หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ - บทที่ 155 หามีผู้กล้าสักคนไม่ ! (ต้น)
บทที่ 155 หามีผู้กล้าสักคนไม่ ! (ต้น)
มองเห็นตัวอักษรเรียงราย เหล่าศิษย์แห่งฉางมู่ต่างหน้าตาบิดเบี้ยวเหยเก !
เยี่ยฉวนทำให้คนฉางมู่ต้องอับอายจนไม่อาจปิดบัง ! ศิษย์ส่วนหนึ่งที่รับไม่ได้ ทำท่าจะพุ่งเข้าหาเยี่ยฉวนทว่าอาจารย์ใหญ่หลี่เสวียนชางและคนอื่นเข้ามาพอดี
หลี่เสวียนชางมองเยี่ยฉวนด้วยแววตาเย็นชา กำลังเอ่ยปากจะพูดแต่ไม่ทันเพราะเยี่ยฉวนหันหลังให้และกลับออกไปเสียเฉย ๆ เพราะการเคลื่อนไหวรวดเร็วกว่าคนปกติ ดังนั้นชั่วพริบตาร่างของเขาจึงได้ลับสายตาไป เสียแล้ว !
คนออกไปแล้ว กลับทิ้งตัวอักษรไว้บนพื้นดิน มีใจความว่า ‘ศิษย์นับร้อย หามีผู้กล้าสักคนไม่ !’ ยามนี้ คงไม่ต้องบอกว่า ใบหน้าของหลี่เสวียนชางจะเหี้ยมเกรียมน่าหวาดกลัวมากเพียงใด
ซึ่งไม่ต่างกับศิษย์แห่งฉางมู่ ทุกคนเลือดขึ้นหน้าตาแดงก่ำ พวกเขาถูกดูหมิ่นอย่างร้ายแรง ! พลันศิษย์กลุ่มหนึ่งจะทะยานออกตามหลังเยี่ยฉวน แต่แล้วต้องหยุดชะงักด้วยบรรดาอาจารย์พากันยับยั้งไว้
อาจารย์ใหญ่หลี่เสวียนชางเหลือบมองศิษย์ฉางมู่ ก่อนออกเสียงเฉียบขาด “กลับขึ้นเขาให้หมดทุกคน !” เหล่าศิษย์ไหนเลยจะกล้าขัดคำสั่ง จำต้องหันหลังกลับแต่ไม่วายบางคนท่าทางลังเลพะวักพะวง
ณ มุมหนึ่ง ร่างสตรีมองตามหลังเยี่ยฉวนซึ่งเดินห่างออกไปในระยะไกล “เหตุใดจึงไม่อนุญาตให้ข้า จัดการมันเสีย ?”
ผู้พูดคือเป่ยเฉิน ! ส่วนบุคคลที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเป่ยเฉินคือกู่มู่ !
เขาส่ายหน้าช้า ๆ “ ฝีมือกล้าแกร่งน่ากลัว เวลานี้น่าจะมีแต่ผู้เยี่ยมยุทธ์อันหลานซิ่วซึ่งออกจากแคว้น เจียงไปแล้วเท่านั้น จึงสามารถสยบคนผู้นี้ได้ !”
ได้ยินคนพูดตอบมา เป่ยเฉินจึงได้แต่นิ่งเงียบ หากพูดถึงความกล้าแกร่งด้านพลังนางเองไม่แพ้เฟินเจี๋ย ฉะนั้นเมื่อเยี่ยฉวนสามารถสังหารเฟินเจี๋ยได้ เขาย่อมสังหารตนได้เฉกกัน !
กู่มู่มองตามเยี่ยฉวนที่เดินห่างออกไปจนสุดสายตา “วันนั้นมันยังไม่ตาย… น่าพิศวงยิ่งนัก !” จากนั้น คนพูดหันมาสั่งเป่ยเฉิน “เจ้าไม่ต้องสู้กับมันตัวต่อตัว ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉางมู่” คนรับฟังหาได้เอ่ยคำโต้แย้งแต่อย่างใด
ภายหลังออกจากสถานศึกษาฉางมู่ เยี่ยฉวนไม่ได้คิดออกนอกเส้นทางแต่มุ่งหน้ากลับฉางหลานทันที การเยี่ยมเยือนฉางมู่ในวันนี้เขาไม่ได้เอ่ยบอกผู้ใด เหตุที่ไปเพราะความรู้สึกหงุดหวิดไม่สบายใจของตนเอง จึง ต้องการระบายความอัดอั้นนั้นให้กับศิษย์ฉางมู่บ้าง แต่ถ้าไปแล้วได้สังหารศัตรูสักคนสองคน ตนเองคงจะรู้สึก สบายใจขึ้น
นับตั้งแต่สถานศึกษาฉางมู่ข้ามเขตเข้ามาลักพาตัวน้องสาวตัวน้อยของเขาวันนั้น มันก็ยิ่งเพิ่มพูนความรู้สึกเกลียดชังสถานศึกษาแห่งนี้ในใจเยี่ยฉวน หากได้บังเอิญพบกันวันใด เขาคงต้องสู้กับพวกมันจนกว่าจะ แดดิ้นกันไปข้างอย่างไม่ต้องสงสัย !
ทันใดนั้นฝีเท้าที่กำลังจ้ำเดินพลันหยุดกึก ด้วยบริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่งทางด้านขวาไม่ไกลนัก ปรากฏเด็กหญิงแต่งกายชุดสีดำกำลังนั่งยองอยู่กับพื้น อายุอานามน่าจะสิบสองสิบสามขวบ ทว่าเสื้อผ้าที่นางสวมใส่ สะดุดตายิ่งนัก ด้วยความพิเศษตรงที่วาดลวดลายดอกไม้โครงกระดูกสีขาว
เด็กหญิงกำลังก้มหน้าก้มตาง่วนอยู่กับการแกะสลักไม้ชิ้นเล็กในมือ ท่าทางเก้กังวุ่นวายราวกับกำลังทำในสิ่งที่เกินความสามารถของตน และเหมือนนางเพิ่งรู้ตัว จึงพลันเงยหน้าขึ้นมองมาสบตาที่เยี่ยฉวนพอดี !
ขณะเดียวกันนั้น เยี่ยฉวนที่มองเห็นใบหน้าเล็ก ๆ นั้นเต็มตา เขาพลันประเมินในใจว่าหน้าตาเด็กน้อย ไม่ใช่คนสะสวย กลับออกจะเศร้าหมองเสียด้วย โดยเฉพาะดวงตาที่จ้องมองมาคู่นั้น ที่ทำให้เขารู้สึกอึดอัด อย่างบอกไม่ถูกนับตั้งแต่แว่บแรกที่เห็น !
ชายหนุ่มลังเลนิดหน่อยก่อนจะตัดสินใจเดินตรงเข้าไปหาและทรุดนั่งยองลงเบื้องหน้า จากนั้นจึงเอื้อมมือออกไปดึงเครื่องมือแกะสลักในมือของเด็กน้อยพลางพูดยิ้ม ๆ “จะแกะเป็นรูปอะไร ?”
เด็กหญิงจ้องหน้าทว่าไม่ตอบคำถาม กลับชี้มือออกไปที่ชายคาบ้านหลังหนึ่งห่างออกไป เยี่ยฉวนมอง ตามนิ้วมือเล็ก ๆ ชี้ไปที่นกสีดำตัวหนึ่ง ซึ่งดูประหลาดนักด้วยมีขาเพียงข้างเดียว !
เขามองนกตัวนั้นอยู่สักครู่ จากนั้นจึงหันมาเริ่มลงมือแกะสลักไม้อย่างคล่องแคล่ว เพียงครู่เดียว นกตัวเล็กที่ดูราวกับจะมีชีวิตได้ปรากฏเบื้องหน้าเด็กหญิง
งานไม้แกะสลัก !
อันที่จริงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเขา เพราะเยี่ยฉวนชอบการแกะสลักเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว ตอนที่ตัว เองและน้องเติบโตในครอบครัวที่ไม่ได้มีฐานะอะไร บางครั้งน้องสาวของเขาก็มีอารมณ์อยากได้ของเล่นแบบ เด็ก ๆ บ้าง แน่นอนว่าเขาคงไม่มีปัญญาซื้อหาให้นาง ดังนั้นจึงเริ่มแกะสลักไม้เป็นของเล่นให้น้อง และเมื่อเวลาผ่านไปฝีมือทางการแกะสลักเพิ่มพูน ไม่ว่าจะเป็นนก ปลา หรือคน เยี่ยฉวนสามารถแกะสลักให้ดูเสมือนมีชีวิต ได้หมด !
ความสามารถในข้อนี้อาจไม่มีค่ามีประโยชน์สำหรับคนอื่น… ทว่าทำให้น้องคนเดียวมีความสุขสมหวัง เพียงเท่านี้เขาก็พอใจแล้ว !
เยี่ยฉวนส่ง ‘นกไม้ตัวน้อย’ ที่สำเร็จแล้วให้เด็กหญิงชุดดำ “รับไปสิ !”
เด็กน้อยรับไม้แกะมาดู นางจ้องนกแกะสลักในมืออยู่ครู่หนึ่งจึงเงยหน้าขึ้นมองเยี่ยฉวน หลังเห็นแววตาที่มองมา ชายหนุ่มก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ “ถ้าจะแกะสลักอะไร เจ้าต้องค่อยทำอย่างใจเย็น รีบร้อนไม่ได้ ยิ่ง ใจร้อน ยิ่งทำให้เกิดข้อผิดพลาด !”
กล่าวจบหันไปหยิบไม้ชิ้นเล็กอีกชิ้นจากเบื้องหน้าเด็กหญิง และเริ่มลงมือขุดแกะอย่างรวดเร็ว ไม่นาน ต่อมาจากที่เป็นแผ่นไม้ก็เริ่มปรากฏเป็นรูปเป็นร่าง !
คราวนี้เขาแกะสลักเป็นเด็กตัวเล็กซึ่งมีลักษณะเหมือนเด็กหญิงชุดดำไม่ผิดเพี้ยน !
เมื่อนางเห็นเช่นนั้น พลันแววตาแปรเปลี่ยนเป็นประกายสดใสขึ้นทันที เยี่ยฉวนส่งรูปแกะสลักไม้ของ เด็กหญิงชุดดำคืนให้นางพลางพูดยิ้ม ๆ
“ข้าให้ !” เด็กน้อยจ้องเยี่ยฉวนไม่วางตา ก่อนจะยื่นมือออกมารับแต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีคำพูดหลุดจากปาก !