หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา - บทที่ 1225 เต๋านอกรีต!
เหล่าชนชั้นสูงในจักรพิภพเต๋าไม่รู้สิ้นทุกคนล้วนสั่นสะเทือน โดยเฉพาะในจักรพิภพศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋าฝั่งซ้าย ขณะที่ต้นไม้ใบหญ้าและผู้ฝึกเคล็ดวิชาธาตุไม้ทั้งหมดจิตใจสั่นสะท้าน หวังเป่าเล่อที่นั่งขัดสมาธิถือสันโดษอยู่ที่นครดาวอังคารใหม่ในระบบสุริยะพลันลืมตาขึ้น
ในเวลานี้บริเวณรอบด้านเต็มไปด้วยตราผนึก ตราผนึกเหล่านี้กำลังเคลื่อนเข้าใกล้เขาราวกับร่างของหวังเป่าเล่อเป็นหลุมดำ ทำให้ตราผนึกที่กำลังเปล่งแสงทั้งหมดล้วนถูกดูดเข้าไปในร่าง ก่อนสลายหายไปในร่างเขา
แต่ความจริงแล้ว…ผนึกนับสิบล้านที่ปรากฏขึ้นอย่างราบรื่นในครั้งเดียวจากการทดลองนับร้อยครั้งของหวังเป่าเล่อ เวลานี้ไม่ได้สลายหายไปแต่อย่างใด แต่ผสานรวมกันอยู่ในร่างของเขากลายเป็น…เมล็ดพันธุ์เต๋าอันหนึ่ง!
นี่ก็คือเมล็ดพันธุ์เต๋าธาตุไม้
เป็นเต๋าอันดับแรกในการฝึกเต๋าแปดปรมัตถ์ เป็นรากฐานเต๋าของเต๋าธาตุไม้ขั้นสูงสุด
เมื่อเมล็ดพันธุ์เต๋าสมบูรณ์ พลังธาตุไม้ทั่วทั้งจักรพิภพศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋าฝั่งซ้ายก็ผุดขึ้นมาในการรับรู้ของหวังเป่าเล่อ เขารู้สึกราวกับได้ย้อนกลับไปเป็นเทพเจ้าที่ระลึกชาติอยู่ ณ ดาวเคราะห์ชะตา
เพราะเขาสามารถรับรู้ถึงการดำรงอยู่ของต้นไม้ใบหญ้าทั่วทั้งจักรพิภพศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋าฝั่งซ้ายได้ จนถึงขนาด…คล้ายกับเกิดความสัมพันธ์ที่ยากจะตัดขาดกับต้นไม้ใบหญ้าทุกต้น ราวกับพวกมันสามารถกลายเป็นดวงตาของเขา กลายเป็นร่างอวตารของเขาได้ตลอดเวลา
ในเวลาเดียวกัน…ผู้ฝึกวิชาพลังไม้ทุกคนได้กลายเป็นดวงแสงจำนวนนับไม่ถ้วนผุดขึ้นในการรับรู้ของหวังเป่าเล่อ หากเขาต้องการ ขอเพียงแค่คิดก็สามารถตัดสินชะตาชีวิตของคนเหล่านี้ได้
ดวงแสงสว่างปกติในนั้นหรือดวงที่มืดสลัวยังดีอยู่ ไม่ได้รับผลกระทบทั้งหมด ในทางกลับกัน…ดวงที่ยิ่งสุกสกาวก็ยิ่งได้รับผลกระทบจากหวังเป่าเล่อจนถึงขั้นสามารถชี้บงการได้ จะให้อยู่ก็อยู่ จะให้ตาย…ก็ต้องยินยอมพร้อมใจ
ในบางครั้ง ดูเหมือนว่านอกจากชะตาชีวิตก็มีเส้นชะตาชีวิตเพิ่มเข้ามาอีกอัน
ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะหวังเป่าเล่อนั้น เวลานี้คือต้นกำเนิดของเต๋าพวกเขา
ยิ่งพวกเขาฝึกมากเท่าไรก็ยิ่งใกล้หวังเป่าเล่อมากเท่านั้น อีกทั้งยังได้รับผลกระทบจากเขาด้วย และสุดท้าย…หากต้นกำเนิดชั่วร้าย ผู้ที่ฝึกเต๋านี้ย่อมไม่ต่างกัน!
นี่ก็คือเต๋า!
นี่ก็คือผู้เยี่ยมยุทธ์!
นี่ก็คือเทพเจ้า!
ฝึกเต๋าของข้าก็ต้องให้ข้าเป็นนาย คอยรับใช้!
เมื่อหวังเป่าเล่อรู้สึกถึงสิ่งเหล่านี้ ในใจก็เกิดสั่นไหวอย่างรุนแรง ในที่สุดเขาก็เข้าใจความนัยที่บิดาของหวังอีอีกล่าวไว้แล้ว
วิชาของเขาใช้สำหรับสังหาร แต่ไม่ต้องรู้ลึก!
เพราะเจ้าไม่มีวันรู้ว่าต้นกำเนิดเต๋าที่เจ้าฝึกมีเงาร่างหรือไม่ หากมีเงาร่างเช่นนั้นตัวมันมีจิตสำนึกหรือไม่ หากมีจิตสำนึกแล้วท้ายที่สุดเป็นดีหรือชั่ว
อาจหมายความว่า แท้จริงแล้วพริบตาแรกที่ก้าวเข้าสู่การฝึกวิชาก็ได้มอบชีวิตออกไปแล้ว
แน่นอนว่า หากฝึกธรรมดาสามัญไม่ลึกซึ้งก็ยังดีอยู่ แต่พวกที่ฝึกถึงขั้นสูง ฝึกมายาวนานชั่วชีวิต…ยากจะหนีพ้น!
นี่ก็คือความลับของจักรวาลแห่งเต๋า!
นี่ก็คือความโหดร้ายของการฝึกวิชา!
นี่ก็คือ…ห้วงจักรวาล!
เมล็ดพันธุ์ดาราเต๋าของจื่อเยว่ บางครั้งก็เป็นเพียงการยืมใช้กฎขั้นสูงที่แท้จริงของจักรวาลเท่านั้น หากเทียบกันแล้วยังห่างอีกหลายขั้น
ลมหายใจหวังเป่าเล่าถี่กระชั้นขึ้นเล็กน้อย หวนคิดถึงชีวิตนี้ของตนก็เกิดความหวั่นกลัวและหวาดผวาขึ้นในจิตใจ ยิ่งเข้าใจมหาเต๋ามากขึ้นเท่าไร เขาก็ยิ่งเคารพยำเกรง แต่แก่นเต๋าไม่ไหวหวั่น อีกทั้งความศรัทธาราที่มีต่อเต๋ายิ่งเพิ่มมากขึ้น ยิ่งถลำลึกขึ้น
เวลานี้ เขาสัมผัสได้ถึงเงื่อนไขกฎขั้นสูงของจักรวาลแล้ว จึงจะเรียกได้ว่าเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์อย่างแท้จริง!
หวังเป่าเล่อรู้สึกถึงความน่ากลัวและความห้าวหาญของบิดาหวังอีอีอย่างแท้จริงในพริบตานี้เอง
“โลกแห่งศิลานับเป็นอะไรได้ ที่นอกโลกแห่งศิลา ในจักรวาลที่กว้างใหญ่ไพศาลไร้จุดสิ้นสุดที่แท้จริงแห่งนี้ บางทีมหาเทพก็อาจจะไม่นับว่าเป็นอะไร แต่เป็นที่แน่ชัดว่า พวกเขาก้าวไปสู่ขั้นสูงสุดแล้ว ถึงขั้นกลายเป็นต้นกำเนิดของมหาเต๋าเส้นหนึ่ง หลายเส้น หรือมากกว่านั้น เมื่อถึงระดับของพวกเขา ความแข็งแกร่งของต้นกำเนิดเต๋าจะเป็นตัววัดทุกสิ่งอย่างแท้จริง”หวังเป่าเล่อพึมพำ
หวังเป่าเล่อรู้จักเต๋าธาตุไม้ของตัวเองดีว่าตอนนี้เพิ่งแตะระดับขั้นสูงของจักรวาล แต่กลับมีพลังที่คาดไม่ถึงเช่นนี้ หากก้าวสู่ระดับขั้นสูงสุด ความน่ากลัวของมัน แค่คิดก็ขนลุกแล้ว!
“ข้าก็คงพาเต๋าธาตุไม้ไปสู่ขั้นสูงสุดจนถึงขั้นกลายเป็นต้นกำเนิดที่แท้จริงได้ อย่างมาก…ก็แค่สูงสุดอยู่ในโลกแห่งศิลาเท่านั้น และอันที่จริง…เมื่อเทียบกับเต๋าธาตุไม้ของกฎขั้นสูงในนอกจักรวาลที่แท้จริง เต๋าธาตุไม้ของข้าในตอนนี้ก็เป็นเพียงกระแสสายเล็กๆ สายหนึ่งเท่านั้น”
“มหาเต๋าแห่งธาตุทั้งห้า ที่ผ่านมา…ไม่มีทางที่จะไม่มีใครยึดครองต้นกำเนิด…” นัยน์ตาหวังเป่าเล่อทอประกายลึกลับ ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดในแผ่นหยกของเต๋าแปดปรมัตถ์สุดท้ายถึงได้บันทึกวิธีเต๋าที่ลึกลับยิ่ง
วิชาเต๋านี้เรียกว่า…เต๋านอกรีต!
ที่เรียกว่าแปดปรมัตถ์ แท้จริงแล้วก็คือการเรียงลำดับห้าสองหนึ่ง ห้าหมายถึงไร้ตัวตน สองหมายถึงสองขั้วตรงข้ามแห่งต้นกำเนิดเต๋า หนึ่งก็คือตัวแปร!
มหาเต๋าเจ็ดทางแรก ผู้ฝึกตนต้องเข้าใกล้ต้นกำเนิด แต่ก็ยังไม่ใช่ระดับต้นกำเนิด เหมือนเดินอยู่บนเส้นลวดที่อันตราย
เพราะเต๋านอกรีตยากดั่งพลิกฟ้า ถึงอย่างไรเมื่อฝึกวิชาเต๋าอื่นจนถึงระดับหนึ่ง เช่นนั้นแม้จะละทิ้งวิถีเต๋า ทำลายปราณ แต่ก็ยังหลุดไม่พ้นอยู่ดี เพราะกายเนื้อของผู้ฝึกตน ดวงวิญญาณเทพ แม้แต่ตราผนึกที่มีอยู่ ขณะที่ฝึกวิถีเต๋าของผู้อื่น ก็จะถูกลบเลือนและแทนที่อยู่ตลอดเวลา ชั่วชีวิตไม่สามารถควบคุมตนเองได้!
ทว่า เมื่อไรที่หวังเป่าเล่อทำตามวิถีเต๋านอกรีตได้สำเร็จ…หลบเลี่ยงอันตราย เช่นนั้นช่วงเวลาสุดท้ายเขาก็สามารถจุดเต๋าทั้งเจ็ดก่อนหน้าให้ลุกไหม้ขึ้นและใช้เป็นเชื้อเพลิงได้เช่นกัน และในขณะที่เผาไหม้มันก็จะเปิดทางให้เต๋าที่แปดราวกับสะสมพลังรอวันระเบิด!
เต๋าที่แปดนี้จะเป็นหัวใจคำสัญของเต๋าแปดปรมัตถ์ เพราะนั่นจะเป็นมหาเต๋าสมบูรณ์ที่จะเป็นของผู้ฝึกอย่างแท้จริง!
“มิน่าบิดาของหวังอีอีถึงบอกว่า ต้นกำเนิดของเต๋าแปดปรมัตถ์ไม่มีนาย นั่นเป็นเพราะ…ต้นกำเนิดเต๋าสายนี้มีความเป็นไปได้มากมาย ไม่มีใครที่จะสามารถเรียกได้ว่าเป็นนายของต้นกำเนิดทั้งหลาย!”
คิดได้ดังนี้ หวังเป่าเล่อก็ปลงตก ครู่ต่อมาจึงจะสงบจิตสงบใจลงได้
“โชคดีที่ข้าฝึกมาจนถึงตอนนี้ ยังไม่เคยรู้สึกถึงวิถีเต๋าได้ลึกซึ้งถึงขั้นสุดมาก่อน…” หวังเป่าเล่อสูดลมหายใจลึก เมื่อเมล็ดพันธุ์เต๋าธาตุไม้ในร่างขยับเคลื่อน กระแสเต๋าออกจากร่าง เขาก็เพ่งมองตนเอง ดูต้นกำเนิดเคล็ดวิชาที่ตนฝึกในชาตินี้
หวังเป่าเล่อเห็นร่างกายของตน แม้กระทั่งดวงวิญญาณเทพก็ปรากฏเส้นใยจำนวนมากออกมา เส้นใยแต่ละเส้นคือเคล็ดวิชาพลังเทพที่เขาเคยฝึก
แต่ส่วนใหญ่แล้วค่อนข้างตื้น มีเพียงเส้นลึกๆ ไม่กี่เส้นเท่านั้น รวมทั้งเวทวิญญาณเพลิงที่ตนเคยฝึกและกฎแห่งดาวเคราะห์เต๋าจากแผนที่ดวงดาว เส้นใยนับหมื่นที่ลอยล่องจากดวงดาวพิเศษนับหมื่นในนั้น
มันดูแน่นขนัด แต่…นอกจากเส้นหนึ่งแล้ว เส้นอื่นๆ ที่เหลือกลับ…ขาดทั้งสิ้น ถึงขนาดไม่มีทางไปต่อ กลายเป็นวัฏจักรปิด
หวังเป่าเล่อเพ่งสายตา
หลังจากพินิจอย่างละเอียด เขาพบว่าเส้นใยเหล่านี้น่าจะถูดตัดออกทั้งหมดในเวลาเดียวกัน หวังเป่าเล่อคาดเดาอยู่ในใจ อึดใจถัดมานัยน์ตาก็ฉายแววหดหู่
เขาเดาคำตอบได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเวลาหรือกลิ่นอายที่เหลืออยู่ ล้วนบอกหวังเป่าเล่อว่า…ผู้ที่ตัดเส้นใยเหล่านี้ก็คือบิดาของหวังอีอี
และหนึ่งในนั้นที่ไม่ขาดเพียงเส้นเดียว ก็คือเต๋าธาตุไม้…ที่เพิ่งเกิดออกมา มันใหญ่และแข็งแรงหาสิ่งใดเปรียบ สะเทือนฟ้าสะเทือนดินเหมือนต้นไม้สูงเสียดฟ้าที่แผ่ขยายออกไป
ส่วนปลายทางจะอยู่ที่ใด หวังเป่าเล่อไม่เคยสัมผัสได้ แต่เขารู้สึกได้ถึงแหล่งต้นกำเนิด…คล้ายกับไม่มีจิต แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีผู้ใดยึดครองแหล่งกำเนิด บอกเพียงคร่าวๆ ว่า…สิ่งที่ยึดครองแหล่งกำเนิดเต๋าธาตุไม้ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่มีจิตสำนึก
และนี่ก็สอดคล้องกับการคาดเดาของหวังเป่าเล่อ ถึงอย่างไรธาตุทั้งห้าก็เป็นมหาเต๋าขั้นสูง และต้องเป็นศิลารากฐานเพียงหนึ่งเดียวของทั้งหมด หากมีสิ่งที่มีจิตสำนึกครอบครองอยู่จริง เกรงว่าจักรวาลคงต้องวุ่นวายปั่นป่วนอย่างที่สุด
หวังเป่าเล่อถอนหายใจโล่งอก กระแสเต๋าสลายไป ร่างที่นั่งขัดสมาธิค่อยๆ เงยหน้า ขณะที่กำลังจะยืดกายลุกขึ้น ตอนนั้นเองใบหน้าก็ต้องเปลี่ยนสี ในใจเกิดการคาดเดาบางอย่างออกมา
“เป็นไปได้ไหมว่า…ร่างเดิมของข้า ตะปูไม้ดำที่ตรึงอยู่ตรงหว่างคิ้วมหาเทพ…คือแหล่งกำเนิดเต๋าธาตุไม้ของมหาเต๋าทั้งห้าธาตุ?”
…………………………