หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา - บทที่ 1137 ลงท้อง!
หลังจากที่จักรพรรดิสวรรค์เสวียนหัวเอ่ยปากอย่างไม่สะทกสะท้านแล้ว กองกำลังของกองทัพไม่รู้สิ้นจำนวนนับแสนเบื้องล่าง ขณะนั้นค่อยๆ ทวีกำลังขึ้น พวกเขาใช้พลังวิเศษเร้นลับบางอย่างเพื่อดึงพลังปราณมาจากพลังเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้น ก่อนจะหลอมกลายเป็นกลุ่มควันสีเขียวครามขนาดมโหฬาร กลุ่มควันแต่ละก้อนร่วงหล่นทะลุเข้าสู่ท้องฟ้าพร่างดาราสีเทาเบื้องล่าง
หลังจากการร่วงหล่น พลังปราณแห่งเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นที่กลายเป็นก้อนควันก็แผ่กระจายออกอย่างไร้สุ้มเสียง ก่อเกิดกลิ่นอายของเส้นไหมเล็กละเอียดสีเขียวซึ่งไม่อาจนับจำนวนให้รู้ชัด กระจายไปทั่วแปดทิศ
หลังจากเส้นไหมล่วงล้ำดินแดนแล้วนั้น เขตแดนท้องฟ้าของที่นี่ซึ่งเดิมทีเป็นสีเทา ยามนี้จึงเริ่มเปลี่ยนแปลง ราวกับว่าเริ่มมีสีเขียวครามเข้าไปเจือปนในพลังงานสีเทาเหล่านี้ด้วย พวกมันเริ่มเชื่อมประสาน ค่อยๆ แสดงสัญญาณว่าท้องฟ้านี้กำลังจะกลายเป็นสีเขียวครามเต็มที
ฉากนี้ เหล่าคนจากต่างดาวมองเห็นแล้วล้วนตกตะลึงไปตามๆ กัน เพียงแต่ว่าสิ่งที่พวกเขาเห็นมีเพียงแค่ท้องฟ้าสีเทาของสถานที่นี้ซึ่งกำลังเปลี่ยนสีเท่านั้น พวกเขาไม่อาจมองเห็นหมอกสีเขียวครามจากเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นที่ปล่อยออกมาจากกองทัพไม่รู้สิ้นได้ ไม่เช่นนั้นคงพากันตื่นตะลึงหนักกว่าเก่าเป็นแน่ เพราะว่าเหล่าหมอกควันสีเขียวครามพวกนี้ แต่ละก้อนล้วนแฝงไปด้วยพลังกฎแห่งเขตพิภพเต๋าไม่รู้สิ้น
เว้นเสียแต่ว่าผู้มองจะอยู่ในระดับจักรพรรดิสวรรค์เท่านั้น จึงจะสามารถหยิบยืมพลังปราณแห่งเต๋าสวรรค์ไปฝึกปรือได้ ผู้อื่นย่อมไม่มีทางได้รับมัน เพราะจะถูกพลังสะท้อนกลับ นี่แสดงให้เห็นว่ามันมีค่าเพียงใด
“ท่าไม่ค่อยดีแล้ว…” ปรมาจารย์แห่งไฟที่อยู่นอกเขตสีเทาพลันขมวดคิ้วเล็กน้อย เพ่งมองท้องฟ้าสีเทาที่ค่อยๆ เปลี่ยนสีสัน จากนั้นจึงแหงนหน้ามองไปยังทิศที่เผ่าไม่รู้สิ้นซ่อนตัวอยู่ ดวงตาฉายแววเคร่งขรึม
เขาไม่รู้สถานการณ์ภายในเขตน่านฟ้าสีเทานี้ แต่ว่าหากมองจากโลกภายนอกเข้าไป ครั้นท้องฟ้าของดาวสีเทาเปลี่ยนเป็นสีเขียวคราม วงแหวนปราณจะถูกทำลายทิ้ง
ผลลัพธ์ของการที่วงแหวนปราณถูกทำลาย ก็คือเต๋าสวรรค์ของสำนักแห่งความมืดจะถูกสับเปลี่ยน อีกทั้งจักรพรรดิเดือนแยกที่กำลังประลองกับเฉินชิงจื่อก็จะได้รับแรงหนุนระดับมหาศาล จนอาจส่งผลให้จุดจบของศึกนี้ต้องเปลี่ยนไป
“เฉินชิงจื่อกำลังคิดอะไรอยู่…” ปรมาจารย์แห่งไฟพึมพำในใจ แท้จริงแล้วไม่ได้มีเขาคนเดียวที่คิดเช่นนี้ นอกเขตท้องฟ้าสีเทานั้น เหล่าผู้พิทักษ์แห่งเต๋าในสำนักและตระกูลนับหมื่นด้านนอก มีจำนวนไม่น้อยที่มองเงื่อนงำเหล่านี้ออก และล้วนพากันคาดเดา
เวลาเดียวกัน ขณะที่เหล่าผู้เยี่ยมยุทธ์ทั้งหลายคาดเดากันอยู่นี้เอง ในส่วนลึกของท้องฟ้าสีเทาที่กำลังเปลี่ยนสีอยู่นั้น ในใจกลางแห่งการหลอม จักรพรรดิเดือนแยกที่อยู่ท่ามกลางกลุ่มหมอกกำลังส่งเสียงร้องเวทนา หรือเรียกได้ว่ากำลังกรีดร้อง
“เฉินชิงจื่อ เจ้าไม่สังหารข้า แต่กลับทรมานข้าเช่นนี้ แถมยังย้อนวงแหวนปราณ ปนเปื้อนเตาหลอมแห่งเต๋าศักดิ์สิทธิ์ทั้งเก้าจนกลายเป็นเตาหลอมศักดิ์สิทธิ์แห่งความมืดเก้าใบ ทุกสิ่งไม่ได้เพียงต้องการแผดเผาข้า แต่ต้องการเปลี่ยนให้ข้ากลายเป็นเผ่าแห่งความมืดอย่างนั้นรึ? เรื่องนี้ไม่มีทางเกิดขึ้น!”
“จักรพรรดิเดือนแยก เจ้าคิดมากไปแล้ว” เฉินชิงจื่อยิ้มบาง เขานั่งขัดสมาธิอยู่กลางหมอกสีดำ มือขวาประสานมุทรา ชี้นิ้วไปยังจักรพรรดิเดือนแยกไม่หยุด ทำให้ทั้งร่างก่อเกิดเสียงดังกระหน่ำต่อเนื่อง
และทุกครั้งที่เสียงนั้นดังขึ้น ร่างของจักรพรรดิเดือนแยกก็หลุดลอยเข้าสู่ไอหมอกดำอย่างชัดเจนมากขึ้น เห็นได้ว่า…กำลังบังคับให้อีกฝ่ายเปลี่ยนสภาพจริงๆ
“ปลาที่ข้าต้องการตก ไม่ได้เรียบง่ายขนาดนั้น” เฉินชิงจื่อหรี่ตา ดวงตามันทอประกายแสงทะมึนคราหนึ่ง แต่ในพริบตาถัดมาก็กลับเป็นดังเดิม ยังคงเผยรอยยิ้มบางเหมือนเก่า ก่อนจะใช้นิ้วประสานชี้ต่อ
เสียงกรีดร้องยังคงดังอย่างต่อเนื่อง!
เวลาเดียวกัน นอกใจกลางหม้อหลอม ภายในอาณาบริเวณของท้องฟ้าสีเทา ตำแหน่งของวังวนยักษ์ที่หวังเป่าเล่ออยู่นั้นค่อยๆ เริ่มสลายไป ส่วนเส้นสีเขียวจำนวนมากรอบด้านเขา ตอนนี้มันซึมซับเข้าสู่ร่างกายหวังเป่าเล่ออย่างรวดเร็ว ทำให้พลังร่างเนื้อของเขายกระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ชั่วอึดใจให้หลัง หวังเป่าเล่อถึงค่อยลืมตา ดวงตาของเขาพลันเกิดแสงสว่าง ขณะเดียวกันก็สัมผัสได้ว่านอกจากร่างกายของตนจะแกร่งกล้าขึ้นแล้ว ฝักดาบประจำตัวที่อยู่ในร่างตนนั้น ยามนี้เผยกลิ่นอายที่ทำให้เขารู้สึกตกตะลึงออกมา
“ที่แท้แล้วเป็นสถานที่บ่มเพาะหรือนี่!” หวังเป่าเล่อตื่นเต้นจนต้องเลียริมฝีปาก หลังจากมองไปรอบด้านแล้วก็พลันอ้าปากขึ้น ทันใดนั้นเปลวไฟสีดำในร่างก็ทะยานออกมาด้านนอกทันที ดูดกลืนอย่างบ้าคลั่ง
ราวกับอัสนีบาตระเบิด เสียงดังลั่นนั้นกระจายออกไปทั่วทุกทิศราวกับจะพลิกภูเขาทำลายมหาสมุทร กลิ่นอายแห่งความตายขยาดยักษ์ในท้องฟ้าพลันหลั่งไหลเข้ามาสู่ตัวเขาในชั่วพริบตา แล้วถูกดูดกลืนเข้าไปภายในร่าง กระทั่งดวงวิญญาณเทพก็สั่นสะท้าน พลังยกระดับอย่างรวดเร็ว เจ้าปลาสีดำที่หวังเป่าเล่อมองไม่เห็นนั้นในยามนี้เองก็ร่างกายสะท้านเช่นกัน มันส่งเสียงคำรามที่หวังเป่าเล่อไม่ได้ยินออกมา
ก่อนหน้านี้ปลาสีดำรู้สึกว่าตรงที่หวังเป่าเล่ออยู่นี้ดีนัก แต่ตอนนี้ความร้อนใจกลับพุ่งสูงอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับตอนแรก เห็นได้ชัดว่าการดูดกลืนกลิ่นอายแห่งความตายของหวังเป่าเล่อตรงนี้ทำให้มันรู้สึกว่า หวังเป่าเล่อจะกินร่างเนื้อของมัน…
นี่ทำให้มันกังวลอย่างยิ่ง รีบรี่พาร่างจากไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงปรากฏตัวอยู่นอกหมอกสีดำของเฉินชิงจื่อ มันกู่ร้องต่อเนื่อง ทว่าเฉินชิงจื่อที่อยู่ด้านในนั้น ตอนนี้ไม่ได้สนใจมันแม้แต่น้อย เพราะเขากำลังทุ่มเททั้งกายใจไปกับการรุกรานและหลอมจักรพรรดิเดือนแยก
สิ่งนี้ทำให้ปลาสีดำรู้สึกได้รับความไม่เป็นธรรมมากกว่าเดิม
อีกด้าน…หวังเป่าเล่อเองก็ไม่กล้าดูดกลืนมากนัก เพราะหลังจากดูดกลืนครั้งแรกแล้ว เส้นไหมสีเขียวรอบตัวเขานั้นถูกทยอยดูดเข้ามาพร้อมกันทีเดียว อีกทั้งจำนวนของพวกมันเกรงว่าจะมีมากมายเกินหลายหมื่นเส้น
มองเห็นเส้นไหมสีเขียวจำนวนมากเท่านี้ ดวงตาของหวังเป่าเล่อทอแววกระหาย หมายจะพุ่งร่างตรงไปยังทิศห่างไกล เพื่อไล่ตามเส้นไหมสีเขียวเหล่านั้น แต่เมื่อหวังเป่าเล่อเก็บเปลวไฟสีดำไปแล้ว เหล่าเส้นไหมสีเขียวก็ทำเหมือนว่าเป้าหมายของพวกมันได้หายไปด้วย จึงค่อยๆ จางหายไป
เห็นได้ชัดว่าการเคลื่อนไหวของหวังเป่าเล่อคล่องแคล่วยิ่งขึ้น ยามนี้เขาตามหาวังวนขนาดยักษ์อันถัดไปที่อยู่ภายในท้องฟ้าสีเทาอย่างกระตือรือร้น ใช้เวลาไม่นาน ท่ามกลางการค้นหาอย่างรวดเร็วของหวังเป่าเล่อ หลังจากมองข้ามวังวนขนาดเล็กกลางหลายอันแล้ว ในที่สุดเขาก็หาวังวนระดับจักรพรรดิสวรรค์ร่วงหล่นเป็นแห่งที่สองได้
วังวนที่มีขนาดไม่ต่างจากอันก่อนมากนัก พลันปรากฏเบื้องหน้าหวังเป่าเล่ออย่างรวดเร็ว เขามองเห็นผู้ฝึกตนจำนวนสิบกว่าคนจากตระกูลหมื่นสำนักนั่งขัดสมาธิอยู่กลางวังวนนั้น
“ช่างกล้านัก กล้ามาขโมยโอกาสบ่มเพาะของข้า!” ร่างของหวังเป่าเล่อไม่หยุดนิ่งสักแวบเดียว ทะยานกายพุ่งเข้าไปทันที แม้พลังฝึกปรือของเหล่าผู้ฝึกตนสิบกว่าคนนี้จะไม่ธรรมดา แต่สำหรับหวังเป่าเล่อแล้ว พวกเขาก็ไม่ต่างจากเด็กน้อย ไม่อาจนับได้ว่าเป็นระดับเดียวกับตน
การอธิบายเช่นนี้ก็ไม่แย่นักเพราะว่าสภาวะของหวังเป่าเล่อในปัจจุบัน หากมองด้วยความเห็นของเหล่าตระกูลหมื่นสำนักแล้ว ระดับของเขานับว่าเลยกลุ่มชั้นที่สองไปแล้ว แม้กระทั่งว่าในหมู่ระดับชั้นที่หนึ่งนั้น เขาก็อาจจะอยู่ในกลุ่มสูงสุดเลยด้วยซ้ำ
ยามที่พุ่งตัวออกไปถึงขั้นทำให้ภายในหมอกเกิดพลังระเบิด พลังร่างกล้ามเนื้อหวังเป่าเล่อดังกึกก้อง และในระหว่างที่หัวใจของเหล่าผู้ฝึกตนสิบกว่าคนกำลังเต้นระรัว หวังเป่าเล่อก็ลงมือท่ามกลางความตกตะลึงนั้นทันที กระบวนการทั้งหมดยังไม่ถึงครึ่งก้านธูปดี เหล่าผู้ฝึกตนสิบกว่าคนนี้ก็ถูกเขาอัดไปกว่าหกคนแล้ว!
ส่วนที่เหลือนั้น ท่ามกลางความแตกตื่นหวาดกลัว พวกเขาพากันหลบหนี
หวังเป่าเล่อไม่ได้สนใจพวกผู้ฝึกตนที่หนีไปเหล่านั้น เขานั่งขัดสมาธิอยู่ตรงกลางวังวนด้วยความมีชีวิตชีวา หลังจากใช้พลังดูดกลืนรุนแรงคราหนึ่ง กฎของวังวนที่ถูกเขาทำลายทิ้งก็ตรงเข้ามาหา ในพริบตาไหลหลั่งเข้าสู่พลังภายในของเขาและเข้าสู่ฝักกระบี่เจ้าชะตานั้น
สีของฝักกระบี่เจ้าชะตาในตอนนี้แปรเปลี่ยนเป็นแดงฉาน ราวกับว่ากำลังมีโลหิตสดๆ ไหลมารวมกัน กระทั่งว่าพลังแสงเองก็กระจายทะลุผ่านร่างของหวังเป่าเล่อ เมื่อใช้สายตามองจากระยะไกลไปนั้นจะเห็นว่าแสงโลหิตของเขาสูงทะลุฟ้า
หลังจากนั้นก็คือเส้นไหมสีเขียวพวกนั้น…ตัวเขาดูดมันเข้ามาจากทั่วทุกสารทิศ และเพราะระดับความหนาแน่นของพวกมันมีเพิ่มขึ้น ดังนั้นเมื่อปรากฏออกมา ก็เกินกว่าหมื่นเส้นแล้ว พวกมันตรงเข้าหาหวังเป่าเล่อทันที!
“ข้าจะดูด ข้าดูด ข้าจะดูดกลืนๆๆ!” หวังเป่าเล่อดวงตาเบิกกว้าง ไม่หลบหลีกแม้แต่น้อย ร่างกายคล้ายกับได้กลายเป็นหลุมดำ จัดการดูดเอาเส้นไหมสีเขียวเหล่านั้นเข้ามาจนสิ้น ส่วนปลาสีดำเองก็เคลื่อนเข้ามาใกล้ด้วยความรวดเร็ว ตัวมันอ้าปากกว้างเตรียมพร้อมจะกลืนกินเช่นกัน ความเร็วของมันไม่นับว่าด้อย สรุปแล้วก็คือ มันกินไปประมาณคนละครึ่งกับหวังเป่าเล่อเลยทีเดียว ขณะปลาสีดำกลืนกินไป ดวงตาก็แอบมองหวังเป่าเล่ออย่างโกรธๆ และเพราะความพิเศษของตัวมันหวังเป่าเล่อใช้เวลาเนิ่นนานก็ยังจับสังเกตอะไรไม่ได้
ขณะที่มันจ้องมองหวังเป่าเล่อด้วยความโกรธและพยายามแย่งชิงเส้นไหมสีเขียวอยู่นั้น ร่างของหวังเป่าเล่อพลันระเบิดรุนแรง พลังกล้ามเนื้อของเขายกระดับแล้ว!
ในพริบตานั้น หวังเป่าเล่อทะยานจากระดับกลางของระดับดารานิรันดร์เข้าสู่ระดับปลายของดารานิรันดร์!
ขณะเดียวกันกับที่ฝ่าระดับได้ ฝักกระบี่เจ้าชะตาของเขาก็เปลี่ยนแปลง แรงดูดกลืนทวีกำลังขึ้นทำให้เส้นไหมสีครามทั้งสี่ทิศนั้นถูกชักนำเข้ามามหาศาล ในตอนแรกหวังเป่าเล่อดูดกลืนกับปลาสีดำคนละครึ่ง ทว่าพลังดูดกลืนของเขากลับยกระดับในพริบตา และค่อยๆ กลายเป็นถือครองส่วนแบ่งหกส่วน!
นี่ทำให้ดวงตาของปลาสีดำแทบจะถลนออกมา ดวงตาของมันแฝงแววแข็งกร้าวไม่ยินยอมอย่างมาก อีกทั้งยังโมโหด้วย
“กินเนื้อของข้า แย่งอาหารข้ายังพอทำเนา แต่กลับแย่งได้มากกว่าข้าอีกงั้นหรือ ย๊ากกกก!” เจ้าปลาสีดำเริ่มบ้าคลั่งขึ้นมาแล้ว เวลาเดียวกันดวงตามันก็กลายเป็นสีแดง เผยประกายเหี้ยมโหด มันไม่สนกฎที่เฉินชิงจื่อตั้งไว้ให้อีกต่อไป ร่างกายพลันขยับ จากนั้นก็เคลื่อนเข้ามาอยู่ด้านหลังของหวังเป่าเล่อ และในยามที่หวังเป่าเล่อไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลยแม้แต่น้อย มันก็อ้าปากกว้าง!
การอ้าปากกว้างในครั้งนี้ของมัน ฉับพลันก็ครอบคลุมทั้งสี่ทิศ ครอบอยู่รอบตัวของหวังเป่าเล่อ หากงับลงมาแล้ว มันก็จะสามารถกินหวังเป่าเล่อ…ลงไปในคำเดียว!
ทว่า ในพริบตาที่มันกำลังจะกลืนหวังเป่าเล่อลงท้องนั้น เสียงประหลาดเร้นลับก็ดังขึ้นมา
“อียอออ!”
……………………………………………………………………….