หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ - บทที่ 186 ช่างหัวราชสำนักชู...! (ปลาย)
บทที่ 186 ช่างหัวราชสำนักชู…! (ปลาย)
ชายร่างท้วมยามนี้เกิดความหวาดกลัวสุดชีวิตเข้าครอบงำ ทำท่าถอยหนีเร็วไว ทว่ากระบี่กลับทะยานเข้าหาและเสียบเข้าตรงกลางระหว่างหัวคิ้วของคนเสียก่อน !
ฉึก !
ละอองฝอยโลหิตกระเซ็นสาดออกทางด้านหลังศีรษะของคนท้วม ร่างคนสะดุ้งเฮือกตัวแข็งทื่อ ก่อนจะทรุดฮวบลงกับพื้น
ขณะที่กระบี่เหินเข้าไปที่คนร่างท้วม ทวนยาวพุ่งอย่างรุนแรงเข้าหาเยี่ยฉวนในเวลาเดียวกัน ชายหนุ่มยกมือขึ้นหยุดทวนไว้ทั้งสองมือ!
ชายถือทวนเห็นดังนั้นจึงเหยียดมุมปากแยกเขี้ยว ขณะที่ออกแรงปั่นทวนหมุนอย่างหนักหน่วง
ฉึก !
ทันใดนั้นปลายแหลมของทวนเสียบเข้าที่บริเวณหน้าอกของเยี่ยฉวน ปักลึกเข้าไปในผิวเนื้อราวครึ่งนิ้ว !
ฉับพลัน เงาขาตวัดวาบเข้าสู่เป้าหมายที่ศีรษะของเยี่ยฉวนในเวลาเดียวกัน เป็นการจู่โจมพร้อมกันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง !
เยี่ยฉวนเองไม่ประมาทคู่ต่อสู้ เขากระทืบเท้าลงที่พื้นดินกระตุ้นพลังเกราะแห่งปฐพี เมื่อเงาขาปรากฏขึ้นข้างกาย ทันใดนั้นลำแสงสุกสกาวพุ่งวาบเข้าหาเงาขาอย่างรวดเร็ว !
เปรี้ยง !
ร่างของชายสวมเกราะเงินสั่นรุนแรงก่อนที่ตัวคนจะกระเด็นไกลไปหลายจั้ง ! เขาเพ่งมองเยี่ยฉวน หน้าตาบิดเบี้ยวด้วยความโกรธจัด
สตรีนางหนึ่งปรากฏขึ้นทางด้านข้างเยี่ยฉวน !
เป็นจี้อันซื่อ !
นางหันมามองสภาพของชายหนุ่ม สีหน้ากังวลเล็กน้อย พูดเสียงเบา “ขะ… ข้าว่า คงมาช้าไปหน่อย !” พลันชักมือที่ไพล่อยู่ด้านหลังออกมา ยื่นสิ่งของที่อยู่ในมือพรวดออกเบื้องหน้าเยี่ยฉวน ของในมือนั้นคือน่องไก่ย่างเหลืองอร่าม
“เอ้านี่”
เยี่ยฉวนถึงกับอึ้ง “…” จี้อันซื่อเห็นว่าเยี่ยฉวนยืนนิ่งไม่รับของที่ยื่นส่งให้ จึงดึงกลับและส่งมันเข้าปากกัดกินเองคำหนึ่ง จากนั้นจึงหันไปทางโม่อวิ๋นฉี ซึ่งกำลังตกเป็นรองและหลบหลีกไปมาอยู่ระยะไกล ด้วยท่าทางไม่สู้ดี !
หญิงสาวพึมพำกับคนข้าง ๆ “ข้าจะไปช่วยเจ้านั่นก่อน !” พูดจบทั้งคนและน่องไก่หายวับไปจากที่ทันที เยี่ยฉวนได้แต่อ้าปากค้าง มองตามร่างคนที่เพิ่งผละไปด้วยความเร่งรีบพลางแทะน่องไก่ไปด้วย เขาส่ายหน้า
“นี่มันผู้หญิงเช่นใดกัน…”
ในที่สุดเยี่ยฉวนก็หันกลับไปที่ชายสวมเกราะเงินซึ่งอยู่ห่างออกไป “ตายเสียเถอะ !”
พลันพุ่งทะยานออกจากที่ !
อีกด้านหนึ่ง เจี้ยนเสี่ยวหวางนั่งชันเข่าอยู่บนโขดหิน จับตามองร่างของเยี่ยฉวนพลางพูดขึ้นว่า “เจ้านั่นสู้ได้อยู่แล้ว !” เสียงคนที่อยู่ถัดออกไป กงชิงเฉิงตอบยิ้ม ๆ
“จริงอยู่ แต่ข้ายังข้องใจอยู่ดีว่าเขาจะมีไม้เด็ดอะไรซุกซ่อนเท่านั้น !”
จากนั้น เขาทอดสายตามองไปยังร่างของบุรุษผู้หนึ่งซึ่งยืนอยู่บนสะพานไม้กระดานแผ่นเดียว ห่างออกไปหลายสิบจั้ง คนผู้นั้นยังยืนนิ่งเฉยอยู่บนสะพาน มิได้สนใจจะร่วมต่อสู้แต่อย่างใด เจี้ยนเสี่ยวหวางหันมองไปทางคนผู้นั้นอีกคน แต่ทว่าเขามิได้ปริปาก
ทางฟากของกงชิงเฉิงเอง นอกจากเขาแล้วยังมีเยี่ยหลิงอีกคน โดยในขณะนี้เด็กหญิงก็กำลังจับตามองเยี่ยฉวนที่ถูกล้อมจู่โจมจากคนสี่คน ทำให้ประกายตาวาววับเยือกเย็นพร้อมมือกำหมัดแน่น ไม่มีใครรู้ว่าภายในใจของเด็กหญิงกำลังคิดถึงสิ่งใด
ในจังหวะนั้นเยี่ยฉวนเคลื่อนไหวรวดเร็ว พรวดเดียวก็มาประจัญหน้าชายสวมเกราะเงิน อีกฝ่ายเมื่อเห็นผู้ที่เข้ามาก็ถอยลงก้าวหนึ่งพร้อมผลักฝ่าเท้าถีบออกโดยแรง และด้วยพลังฝ่าเท้า มันจึงก่อให้เกิดลมแรงที่วูบเข้าปะทะเยี่ยฉวนคมกริบดุจใบมีด !
ถึงกระนั้น พลังลมที่รุนแรงกลับไม่อาจสกัดกั้นเยี่ยฉวนไว้ได้ เขาเหวี่ยงกระบี่หลิงซิ่วออกต้านทาน พลันพลังลมแตกซ่านไม่เหลือชิ้นดี !
บัดนี้เยี่ยฉวนเข้ามายืนเผชิญหน้า ระยะห่างของคนทั้งสองไม่เกินสองจั้ง ฉับพลันนั้นกระบี่หลิงซิ่วแปรเปลี่ยนเป็นลำแสงสว่างเจิดจ้าและพุ่งออกไปข้างหน้า !
กระบี่เหิน !
ชายสวมเกราะเงินเห็นเช่นนั้น สีหน้าพลันเผือดซีด ทว่าทันทีนั้นทวนยาวพลันปรากฏออกเบื้องหน้าและพุ่งปะทะกระบี่อย่างจัง !
บึ้ม !
กระบี่หลิงซิ่วถูกพลังต้านทานจึงชะงักหยุดนิ่ง !
เยี่ยฉวนเบนหน้าไปในทิศที่ทวนโผล่เข้ามา และพบว่าเป็นคนที่เคยจู่โจมโดยใช้ทวนนั่นเอง ชายหนุ่มโบกมือเบา ๆ พลันกระบี่หลิงซิ่วลอยหวนกลับคืนสู่ผู้เป็นนาย ก่อนที่ทันใดนั้นเอง เยี่ยฉวนจะกระแทกฝ่าเท้าขวาลงบนพื้นดิน !!
บึ้ม !
พื้นดินบริเวณนั้นระเบิดออกทันที ! พร้อมกับที่ชายหนุ่มฉวยความได้เปรียบจากพลังปฐพี ทำให้ร่างคนอันตรธานไป ส่งผลให้ชายที่ใช้ทวนหน้าตื่น นัยน์ตาหรี่ลงขณะจอประสาทตาหดเกร็ง ทว่าเขาไม่คิดที่จะถอย ทั้งยังกระแทกทวนยาวพุ่งตรงออกไป !
พลังเคลื่อนไหวจากทวนแหลมยาว กระจายวาบครอบงำเยี่ยฉวน !
ทว่าเยี่ยฉวนตวัดกระบี่ในมือลงรวดเร็ว หนึ่งกระบี่ชี้ชะตา !
หึ่มมม !
เสียงแห่งกระบี่กระหึ่มสนั่นไปทั่วทั้งลาน !
ทันใดนั้นเอง…
ฉึก !
ลำทวนยาวหักออกครึ่งลำ เช่นเดียวกับที่ร่างของเยี่ยฉวนวาบไปปรากฏออกทางเบื้องหลังคนใช้ทวน !
ชายผู้ใช้ทวนยังกำทวนหักครึ่งแน่นเหนียว สายตาทอดมองไปในระยะไกล มีเสียงเค้นลอดผ่านไรฟันพอจับใจความได้ “พลัง… เฉียบ คม…”
เสียงคนพร่าเลือน ตรงหน้าผากของคนบริเวณกึ่งกลางหว่างหัวคิ้วบังเกิดร่องแยกยาว โลหิตทะลักไหล !
เยี่ยฉวนเบนหางตาเหลือบไปทางชายสวมเกราะเงิน ซึ่งกำลังจับตามองมาทางเขาพอดี “ข้าถอนตัว !” เสียงคนสวมเกราะเงินร้องลั่น
ถอนตัว !
เวลานี้ความหวาดกลัวเข้าครอบงำจนเต็มหัวใจ !
เยี่ยฉวนมีผู้ช่วยเหลือ อีกทั้งความกล้าแกร่งยังเกินกว่าที่คิดไว้มากนัก สามรุมหนึ่งยังไม่อาจเอาชนะต่อคนผู้นี้ได้ !
บัดนี้จากสามเหลือเพียงชายสวมเกราะเงินเพียงคนเดียว ทั้งเหน็ดเหนื่อยอ่อนแรงและทั้งเนื้อตัวยังเต็มไปด้วยริ้วรอยบาดแผล ดังนั้นจึงเป็นเหตุโดยชอบที่เขาจะขอถอนตัว !
“เหอะ ถอนตัวหรือ ?!” เยี่ยฉวนปรายหางตามองชายสวมเกราะเงินเล็กน้อย
“ไม่สายไปหน่อยหรือ ?” อีกฝ่ายพูดอย่างเย็นชาเอาใจดีสู้เสือ
“เยี่ยฉวน ข้าคือองค์ชายสามแห่งแคว้นชู ถ้าเจ้าฆ่าข้า ราชสำนักชูไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่ เจ้า…”
ชั่วพริบตานั้น กระบี่บินเล่มหนึ่งทะยานพุ่งตรงวาบผ่านลานกว้าง !
ฉึก !
ปลายกระบี่พุ่งเสียบทะลุตรงกลางระหว่างคิ้วทันที !
คนสวมเกราะเงินร่างกระตุกเฮือกแข็งขึง ดวงตาฉายแววประหลาดใจ
เยี่ยฉวนย่างสามขุมเข้าไปยืนจนใกล้คนสวมเกราะเงิน สายตาจับจ้อง ปากเอ่ยพูด “ราชสำนักชู ? แล้วยังไง ? ช่างหัวราชสำนักชูสิโว้ย !” สิ้นเสียงคนพูด เขากุมด้ามกระบี่ก่อนตวัดออกไปอย่างรุนแรง
ฉับ !
พลันศีรษะของคนสวมเกราะเงินขาดสะบั้นกระเด็นหวือจากตัวทันที !
โลหิตไหลพรั่งพรูดุจสายน้ำ !