หนึ่งกำเนิดสองสมบัติ : รักแสนหวานของมหาเศรษฐี / รักแสนหวานของมหาเศรษฐีหน้าหยก - ตอนที่ 23
ตอนที่ 23 โดนหาเรื่อง
เมื่อหยุนซือซือกลับจากพบหัวหน้าแผนกแล้ว เธอก็ตกใจกับสิ่งที่เห็น แต่ก็กลับมาสงบได้อย่างรวดเร็ว
เมื่ออันธพาลเหล่านั้นเห็นเธอ พวกเขาก็จำได้ทันทีว่าเธอคือหยุนซือซือ จึงเดินเข้าหาและลากแขนบังคับเธอออกไปนอกสำนักงาน
หนึ่งในนั้นซึ่งดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าได้ตบเธอเข้าที่ใบหน้าอย่างไร้ความปรานีและตะโกนใส่เธออย่างดุเดือด “แกเป็นน้องสาวอีนั่นเหรอ?!”
หยุนซือซือกุมแก้มที่ร้อนผ่าวของเธออย่างตกตะลึงและมองไปที่พวกเขา จากนั้นก็รู้ว่า “อีนั่น” ที่พวกเขาหมายถึงคือใคร!
“นี่! แกรู้ไหมว่าพี่สาวแกเป็นหนี้ฉันอยู่เท่าไหร่” ชายคนนั้นเคี้ยวหมากฝรั่งแล้วเหลือบมองเธอขึ้นลง
เธอลดคิ้วลงและถอนสายตา ริมฝีปากของเธอกดแน่นแต่ไม่ได้พูดอะไร เธอแยกแยะทุกอย่างออกอย่างรวดเร็วและเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด
เธอนึกถึงหยุนนาว่าเขาอาจจะก่อหนี้ก้อนโตนี้ในตอนที่เขาเที่ยวเตร่อย่างสนุกสนาน สถานการณ์ทางการเงินของครอบครัวยังไม่มั่นคงเขาจึงไม่มีเงินจ่ายหนี้ก้อนนี้ เมื่อไม่สามารถจ่ายคืนได้ เธอเห็นแก่หยุนนาจึงให้ที่อยู่บริษัทเธอกับคนเหล่านี้
หยุนซือซือรู้สึกเสียใจภายหลังที่ตอนนั้นเธอกังวลว่าจะเกิดปัญหาเกี่ยวกับการงานของพ่อและพ่อจะไม่สามารถติดต่อเธอได้ เธอจึงทิ้งที่อยู่ของบริษัทไว้กับพวกเขาโดยที่ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญมาปรากฏตัว
อย่างไรก็ตามเธอไม่เต็มใจที่จะยอมจำนนต่ออันธพาลเหล่านี้ ความไม่เต็มใจของเธอไม่ได้เกิดจากการที่เธอมีกระดูกสันหลัง แต่เกิดจากการที่เธอต้องตกอยู่ภายใต้ความกดดันทางการเงินเช่นนี้ หากเธอช่วยยุนนาจ่ายหนี้ แล้วค่าเทอมในเทอมต่อไปของโย่วโย่วล่ะ จะหามาจากไหน?
เมื่อเธอนิ่งเงียบหัวหน้าอันธพลก็เริ่มโกรธ เขาจึงคว้าคอเสื้อและตบเธอเข้าที่ใบหน้าอีกครั้ง “แกเป็นใบ้เหรอวะ? พูดเป็นไหม? พูดมาสิ! ไอ้บ้าเอ้ย!”
“ไม่มีเงินจ่ายเหรอ?” อันธพาลเหล่านั้นผลักเธอไปรอบ ๆ และมองไปที่หน้าอกของเธอด้วยสายตาชั่วร้าย “ได้! แกไม่จ่ายก็ได้ เพียงแค่แกยอมมากับเราดีๆ ถ้าไม่มีเงินจ่ายก็ย่อมมีทางอื่นเสมอ!”
“สาวน้อย จะว่าไปแกก็หน้าตาไม่เลวนี่ สนใจมาเล่นสนุกกับพี่ๆไหมจ๊ะ”
สายตาของคนเหล่านั้นแสดงรอยยิ้มที่มุ่งร้าย
หยุนซือซือพูดด้วยใบหน้าเฉยเมย “กรุณาพูดให้เกียรติกันด้วย!”
“โฮ่!? ฮ่า ๆ ! น้องสาวโมโหเหรอจ๊ะ!” ชายคนนั้นยิ้มเยาะแล้วตบเธออีกครั้ง “ทำไมปากร้ายแบบนี้ล่ะ?! เป็นหนี้แล้วยังมีข้ออ้างอีกเหรอ!?”
หยุนซือซือหันหน้ากลับมาช้าๆ มือของเธอหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าอย่างเงียบ ๆ แต่ก็ถูกจับได้โดยอันธพาลพวกนั้น เขาคว้าข้อมือเธออย่างรุนแรง และเขวี้ยงโทรศัพท์มือถือของเธอลงพื้น จากนั้นก็กระทืบและทุบเป็นชิ้นเล็กๆ
เธอสะดุ้งและความตื่นตระหนกก็แสดงออกจากดวงตาของเธอ
“จะโทรหาตำรวจเหรอ? คิดไม่ถึงว่าจะฉลาดดีนี่!” ชายคนนั้นตะคอกและผลักเธอลงกับพื้นพร้อมเตะที่ไหล่เธอ “เรียกตำรวจสิ! ฉันบอกให้เรียกตำรวจ!”
“ลูกพี่! อีนั่นบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่านังนี่มีลูกชายด้วย เหมือนว่าจะอยู่โรงเรียนอนุบาลไหนน๊าา” ชายคนหนึ่งมองเธออย่างมีความหมาย
หยุนซือซือก็เงยหน้าขึ้นทันใดและโพล่งออกมาโดยไม่รู้ตัว “ไม่! อย่ายุ่งกับโย่วโย่วนะ! ฉัน… ฉันจะให้เงินพวกแก!”
เธอมีเหตุผลมาตลอด แต่เมื่อใดก็ตามที่เกี่ยวกับโย่วโย่วเธอจะสูญเสียความสงบทันที
เธอกลับเข้าไปในสำนักงานและรีบหยิบบัตร ATM ออกมาด้วยมือที่สั่นเทาและดวงตาแดงก่ำ