หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา - บทที่ 1157 ผิดปกติ!
ดวงวิญญาณเทพเพิ่มขึ้น ฐานการฝึกฝนก้าวกระโดด กายเนื้อแข็งแกร่งขึ้น หวังเป่าเล่อรู้ดีว่าตนต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้ได้ และเขาก็เข้าใจดีว่าเวลา…มีไม่มาก!
การแปลงสภาพจักรพรรดิสวรรค์เดือนแยกทำไปได้หกส่วนแล้ว แม้จะเชื่องช้า แต่บนท้องฟ้าก็ปรากฏสัญญาณของการแตกร้าว นั่นคือเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นด้านนอกกำลังโจมตีอย่างบ้าคลั่ง
หากไม่ใช่เพราะเตาหลอมนี้ถูกศิษย์พี่เฉินชิงจื่อเสริมความแข็งแกร่งมาไม่รู้กี่ครั้งแล้วล่ะก็…คงถูกเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นทำลายไปแล้ว
“แต่ถึงเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นจะเข้ามาก็คงไม่เล็งเป้ามาที่ข้าเป็นอย่างแรกหรอก…” หวังเป่าเล่อพึมพำ ก่อนจะควบคุมฝักกระบี่เจ้าชะตาในร่างให้ปรับตัวเล็กน้อย เพื่อให้กฎแห่งเต๋าสวรรค์ทั้งสองในร่างสามารถสยบอีกฝ่ายได้ทุกเวลา ทำให้อีกฝ่ายกลายเป็นผู้นำ จิตใจมั่นคงยิ่งขึ้น
แต่ขณะดูดซับส่วนที่เหลือ เขาก็ครุ่นคิดอีกเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือ…เขาจะออกจากที่นี่ได้อย่างไร
จากการสรุปของหวังเป่าเล่อ ก็เหมือนกับที่เขาคาดเดาว่ายังมีคนของสำนักแห่งความมืดมาที่นี่อีก เขาไม่เชื่อว่าตระกูลไม่รู้สิ้นจะมีแค่จักรพรรดิสวรรค์คนเดียวที่มา ดังนั้นสงครามต่อจากนี้อาจรุนแรงขึ้น
ส่วนตัวเขาทางนี้แม้จะมีการบ่มเพาะพิเศษ แต่กลับอยู่ใจกลาง ดังนั้นจะออกไปเมื่อไร จะออกไปอย่างไร เรื่องนี้ยังต้องครุ่นคิดดูก่อน แต่ในตอนที่หวังเป่าเล่อกำลังวิเคราะห์อยู่นั่นเอง จู่ๆ ใบไม้ที่กินพลังไปส่วนหนึ่งในกระเป๋าคลังเก็บของเขาก็ส่งดวงจิตเทพเข้ามาในใจ
“ศิษย์ข้า ชะตานี้หาได้ยาก ไปดูดซับมันซะ อาจารย์จะหาวิธีพาเจ้าออกจากกระแสน้ำวนนี้เอง!”
“ศิษย์พี่ของเจ้าผู้นั้นไม่ใช่มนุษย์แล้ว เพื่อที่จะฟื้นฟูสำนักแห่งความมืดจึงไม่เหลือเรี่ยวแรงพาเจ้าออกมา แต่มีอาจารย์อยู่ อาจารย์คือคนที่เจ้าใกล้ชิดที่สุด” เสียงของปรมาจารย์แห่งไฟดังก้องอยู่ในใจหวังเป่าเล่ออย่างภาคภูมิใจ
ครั้นได้ยินเสียงอาจารย์ ใบหน้าของหวังเป่าเล่อก็เผยรอยยิ้ม เขาไม่ได้สนใจความขุ่นเคืองระหว่างอาจารย์และศิษย์พี่ พยักหน้าตอบเบาๆ จิตใจสงบลง หลังจากสูดหายใจเข้าลึก ก็ดูดซับกฎกระแสเต๋าที่แผ่ออกมาจากเดือนแยกสุดแรง
ขณะที่หวังเป่าเล่อดูดซับต่อไปนั้น สงครามด้านนอกก็ได้ดำเนินมาถึงระดับที่รุนแรงมากแล้ว ถึงแม้จักรพรรดิสวรรค์เสวียนหัวจะแข็งแกร่ง แต่เทียบกับเฉินชิงจื่อแล้วก็ยังด้อยกว่าเล็กน้อย!
เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการเข่นฆ่าอย่างสะเทือนขวัญของเฉินชิงจื่อ และเกี่ยวข้องกับการที่เต๋าสวรรค์สำนักแห่งความมืดอยู่ที่นี่ วิชาแห่งศาสตร์มืดจึงได้รับพลังเสริม ทั้งสองต่อสู้กันบนจักรวาลจนความผันผวนกระจายเป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ
เป็นผลให้จักรวาลโดยรอบแตกเป็นเสี่ยงๆ และตอนนี้การพลิกกลับของเดือนแยกก็ทำไปได้เจ็ดส่วนแล้ว ทันทีที่ถึงเจ็ดส่วนดวงวิญญาณเทพของหวังเป่าเล่อพลันแผดเสียงคำราม ทะลวงจากระดับดารานิรันดร์ชั้นปลายไปสู่ดารานิรันดร์ชั้นมหาวัฏจักร!
ในเวลาเดียวกันผนังเตาหลอมก็ไม่สามารถทนความบ้าคลั่งของเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นได้อีกต่อไป จึงถูกกระแทกจนเป็นรูโหว่ เสียงแตกร้าวดังสะท้อน ด้วงเกราะสีทองยักษ์ตัวนั้นแปลงร่างเป็นทะเลแสงพุ่งเข้าไปในรูโหว่นั้น
ทว่าตอนนั้นเอง ก็มีเสียงพ่นลมอย่างเย็นชาดังออกมาจากความว่างเปล่า ท่ามกลางระลอกคลื่นปั่นป่วนสะท้อนไปมา ที่จักรวาลด้านนอกเตาหลอมพลันมีร่างเจ็ดร่างปรากฏขึ้น!
ทั้งเจ็ดคนนี้ล้วนสวมชุดคลุมสีดำ ทั่วร่างแผ่ไอมรณะออกมา ขณะเดียวกันเปลวไฟสีดำก็ปะทุขึ้นบนร่างกายและเผาไหม้เพื่อหยุดยั้งเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้น
เต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นแผดเสียงคำราม แผ่นหลังของมันพลันแตกออก เสียงหัวเราะดังขึ้นพร้อมกับร่างหนึ่งเดินออกมาจากด้านในแผ่นหลังที่แตกออกของเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้น คนผู้นี้เป็นชายวัยกลางคน สวมชุดคลุมจักรพรรดิและมงกุฎจักรพรรดิ ฐานการฝึกฝนบนร่างผันผวนทะยานขึ้นฟ้า มันเหนือกว่าดารานิรันดร์ เหนือกว่าจักรพิภพ แสดงให้เห็นว่า…พลังปราณแข็งแกร่งกว่าเสวียนหัวเสียอีก!
“จักรพรรดิสวรรค์ตี้ซาน!”
แทบจะในทันทีที่คนผู้นี้ปรากฏกายขึ้น คนทั้งเจ็ดในชุดคลุมสีดำต่างส่งเสียงแหบแห้งออกมาทันที ทว่าพวกเขาก็ไม่ได้ถอยหนีและยังคงลงมือสกัดกั้นอย่างเต็มกำลัง
การขัดขวางของพวกเขาทำให้ผนังเตาหลอมที่แตกร้าวผสานกันอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่ารูโหว่กำลังจะหายไป เต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นที่ถูกขัดขวางพลันแผดเสียงคำรามและแยกอีกร่างที่เล็กกว่าออกมา ก่อนจะพุ่งเข้าไปในรูโหว่ที่กำลังจะหายไปโดยไม่สนสิ่งใด!
คนทั้งเจ็ดในชุดคลุมดำกำลังจะเข้าขัดขวาง แต่กลับถูกจักรพรรดิสวรรค์ตี้ซานหยุดไว้เสียก่อน เสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วสงครามที่โลกด้านนอก ส่วนด้านในเตาหลอมตอนนี้หวังเป่าเล่อก็หัวใจสั่นสะท้านเช่นกัน
แม้เขาจะคาดเดาไว้แล้ว แต่เมื่อได้เห็นเองกับตาว่าจักรพรรดิสวรรค์คนที่สองปรากฏตัวขึ้นก็ยังอดตกตะลึงไม่ได้ ขณะเดียวกันก็สัมผัสได้ถึงพลังปราณสำนักแห่งความมืดอันเข้มข้นและความรู้สึกเก่าแก่โบราณบนร่างของคนชุดดำทั้งเจ็ดนั้น
“ออกมากันหมดแล้วหรือ!” หวังเป่าเล่อลมหายใจถี่กระชั้น แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาให้คิดมาก เต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นที่แปลงร่างเป็นด้วงเกราะสีทองตัวเล็กพุ่งเข้ามาในรูโหว่และปรากฏตัวในเตาหลอม หวังเป่าเล่อไม่ลังเลที่จะไหลเวียนฝักกระบี่เจ้าชะตาในร่างทันที รีบสยบกฎทั้งหมดของเต๋าสวรรค์แห่งความมืดของตนลงทำให้ส่วนของเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นกลายเป็นทั้งหมดในร่างกาย
วิธีนี้ทำให้พลังปราณบนร่างของเขาเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน และในชั่วพริบตาที่มันเปลี่ยนไป ด้วงเกราะสีทองที่พุ่งเข้ามาก็ดูสับสนเล็กน้อย แต่ในพริบตาต่อมาก็ระเบิดความเร็วพุ่งเข้าใส่จักรพรรดิสวรรค์เดือนแยกที่อยู่ตรงหน้าโดยไม่สนใจหวังเป่าเล่อ
ดูเหมือนจักรพรรดิสวรรค์เดือนแยกในตอนนี้จะชัดเจนราวกับดวงอาทิตย์แผดเผาในสายตาของมัน ดังนั้นในชั่วพริบตาด้วงสีทองตัวนี้ก็เข้ามาใกล้จักรพรรดิสวรรค์เดือนแยกแล้ว
ก่อนจะผสานเข้าไปในร่างของเดือนแยกในพริบตา และปะทะเข้ากับเต๋าสวรรค์สำนักแห่งความมืดในร่างกาย!
หวังเป่าเล่อหายใจหอบ เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนทำไปเมื่อครู่ได้ผลหรือไม่ แต่ตอนนี้ทุกอย่างยังคงปกติ ดังนั้นหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงรีบคลายฝักกระบี่เจ้าชะตาและดูดซับอีกครั้ง
เพราะ…ในร่างของเดือนแยกนั้น การปะทะกันของเต๋าสวรรค์ทั้งสองทำให้เสียงกรีดร้องของเดือนแยกยิ่งรุนแรงขึ้น กระแสเต๋าและกฎแตกกระจายแผ่ออกมามากกว่าเดิม ถึงอย่างไรหวังเป่าเล่อก็เป็นตระกูลแห่งความมืด เขาจึงเริ่มควบคุมฝักกระบี่เจ้าชะตาให้ดูดซับพลังปราณจากเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นโดยรอบอย่างรวดเร็ว
ท่ามกลางเสียงดังกึกก้อง การพัฒนาของหวังเป่าเล่อยิ่งเร็วขึ้น พลังแห่งกายเนื้อของเขาขึ้นไปถึงร้อยก้าวของระดับดารานิรันดร์ชั้นมหาวัฏจักรแล้ว และตอนนี้เขาก็สัมผัสได้ว่ากายเนื้อกำลังสั่งสมคลื่นพลังงาน
คลื่น…ทะลวงดารานิรันดร์ และก้าวเข้าสู่พลังแห่งระดับจักรพิภพอย่างแท้จริง!
ในแผนที่ดวงดาวของเขา ดวงดาวทุกดวงกำลังส่องสว่างและวิวัฒนาการ ร่างในชาติก่อนของเขาก็เช่นกัน ทว่าในพริบตาต่อมาหวังเป่าเล่อก็สัมผัสได้ว่า กระแสเต๋าที่แผ่ออกมาจากร่างจักรพรรดิสวรรค์เดือนแยกกำลังลดลง!
เพราะว่าการผสานเข้ากับร่างของเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นและเต๋าสวรรค์ทั้งสองปะทะกันในร่างของจักรพรรดิสวรรค์เดือนแยก หากมีกำลังเทียบเท่ากันจนยากจะตัดสินแพ้ชนะก็จะรุนแรง ซึ่งนั่นจะทำให้หวังเป่าเล่อดูดซับได้มากที่สุด ทว่าตอนนี้…เต๋าสวรรค์สำนักแห่งความมืดเพิ่งฟื้นขึ้นมาได้ไม่นานจึงไม่นับว่าเป็นคู่ต่อสู้ของมัน!
สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าว่ามันกำลังถูกสยบลง เพราะไอมรณะจากร่างจักรพรรดิสวรรค์เดือนแยกในตอนนี้กำลังถอยกลับอย่างรวดเร็ว จากที่แผ่ขยายไปเจ็ดถึงแปดส่วน ตอนนี้ถอยกลับมาเป็นห้าส่วน และกำลังถอยลงมาเป็นสี่ส่วน สามส่วน สองส่วน…
สุดท้ายเมื่อเหลือเพียงหนึ่งส่วน เต๋าสวรรค์สำนักแห่งความมืดก็แทบจะไม่สามารถยึดที่มั่นและต้านทานการพลิกกลับได้ เปลือกตาจักรพรรดิสวรรค์เดือนแยกกำลังขยับราวกับว่าเขากำลังจะฟื้น!
ภาพนี้ทำให้หวังเป่าเล่อที่มองอยู่หน้าเปลี่ยนสี แต่เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกประหลาด เพราะจากการคาดเดาก่อนหน้า เรื่องนี้เป็นแผนที่ศิษย์พี่คิดมานานแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงนั้นไม่น่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงสิถึงจะถูก
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เห็นตรงหน้าก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
โชคดีที่พริบตาต่อมาเต๋าสวรรค์สำนักแห่งความมืดพลันปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ราวกับทุ่มกำลังทั้งหมดโจมตีกลับ ทว่าตอนนั้นเองจู่ๆ ก็มีเสียงแผ่วเบาดังมาจากจักรวาลที่ผู้คนกำลังสู้รบกันอยู่ด้านนอกเตาหลอม
“เฉินชิงจื่อ เจ้าแพ้แล้ว” เสียงพูดดังก้อง มนุษย์เรืองแสงยักษ์สามหัวหกแขนคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นในจักรวาล ทันทีที่เขาปรากฏตัวขึ้นก็ก่อแรงกดดันกระจายไปทั่ว
“จักรพรรดิสวรรค์กวงหมิง!”
“พวกเจ้าสามคนมาที่นี่จริงๆ น่าสนใจนี่ แบบนี้ดูท่าแล้วปรมาจารย์ดั้งเดิมผู้นั้นของพวกเจ้าก็น่าจะมาด้วยสินะ” ที่ด้านนอกเตาหลอม แม้เฉินชิงจื่อจะยังหัวเราะ แต่สีหน้ากลับบิดเบี้ยวเล็กน้อย
“เหตุใดปรมาจารย์ต้องมาด้วยตัวเอง แค่เราสามคนก็เพียงพอที่จะสยบเศษซากสำนักแห่งความมืดกับเจ้าได้แล้ว” ขณะที่มนุษย์เรืองแสงเอ่ยอย่างนุ่มนวลก็ยกมือขวาขึ้นกดไปทาง…เตาหลอม!
จักรวาลสั่นสะเทือนส่งเสียงคำราม คนชุดดำทั้งเจ็ดของสำนักแห่งความมืดด้านนอกเตาหลอมต่างตัวสั่นเทิ้ม เลือดพุ่งทะลัก ก่อนจะระเบิดแตกเป็นเสี่ยงๆ ขณะเดียวกันผนังเตาหลอมที่เพิ่งกลับมาผสานก็แบกรับไม่ไหวจนพังทลายลง!
“เต๋าสวรรค์ ยังไม่รีบดูดกลืนเต๋าแห่งความมืดในร่างเดือนแยกอีกหรือ ทำให้เดือนแยกฟื้นเดี๋ยวนี้!”
ผนังเตาแตกกระจาย ด้วงเกราะสีทองที่แปลงมาจากเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นส่งเสียงคำรามอย่างปิติยินดี และคำรามออกมาจากร่างของเดือนแยกที่เปลือกตาสั่นไหวอย่างไม่ลังเล!
หวังเป่าเล่อเห็นภาพสถานการณ์ที่พลิกผันนี้แล้วหัวใจพลันเต้นรัว แต่ไม่รู้เหตุใดเขาถึงรู้สึกได้ลางๆ ว่า…มีบางอย่างผิดปกติ!
……………………………