หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา - บทที่ 1167 อึดอัดเล็กน้อย!
กึ่งบุตรแห่งความมืดคนที่สองอ่อนแอกว่าเล็กน้อย ขยายความลึกไปได้เพียงหนึ่งหมื่นกว่าจั้ง ส่วนหวังเป่าเล่อในตอนนี้ก็เข้าใจแล้วว่าทำไมศิษย์พี่เฉินชิงจื่อจึงขอให้เขาช่วย
ตามที่ศิษย์พี่บอกก่อนหน้านี้ ความลึกของแม่น้ำแห่งความมืดคือหนึ่งล้านจั้งซึ่งฟังแล้วลึกมาก แต่เมื่อเทียบกับดาราจักรมันไม่มีค่าพอจะเทียบเลยด้วยซ้ำ แม้แต่ดาราจักรเล็กๆ ความลึกระดับนี้ก็ไม่นับเป็นอะไร
แต่…ที่นี่คือแม่น้ำแห่งความมืด การจะให้ที่นี่ขยายความลึกไปถึงหนึ่งล้านจั้งเป็นเรื่องยาก ไม่ใช่ว่าเฉินชิงจื่อไม่แข็งแกร่งพอ แต่เพราะเป็นกฎ ต่อให้เป็นเต๋าสวรรค์ก็ขยายความลึกไปได้มากสุดแค่ห้าแสนจั้ง
อีกห้าแสนจั้งที่เหลือต้องให้ผู้ฝึกตนสำนักแห่งความมืดทำต่อให้สำเร็จ และเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ใครในสำนักก็ได้ แต่ต้องเป็นบุตรแห่งความมืดเท่านั้น!
และต้องเป็นกึ่งบุตรแห่งความมืดที่ได้รับการยอมรับของแต่ละสายเลือด
บุตรแห่งความมืดนั้น ในทันทีที่ได้การยอมรับก็จะได้รับโชคชะตาของสำนักแห่งความมืด บางทีนี่อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงมีเพียงบุตรแห่งความมืดเท่านั้นที่แบกรับเต๋าสวรรค์และขยายความลึกต่อไปได้ ตอนที่หวังเป่าเล่อตระหนักได้ กึ่งบุตรแห่งความมืดก็ลงมือต่อกันถึงสี่คนแล้ว
ในจำนวนนี้คนที่ขยายความลึกได้มากที่สุดทำไปได้ถึงสามหมื่นกว่าจั้ง ความลึกระดับนี้หากไม่มีการเปรียบเทียบก็ดูลึกมาก และไม่น่าแปลกใจที่กึ่งบุตรแห่งความมืดเหล่านี้จะเหลือบมองหวังเป่าเล่อหลังจากออกไปแล้ว
แม้จะไม่ใช่การยั่วยุ แต่สายตาเหล่านี้ก็มาพร้อมเจตนาไม่ดีทั้งสิ้น เห็นได้ชัดว่าพวกเขาอยากจะดูว่าหวังเป่าเล่อจะขยายความลึกได้มากเพียงใด
หลังจากหวังเป่าเล่อตระหนักรู้ถึงแม่น้ำแห่งความมืดสายนี้แล้ว เขาไม่ได้สนใจสายตาของกึ่งบุตรแห่งความมืดพวกนั้น ยังคงจ้องมองแม่น้ำต่อไป จนกึ่งบุตรแห่งความมืดคนที่ห้าปรากฏตัว
คนผู้นี้…เป็นสตรีเพียงคนเดียวในบรรดากึ่งบุตรแห่งความมืด นางรูปร่างหน้าตาธรรมดา ไม่มีอะไรโดดเด่น แต่เป็นคนเดียวที่ไม่มองหวังเป่าเล่ออย่างเกลียดชังและยั่วยุ และการโจมตีของนางยังทำให้หวังเป่าเล่อตกตะลึง
หกหมื่นจั้ง!!
ทันทีที่ขอบเขตขยายลึก ผู้ฝึกตนสำนักแห่งความมืดก็หน้าเปลี่ยนสีในฉับพลัน บางคนถึงกับซุบซิบเสียงเบาอย่างอดไม่ได้
“เยอะมาก!”
“สมกับเป็นศิษย์พี่หญิงรองที่ผู้อาวุโสวางตัวให้เป็นเนื้อคู่แห่งเต๋าของศิษย์พี่ใหญ่!”
“ปกติศิษย์พี่หญิงรองไม่ค่อยปรากฏตัว ไม่คิดเลยว่าโชคชะตาสำนักแห่งความมืดบนร่างของนางจะทรงพลังเช่นนี้!”
พลังของคนคนเดียวเทียบได้กับสามคน แสดงให้เห็นว่าเปลวไฟสีดำของสตรีผู้นี้บริสุทธิ์และล้ำลึก การเชื่อมต่อระหว่างนางกับสำนักแห่งความมืดก็น่าทึ่ง เพราะตอนนี้หวังเป่าเล่อรับรู้ได้ว่ามันขยายไปมากเพียงใด ถึงแม้นี่จะเกี่ยวข้องกับฐานการฝึกฝนและเปลวไฟสีดำ แต่ที่มากกว่านั้นคือ…โชคชะตาที่มองไม่เห็นนั่นต่างหาก
ยิ่งโชคชะตาสำนักแห่งความมืดล้ำลึกมากเท่าไรก็ยิ่งได้ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่มากเท่านั้น!
ขณะนี้ลงมือไปห้าคน ความลึกของรอยมือทะลุเกิน 500,000 จั้งเป็น 650,500 จั้งแล้ว คนที่เหลือที่ยังไม่ได้ลงมือรวมถึงหวังเป่าเล่อเหลือเพียงสี่คนเท่านั้น ทว่ายังมีอีก 350,000 จั้งที่ยังต้องทำให้ได้
หวังเป่าเล่อเหลือบมองสตรีผู้นั้นซึ่งตอนนี้ดูอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด นางคำนับเฉินชิงจื่อหนึ่งครั้ง แม้แต่เฉินชิงจื่อก็ยังปฏิบัติกับนางต่างจากกึ่งบุตรแห่งความมืดคนอื่นที่ลงมือเสร็จ เขาพยักหน้าให้สตรีผู้นั้น
จากนั้นยามที่นางกำลังจะจากไป ก็สังเกตเห็นสายตาของหวังเป่าเล่อจึงหันมามอง ก่อนจะหันกลับไปด้วยสีหน้าไร้อารมณ์และเข้าไปในกลุ่มผู้ฝึกตน
“นาง…ไม่ได้ทุ่มสุดกำลัง!” หวังเป่าเล่อหรี่ตาเล็กน้อย เขาเชื่อแบบนี้และศิษย์พี่เองก็คงมองออก ส่วนคนอื่นๆ เขาไม่รู้ว่าสังเกตเห็นหรือไม่ แต่จากความผันผวนของเปลวไฟสีดำ หวังเป่าเล่อก็สังเกตเห็นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ขณะที่หวังเป่าเล่อกำลังครุ่นคิดอยู่นั้นเอง กึ่งบุตรแห่งความมืดคนที่หกและเจ็ดก็แบกรับพลังแห่งเต๋าสวรรค์และลงมือต่อ คนหนึ่งขยายความลึกไปได้สามหมื่นจั้ง อีกคนหนึ่งขยายความลึกไปได้สองหมื่นจั้ง ทำให้ทางผ่านกระแสน้ำวนรูปรอยมือบนแม่น้ำแห่งความมืดสายนี้ลึกถึง 700,000 จั้งแล้ว
เหลืออีก…300,000 จั้ง!
ขณะนี้ผู้ฝึกตนส่วนใหญ่ต่างวิตกกังวลและมองกึ่งบุตรแห่งความมืดที่สวมหน้ากากอย่างคาดหวัง คนผู้นี้คือความหวังของสำนักแห่งความมืด
ผู้ฝึกตนสวมหน้ากากยืนนิ่งเงียบอยู่ที่เดิมครู่หนึ่ง ก่อนจะก้าวออกมาคำนับให้เฉินชิงจื่อ จากนั้นเมื่อพลังแห่งเต๋าสวรรค์จุติ ร่างกายของเขาก็ค่อยๆ สั่นไหว เปลวไฟสีดำในร่างพลันลุกโชนระเบิดพลังออกมาอย่างบ้าคลั่ง!
การระเบิดพลังนี้แซงหน้าสตรีผู้นั้นไปอย่างรวดเร็ว และเมื่อพลังพุ่งไปถึงจุดสูงสุด ร่างของเขาก็ราวกับกลายเป็นพายุ ทำให้ผู้ฝึกตนสำนักแห่งความมืดรอบด้านบ้าคลั่ง บางคนถึงกับโห่ร้องยินดีอย่างอดไม่ได้
“ศิษย์พี่ใหญ่!”
ท่ามกลางเสียงโห่ร้อง ร่างที่ลอยอยู่ในพายุก็ค่อยๆ ยกมือขวาขึ้น เขาไม่ได้ลงมือในทันทีแต่กลับหันมามองหวังเป่าเล่อ
หวังเป่าเล่อยังคงสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้ตอบสนองอะไรกลับไป ในไม่ช้าร่างนั้นก็ถอนสายตากลับ หลังจากเงียยบไปไม่กี่อึดใจมือขวาที่ยกขึ้นก็กระแทกไปที่รอยมือในแม่น้ำด้านล่างอย่างแรง
การกระแทกครั้งนี้ส่งเสียงดังกึกก้องไปทุกสารทิศ รอยมือขนาดมหึมาพุ่งกระแทกรอยมือในแม่น้ำ ในพริบตาที่มันซ้อนทับกันก็เกิดแรงโจมตีอย่างต่อเนื่อง และเกิดเสียงดังเป็นชุดกึกก้องไปทั่วท้องนภา
การจะกลายเป็นมหาศิษย์แห่งเต๋าสำนักแห่งความมืดรุ่นปัจจุบันที่เป็นที่จับตามองและฝากความหวังจากสำนักแห่งความมืดได้ ถูกศิษย์แทบทุกคนในสำนักติดตาม หรือแม้กระทั่งเคยถูกเฉินชิงจื่อยอบรับ ผู้ฝึกตนสวมหน้ากากผู้นี้ย่อมมีพลังเหนือกว่าทุกคน การลงมือครั้งนี้ย่อมไม่ธรรมดา!
ความลึกจากรอยมือของเขาลึกถึงห้าหมื่นจั้งและยังไม่สิ้นสุดแค่นั้น หลังเกิดเสียงดังสนั่นอีกครั้งก็ทะลุไปหกหมื่นจั้ง เจ็ดหมื่นจั้ง…ตามด้วยแปดหมื่นจั้ง เก้าหมื่นจั้ง จนกระทั่งถึงเก้าหมื่นเจ็ดพันจั้งก็ไม่มีแรงเหลือแล้ว แต่เห็นได้ชัดว่าเขายังไม่พอใจ ทันใดนั้นเสียงคำรามต่ำก็ดังออกมาจากพายุ
ทันใดนั้นร่างของเขาก็พองตัวและระเบิดเปลวไฟสีดำออกมาอีกรอบ พายุที่รวมตัวกันนอกร่างกายผนึกเข้ากับรอยมือทำให้ความลึกพลันขยายลงไปอีกครั้ง ทะลุ 100,000 จั้ง ทะลุ 110,000 จั้ง…จนถึง 140,000 จั้งก็ไม่มีพลังงานหลงเหลือแล้ว ร่างกายของเขาพลังปราณไม่มั่นคงอย่างเห็นได้ชัด เลือดไหลออกจากมุมปาก ร่างซวนเซอยู่บนอากาศสองสามครั้ง
ผู้เยี่ยมยุทธ์ของสำนักแห่งความมืดเหล่านั้นก็ให้ความสำคัญกับเขามาก แทบจะในพริบตาก็มีผู้เยี่ยมยุทธ์จักรพิภพสี่คนปรากฏตัวที่ข้างกายเขาพร้อมกัน รีบประคองเขาไว้เพื่อจัดระเบียบพลังปราณที่ปั่นป่วนในร่าง
ในเวลาเดียวกันผู้ฝึกตนสำนักแห่งความมืดรอบด้าน ต่างส่งเสียงดังหลังจากตกตะลึง
“140,000 จั้ง!!”
“นี่สิคือศิษย์พี่ใหญ่ของสำนักแห่งความมืดของเรา บุตรแห่งความมืดรุ่นปัจจุบัน 140,000 จั้ง!!”
“พลังของคนคนเดียวเทียบได้กับบุตรแห่งความมืดทุกคน สำนักแห่งความมืดของเรามีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ อนาคตย่อมเป็นไปตามหวัง!!”
สำนักแห่งความมืดส่วนใหญ่กำลังโห่ร้องยินดี ตื่นเต้น ปลุกใจ แต่ในไม่ช้าหลังจากตื่นเต้นดีใจแล้ว ก็ตามมาด้วยความวิตกกังวลและผิดหวัง เพราะ…แม้ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเขาจะระเบิดพลังน่าทึ่งออกมา แต่ก็ยังเหลืออีก 160,000 จั้งกว่าจะถึง 1,000,000 จั้ง
นั่นทำให้ผู้ฝึกตนสำนักแห่งความมืดหันไปมองหวังเป่าเล่อด้วยความรวดเร็ว บุตรแห่งความมืดสวมหน้ากากที่ถูกประคองอยู่ก็ยังมองไปที่หวังเป่าเล่อเช่นกัน เขาพยักหน้าน้อยๆ โดยไม่พูดอะไร
หวังเป่าเล่อมองชายหนุ่มในหน้ากาก จากนั้นก็หันไปมองสตรีผู้นั้น แล้วส่ายหน้า ก่อนจะก้าวออกมาจนยืนอยู่เหนือรอยมือในแม่น้ำแห่งความมืด เขาเงยหน้ามองเฉินชิงจื่อในความว่างเปล่าด้านบนและประสานคำนับ
เฉินชิงจื่อเหลือบมองหวังเป่าเล่อ ก่อนจะยกมือขวาชี้มา ทันใดนั้นพลังแห่งเต๋าสวรรค์ก็ปรากฏขึ้นรอบกายหวังเป่าเล่อ ทว่า เพียงแค่เข้าไปในร่างกายยังไม่ทันที่หวังเป่าเล่อจะได้ดูดซับ ฝักกระบี่เจ้าชะตาในร่างก็ดูดซับในพริบตา ดูดซับ…ทั้งหมด
หวังเป่าเล่อกะพริบตา รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
เฉินชิงจื่อนิ่งเงียบ
“นั่นน่ะ…ศิษย์พี่ ขอเพิ่มอีกได้หรือไม่ขอรับ” หวังเป่าเล่อลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มให้เฉินชิงจื่ออย่างขมขื่น
…………………………