หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา - บทที่ 1283 เหตุต้นผลกรรมย้อนกลับ!
โลกแห่งเต๋าธาตุดินยังไม่เพียงพอที่จะสยบเด็กหนุ่มชุดแดงได้ หวังเป่าเล่อรู้เรื่องนี้ดี แต่เป้าหมายของเขาก็ไม่ได้คิดจะจัดการทุกอย่างให้จบในโลกแห่งเต๋าธาตุดินอยู่แล้ว
สิ่งที่เขาจะทำคือลดทอนพลังสายตาจากมหาเทพเรื่อยๆ และเมื่อสายตามหาเทพอ่อนแอลงอย่างไร้ที่สิ้นสุดนั่นก็คือเวลาแห่งการสังหารเด็กหนุ่มชุดแดง
“การต่อสู้ครั้งนี้ ข้าเอาชนะได้” ขณะพึมพำ เม็ดทรายที่มารวมตัวกันก็ก่อตัวเป็นฝ่ามือยักษ์อันน่าสะพรึงกลัวก็ตกลงบนกระแสน้ำวนสีเลือดพร้อมเสียงคำรามลั่น
กระแสน้ำวนสีเลือดนั่นพลันหดตัวลงทันทีราวกับถูกฝ่ามือยักษ์เต๋าธาตุดินของหวังเป่าเล่อบดขยี้ แต่เห็นได้ชัดว่าเด็กหนุ่มชุดแดงไม่ยินยอม เสียงกรีดร้องดังออกมา จากนั้นกระแสน้ำวนสีเลือดก็ระเบิดออก สายตาจากมหาเทพข้างในก็ยิ่งแข็งแกร่งอย่างสุดจะพรรณนา มันจับจ้องมาที่หวังเป่าเล่อ
เพียงเหลือบตามองก็ฟ้าดินสั่นสะเทือน ฝ่ามือยักษ์ก็แตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยทันที อีกทั้งเม็ดทรายทุกเม็ดก็ยังดูราวกับทนรับสายตานั่นไม่ไหวและแตกเป็นเสี่ยงๆ กลายเป็นเถ้าธุลี
จนกระทั่งฝ่ามือเต๋าธาตุดินราวกับถูกลบทิ้งไป จากนั้นสายตาจากมหาเทพก็ตกลงบนร่างของหวังเป่าเล่อในที่สุด
หวังเป่าเล่อตัวสั่น ตรงหน้าพลันปรากฏภาพวาดที่ไม่เหมือนกันขึ้นมาสองภาพ ภาพหนึ่งคือร่างขนาดมหึมาร่างหนึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ในที่มืดมิด ร่างนั้นแผ่ความกดดันอันน่าสะพรึงกลัวไปทั่ว บัดนี้ร่างนั้นกำลังเงยหน้า ดวงตาที่ดูเหมือนบรรจุจักรวาลได้มองมาที่เขาอย่างเย็นชา
ดวงตาเย็นชา ร่างกายดั่งเทพเจ้า!
ส่วนอีกภาพหนึ่งคือภาพเด็กหนุ่มชุดแดงที่ผมกระเซิง ท่าทางชั่วช้า ดวงตาบ้าคลั่งในกระแสน้ำวน สองคน สองภาพปรากฏอยู่ในดวงตาซ้ายและขวาของหวังเป่าเล่อ ก่อนจะซ้อนทับกันเป็นภาพเดียวในวินาทีต่อมา
ในพริบตาที่มันรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ร่างกายหวังเป่าเล่อก็ร้องคำราม ก่อนที่พลังโจมตีที่อธิบายไม่ได้จะจู่โจมจิตใจ ดวงวิญญาณเทพและจิตใต้สำนึกก็ราวกับใกล้จะพังทลาย ในเวลาเดียวกันโลกแห่งเต๋าธาตุดินที่มีรากฐานมาจากเขาก็เริ่มพังทลายลงไปด้วย
เมื่อเห็นโลกกำลังจะแตกสลาย ดวงตาในกระแสน้ำวนสีเลือดคู่นั้นก็ฉายแววชั่วร้ายขึ้นมาฉับพลัน เด็กหนุ่มชุดแดงที่อยู่ข้างในทำให้กระแสน้ำวนยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ราวกับจะฉีกโลกใบนี้ออกจากกัน
ในตอนนั้นเองจู่ๆ หวังเป่าเล่อที่ยกมือซ้ายขึ้นแล้วเอ่ยเสียงต่ำ
“กระบวนท่าสารัตถะ!”
ทันทีที่เอ่ยขึ้นความว่างเปล่ารอบตัวหวังเป่าเล่อก็บิดเบี้ยวทันที ร่างที่เหมือนเขาทุกประการจำนวนหนึ่งพลันปรากฏตัวขึ้น นี่ก็คือร่างแยกที่เกิดจากการข่มกลั้นระดับการฝึกตนก่อนหน้านี้นั่นเอง
ทันทีที่ปรากฏตัวขึ้น ทุกร่างก็ระเบิดแสงเจิดจ้าราวกับดวงอาทิตย์ ก่อนจะพุ่งตรงไปยังกระแสน้ำวนสีเลือดที่ขยายตัวไม่หยุดด้านล่าง
เสียงคำรามพลันดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีจากร่างแยกหวังเป่าเล่อ เด็กหนุ่มชุดแดงในกระแสน้ำวนก็หน้าเปลี่ยนสี อันที่จริงสงครามระหว่างเขากับหวังเป่าเล่อในตอนนี้ได้ครอบงำจิตใจไปหมดแล้ว อีกทั้งเคล็ดวิชาลับที่เขาใช้ยังเพิ่มพลังดวงตาเข้าไปให้ล้ำลึกยิ่งขึ้นโดยไม่สนว่าต้องแลกกับสิ่งใด เดิมทีเขาตั้งใจจะฮึดสู้อย่างเด็ดเดี่ยวพลิกแพ้เป็นชนะจึงไม่สามารถแยกพลังจิตออกมาได้เลย
เพราะฉะนั้นการโจมตีจากร่างแยกเหล่านี้ย่อมส่งผลกระทบและความผันผวนแก่เขา
หากมีเพียงแค่นี้ก็ไม่เท่าไหร่ เขายังสามารถจัดการได้อยู่ เขาจะเล็งเป้าไปที่หวังเป่าเล่อเหมือนเดิมเพื่อทำให้ดวงวิญญาณเทพของหวังเป่าเล่อแตกสลาย
ทว่า…หวังเป่าเล่อที่ปล่อยร่างแยกออกมามากมายนั้น ในพริบตาที่ร่างแยกปรากฏตัว ระดับการฝึกตนของเขาก็พุ่งทะยานขึ้นอีก ถึงอย่างไร…ร่างแยกพวกนั้นก็เป็นสิ่งที่เขาผนึกไว้ด้วยตัวเอง ตอนนี้เมื่อเปิดผนึกออกจนหมดจึงได้ระเบิดแสงเจิดจ้าเหนือทุกสรรพสิ่งราวกับกลายเป็นแหล่งกำเนิดแสงแห่งแรกของโลกใบนี้ก็ไม่ปาน
การระเบิดพลังแห่งแหล่งกำเนิดแสงนี้ส่งผลให้ฝ่ายเด็กหนุ่มชุดแดงที่ได้รับผลกระทบจากร่างแยกไปแล้วไม่สามารถคงสภาพดวงตาไว้ได้อย่างก่อนหน้านี้จึงอ่อนแอลงในพริบตา
และความอ่อนแอในพริบตาเดียวนี้ก็ทำให้ทุกอย่างตรงหน้าหวังเป่าเล่อกลับมาชัดเจนดังเดิม แม้ความหวาดกลัวจะยังคงหลงเหลืออยู่ แต่จิตสังหารในดวงตาก็รุนแรงไม่แพ้กัน เขาสะบัดมือขวาขึ้นกะทันหัน
“ทอง…แห่งธาตุทั้งห้า!”
ทันทีที่เอ่ยขึ้น ทุกอย่างรอบตัวก็ไม่ได้เปลี่ยนไปแต่อย่างใด ยังคงเป็นโลกแห่งเต๋าธาตุดินที่กำลังพังทลายอย่างต่อเนื่อง ภาพนี้ทำให้เด็กหนุ่มชุดแดงในกระแสน้ำวนสีเลือดเผยแสงเจิดจ้าในดวงตา ก่อนจะยิ่งระเบิดพลังรุนแรงขึ้นอีก
“หวังเป่าเล่อ ดูท่าธาตุทองของเจ้าจะสู้ข้าไม่ได้นะ!” เสียงเด็กหนุ่มชุดแดงดังลอยมา กระแสน้ำวนสีเลือดก็ส่งเสียงคำราม ก่อนที่ร่างแยกหวังเป่าเล่อจะกระเด็นออกไปทั้งหมด มันขยายตัวต่อไป ขณะเดียวกันสายตาจากร่างต้นแบบมหาเทพก็แผ่แรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวออกมาอีกครั้ง
ส่งผลให้โลกแห่งเต๋าธาตุดินยิ่งพังทลายอย่างรุนแรงราวกับพร้อมจะแตกสลายได้ทุกเมื่อ
“นั่นเป็นเพราะเจ้าไม่เข้าใจ…ว่าธาตุทองของข้าคืออะไร” หวังเป่าเล่อยังมีสีหน้าสงบนิ่งเมื่อต้องเผชิญหน้ากับการล่มสลายของโลกแห่งเต๋าธาตุดินและคำพูดของเด็กหนุ่มชุดแดง ก่อนจะวางมือขวาลง
นั่นเป็นการกระทำที่เรียบง่าย ดูไม่มีอะไร ทว่าในพริบตาที่หวังเป่าเล่อวางมือลงไปนั้นเอง…
เด็กหนุ่มชุดแดงในกระแสน้ำวนสีเลือดหน้าเปลี่ยนสีกะทันหัน
“นี่มัน…”
ไม่รอให้เขาเอ่ยจนจบก็เกิดแสงสีเงินออกมาจากความว่างเปล่ารอบกระแสน้ำวนสีเลือดทันใด มันรวมตัวกันอย่างบ้าคลั่งตรงกระแสน้ำวน แสงเหล่านี้มากมายเหลือคณานับ หากมองด้วยตาเปล่าจะดูหนาแน่นไร้ที่สิ้นสุด ดูเหมือนมันจะถักทอและก่อตัวเป็นกระบี่ยาวสีเงินสองท่อนที่ปลายกระแสน้ำวนสีเลือดทั้งสองข้าง
พูดให้ชัดเจนคือส่วนหนึ่งคือปลายกระบี่ ส่วนหนึ่งคือด้ามกระบี่ ส่วนตรงกลาง…ก็คือตัวกระแสน้ำวน จะเห็นได้ว่าจุดเชื่อมต่อระหว่างกระแสน้ำวน ปลายกระบี่และด้ามกระบี่เกิดรอยร้าว
รอยร้าวนั้นขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งเส้นสีเงินจำนวนมากหลั่งไหลมารวมตัวกันที่ตรงนี้และก่อตัวขึ้นเป็น…ตัวกระบี่!
ช่วงเวลาที่ตัวกระบี่กำลังก่อตัว กระแสน้ำวนสีเลือดก็ส่งเสียงคำรามราวกับถูกตัดขาด…เป็นสองส่วน!
ยังไม่จบแค่นั้น ขณะที่มันถูกตัดเป็นสองส่วน กระบี่สีเงินที่ก่อตัวเสร็จสมบูรณ์ก็ยกขึ้นลอยไปยังหวังเป่าเล่อ มันเล็กลงเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงตรงหน้าหวังเป่าเล่อและหวังเป่าเล่อก็คว้ามันไว้ มันก็กลายเป็นขนาดปกติ
มือที่ถือกระบี่ก็ยกขึ้น จากนั้นกระบี่ก็กลายเป็นเส้นสีเงินแผ่กระจายไปทั่ว…
นั่นเป็นภาพที่หากมีใครพบเห็นจะต้องตกตะลึงจนตาค้าง
เพราะ…ทั้งหมดนี้ดูเหมือนไม่สมเหตุสมผล แต่…หากมองย้อนกลับไปที่ภาพนี้…ก็จะพบว่าทุกอย่างสมเหตุสมผลยิ่ง!
ยกมือขึ้น กระบี่รวมตัว ตัดเป็นสองส่วน กระบี่กระจาย
โลกแห่งเต๋าธาตุทองนั้นไม่เหมือนคนอื่น
“นี่ก็คือโลกแห่งเต๋าธาตุทองของข้า หรือเรียกว่า…เหตุต้นผลกรรม” หวังเป่าเล่อก้มหน้ามองกระแสน้ำวนสีเลือดที่แยกเป็นสองส่วนด้วยสายตาลึกลับ
………………………