หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ - บทที่ 161 หาเงินจากการต่อสู้ได้นี่เอง ! (ต้น)
บทที่ 161 หาเงินจากการต่อสู้ได้นี่เอง ! (ต้น)
เยี่ยฉวนเดินเข้ามาช่วยฉุดโม่อวิ๋นฉีให้ลุกขึ้น อีกฝ่ายปาดโลหิตที่ซึมออกมาจากมุมปาก สายตาเขม่นมองสองคนเบื้องหน้า เสียงรำพึงกับตนเอง “คนผู้นี้พลังแข็งแกร่ง !”
“จริง แข็งแกร่งมาก !” เยี่ยฉวนพยักหน้าเห็นด้วย จากประสบการณ์ที่เคยปะทะมาก่อนหน้า ทำให้ไม่อาจมั่นใจว่าจะสามารถคว่ำคนทั้งสองได้ !
ข้อเท็จจริงที่ว่าในโลกนี้คราคร่ำไปด้วยยอดอัจฉริยะและยอดคน !
สถานศึกษาฉางมู่รู้ดีในข้อนี้ จึงตั้งรางวัลมูลค่ามหาศาลเพื่อล่อตาล่อใจต่อคนเหล่านั้น !
อย่าว่าแต่คนอื่น แม้เยี่ยฉวนเองยังรู้สึกอิจฉาหน่อย ๆ!
เฉพาะคัมภีร์ยุทธ์ขั้นปฐพีอย่างเดียว เขาสามารถขายเพื่อซื้อกระบี่จิตวิญญาณได้หลายเล่มแล้ว !
วินาทีนั้นต้องสลัดความคิดวุ่นวายในหัว เขาหันมาหาคนที่ยืนข้างทั้งสอง ไป๋เจ๋อและโม่อวิ๋นฉี “เลือกเอา จัดการคนละคน !”
ไป๋เจ๋อกราดมองรอบตัว สายตาปะทะเข้ากับคนร่างยักษ์ยืนอยู่ไม่ไกลออกไป ! โดยไม่พูดพล่ามทำเพลง เขาทะยานเข้าหาชายร่างยักษ์อย่างรวดเร็ว ! ชายร่างยักษ์เห็นคนพุ่งเข้ามา มันหาได้หวาดหวั่นไม่ กลับกระโจนพรวดและทะยานเข้าหาไป๋เจ๋อเช่นเดียวกัน !
เปรี้ยง ! เปรี้ยง ! เปรี้ยง !
ฉับพลันต่อมา เสียงระเบิดต่อเนื่องดังสนั่นขึ้นทางเบื้องหลังเยี่ยฉวนและโม่อวิ๋นฉี !
เยี่ยฉวนปรายตามองโม่อวิ๋นฉี ซึ่งยังยืนหน้ามึนนิ่งเฉย คนถูกมองเบนสายตาไปทางคนถือดาบสั้นโค้งจันทร์เสี้ยว ทันใดนั้นเองราวกับตัดสินใจขั้นเด็ดขาด พลันร่างทั้งร่างถลันพรวดไปทางชายถือดาบสั้นรวดเร็ว มีเสียงดังครั่นครืนปานฟ้าคำราม !
หากนั่นมิได้ทำให้ชายถือดาบสั้นสะดุ้งสะเทือน กลับกันเขาทะยานเข้าหาและยกดาบตวัดฟากฉับเต็มแรงดังควับ !
ทว่าดาบนั้นกลับพลาดเป้าหมาย !
โม่อวิ๋นฉีโผล่พรวดขึ้นเบื้องหน้ามันเสียแล้ว ชายถือดาบสั้นจึงจำต้องพลิกหลบ ด้วยเคลื่อนไหวรวดเร็วสูสีกัน เขาจึงหมุนตัวกลับพร้อมสับดาบสั้นลงมาอีกครา…
ด้านจี้อันซื่อ นางได้กระโดดออกจากที่พาร่างทะยานเข้าหาสตรีชุดดำ ขณะที่คนบนหลังคาหายแวบออกห่าง ในเวลาเดียวกันลูกธนูขนนกก็ได้พุ่งสวนทางเข้าหาร่างของจี้อันซื่อ ทำให้นางไม่กล้าผลีผลามลงมือ…
ที่ด้านล่างนั้นเอง เยี่ยฉวนและบุรุษในชุดคลุมยาวยืนคุมเชิงซึ่งกันและกัน ยังไม่มีใครเป็นฝ่ายเริ่ม !
คนสวมเสื้อคลุมยาวจ้องเขม็ง และเอ่ยขึ้นก่อนว่า “พวกเรากำลังจะไปจากเมืองหลวง !”
เยี่ยฉวนส่ายหน้า ทำเสียงจึ้กจั้ก “ถ้าเจ้าพูดก่อนหน้าที่พี่น้องของข้าจะมาถึง ข้าก็คงไม่รั้งไว้ แต่นี่… สายไปเสียแล้ว !” ขาดคำของเยี่ยฉวน ร่างทั้งร่างเผ่นโผนพุ่งเข้าหาอีกฝ่าย ราวสมิงร้ายหมายมาดตะครุบเหยื่อ !
บุรุษชุดคลุมกระชับทวนยาวในมือเกร็งจนข้อนิ้วซีดขาว ในเวลานั้นลำทวนในมือสั่นสะเทือนรุนแรง ทำให้ทันใดนั้นพื้นดินค่อย ๆ ปริแยกแตกออกทีละนิด !
ครู่ต่อมา เขากระแทกลำทวนยาวออกมาข้างหน้า ก่อนที่ปลายทวนจะบังเกิดแสงสว่าง และพลันมีลำแสงชนิดหนึ่งพุ่งปลาบจากปลายทวน ! ช่วงเวลาเดียวกันผนังกำแพงหนาทั้งซ้ายขวาก็ได้ระเบิดออกเป็นเสี่ยง ๆทันที !
ทันใดนั้นแสงแห่งกระบี่ฟาดควับ พลันสรรพสำเนียงทั้งลานเงียบกริบ ! ร่างของเยี่ยฉวนยืนสงบนิ่งห่างออกไปไม่มากนักจากบุรุษชุดยาว ที่ปลายกระบี่หลิงซิ่ว หยาดโลหิตค่อย ๆ หยาดรินตามคมกระบี่ !
เหตุการณ์ทางด้านอีกฝั่งหนึ่ง ขณะนั้นไป๋เจ๋อกำลังต่อสู้กับชายร่างยักษ์อย่างดุเดือด ด้วยทั้งคู่เป็นผู้ฝึกด้านกายเนื้อ ดังนั้นการต่อสู้ของทั้งสองจึงเป็นการแลกหมัดเข้าใส่กันไม่ลดละ แต่ถึงกระนั้นก็ยังพอจะดูออกว่าไป๋เจ๋อฝีมือเหนือกว่าคู่ต่อสู้ !
และเป็นชายร่างยักษ์ที่ถูกจู่โจมจนล่าถอย บาดแผลจากการต่อสู้ปรากฏบนร่าง…
ในฝั่งกลับกัน ไป๋เจ๋อยิ่งต่อสู้กลับยิ่งเพิ่มความดุดันมากขึ้นเรื่อย ๆ!
เยี่ยฉวนทะยานเข้าไปยืนข้าง เขาเองยังอดประหลาดใจไม่ได้หรือจะต้องพูดว่าตกตะลึงจึงจะถูก ด้วยหากดูในด้านสมรรถนะความกล้าแกร่งทางร่างกาย ชายหนุ่มไม่มีทางเทียบกับไป๋เจ๋อได้เลยต่อให้มีกายาทองคำก็เถอะ !
หากเยี่ยฉวนไม่มีกายาทองคำ เห็นทีเขาคงไม่สามารถต้านพลังหมัดหนึ่งของไป๋เจ๋อภายใต้สมรรถนะทางกายระดับนี้อย่างแน่นอน !
ผัวะ !
ทันใดนั้นร่างมโหฬารของศัตรูกระเด็นหวือออกไปหลายจั้ง ต่อมาร่างยักษ์ตกกระแทกกับพื้นดินเต็มแรง คนที่ตกแอ้กขยับทำท่าจะลุกขึ้นทว่าไม่ทันไรไป๋เจ๋อก็ได้ทะยานจากที่สูง เข้ากระแทกฝ่าเท้าเข้าที่ศีรษะของอีกฝ่ายรุนแรงหนักหน่วง !!
ผลัวะ ! ศีรษะของชายร่างใหญ่หงายเงิบ ขณะที่ร่างกายบิดหมุนหนึ่งรอบและหงายตึงลงบนพื้นดิน ไม่ขยับเขยื้อนอีกเลย !
ไปเจ๋อก้มลงปลดถุงมือเหล็กสีดำจากร่างไร้วิญญาณ จากนั้นจึงหันไปคว้าถุงที่เหน็บเอว ก่อนจะเดินตรงไปหาเยี่ยฉวน เขาชูถุงมือสีดำให้ดูพลางยิ้มน้อย ๆ “ศาสตราวุธจิตวิญญาณ !”
เยี่ยฉวนพยักหน้า “ชิ้นนี้ราคาสองล้านเหรียญทองเชียวนะ !”
คราวนี้คนฟังยิ้มกว้างยิงฟันขาว “ข้าเข้าใจแล้วล่ะ ว่าทำไมเจ้าถึงชอบวิวาทนัก ! คราวหน้าคราวหลังเวลาเจ้าจะไปวิวาทที่ไหน อย่าลืมชวนข้าไปด้วยก็แล้วกัน !”
เยี่ยฉวนได้ยิน ถึงกับอึ้งพูดไม่ออกได้แต่ตีหน้าเก้อ “…”
ผัวะ !
เสียงตีวัตถุบางอย่างดังสนั่นไม่ไกลออกไป ทั้งเยี่ยฉวนและไป๋เจ๋อหันขวับไปตามเสียงพร้อมกัน ไม่ห่างไกลเท่าใดนัก ร่างของหนุ่มโม่อวิ๋นฉีกระเด็นไปหล่นกระแทกพื้น นอนแอ้งแม้งอยู่ที่นั่น !
เยี่ยฉวนมองภาพที่ปรากฏ เขาย่นหัวคิ้วเล็กน้อย ทั้งเขาและไป๋เจ๋อทำท่าจะเข้าไปช่วยเพื่อนร่วมสำนัก ทว่ามีเสียงห้ามเชิงปฏิเสธจากคนบนพื้น “พวกเจ้าคอยดูอยู่เฉยเถอะน่า ข้าจะจัดการมันเอง !”
ทั้งสองหันมองหน้ากัน ที่สุดจึงชะงักหยุดความตั้งใจเข้าช่วยเหลือไว้ ณ ตรงนั้น ! เพราะต่างเชื่อมั่นในตัวของโม่อวิ๋นฉี …ว่าเมื่อใดก็ตามที่ออกไปต่อยตี คนผู้นี้ย่อมสามารถหนีได้เร็วกว่าใครเพื่อน !
ขณะนั้นเอง โม่อวิ๋นฉีผุดลุกขึ้นมายืนได้แล้ว เขาผลักฝ่ามือออกไปเบื้องหน้า ปากขมุบขมิบไปมา เพียงพริบตาร่างหนึ่งปรากฏออกเบื้องหลังบุรุษผู้ถือดาบสั้นโค้งที่อยู่ห่างออกไป…
ร่างนั้นดูอย่างไรก็คือโม่อวิ๋นฉี ทั้งที่โม่อวิ๋นฉียังยืนอยู่ที่เดิมปากพึมพำร่ายอะไรบางอย่างอยู่ในขณะนี้
“มีโม่อวิ๋นฉีสองคน ?” ทั้งเยี่ยฉวนและไป๋เจ๋อนิ่งขึงตะลึงลาน ! ซึ่งก็ไม่ใช่แค่เฉพาะคนทั้งสอง ชายที่ใช้ดาบสั้นเองก็ตะลึงด้วยเช่นกัน !
ทันใดนั้น แสงวาบสาดกระจายในทั่วลาน !
มีดบินคู่ ! ฉับพลันมีดบินสองเล่มแหวกอากาศเรียงหน้าพุ่งเข้าหาคนถือดาบสั้นโค้งรวดเร็วยิ่ง แม้แต่สายตาของเยี่ยฉวนและไป๋เจ๋อยังไม่อาจจับทิศทางการเคลื่อนไหวที่แน่ชัดของมีดบินสองเล่มนั้นได้ !
ชายถือดาบสั้นหรี่ตาลงเล็กน้อย ด้วยสายตาซึ่งมองเห็นมีดบินที่กำลังพุ่งเข้าตนเอง
ทว่ากว่าจะเจอ ก็ได้มีวัตถุพุ่งเข้าหาระยะใกล้แล้ว !
จึงไม่มีเวลาจะคิดสิ่งใดได้อีกต่อไป มือกระชับดาบสั้นและยกขึ้นกวาดออกไปข้างหน้าอย่างรุนแรง !!!