หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ - บทที่ 198 หอคอยแห่งเรือนจำเปิดใช้งาน ! (กลาง)
บทที่ 198 หอคอยแห่งเรือนจำเปิดใช้งาน ! (กลาง)
ผู้ฟังทัวป้าเหยียนหลับตาลงช้า ๆ ซ่อนเร้นแววตามิให้แสดงความรู้สึกนึกคิดต่อผู้ใด
ครู่หนึ่งเสียงของสตรีสูงวัยพูดดังมาอีก “ถึงอย่างไร เวลานี้เยี่ยฉวนได้สังหารยอดอัจฉริยะและยอดคนไปแล้วหลายต่อหลายคน แต่ละคนล้วนมีอำนาจหนุนหลังอยู่ทั้งสิ้น โดยเฉพาะสถานศึกษาฉางมู่แห่งอาณาจักรต้าอวิ๋นและดินแดนอันธกาล ทั้งสองต้องย้อนกลับมาล้างแค้นเยี่ยฉวนอย่างแน่นอน ต่อให้สถานศึกษาฉางหลานบนแผ่นดินชิงก็ไม่อาจช่วยให้เขารอดพ้น …แต่ทั้งหมดทั้งมวล แคว้นหนิงเราก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วย !”
ทันใดนั้นทัวป้าเหยียนลืมตาขึ้นทันที “แจ้งคำสั่งของข้า ส่งคนของเราคอยสอดแนมความเคลื่อนไหวของแคว้นเจียง”
อีกฝ่ายมีท่าทีลังเล แต่แล้วก็ค้อมกายลง “เพคะ !”
ทัวป้าเหยียนหันหลังจากไปทันที
…
เยี่ยฉวนและคนอื่น ๆ ขึ้นมาบนเรือเหาะแล้ว ทุกคนต่างแยกย้ายกันเข้าพักยังห้องส่วนตัว ด้วยแต่ละคนล้วนต้องการเยียวยาอาการบาดเจ็บของตนเอง ! การปะทะกันในสถานที่แห่งความลับ ทำให้ทุกคนได้รับบาดเจ็บ ต่างมีบาดแผลบอบช้ำไปทั่วร่างกาย
ขณะเดียวกันจ้าวหอ เจียงเยว่เทียนและอาจารย์ใหญ่จี้ โดยสารมาในเรือเหาะพร้อมกับทุกคน เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้ทุกคนต่างระมัดระวังกลัวว่าสถานศึกษาฉางมู่จะลอบใช้วิธีสกปรกมาเล่นงานอีก
สถานการณ์ของฉางมู่เวลานี้นับว่าเข้าขั้นวิกฤต ดังนั้นจึงมีโอกาสที่พวกเขาจะทำได้ทุกวิถีทางเพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพการณ์ที่เป็นอยู่ !!
ณ บนเรือเหาะ เจียงเยว่เทียนมาพบอาจารย์ใหญ่จี้ ซึ่งกำลังมึนเมาเช่นเคย เขาหยุดมองชั่วขณะ ก่อนเอ่ยถามลอย ๆ ขึ้นว่า “ใครเป็นคนสอนวิทยายุทธ์ให้เจ้าหนุ่มนั่น ?”
อีกฝ่ายยกไหสุราขึ้นดื่ม ก่อนส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ เจียงเยว่เทียนเหยียดยิ้ม “พี่จี้ ไม่คิดจะบอกให้ข้ารู้บ้างหรือ ?”
ผู้เฒ่าสั่นศีรษะอย่างแรงอีกครั้ง “ข้าก็ไม่รู้” อีกฝ่ายย่นหัวคิ้ว ยังไม่หายข้องใจ “เป็นไปได้อย่างไรที่ท่านไม่รู้เรื่องนี้…” หากคนตอบกลับตอบเรื่อย ๆ เหมือนไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญ “ข้าไม่เคยถาม และไม่คิดจะถาม !”
แน่นอนเขามั่นใจว่าต้องมีใครที่สั่งสอนวิทยายุทธ์ให้เยี่ยฉวน เห็นได้ชัดว่าต่อให้เยี่ยฉวนเป็นยอดคนผู้เก่งกาจปราชญ์เปรื่องแค่ไหน มันก็เป็นไปไม่ได้ที่ด้วยตัวเองลำพังจะประสบความสำเร็จบนเส้นทางแห่งกระบี่อย่างมากเช่นนี้ ! แต่อาจารย์ใหญ่จี้ไม่เคยถาม !
หลังจากนิ่งงันไปกับคำตอบ เจียงเยว่เทียนถามอีกว่า “พวกเจ้าคิดว่าต่อไปจะรับมือกับศัตรูอย่างไร ?”
รับมือกับศัตรู ! ความคิดดังกล่าวในขณะนี้ดูไร้สาระและเป็นไปไม่ได้ยิ่ง ด้วยสถานศึกษาฉางหลานอาจต้องเผชิญหน้ากับการล้างแค้นของเหล่าอิทธิพลทั้งหลาย !
ผู้เฒ่ายกเหล้าขึ้นเทพรวดลงคอ ก่อนทิ้งตัวลงนอนแผ่กลางอากาศ จากนั้นเพียงไม่กี่วินาทีเสียงกรนดังลั่นออกมา เมื่อเห็นเช่นนั้นเจียงเยว่เทียนถึงกับพูดไม่ออกบอกไม่ถูก เขายืนนิ่งอย่างไม่รู้จะทำฉันใด ในที่สุดจำต้องล่าถอยออกมา
เมื่อเจียงเยว่เทียนแยกออกมาจากอาจารย์ใหญ่จี้ เขาย้อนกลับมาพบกับจ้าวหอชั้นเก้า แต่พอทำท่าอ้าปากจะพูด จ้าวหอกลับชิงส่ายหน้าดิก ในที่สุดจำต้องยับยั้งคำพูดหุบปากนิ่ง “ข้าไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น !”
ได้ยินเช่นนั้นอีกฝ่ายหน้าตึงเล็กน้อย เขานิ่งไปชั่วครู่จึงเหยียดมุมปาก “ไม่คิดจะบอกเป็นนัยบ้างหรือ ? พูดตรง ๆ ข้าชักเป็นห่วงเสียแล้ว”
จ้าวหอชั้นเก้าตอบกลับด้วยเสียงเคร่งขรึม “สถานศึกษาฉางมู่มันไร้ยางอาย จากที่พวกมันใช้วิธีการชั่วช้าต่าง ๆ นานา สำนักอัปสรเมรัยไม่เคยพบเคยเห็นใครทำการต่ำช้าเช่นนี้มาก่อน ดังนั้นไม่ว่าเยี่ยฉวนจะมีคนอยู่เบื้องหลังคอยสนับสนุนหรือไม่ สำนักอัปสรเมรัยย่อมเลือกที่จะเคียงข้างเขาอย่างแน่นอน ! โลกนี้ยังมีความยุติธรรม !”
ครานี้เตียงเย่เทียนถึงกับเบ้ปาก “เบื่อฟังคนพล่าม น่ารำคาญ…”
…
ภายในหอคอยแห่งเรือนจำ
เยี่ยฉวนกลืนยาโอสถเทพประสานแล้ว ยาชนิดนี้ให้ผลชงัดนักในการสมานแผล หลังจากนั้นร่างกายจะค่อยฟื้นคืนกลับสู่สภาพปกติในเวลาอันรวดเร็ว
เยี่ยฉวนหลับตาลงช้า ๆ ทันใดนั้นคำว่า ‘ปฐพี’ ปรากฏขึ้นบริเวณกึ่งกลางระหว่างหัวคิ้ว
กฎแห่งเต๋า !
ด้วยความสมเหตุสมผลของกฎแห่งเต๋า ทำให้เยี่ยฉวนรู้สึกได้ถึงทุกสิ่งทุกอย่างในหอคอยแห่งเรือนจำชั้นที่หนึ่ง รู้สึกถึงร่องรอยน่าพิศวง และพลังซึ่งยากเกินกว่าจะอธิบาย !
เป็นพลังของหอคอยแห่งเรือนจำชั้นที่หนึ่งนั่นเอง !
นานมาแล้วสตรีลึกลับเคยบอกว่าเขาสามารถเปิดใช้พลังของหอคอยแห่งเรือนจำได้ อีกทั้งยังใช้พลังต้านทานศัตรูได้ด้วย ถึงกระนั้นการที่เป็นเช่นนี้สำหรับเขายังดูจะเสี่ยงอันตรายเกินไป ดังนั้นเยี่ยฉวนจึงได้เก็บงำสิ่งนี้ไว้ ตราบใดที่ตนยังไม่ตกอยู่ในอันตราย
ทว่าตอนนี้ เขาคิดที่จะลองใช้พลัง ซึ่งเพียงแค่คิดเท่านั้น หัวใจพลันกลับเต้นระรัวเร็วเป็นตีกลอง ! จนเยี่ยฉวนมีความรู้สึกราวกับถูกถ่ายเทพลังจนหมดเรี่ยวหมดแรง !
เมื่อสุดที่จะทนทาน ในที่สุดเขารีบละออกจากกฎแห่งเต๋าทันที ! เวลานี้ใบหน้าของเยี่ยฉวนขาวซีดขาวราวกระดาษ เหงื่อเม็ดเป้งผุดเต็มหน้าผากหยาดหยดลงตามใบหน้าและลำคอ
ในที่สุดก็ทรุดฮวบลง !
ความรู้สึกของเยี่ยฉวนราวกับพลังภายในร่างกายได้ถูกดูดซับออกไปจนหมดสิ้น !
ความกลัวชนิดหนึ่งพุ่งวาบจับขั้วหัวใจ “แท้ที่จริงเป็น