หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา - บทที่ 1133 เต๋าสวรรค์ไม่พอใจ!
“ข้านี่มันปากอะไรกัน!” หวังเป่าเล่อเบิกตากว้างทันที ร่างกายของเขาพุ่งออกไปพร้อมกับเสียงคร่ำครวญเพื่อที่จะหนี แท้จริงแล้วเขารู้สึกเหมือนว่าตนเองจะปากเสียไปหน่อย ก่อนหน้านี้ยังร้องเรียก 30 – 50 เส้น แต่ไม่นาน กลับมากันเป็นโขยง…
นี่ทำให้เขาหวาดหวั่นใจ สามสี่เส้นก่อนหน้านี้ก็ทำให้เขาอกสั่นขวัญหายแล้ว แม้จะสามารถต้านทานได้ แต่ก็รู้สึกได้ถึงภัยคุกคามอันรุนแรงที่มีต่อตัวเอง
อย่างไรเสียนี่คือพลังแห่งเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้น เช่นเดียวกับกฎไม่รู้สิ้น และเคล็ดวิชาเด็ดดาราของเขาเองเดิมทีก็ถูกมองว่าเป็นการละเมิดกฎอยู่แล้ว กอปรกับที่เขาเป็นบุตรแห่งความมืด หากพลังแห่งเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นนี้ไม่เข้าสู่ร่างกาย คาดว่าจะรู้ตัวในทันที และตั้งตนเป็นเศษซากแห่งความเลวของราชวงศ์ก่อน
เศษซากแห่งความเลว เป็นชื่อที่ได้จากหวังเป่าเล่อในมุมมองของตระกูลไม่รู้สิ้น
“ผู้กระทำผิดและเศษซากแห่งความเลวของราชวงศ์ก่อน…” เมื่อหวังเป่าเล่อคิดถึงจุดนี้ เหงื่อก็ไหลเต็มหน้าผาก ความเร็วในการหลบหนีเพิ่มขึ้น และได้พุ่งออกไปจากวังวนขณะเปล่งเสียงคำราม แม้ว่าเขาจะว่องไวมาก แต่เนื่องจากสุญญากาศในวังวน ทำให้เส้นไหมเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นเหล่านั้นที่ถูกดึงดูดมามีความเร็วมากกว่าหวังเป่าเล่อเสียอีก และตอนที่เขาพุ่งออกมาจากวังวนนั่นเอง ก็ได้ปกคลุมมันไว้ โดยไม่ให้โอกาสเขาได้ตอบโต้แม้แต่น้อย มาพร้อมกับเจตนาโจมตีขับไล่และทำลายล้าง
หวังเป่าเล่อหลับตาลง ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ ขณะที่กำลังจะร้องเรียกศิษย์พี่และท่านอาจารย์มาช่วย ทันใดนั้นเอง… ภายในของเขาก็ได้ซึมซับฝักกระบี่เจ้าชะตาแห่งกฎแตกกระจายและส่องแสงระยิบระยับขึ้นมาทันที จู่ๆ ก็ปล่อยแรงสูบ ทำให้เส้นไหมเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นเหล่านั้นที่อยู่ใกล้ๆ หวังเป่าเล่อมีความเร็วเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ไม่รอให้หวังเป่าเล่อได้ร้องขอความช่วยเหลือ ก็เจาะเข้าไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกายของเขาแล้ว
“ให้ตายเถอะ ข้าต้องจบเห่เช่นนี้จริงหรือ!” หวังเป่าเล่อใจสั่นและกรีดร้องออกมาโดยสัญชาตญาณจากการที่อยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา แต่ทันทีที่เสียงกรีดร้องนี้ดังขึ้น ดวงตาของหวังเป่าเล่อก็เบิกกว้างขึ้นมาทันที เผยให้เห็นความหวาดหวั่นใจ และเริ่มสังเกตตนเองจากภายใน
เขาเห็นเส้นไหมเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นเหล่านั้นที่เจาะเข้าไปในร่างกายของตน เวลานี้ ขณะที่กำลังฉีกเลือดเนื้อบางส่วนของเขาเอง มันก็ได้ตรงไปยังฝักกระบี่เจ้าชะตาด้วย แต่ก็ถูกฝักกระบี่ดูดเข้าไปทันทีราวกับกลืนกิน
เส้นไหมกว่า 40 เส้น หายไปอย่างรวดเร็วในร่างกายของหวังเป่าเล่อในพริบตา หากไม่ใช่เพราะเลือดเนื้อที่ถูกฉีกขาดที่เส้นไหมสีเขียวเหล่านั้นไหลผ่านรู้สึกเจ็บแปลบ เกรงว่าหวังเป่าเล่อเองก็คงคิดว่าเมื่อครู่เป็นภาพลวงตา
“หมดแล้ว?” หวังเป่าเล่อกะพริบตา และมองไปที่ฝักกระบี่เจ้าชะตาของตัวเองทันที และขณะจิตใต้สำนึกของเขากวาดผ่าน ทันใดนั้น ก็มีพลังอันแรงกล้าแผ่ออกมาจากฝักกระบี่เจ้าชะตา
การแผ่ออกมาของพลังนี้ ไม่เพียงแต่มีเกียรติแห่งฝักกระบี่เท่านั้น ยังมีกระแสแห่งกฎแตกกระจายและพลังแห่งเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นด้วย ทั้งสามผนึกกายเข้าด้วยกันอย่างน่าประหลาด ในการระเบิดขณะนี้ ได้ยึดส่วนที่ฝักกระบี่เจ้าชะตาอยู่เป็นศูนย์กลาง แล้วกระจายไปทั่วชั้นกายเนื้อของหวังเป่าเล่อ
ด้วยการแพร่กระจาย ส่วนที่เขาได้รับบาดเจ็บก่อนหน้านี้ก็หายดีทันที และในขณะเดียวกัน ชั้นกายเนื้อของเขาก็เป็นเหมือนพื้นดินที่แห้งกร้านที่จู่ๆ ก็ได้รับหยาดน้ำค้างรสหวานและดูดซึม
ฉากนี้ทำให้สัมผัสสวรรค์ของหวังเป่าเล่อสั่นไหวอย่างรุนแรง เขาไม่ได้ทำอะไรบุ่มบ่าม แต่สังเกตอย่างระมัดระวัง ในที่สุดดวงตาของเขาก็เผยความโคลงเคลง
“ฝักกระบี่เจ้าชะตาของข้า กำลังวิวัฒนาการ… กฎแตกกระจายที่นี่ และพลังแห่งเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้น กระตุ้นการวิวัฒนาการของฝักกระบี่เจ้าชะตาได้”
“นอกจากวิวัฒนาการแล้ว ร่องรอยพลังงานที่ฝักกระบี่เจ้าชะตานี้แผ่ออกมา ยังมีประโยชน์ต่อชั้นกายเนื้อของข้าอย่างมากด้วย ทำให้ชั้นกายเนื้อแข็งแกร่งยิ่งขึ้น!”
“ที่นี่… สำหรับข้าแล้ว ก็คือดินแดนอันล้ำค่านั่นเอง!”
“ข้าเข้าใจแล้ว ศิษย์พี่เรียกข้ามา ไม่เพียงแต่มอบโอกาสดูดซับพลังแห่งจักรพรรดิสวรรค์ให้ข้า ปราณแห่งความมืดของสถานที่แห่งนี้ก็มอบให้ข้าด้วยเช่นกัน ในเวลาเดียวกัน… ศิษย์พี่คำนวณไว้แล้วว่าตระกูลไม่รู้สิ้นจะจุติพลังแห่งเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้น ฉะนั้น… เต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นเหล่านี้ ก็ล้วนแล้วแต่ถูกศิษย์พี่ดึงดูดมาเพื่อล่อเหยื่อ!” หวังเป่าเล่อตระหนักรู้ในทันที และตื่นเต้นอย่างมาก
“ต้องเป็นเช่นนี้แน่นอน ฮ่าๆ ข้าฉลาดมากจริงๆ ศิษย์พี่ ขอบใจล่ะ!” ขณะหวังเป่าเล่อหัวเราะเสียงดัง นอกจากซาบซึ้งใจแล้วก็ภาคภูมิใจด้วย แทนที่จะมองหาวังวน แต่เขากลับยืนนิ่งอยู่กับที่ และเรียกใช้เพลิงดำเพื่อดูดซับไอมรณะรอบๆ
ในชั่วพริบตา ไอมรณะรอบด้านก็เดือดพล่านและไหลเข้ามาตามทวารทั้งเจ็ด ทำให้เพลิงดำของเขายิ่งลุกโชนมากขึ้น การฝึกฝนของเขาก็เกลี้ยงเกลามากขึ้น แม้จะเป็นดารานิรันดร์ชั้นต้น แต่ในแง่ของพลังต่อสู้นั้น หวังเป่าเล่อรู้สึกได้ว่าดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าเดิมเล็กน้อย!
ในเวลาเดียวกัน ส่วนลึกของจักรวาลสีเทาแห่งนี้ ภายในเตาหลอมศูนย์กลางที่ถูกล้อมรอบด้วยเตาหลอมอีกแปดเตา เฉินชิงจื่อที่กำลังดื่มสุราอยู่มีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาทำการสังเกตไอมรณะที่อยู่รอบตัวและบ่นพึมพำ
“มีคนกำลังดูดซับ… ผู้ที่สามารถดูดซับพลังจากสำนักแห่งความมืดเต๋าสวรรค์นี้ได้ นอกจากข้าแล้ว ก็มีเพียงศิษย์น้องเล็กเท่านั้น”
ในระหว่างที่พูด ทันใดนั้นเอง ข้างกายอันว่างเปล่าของเฉินชิงจื่อก็เกลือกกลิ้ง ปลาสีดำที่ดูเหมือนจะมีขนาดเท่าฝ่ามือ แต่อันที่จริงเหมือนมีอีกจักรภพหนึ่งแสดงร่างจำแลงที่นั่นและส่งเสียงคำรามใส่เฉินชิงจื่อ
“รู้แล้วๆ ก็แค่ถูกดูดร่องรอยพลังงานไปเล็กน้อยไม่ใช่หรือ ศิษย์น้องเล็กไม่ใช่คนอื่นไกลที่ไหน อีกอย่าง เขาดูดซับได้มากแค่ไหนเชียว วางใจเถอะๆ” เฉินชิงจื่อปลอบโยนเล็กน้อย
ปลาสีดำนั่นดูไม่พอใจเท่าไรนัก จึงเปล่งเสียงคำรามอีกครั้ง
“แม้แต่อาหารของเจ้าก็ถูกเขากินไปเล็กน้อยอย่างนั้นหรือ? ไม่เป็นไรๆ เจ้าอย่าตระหนี่ไป เจ้าชอบกินพลังแห่งเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้น ไม่ได้หมายความว่าศิษย์น้องเล็กเองก็ชอบด้วย เขาอาจจะแค่สงสัย อีกอย่าง เขาเองก็กินสิ่งนั้นได้ไม่มากนักหรอก”
ภายใต้การปลอบโยนของเฉินชิงจื่อ ปลาสีดำนี้ก็ได้ระงับความไม่พอใจของมัน และค่อยๆ สลายไป ในเวลาเดียวกันนั้น ด้านนอกเตาหลอมนี้ ภายในจักรวาลสีเทา หวังเป่าเล่อในตอนนี้ รอบด้านของเขามีเส้นไหมสีเขียวปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าสิบเส้นจากการดูดซับไอมรณะ ทันทีที่พวกมันปรากฏตัวก็ล็อกเป้าหมาย พุ่งตรงไปหาหวังเป่าเล่อด้วยเจตนาฆ่า
“มาได้เวลาพอดี! ดูด!” หวังเป่าเล่อดูภาคภูมิใจและไม่คิดที่จะหลบหลีก ปล่อยให้เส้นไหมสีเขียวกว่าสิบสายนั้นเข้าใกล้ ทันใดนั้น เส้นไหมสีเขียวสามเส้นที่อยู่ใกล้เขามากที่สุด ได้เจาะเข้าไปในร่างกายของเขาก่อน แล้วระเบิดในร่างกายของเขา!
ร่างกายของหวังเป่าเล่อสั่นสะเทือน เขากระอักเลือดออกมา สายตาชะงัก
“ทำไมไม่ดูดแล้วล่ะ!” ฝักกระบี่เจ้าชะตาในร่างกายของเขาเสมือนมีอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง เมื่อครู่ยังดูดซับอยู่ แต่ตอนนี้กลับนิ่งเฉย และไม่แม้แต่จะมองเส้นไหมสีเขียวเหล่านั้นที่เจาะเข้าไปในร่างกายของหวังเป่าเล่อ
นี่ทำให้หวังเป่าเล่อตื่นตกใจ ครั้นเห็นเส้นไหมสีเขียวแห่งเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นกำลังใกล้เข้ามา เขากรีดร้องและถอยหลังอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หนีไปอย่างไว และไม่กล้าที่จะดูดซับไอมรณะอีก หลังจากใช้กำลังอย่างมากในการทิ้งระยะห่าง จึงทำให้เส้นไหมสีเขียวแห่งเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นที่ไล่ตามมาด้านหลังค่อยๆ สลายหายไป
“นี่มันอย่างไรกันแน่!” หวังเป่าเล่อไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี มองไปที่เส้นไหมสีเขียวแห่งเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นที่ค่อยๆ สลายไป ก็สัมผัสกับไอมรณะของสถานที่แห่งนี้และสังเกตชั้นกายเนื้อของตนเองอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ร่องรอยพลังงานเสริมความแข็งแกร่งชั้นกายเนื้อที่ถูกปล่อยออกมาหลังจากที่ฝักกระบี่เจ้าชะตาดูดซับเส้นไหมสีเขียวกว่า 40 เส้นนั้น แม้ไม่ได้เพิ่มระดับให้เขา แต่ทำให้ชั้นกายเนื้อละเอียดยิ่งขึ้น เป็นเหมือนสัญญาณในการทะลุผ่าน
“ไอมรณะสามารถเพิ่มระดับดวงจิต เส้นไหมสีเขียวสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้ชั้นกายเนื้อ…” หวังเป่าเล่อดวงตาเป็นประกาย สำหรับเขาแล้ว บริเวณรอบนี้ล้วนแต่เป็นสมบัติ ดังนั้นหลังจากได้หวนคิดฉากที่เขาดูดซึมก่อนหน้านี้ ร่างกายของเขาส่ายอย่างแรงและค้นหาดินแดนแห่งวังวนรอบๆ ด้วยความเร็วสูง
ในไม่ช้า หวังเป่าเล่อก็พบวังวนอีกแห่งหนึ่ง วังวนแห่งนี้มีขนาดใหญ่กว่าวังวนก่อนหน้านี้เล็กน้อย ด้านในมีคนกำลังนั่งสมาธิ แต่ในตอนนี้ หวังเป่าเล่อที่ดวงตาเป็นประกาย ไม่สนใจว่าใครจะอยู่ในวังวน เขาเข้าใกล้ด้วยความเร็วสูง ผู้ที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ในวังวนคือผู้ฝึกตนในวัยกลางคน ดูเหมือนจะอยู่ในระดับดารานิรันดร์ชั้นปลาย เขาสังเกตเห็นทันทีและลืมตาขึ้นทันใด กำลังจะโมโห
แต่ในพริบตา การฝึกฝนของหวังเป่าเล่อก็ระเบิด วิชาดวงเนตรปีศาจจุติ กฎเส้นไหมหลอมรวม ร่างจำแลงของเงาแห่งเทพวัวกระโจนเข้าไปทันที!
ท่ามกลางเสียงคำราม สีหน้าของผู้ฝึกตนวัยกลางคนเปลี่ยนไปอย่างมาก เลือดซึมออกจากมุมปาก แววตาเผยความหวาดผวา ร่างกายม้วนลงทันที หลังจากลังเลก็ไม่ได้พัวพันกันอีก แต่จากไปด้วยความคับข้องใจอย่างรวดเร็ว
“เจ้านี่เป็นใคร!” เขาไม่รู้จักหวังเป่าเล่อ แต่สัมผัสได้ถึงความเฉียบแหลมของอีกฝ่าย รู้สึกหวาดหวั่นใจ และสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยจุดบ่มเพาะ เขาไม่อยากเสียเวลา ดังนั้น หลังจากได้มองหวังเป่าเล่ออย่างลึกซึ้ง ก็หันหลังอย่างรวดเร็วและหายไปในพริบตา
หลังจากขับไล่บุคคลนี้ออกไป หวังเป่าเล่อเองก็ไม่มีอารมณ์ที่จะไล่ตาม แต่นั่งลงด้วยท่าขัดสมาธิด้วยความหวังและความกังวล รีบดูดซับกฎแตกกระจายที่นี่ ทันใดนั้น ฝักกระบี่เจ้าชะตาในร่างกายของเขาก็ระเบิดอีกครั้ง และหลังจากกลืนกฎแตกกระจายที่อยู่โดยรอบทั้งหมดลงไป ภายในระยะแปดทิศ ก็ปรากฏเส้นไหมสีเขียวกว่า 70 เส้น พุ่งเข้าหาหวังเป่าเล่อ
เมื่อเห็นเส้นไหมสีเขียวจำนวนมากเช่นนี้ หวังเป่าเล่อรู้สึกผวาเล็กน้อย แต่เขายืนหยัดไม่หลบเลี่ยง เขาอยากจะลองว่า มีเพียงวิธีนี้ที่จะสามารถดูดซับเส้นไหมสีเขียวเหล่านี้ใช่หรือไม่
แม้จะเป็นอันตราย แต่หากไม่ลอง หวังเป่าเล่อก็จะไม่สบายใจแน่ ดังนั้นภายใต้ความหนักแน่นนี้ เส้นไหมสีเขียวเหล่านั้นก็เพิ่มขึ้นเป็นเจ็ดแปดสาย มันเจาะเข้าไปในร่างกายของหวังเป่าเล่อก่อน พริบตาถัดมา… ดวงตาของหวังเป่าเล่อก็สว่างขึ้นทันที
“ตามที่คิดไม่มีผิด!”
ฝักกระบี่เจ้าชะตาของเขา ตอนนี้กำลังกลืนกินเส้นไหมสีเขียวที่เจาะเข้าไปในร่างกายด้วยความเร็วสูง ส่วนหวังเป่าเล่อที่กำลังตกอยู่ในความตื่นตะลึงนั้น ไม่ได้สังเกตเลยว่า พื้นที่ว่างเปล่าข้างกายของเขา มีร่างจำแลงของปลาสีดำตัวหนึ่งปรากฏขึ้น มันมาพร้อมกับความอัดอั้นใจ ราวกับถูกแย่งอาหารอย่างไรอย่างนั้น และกำลังจ้องเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
……………………………………………………