม่รู้ว่ามีคนมากมายเพียงใดที่พยายามจะหาหญิงสาวคนใหม่มาไว้ข้างกายเขา แต่เลออนรู้ตัวว่าบัดนี้จะไม่มีหญิงสาวคนใดอีกที่ได้อยู่เคียงข้างเขานอกจากนาง
จักรพรรดินีผู้เอาแต่ใจอย่างแท้จริง นางเป็นจักรพรรดินีที่ทิ้งสามีของตนออกไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ในทวีปร่วมกับคนที่ตนรักเพราะอยากไปเห็นสิ่งแปลกใหม่ทุกอย่างในโลก แต่เลออนก็ยังรักนางที่เป็นเช่นนั้น ดังนั้นจึงมอบทุกอย่างให้ เพื่อไม่ให้มีเรื่องที่ทำให้ไม่สบอารมณ์ใดๆ บนเส้นทางของนาง
เลออนเห็นว่าบนใบหน้าของลีน่าที่มองตนเมื่อครู่ก่อนเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ใครบางคนอาจจะเคยกล่าวเอาไว้ ชีวิตที่ไม่ได้รับความรักแต่ได้รับความเห็นใจเป็นชีวิตที่น่าสงสาร
‘คำพูดโง่ๆ’
แน่นอนว่าเขาอยากได้ความรัก แต่เลออนรู้ดี ว่าขนาดของความรักที่ถูกแบ่งมาให้เขาไม่อาจใหญ่เท่าที่เขาต้องการได้
‘แถมยังไม่ใช่แค่ข้าที่ไม่พอใจ’
เห็นได้ชัดว่าราธบันเองก็ไม่พอใจไม่แพ้เขา ทั้งๆ ที่ได้รับความรักจากนางแต่ก็ยังโลภที่จะกลืนกินแม้แต่เศษชิ้นส่วนเดียวที่เหลืออยู่ เลออนรู้ว่าในใจของอีกฝ่ายที่สวมหน้ากากเป็นอัศวินผู้ซื่อสัตย์ มีความปรารถนาอันดำมืดที่ไม่ด้อยไปกว่าตน
เขาไม่มั่นใจว่าตนจะเอาชนะคนที่ลีน่าเลือกด้วยศึกแบบตาต่อตาได้ แต่เขาไม่คิดจะพ่ายแพ้ ดังนั้นเลออนจึงตัดสินใจเก็บและกลืนทุกอย่างที่ไม่ใช่ความรัก
ด้วยเหตุนั้น เลออนจึงใช้อำนาจทั้งหมดช่วยเหลือลีน่า นางคงคิดว่าเขาช่วยเหลือตนโดยไม่คาดหวังสิ่งตอบแทนใดๆ แน่นอนว่าเขาไม่ได้ต้องการสิ่งตอบแทนในทุกเรื่องที่ช่วยเหลือนาง แต่ความช่วยเหลือต่างๆ ของเขาก็ได้กลายเป็นโซ่ที่มองไม่เห็นและผูกรัดนางเอาไว้ และวันนี้ก็คือวันที่นางผู้ถูกมัดด้วยโซ่จะต้องตกลงสู่อ้อมกอดของเขา
“ลีน่า มองข้าสิ”
เลออนลูบพวงแก้มนุ่มๆ ของนางพลางเอ่ยเรียกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน นัยน์ตาสั่นไหวมองมาทางเขา นางยังคงมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ช่างไร้เดียงสา ไม่รู้กระทั่งว่าสิ่งที่ข้าทำทุกอย่างก็เพื่อให้ได้ท่านมาเช่นนี้และยังเห็นอกเห็นใจข้าอีก
“อย่ารู้สึกผิดกับข้าเลย”
เพราะตอนนี้จิตสำนึกที่ไม่เหลือแม้แต่ร่องรอยกำลังจะทำให้ท่านเจ็บ
เลออนจูบลีน่า พอเขาเซ้าซี้อย่างอ้อนวอน ริมฝีปากของนางก็เปิดออก เลออนเข้าไปด้านในของนางอย่างยินดีที่ได้รับการอนุญาต
กลิ่นหอมสดชื่นและรสหวานกระจายไปทั่วโพรงปากของเขา นี่เป็นรสชาติของนางที่เขาคิดถึงจนแทบคลั่งตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา เลออนตระหนักขึ้นมาได้อีกครั้ง สิ่งที่เขาต้องการมีเพียงแค่นางจริงๆ เพียงแค่จินตนาการว่าได้สัมผัสก็แทบจะหมดสติ เมื่อได้มาสัมผัสจริงๆ ก็แทบหยุดหายใจ เลออนจูบนางซ้ำไปซ้ำมาราวกับคนที่เจอน้ำกลางทะเลทราย
เสื้อผ้าของทั้งสองคนตกลงเบื้องล่างโดยไม่รู้ตัว บนเตียงนอนกว้างใหญ่พลันมีร่างเปลือยเปล่าที่ขาวจนแสบตา เลออนลูบไล้เรือนร่างของนางอย่างระมัดระวังราวกับสัมผัสถ้วยแก้ว เรื่องที่ลีน่าอยู่กับราธบันมาตลอดผุดขึ้นมาในหัวของเลออนแวบหนึ่งจนทำให้ไม่สบอารมณ์ แต่เลออนก็รีบสะบัดความคิดนั้นออกไป ก่อนที่ราธบันจะกลับมา นางคือจักรพรรดินีและภรรยาของเขา
หนึ่งนาที หนึ่งวินาทีล้วนเป็นช่วงเวลาที่ล้ำค่าสำหรับเลออน ดังนั้นนี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาเสียเวลานึกถึงคนที่เกลียด ตอนนี้เขายุ่งแค่กับการรักนางก็พอแล้ว
ริมฝีปากของเลออนเลื่อนลงด้านล่าง หลังจากที่ทิ้งรอยแดงเล็กๆ ไว้บนคอเรียวยาวของนาง เขาก็เลื่อนตัวลงด้านล่างอีกเล็กน้อย ร่างกายของนางก็สั่นเทาด้วยความประหม่าทันที เมื่อเห็นดังนั้น เลออนก็ไม่อาจซ่อนความยินดีได้เลย
เขารู้ว่าลีน่าตอนที่อยู่กับราธบันเป็นอย่างไร ลีน่าจะไม่ประหม่าแบบนี้ถ้าอยู่ในอ้อมกอดของราธบัน การที่นางประหม่าเช่นนี้…หมายความว่านางรับรู้ถึงตัวเขาอย่างมีสติ ตอนนี้นางกำลังมองเขาไม่ใช่ราธบัน นางกำลังรู้สึกถึงตัวเขา และกำลังจะรับเขาเข้าไป
เลออนกัดฟันขณะรู้สึกได้ว่าส่วนล่างของตนกำลังตั้งขึ้นอย่างตื่นเต้นจนเจ็บ เขาอยากเข้าไปด้านในของนางบัดเดี๋ยวนี้ แต่เลออนรู้วิธีที่จะทำให้ตนเองได้พบกับความพึงพอใจที่มากกว่านั้น ช่วงเวลาอันมีค่าเพียงไม่กี่วันในหนึ่งปี เขาต้องการลิ้มรสความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
เลออนซุกใบหน้าของตนลงไปที่หน้าอกของนางแทนที่จะรีบเข้าไปด้านใน
“อือ อึง…”
เมื่อมือของเขากอบกุมหน้าอกอวบอิ่ม ร่างกายของนางก็ผงะทันที เลออนคีบยอดอกที่ตั้งชันของนางไว้ระหว่างนิ้วและใช้มือวาดเป็นวงกลม ร่างกายของนางที่เคยตึงเครียดอย่างเต็มที่เริ่มผ่อนคลายทีละน้อยด้วยสัมผัสมือของเขา
“ลีน่า”
ลมหายใจร้อนๆ เฉียดผ่านปลายอกของนางทันทีที่เลออนเปิดปาก ร่างกายที่ไม่มีสิ่งใดปกปิดแม้แต่น้อยพลันสั่นสะท้านด้วยความตกใจเพราะลมหายใจที่มาสัมผัสอย่างกะทันหันขณะจมอยู่ในอากาศหนาวเย็น เลออนมองยอดอกที่แข็งชันด้วยสีหน้าพึงพอใจพลางกล่าวอีกครั้ง
“ท่านไปที่ไหนมาบ้างหรือ”
“ไปมาหลายที่… ไปหา… อีริสมาด้วย…”
ทุกครั้งที่เลออนเปิดปากพูด ลีน่าก็จะบิดตัวราวกับอดทนไม่ไหว ลมหายใจที่เฉียดผ่านยอดอกไปมาทำให้นางลำบากยิ่งกว่าสัมผัสมือที่จับอย่างแรงเสียอีก
“บอกว่าไปหลายที่แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไร ช่วยบอก…”
เลออนยิ้มพลางออกแรงที่มือข้างที่กุมหน้าอกข้างหนึ่งของนาง เนื้อนุ่มทะลักออกมาระหว่างซอกนิ้วของเขา เลออนแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องและพูดต่อไป
“ข้าอยากฟังอย่างละเอียดกว่านี้”
อยากดูให้ละเอียดกว่านี้ด้วย เลออนแสร้งทำเป็นพลาดและใช้ปลายนิ้วข่วนหน้าอกของนาง แม้จะเป็นการกระทำที่ไม่รุนแรงเลยแม้แต่น้อย แต่ร่างกายของลีน่ากลับสั่นสะท้านอย่างแรงราวกับถูกฟ้าผ่า
“ข้าไป…แม่น้ำนั่นที่ท่านเคย…เปิดหนังสือให้ดูคราวก่อน…อื้อออ!”
ขณะที่นางกำลังย้อนนึกถึงสถานที่ที่ตนไปและอธิบาย ปากของเลออนก็ขบหน้าอกของนางเบาๆ เลออนที่เก็บนางไว้ในปากด้วยความโลภ ใช้ลิ้นลากไปรอบๆ ติ่งเนื้อที่ชูชัน แล้วใช้ปลายลิ้นกดยอดอกอย่างแรง
“เลออน!”
ทันทีที่นางเรียกเขา เลออนก็ยิ้มราวกับถามว่ามีเรื่องอะไรหรือ ก่อนจะถอนปากออกมาจากหน้าอก
“ข้าฟังอยู่ พูดต่อสิ”
“น้ำไหลทวน…ฮา…ไป…แม่น้ำนั่น…อ๊ะ!”
พอลีน่าเริ่มพูดอีกครั้ง เลออนก็กัดหน้าอกของนางจนเต็มปาก ลีน่าคว้าหัวของเขาเพื่อดันออกไป แต่เลออนไม่ใช่คนที่จะถอยออกไปเพราะอากัปกิริยาอ่อนแรงแบบนั้น เขาขยับมือขยำหน้าอก ยอดอกที่แข็งตึงจากการถูกกระตุ้นถูกบดขยี้อย่างไร้ความปรานีอยู่ในปากของเขา
“เลออน อ๊า อึก…!”
ความเสียวซ่านที่เริ่มจากหน้าอกทำให้ปลายเท้าจิกเกร็งโดยอัตโนมัติ ลีน่าบิดตัวไปมาอย่างไม่รู้ต้องทำอย่างไรเพราะความสุขสมที่ต่างจากที่ราธบันมอบให้ ผ่านไปครู่หนึ่ง สุดท้ายนางก็ร้องครางกระเส่าออกมาอย่างทนไม่ไหว เลออนขยับตัวขึ้นมาบนร่างนางที่หมดเรี่ยวแรง
ส่วนล่างของเขาที่พองตัวจนไม่อาจทนได้ผงกหัวขึ้น และกำลังต้องการร่างกายของภรรยาที่ไม่ได้กลับมาหาตนนานแล้ว มือของเลออนเข้าไประหว่างเรียวขาขาว ไม่นาน ร่างกายของนางก็แง้มออกเต็มที่ ช่วงเวลาที่เขารอคอยมาถึงแล้ว ส่วนปลายของความเป็นชายที่พองตัวจนแข็งแตะกับทางเข้าที่กำลังมีของเหลวไหลออกมา
มือของลีน่ากำผ้าปูเตียงทันทีที่ส่วนนั้นของเขาแทรกเข้าไปด้านในเล็กน้อย เลออนเห็นดังนั้นจึงวางมือของตนเองบนมือนาง นิ้วมือเกี่ยวพัน ก่อนที่มือทั้งสองจะคว้ากันเอาไว้แน่น การเตรียมพร้อมสำหรับการสอดประสานอันสมบูรณ์แบบเสร็จสิ้นแล้ว
เลออนเข้าไปด้านในของนางอย่างไม่ลังเล
ถึงเวลาที่จะรักภรรยาของเขาแล้ว
***
“ท่านพ่อ!”
เลโอน่ากลับมาในรอบหนึ่งสัปดาห์ ทั้งที่นางขอขี่คอราธบันเข้ามาจนถึงในพระราชวัง แต่เมื่อเห็นเลออนก็กระโดดลงมาทันทีราวกับจะบอกว่าเจ้าไม่จำเป็นอีกต่อไป ลีน่าหลุดยิ้มออกมาเมื่อเห็นเลโอน่าวิ่งตรงเข้ามาหาเลออนและยิ้มอยู่ในอ้อมกอดของเขา ราธบันยักไหล่อย่างไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร
“เป็นอย่างไรบ้าง สนุกหรือไม่”
“อื้อ ไปจับปีศาจกับเซอร์ราธบันมาค่ะ กินของอร่อยเยอะเลย แล้วท่านพ่อกับท่านแม่เล่นกันสนุกไหม”
เลออนยกตัวเลโอน่าขึ้นและหมุนไปรอบๆ แทนคำตอบ เสียงหัวเราะก๊ากของเด็กน้อยดังขึ้น หลังจากเล่นกับลูกสาวที่น่ารักอยู่ครู่หนึ่ง เลออนก็กอดเลโอน่าไว้ในอ้อมกอดอย่างทะนุถนอมอีกครั้ง ตอนนั้นเองเลโอน่าก็กระซิบข้างหูเขา
“ข้าพยายามหาโอกาสฆ่าเซอร์ราธบัน แต่เขาแข็งแกร่งมาก ถูกจับได้ทุกรอบเลยค่ะ”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวโตขึ้นอีกหน่อยต้องสำเร็จแน่”
“…ข้าได้ยินหมด”
แม้ราธบันจะพูดเช่นนั้น แต่คู่พ่อลูกก็ทำตัวราวกับรู้แล้วอย่างไร ไม่สนใจคำพูดของราธบันแม้แต่น้อย และเริ่มแลกเปลี่ยนเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างกัน ราธบันถอนหายใจพลางหมุนตัวกลับ แล้วเดินเข้าไปหาลีน่าที่นั่งอยู่บนโซฟา
“ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นใช่ไหมขอรับ”
“ไม่เป็นอะไร ข้าสบายดี”
“ค่อยยังชั่ว”
ราธบันไม่ถามอะไรลีน่าอีก ตลอดหลายวันที่เขาไม่อยู่ เขารู้ดีว่านางกับเลออนทำอะไรกันที่นี่ เลออนที่ดูแลลูกของนางและครอบครองตำแหน่งสามีของนางก็คงจะเรียกร้องสิทธิอันชอบธรรมที่เหมาะสม แม้ราธบันจะไม่ชอบใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ขอแค่ไม่ใช่เรื่องที่เลออนฝืนใจลีน่าก็พอแล้ว
‘ไอ้คนเจ้าเล่ห์’
เลออนแสร้งทำเป็นยอมทำทุกอย่าง และทิ้งสมอหนักๆ ไว้ที่มุมหนึ่งในหัวใจของนาง เขาใช้เลโอน่ากับอีริสเป็นข้ออ้างและสวมแหวนที่นิ้วของนาง ในบางครั้งก็ยังต้องการนางเช่นนี้ ราธบันจับศีรษะของลีน่าที่นั่งอยู่ให้มาพิงร่างกายตนเอง พอเห็นดวงตาของเลออนหรี่ลงหลังจากเห็นภาพนั้น ก็พลันรู้สึกสดชื่นขึ้นมาเล็กน้อย
“ดูอะไรอยู่หรือ”
ราธบันมองกระดาษที่อยู่ในมือของลีน่า มันเป็นกระดาษที่มีรูปวาดกับตัวอักษรถูกเขียนไว้จนแน่นเอี๊ยด
“เป็นรายงานเกี่ยวกับเรื่องประหลาดที่ถูกพบเห็นภายในจักรวรรดิตลอดเวลาที่ผ่านมา”
“…”
“…”
คำตอบของลีน่า ทำให้สายตาของราธบันกับเลออนปะทะกันอีกครั้ง
แอสรัน
ชื่อนั้นติดอยู่ที่ปากของทั้งสองคน