หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ - บทที่ 191 ท่านพี่ ข้าอยากไปกับนาง ! (ต้น)
บทที่ 191 ท่านพี่ ข้าอยากไปกับนาง ! (ต้น)
แม้ว่าเยี่ยฉวนจะไม่ตายในสถานที่แห่งความลับ ทว่าหลี่เสวียนชางก็ได้บรรลุเป้าประสงค์แล้ว ! ด้วยเวลานี้เยี่ยฉวนมีศัตรูมากมาย !
เยี่ยฉวนและสถานศึกษาฉางหลานจะต้องฝ่าฟันศัตรูอีกเท่าไร ?
ไม่ต้องคิดอื่นไกล สถานการณ์ของสถานศึกษาฉางหลานยังไม่สามารถรับมือกับใครหน้าไหน ไม่ว่าจะเป็นสำนักมือสังหาร สถานศึกษาฉางมู่แห่งอาณาจักรต้าอวิ๋น หรือดินแดนอันธกาล !
บัดนี้มิใช่แค่สถานศึกษาฉางมู่เท่านั้นที่ถูกยั่วยุให้เกิดความขุ่นเคืองคับข้อง ทว่ามีสำนักมือสังหารเพิ่มมาอีกฝ่าย ! ไหนยังจะมีพวกชนชั้นสูงและสถานศึกษาจากต่างแคว้นอีก ! เพียงคิดว่าฉางหลานจะต้องเผชิญกับบรรดาอิทธิพลทั้งหลาย หลี่เสวียนชางก็หัวเราะจนแทบเป็นบ้าเป็นหลัง
คนที่ยืนข้างเยี่ยฉวน โม่อวิ๋นฉีมองหลี่เสวียนชางด้วยสายตาเดียดฉันท์ อดรนทนไม่ได้จนต้องพูดอย่างเข่นเขี้ยว “ข้าอยากจับไอ้เวรนี่หักคอจริงโว้ย”
เยี่ยฉวนพยักหน้าหงึก “ลุยเลยไหม ?” โม่อวิ๋นฉีหันมามองเยี่ยฉวนราวไม่แน่ใจต่อสิ่งที่ได้ยิน “เจ้าพูดงี้ จะให้ข้าออกหน้างั้นสิ ?”
เยี่ยฉวน “…”
ขณะนั้นเอง หลังหลี่เสวียนชางสะกดเสียงหัวเราะแล้ว เขาก็ได้หันกลับมามองทางเยี่ยฉวน สายตาของชายชรากวาดมองไล่เรียงทุกใบหน้า จนในที่สุดย้อนกลับมาที่เยี่ยฉวน “พวกเจ้ารอวันตายไปเถอะ !” จากนั้นทั้งเขาและชายสวมผ้าคลุมสีดำหันหลังออกจากสถานที่และหายวับไปไกลจนสุดของฟ้า
ณ ลานโล่ง
ทั่วบริเวณนิ่งเงียบไปพักใหญ่ ในที่สุดเยี่ยฉวนขยับตัวก่อนมองไปบนพื้นพลางพูดขึ้นว่า “ช่วยกันเก็บของที่ระลึกเถิด !” เมื่อได้ยินเช่นนั้น โม่อวิ๋นฉีจึงยิ้มออกมา เขารีบสาวเท้าเดินออกไปก่อนใคร
ของที่ระลึก ! กลุ่มคนที่เข้ามาเพื่อล่าหัวเยี่ยฉวนล้วนไม่ใช่ธรรมดา ฉะนั้นสิ่งของที่พวกเขานำติดตัวมาด้วยย่อมเป็นสิ่งล้ำค่าดีที่สุด !
เยี่ยฉวนยึดได้สุดยอดศาสตราวุธจิตวิญญาณเจ็ดชิ้นซึ่งรวมทั้งเกราะเงินล้ำค่าเพิ่มเข้ามา ของที่ระลึกเหล่านี้มีพวกสุดยอดศาสตราวุธจิตวิญญาณจำนวนกว่าห้าสิบถึงหกสิบชิ้น นอกจากนั้นแล้วยังมีวงแหวนสัมภาระ !
ส่วนโม่อวิ๋นฉีและคนอื่นก็ยึดมาได้ไม่น้อย อย่างน้อย ๆ ที่พวกเขาเก็บได้ก็มีสุดยอดศาสตราวุธจิตวิญญาณ ! ซึ่งนับว่าสามารถแปลงเป็นเงินได้ก้อนโตทีเดียว ! อาจถึงขั้นเศรษฐีเลยก็ได้ ! เพราะสุดยอดศาสตราวุธจิตวิญญาณแต่ละชิ้นมีราคานับล้านเหรียญทอง และพวกเขายึดมาได้ตั้งมากมายขนาดนี้ !
เยี่ยฉวนเงียบไปอึดใจใหญ่ ก่อนจะเดินตรงไปหาเจียงจิ่ว ในมือถือสุดยอดศาสตราวุธจิตวิญญาณไว้สองชิ้นและยื่นส่งให้กับหญิงสาว “ข้าขอมอบให้ท่าน”
เจียงจิ่วก้มมองสิ่งล้ำค่าในมือและเงยหน้ามองอย่างงุนงง “เอามาให้ข้าทำไม ?” ชายหนุ่มยิ้มเจื่อนพลางพูดว่า “ข้าจะให้ท่านมาแล้วกลับไปมือเปล่าได้ยังไง !”
หญิงสาวเชิดหน้าตอบด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “คิดว่าข้ามาเพราะสุดยอดศาสตราวุธจิตวิญญาณเล็กน้อยพวกนี้หรือ ?” เยี่ยฉวนทำท่าเอ่ยปากคัดค้าน ทว่าโม่อวิ๋นฉีกลับโผล่พรวดมายืนด้านข้างพลางยิ้มอย่างมีเลศนัย “นี่ หัวโขมยที่เยี่ย ก็เห็นอยู่ว่าองค์หญิงเก้ามาที่นี่เพื่อช่วยเจ้า ทำเป็นโง่ไปได้…”
ขณะที่กำลังอ้าปากจะพูดต่อไปอีก พลันองค์หญิงเก้าได้หายวับจากที่อย่างรวดเร็ว
ปัง !
ทันใดนั้นร่างของโม่อวิ๋นฉีกระเด็นออกไปสี่จั้ง ก่อนจะหล่นกระแทกกับพื้นดินเต็มแรง
องค์หญิงเก้าเดินเข้ามาใกล้ พลางชายตามองโม่อวิ๋นฉีที่นอนครางบนพื้น หน้าหงิกง้ำพูดว่า “ชักจะรู้ดีเกินไปแล้วนะ เจ้าน่ะ !”
โม่อวิ๋นฉี “…” ส่วนไป๋เจ๋อหันไปทางองค์หญิงเก้าพร้อมยกนิ้วให้อย่างชื่นชม “แจ๋วมาก เด็ดมาก เจ้ากะล่อนร้องกระต๊ากไม่เป็นภาษาคนเลย !”
ทุกคนนิ่งเงียบ “…”
ทันใดนั้น จี้อันซื่อหันมาถามเยี่ยฉวนด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ไหนว่าเจ้าชอบบุรุษไง ?” เท่านั้นเอง สายตาทุกคู่หันมามองจี้อันซื่อเป็นตาเดียว แม้แต่เจียงจิ่วเอง หญิงสาวหันมาสบตาคนพูด แววตาเต็มไปด้วยคำถาม
อีกฝ่ายจึงชี้มือไปทางเยี่ยฉวนซึ่งงงงันกับเหตุการณ์เฉพาะเบื้องหน้าที่เกิดขึ้น “เขาน่ะสิเคยบอกข้าว่าชอบแต่บุรุษ !”
เยี่ยฉวนตีหน้าเหวอ “…”
พอได้ยินคำพูดของจี้อันซื่อเท่านั้น ทุกคนต่างพากันเบนสายตาไปมองเยี่ยฉวน แต่ละคนมีสีหน้าพิลึกกึกกือแตกต่างกันไป
โม่อวิ๋นฉีค่อยตะกายขึ้นมายืน หน้ามุ่ยขณะลากสายตามองเยี่ยฉวนตั้งแต่เท้าจดศีรษะ “เยี่ยฉวน… เจ้าเป็นเช่นนั้นหรือนี่ ?! ยอมรับมาเสียดี ๆ คิดอะไรกับข้าอยู่ใช่ไหม ? โอยตายละ ขะ… ข้าจะบอกเจ้าให้ ข้าไม่ใช่ชายรักชายโว้ย ! เลิกฝันลม ๆ แล้ง ๆ กับข้าได้เลย !”
ยามนี้เยี่ยฉวนได้แต่ยืนทำหน้าบอกบุญไม่รับ ! ในขณะเดียวกันไป๋เจ๋อซึ่งตอนแรกยืนติดกับเยี่ยฉวน เมื่อได้ยินเช่นนั้นคนตัวใหญ่รีบกระโดดถอยห่างออกไปหลายก้าว สีหน้ากระอักกระอ่วน พลางมองเยี่ยฉวนด้วยสายตาหวาดระแวง !
เยี่ยฉวนพูดไม่ออกบอกไม่ถูก “…” ภายในใจของเขาเวลานี้จนปัญญาจะตอบโต้ ใจหนึ่งอยากอธิบาย แต่ถ้าเขาบอกความจริง… มีหวังจี้อันซื่อเอาตายแน่ !
ด้วยหญิงสาวดูภายนอกลักษณะโดยทั่วไปเหมือนคนตะกละชอบแต่กินเป็นชีวิตจิตใจ ทว่ายามใดที่นางแสดงความน่าสะพรึงกลัวออกมา ก็มักต้องมีเรื่องถึงกับคอขาดบาดตายเลยทีเดียว !
แต่ถ้าเขาบอกความจริงให้ทุกคน…
เจียงจิ่วเหลือบมองเยี่ยฉวนซึ่งอยู่ไม่ไกล ที่มุมปากปรากฏรอยยิ้มน้อย ๆ โดยส่วนตัวแล้ว นางไม่มีวันเชื่อเด็ดขาดว่าเยี่ยฉวนพึงใจในบุรุษ ด้วยจะมีใครที่พึงใจบุรุษขณะเดียวกันก็สนใจอิสตรีกัน ?
เหตุเพราะมีหลักฐานอยู่ทนโท่ว่าชายผู้ที่ยืนอยู่เบื้องหน้ามีใจให้สาวน้อยอันหลานซิ่ว และยังเหตุการณ์ครั้งหนึ่งในโพรงถ้ำหลังน้ำตกนั่น… เพียงหวนนึกถึงภาพเหตุการณ์ในครั้งนั้น เจียงจิ่วถึงกับหน้าแดงก่ำ ทว่าในไม่ช้าก็กลับเป็นปกติ !
ตอนนั้นเอง เจี้ยนเสี่ยวหวางปรากฏตัวเดินเข้ามาใกล้ที่เยี่ยฉวน ดึงสายตาทุกคู่หันไปทางคนที่กำลังตรงเข้ามา ก่อนเจี้ยนเสี่ยวหวางจะมองเยี่ยฉวนตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า “วันนี้เจ้าได้รับบาดเจ็บ ข้าไม่ชอบฉวยโอกาสบนความลำบากของคนอื่น แต่สักวันหนึ่งข้าจะไปท้าดวลกับเจ้าถึงที่สถานศึกษาฉางหลานให้ได้ !”
เยี่ยฉวนพยักหน้าหงึก “ข้าจะคอย” จากนั้นเจี้ยนเสี่ยวหวางไม่พูดพร่ำ หันหลังกลับออกจากสถาที่ทันที โดยเบื้องหลังมีสายตาของเยี่ยฉวน และโม่อวิ๋นฉีกับอีกหลายคนมองตาม “คนผู้นี้นับว่าใช้ได้ ในเวลาเช่นนี้เขากลับไม่ฉกฉวยโอกาสใช้ความได้เปรียบกับเจ้า สมกับเป็นลูกผู้ชาย !” เสียงเยี่ยฉวนพึมพำ “อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าในคนที่มา ไม่ได้จะมีแต่ผู้ร้าย”
ในเวลาเดียวกัน กงชิงเฉิงเดินเข้ามาอีกคน เขายิ้มให้ขณะกล่าวว่า “ขอแสดงความยินดี !” เยี่ยฉวนจึงห่อกำปั้นแสดงคารวะกลับไป “ขอบใจ !”