หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา - บทที่ 1148 เด็กสาวประหลาด!
หวังเป่าเล่อหรี่ตาทันที เรื่องนี้ประหลาดเสียจนทำเอาเขาหนังศีรษะชา เขายังคงยืนอยู่ที่เดิม กวาดสายตามองรอบด้าน พร้อมกับแผ่จิตใต้สำนึกออกไป ทว่าก็หาเด็กสาวคนนั้นไม่เจออยู่ดี ขณะกำลังครุ่นคิด เขาไม่ได้ส่งเสียงถามศิษย์พี่เฉินชิงจื่อต่อ กลับร้องเรียกแม่นางน้อยในใจแทน
น่าแปลก เพราะไร้เสียงตอบรับจากแม่นางน้อย หากเป็นเวลาอื่นที่นางเงียบงันเช่นนี้ หวังเป่าเล่อคงไม่คิดอะไร แต่วันนี้เขากลับมีความรู้สึกประหลาดที่ไม่สามารถอธิบายได้
โชคดีที่ตอนนี้อู๋น้อย เจ้าลาน้อยและเจ้าปลาดำกลับมาจากการปิดล้อมองค์ชายไม่รู้สิ้นที่เหลือเพียงวิญญาณเทพแล้ว แม้พวกมันจะไม่ได้เข้าใกล้บริเวณเตาหลอม แต่หวังเป่าก็สัมผัสได้
“อู๋น้อย ลาน้อย มานี่!” หลังจากสัมผัสได้ถึงพวกมัน หวังเป่าเล่อก็เอ่ยปากเรียกทันที ไม่นานอู๋น้อยและเจ้าลาน้อยก็เหาะมาอยู่ข้างกายหวังเป่าเล่อ ท่ามกลางความหวาดระแวงของทุกคน
ส่วนเจ้าปลาดำก็มาอยู่ข้างกายหวังเป่าเล่อเช่นเดียวกัน ทว่าคนอื่นนั้นมองไม่เห็น และตอนนี้หวังเป่าเล่อไม่ได้สนใจมัน รีบร้อนกล่าวกับอู๋น้อยและเจ้าลาน้อยทันที
“พวกเจ้าอธิบายการกระทำทุกอย่างที่ข้าทำ หลังจากเข้ามาในเขตเตาหลอมให้ข้าฟังเดี๋ยวนี้!”
อู๋น้อยแปลกใจ เจ้าลาน้อยเองก็กวาดตามองหวังเป่าเล่ออย่างประหลาดใจ
“รีบพูดมา!” หวังเป่าเล่อขมวดคิ้ว ในใจหงุดหงิดเล็กน้อยอย่างอธิบายไม่ได้ เห็นดังนั้นอู๋น้อยจึงลนลานกล่าวทันที
“ท่านพ่อ หลังจากท่านมาถึง อันดับแรกก็มีเจ้าคนไม่ลืมหูลืมตาเข้ามาขัดขวาง และถูกท่านตบตายด้วยฝ่ามือเดียว จากนั้นก็ไปแย่งชิงเตาหลอมและถูกปิดล้อมโดยคนสิบกว่าคนที่ไม่รู้ว่ามาดีหรือร้าย แต่พวกเขาไม่รู้ถึงความกล้าหาญอันโดดเด่นของท่านพ่อจึงถูกท่านพ่อฆ่าทิ้งไปไม่น้อย พวกข้าถูกคุกคามจนแตกกระจายกันไป จนท่านพ่อครอบครองเตาหลอมได้ก็ไม่มีใครกล้ายั่วยุ ทั่วหล้าไร้ผู้ต่อต้าน!”
“อียอวว!” เจ้าลาน้อยรีบผงกหัวเป็นการยืนยันคำพูดของอู๋น้อย
“จากนั้นล่ะ?” ดวงตาหวังเป่าเล่อหรี่ลงและถามต่อ
“จากนั้นหรือ องค์ชายไม่รู้สิ้นที่พวกเราจับได้ผู้นั้นไร้หัวคิด กล้ามายั่วยุท่านพ่อ ทำท่านพ่อโกรธจนพุ่งไปสยบเขาอีกครั้ง” อู๋น้อยมองหวังเป่าเล่อด้วยความประหลาดใจ
“เขายั่วยุข้าอย่างไร” หวังเป่าเล่อถามต่อ
“หืม? เขาก็ออกมาจากเตาหลอมแล้วด่าท่านพ่อ” สีหน้าอู๋น้อยยิ่งแปลกเข้าไปอีก สิ่งที่หวังเป่าเล่อถามทำให้เขารู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
หวังเป่าเล่อเองก็รู้สึกผิดปกติเช่นกัน หลังจากเงียบไป จู่ๆ เขาก็เอ่ยขึ้น
“เพราะเด็กสาวคนนั้นหรือ”
“เด็กคนไหน” อู๋น้อยชะงัก เจ้าลาน้อยก็ชะงัก นั่นทำให้ใจหวังเป่าเล่อปั่นป่วน อู๋น้อยอาจโกหกได้ แต่ลาน้อยทำไม่ได้ มันเชื่อมโยงกับสัมผัสสวรรค์ของหวังเป่าเล่อ หวังเป่าเล่อสามารถอ่านความคิดมันได้
ทั้งหมดเป็นอย่างที่อู๋น้อยพูด
เช่นนั้น…ความจริงคืออะไร หวังเป่าเล่อมีคำตอบอยู่แล้วในใจแล้ว บางที ณ ขณะนั้นทุกคนที่นี่อาจเกิดภาพลวงตา หรือบางที…ก็เป็นแค่ภาพลวงตาของเขา
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีใครเห็นเด็กสาวคนนั้น แม้แต่ศิษย์พี่เฉินชิงจื่อผู้เก่งกาจ ก็ยังมองไม่เห็นเด็กคนนั้น เรื่องนี้มัน…น่ากลัวเกินไปแล้ว
ความรู้สึกอันตรายรุนแรงทำให้หวังเป่าเล่อระแวดระวัง ขณะเดียวกันก็ทำให้เขากระตือรือร้นที่จะพัฒนาฐานการฝึกฝนของตนมากขึ้น ดังนั้นหลังจากเงียบไปไม่กี่อึดใจ หวังเป่าเล่อก็กระโดดขึ้น ก่อนจะดึงให้เตาหลอมที่เขาครอบครองอยู่ระเบิดไปพร้อมกับเตาหลอมที่อยู่ด้านล่างในตอนนี้
ทันใดนั้นกฎแตกกระจายข้างในก็หลั่งไหลเข้าใส่หวังเป่าเล่อราวกับน้ำท่วม มันถูกร่างแท้ของเขาดูดซับอย่างบ้าคลั่งราวกับวาฬกลืนกิน
ในไม่ช้ารอบตัวหวังเป่าเล่อก็เกิดกระแสน้ำวนและใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลกระทบต่อเตาหลอมอีกเจ็ดเตา ทำให้ผู้ฝึกตนรอบเตาหลอมทั้งเจ็ดหน้าเปลี่ยนสี
ในตอนนั้นเอง จู่ๆ เสียงหัวเราะราวกับกระดิ่งเงินก็ดังขึ้นในหูหวังเป่าเล่อ มันดังก้องไปทั่วจักรวาลโดยรอบ หลังจากได้ยินเสียงหัวเราะนั้น หวังเป่าเล่อพลันลืมตาโพล่ง
เขาไม่เห็นเจ้าของเสียงหัวเราะ แต่ก็เห็นว่าผู้ฝึกตน ณ ที่แห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนที่เคยต่อสู้แย่งชิงเตาหลอมกันมาก่อนหรือสามคนนั้นที่มีตำแหน่งแล้ว ทุกคน…พลันเกิดแสงบิดเบี้ยวในดวงตาราวกับมีพลังงานประหลาดไร้ตัวตนส่งผลกระทบต่อผู้ฝึกตนทุกคน
แม้แต่อู๋น้อยกับเจ้าลาน้อยก็เช่นกัน ชั่วขณะหนึ่งดวงตาพลันเกิดแสงสีดำ มีเพียงเจ้าปลาดำเท่านั้นที่ยังคงแหวกว่ายไปมาโดยไม่ได้รับผลกระทบใดๆ
เมื่อเห็นผู้ฝึกตนเปลี่ยนไป หวังเป่าเล่อก็ตกตะลึง ก่อนจะรีบโบกมือเก็บอู๋น้อยกับเจ้าลาน้อยเข้ากระเป๋าคลังเก็บ แล้วร้องเรียกศิษย์พี่
แต่…ดูเหมือนเสียงเรียกของเขาจะถูกปิดกั้น
“ท่านอา ไม่ต้องระแวงขนาดนั้น ข้าไม่ทำร้ายท่านหรอก…”
“แต่ว่า…ที่นี่มีคนตายน้อยเกินไป แบบนี้ไม่สนุกเลย” เสียงเด็กสาวแฝงความหมายบางอย่าง ใจหวังเป่าเล่อกระตุก มหาศิษย์แห่งเต๋าของตระกูลหมื่นสำนักพลันเลือดตาพุ่งกระฉูด ทุกคนมองหวังเป่าเล่อและส่งเสียงกรีดร้องราวกับเจอศัตรูที่ไม่อาจอยู่ร่วมโลกกันได้ ก่อนจะพุ่งเข้ามาหมายสังหารหวังเป่าเล่อ
คนที่แข็งแกร่งที่สุดคือสามคนนั้น!
คนหนึ่งเป็นหญิงสาวที่อยู่ภายใต้ร่างมายามังกรสีเงิน คนหนึ่งคือชายหนุ่มที่พุ่งออกมาจากดาบโบราณห้าธาตุ และคนสุดท้ายคือองค์ชายไม่รู้สิ้นที่เหลืออยู่อีกคน
ผู้ฝึกตนทั้งสามล้วนเป็นชั้นมหาวัฏจักร และยังเป็นดารานิรันดร์ องค์ชายไม่รู้สิ้นเป็นระดับสวรรค์ ถึงแม้อีกสองคนจะไม่ใช่ แต่ดารานิรันดร์ก็มีความพิเศษมากและไม่ด้อยไปกว่าระดับสวรรค์เลย
ทันทีที่ลงมือพลันเกิดเสียงสะเทือนฟ้าดิน สะท้านไปทั้งจักรวาล ส่วนคนที่เหลือต่างระเบิดฐานการฝึกฝน กรีดร้อง เข่นฆ่าราวกับเสียสติไปแล้ว
นี่มันเกิดอะไรขึ้น! ทุกอย่างกะทันหันเกินไป เรียกได้ว่าเรื่องราวทั้งหมดพลิกผันหลังจากเด็กสาวปรากฏตัว ต่อให้หวังเป่าเล่อจะแข็งแกร่ง แต่ตอนนี้เขากำลังตื่นตกใจ แท้จริงแล้วเขายังไม่ได้แข็งแกร่งมากพอที่จะสยบดารานิรันดร์นับสิบด้วยตัวคนเดียว
โดยทั่วไปทุกคนที่นี่ล้วนเป็นดารานิรันดร์ชั้นมหาวัฏจักร อีกทั้งยังมีถึงสามคน ซึ่งเหนือกว่ามหาศิษย์แห่งเต๋าระดับเดียวกัน ดังนั้นหวังเป่าเล่อจึงถอยร่นไปในทันที
แทบจะพริบตาที่เขาล่าถอย จุดที่เขาอยู่ก่อนหน้านี้ถูกดาบโบราณห้าธาตุฟันฉับลงมา และกรงเล็บร่างมายามังกรเงินฟาดใส่พร้อมกับเสียงคำราม อีกทั้งยังมีกระบวนเวทพลังเทพมหาศาลไหลบ่าเข้ามา
“เจ้าเป็นใครกันแน่” หลังหวังเป่าเล่อหลบเข้าไปใกล้ใจกลางเตาหลอม และคำรามไปรอบๆ ราวกับสายฟ้าฟาดครอบคลุมไปถึงใจกลางเตาหลอมนั้น
แต่…เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าศิษย์พี่ที่อยู่ด้านในไม่ตอบสนองเลยสักนิด
นั่นทำให้หวังเป่าเล่อใจหล่นวูบ
“ท่านอา ที่นี่ไม่มีใครสังเกตเห็นหรอก ท่านฆ่าได้ตามใจชอบเลย ผู้คนตายน้อยไป ไม่สนุก ท่านอาสู้ๆ ล่ะ”
“ส่วนข้าเป็นใครนั้น…ท่านอาก็ลองเดาดูสิ” เสียงของเด็กสาวมาพร้อมเสียงหัวเราะประหลาด ดังก้องไปทั่วบริเวณอย่างต่อเนื่อง ผู้ฝึกตนที่ได้รับผลกระทบจากมันยิ่งบ้าคลั่ง มีบางคนที่เมื่อพุ่งเข้ามาหาหวังเป่าเล่อแล้วก็ระเบิดตัวตาย
หวังเป่าเล่อรีบถอยหนีออกไปเร็วจี๋ สีหน้าบิดเบี้ยว แต่โชคดีที่แม้เขาจะหลบหนีไปได้ แต่การเชื่อมต่อกับเตาหลอมทั้งสองยังคงอยู่ ตอนนี้ยังมีกฎแตกกระจายอีกมากแผ่ออกจากเตาหลอมทั้งสองมาหาเขา ดังนั้นเมื่อเห็นผู้ฝึกตนรอบด้านพุ่งเข้าใส่ด้วยดวงตาแดงก่ำ ดวงตาหวังเป่าเล่อก็ฉายแสงเย็นยะเยือก ฝักกระบี่เจ้าชะตาในร่างพลันกระจายออกมา
ฉับพลันแรงดูดก็เพิ่มขึ้น กฎแตกกระจายไร้ที่สิ้นสุดพุ่งเข้าสู่ฝักกระบี่เจ้าชะตาอย่างบ้าคลั่ง ทำให้หลังจากฝักกระบี่ขึ้นไปถึงระดับความมืดมิดหาใดเปรียบค่อยๆ โปร่งใส
ฝักกระบี่เจ้าชะตา นี่คือเคล็ดวิชาลับของหวังเป่าเล่อ และเป็นสิ่งเดียวที่หวังเป่าเล่อคิดว่าจะพลิกสถานการณ์ในตอนนี้ได้ เขาสัมผัสได้ว่าเมื่อฝักกระบี่เจ้าชะตาดูดซับ ข้างใน…ราวกับมีปราณกระบี่สายหนึ่งกำลังเติบโตและน่าสะพรึงกลัวขึ้นเรื่อยๆ!
แน่นอนว่านอกจากสิ่งนี้แล้วก็ยังมีบทสวดแห่งเต๋า
เพียงแต่การใช้บทสวดแห่งเต๋าไม่อาจทำได้นานเกินไป อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือสยบที่ไม่เฉียบคมพอ!
หวังเป่าเล่อหรี่ตา ไม่สนใจผู้ฝึกตนที่พุ่งเข้าใส่ เขาเคลื่อนย้ายร่างหลบหลีกครั้งแล้วครั้งเล่า เร่งการดูดซับกฎแตกกระจาย
ขณะเดียวกันในจักรวาลโดยรอบก็มีเส้นไหมสีเขียวที่ดูแตกต่างกันไปตามระดับ คล้ายกับสามารถเพิกเฉยต่อการปิดล้อมนี้ และเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
สามหมื่น ห้าหมื่น หนึ่งแสน สองแสน…
…………………………………………………………