หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา - บทที่ 1409 สะกด
นี่มาจากวิชาครองร่างกลับคืนชั้นสูงของเจ้าแห่งสุข หวังเป่าเล่อศึกษามาหลายครั้งหลายคราจนพูดได้ว่าตั้งแต่ส่วนเล็กย่อยตลอดจนทุกส่วน เขาล้วนศึกษาพิจารณาอย่างละเอียดยิบทั้งหมดแล้ว
ไม่ว่าอย่างไรหวังเป่าเล่อก็ไม่ใช่ผู้ฝึกตนธรรมดาทั่วๆ ไป ร่างเดิมเขาก็ไม่ด้อยไปกว่าผู้เยี่ยมยุทธ์เจ็ดอารมณ์ขั้นที่ห้าแม้แต่น้อย แม้ร่างอวตารจะห่างชั้นกับร่างเดิมอยู่มาก แต่ประสบการณ์และการวิเคราะห์กลับเหมือนกันไม่มีผิด
ดังนั้น หวังเป่าเล่อจึงมีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะพิเคราะห์พิจารณาวิชาครองร่างกลับคืนชั้นสูงนี้ได้และยังถึงขั้นที่เขาสามารถปรับให้เข้ากับตัวเอง ขจัดความยุ่งเหยิงบางอย่างทิ้งแล้วเหลือไว้แต่พลังรุนแรงอันสุดยอด ทำให้เมื่อใช้วิชานี้ขึ้นมาจึงน่าสะพรึงยิ่งขึ้น
อีกทั้งหลักการเดิมของมัน บางส่วนก็มีจุดที่คล้ายกับเมล็ดหลุมดำแห่งการดูดกลืนในร่างของหวังเป่าเล่อในตอนนั้น ทว่าไม่ใช่การเปลี่ยนตัวเองเป็นดั่งหลุมดำในเสี้ยวเวลา แต่เป็นเสมือนกาฝากด้วยการยืมมืออีกฝ่ายทำให้สำเร็จ หรือก็พูดได้ว่า ในพริบตาที่เต๋าแห่งจังหวะดนตรียึดร่างมาได้ หวังเป่าเล่อก็ปล้นชิงทุกสิ่งมา
แต่นี่ไม่ตรงกับความชอบของหวังเป่าเล่อเลย และเขาก็ไม่ชื่นชอบแบบนี้ ดังนั้นด้วยการปรับแก้ของเขา วิชาครองร่างกลับคืนจึงยิ่งโจ่งแจ้งกว่าเก่า นั่นก็คือ…กลืนกิน!
ผนึกเข้ากับกฎเกณฑ์ปรารถนารสกลายเป็นกลืนกิน
การกลืนกินนี้ระเบิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน เวลานี้มันกลายเป็นแรงดูดขนาดใหญ่ กระชากร่างเต๋าแห่งจังหวะดนตรีของเจ้าปรารถนาเสียงที่คิดจะออกจากร่างหวังเป่าเล่อกลับมา
“เจ้ากล้า!” เสียงแหลมสูงแฝงความโกรธเกรี้ยวสะท้อนขึ้นในจิตสำนึกของหวังเป่าเล่อ เป็นเสียงของร่างเต๋าแห่งจังหวะดนตรีของเจ้าปรารถนาเสียง และในขณะที่เสียงดังขึ้นก็มีพลังขับไล่รุนแรงขุมหนึ่งพุ่งพรวดขึ้นในร่างหวังเป่าเล่อ
แรงขับไล่นี้มาจาก…เมล็ดพันธุ์เต๋าอักขระเสียงในร่างของหวังเป่าเล่อ!
เมล็ดพันธุ์เต๋านี้เทียบเท่ากับกุญแจและคุณสมบัติ อันแรกจะทำให้เขาและร่างอวตารเจ้าปรารถนาเสียงมีต้นกำเนิดคล้ายคลึงกัน อันหลังจะทำให้ร่างกายของเขาเปิดกว้างต้อนรับการมาของร่างเต๋าแห่งจังหวะดนตรีของเจ้าปรารถนาเสียง
มีสิ่งที่เป็นเหมือนม้าโทรจันเช่นนี้ เวลานี้ถูกกระตุ้นจากร่างเต๋าแห่งจังหวะดนตรีของเจ้าปรารถนาเสียง แรงขับไล่ที่ปะทุขึ้นมา…ได้โอบล้อมดวงจิตของหวังเป่าเล่อไว้ทุกด้าน
การต่อต้านของร่างอวตารเจ้าปรารถเสียงแผ่กระจายขึ้นอย่างสมบูรณ์ในเวลานั้น
เมื่อเห็นดวงจิตของหวังเป่าเล่อกำลังจะสั่นไหวจากการปะทุขึ้นอย่างเฉียบพลันของเมล็ดพันธุ์เต๋าอักขระเสียง ทว่าในตอนนี้…เมล็ดพันธุ์เต๋าอักขระเสียงที่ปล่อยพลังขับไล่กระจายออกมาไม่หยุด และสะกดหวังเป่าเล่อพร้อมกับร่างเต๋าแห่งจังหวะดนตรีของเจ้าปรารถนาเสียงก็พลันสั่นไหวรุนแรง
บนอักขระเสียงที่สมบูรณ์มีส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งหายไปในพริบตา ก่อนเกิดเป็นช่องโหว่ที่คล้ายรอยฟันอันหนึ่งขึ้น และการปรากฏขึ้นของช่วงโหว่นี้…ก็ทำให้เมล็ดพันธุ์เต๋านี้สั่นไหวยิ่งกว่าเดิม พริบตาถัดมา…เสียงบึ้มครั้งเดียวก็แตกละเอียดทันที
ขณะที่มันแตกสลาย กฎเกณฑ์ปรารถนาเสียงที่อยู่ภายในก็ลอยแล่นหลอมรวมเข้าสู่เลือดเนื้อของหวังเป่าเล่ออย่างรวดเร็ว
ภาพฉากนี้ทำให้เกิดคลื่นลูกยักษ์ขึ้นในจิตสำนึกของร่างเจ้าปรารถนาเสียงในทันที
“นี่…”
“ข้าบอกแล้ว เจ้า…เป็นของข้า” สิ่งที่ตอบเขาคือดวงจิตเทพของหวังเป่าเล่อ อีกทั้งพลังที่ปะทุขึ้นอย่างกะทันหันนั้นราวกับได้กลายเป็นคลื่นลูกยักษ์ที่จะดูดม้วนกลืนกินดวงจิตร่างของเจ้าปรารถนาเสียงจนสิ้นซาก
“โง่เขลา!” ร่างเจ้าปรารถนาเสียงแค่นเสียงเย็น พริบตาถัดมา กฎเกณฑ์ปรารถนาเสียงอันไร้ขอบเขต ก็ได้กลายเป็นเสียงแห่งมวลมหาธรรมชาตินับไม่ถ้วนจู่โจมเข้าใส่หวังเป่าเล่อ ก่อนพุ่งชนเข้ากับวิชาครองร่างกลับคืนของหวังเป่าเล่อ
เสียงดังสนั่นออกมาจากร่างของเขา จิตสำนึกของพวกเขาใช้ร่างกายของหวังเป่าเล่อเป็นสนามรบ ในเวลานี้กำลังเข่นฆ่ากันไม่หยุด ทว่าเห็นได้ชัด…ว่าเจ้าปรารถนาเสียงได้กุมพลังต้นกำเนิดกฎเกณฑ์ปรารถนาเสียงไว้สามส่วน เวลานี้ใส่เต็มพลัง ดังนั้นในช่วงเวลาสั้นๆ หวังเป่าเล่อกลับไม่สามารถที่จะกลืนกินเขาได้อย่างราบรื่น
“ไม่เป็นไร” ดวงจิตเทพหวังเป่าเล่อเอ่ย เวลาถัดมา ภาพเหตุการณ์ที่ทำให้สติของร่างเจ้าปรารถนาเสียงสั่นไหวอย่างรุนแรงก็ปรากฏขึ้น
นั่นคือกฎเกณ์ของเจ้าแห่งโกรธ เจ้าแห่งโศก รวมทั้งเจ้าแห่งแค้น และเจ้าแห่งสุข ในเวลานี้พุ่งทะยานออกมาจากร่างของหวังเป่าเล่อ!
กฎเกณฑ์สี่อารมณ์จากทั้งเจ็ดนี้ราวกับกลายเป็นมีดแหลมคมทิ่มแทงเขาไปในจิตสำนึกของร่างเจ้าปรารถนาเสียงในพริบตา ฉีกทึ้งทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความบ้าระห่ำ ทำให้ร่างนั้นกรีดร้องโหยหวนออกมา
“เป็นพวกเจ้า!!”
เมื่อร่างอวตารเต๋าแห่งจังหวะดนตรีของเจ้าแปรารถนาเสียงรู้สึกถึงวิกฤตที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ขณะที่กรีดร้องและดิ้นรนอยู่ในเวลานี้ ก็คิดที่จะใช้แรงจากกฎเกณฑ์ปรารถนาเสียงของตัวเองในการขัดขวางเพื่อออกจากร่างหวังเป่าเล่อ
ขอเพียงออกไปได้ ทุกอย่างก็ยังมีจุดพลิกผลัน
ทว่าในเวลานี้ ภายในร่างหวังเป่าเล่อ หลังจากกฎเกณฑ์ปรารถนาเสียง กฎเกณฑ์สี่อารมณ์ของเจ้าแห่งสุข เจ้าแห่งโกรธ เจ้าแห่งแค้น และเจ้าแห่งโศก มันก็ปรากฏกฎเกณฑ์เต๋าที่หกขึ้น นั่นก็คือ…กฎเกณฑ์ปรารถนารส
ทันทีที่กฎเกณฑ์นี้ออกมาก็ทำให้แรงกลืนกินยิ่งรุนแรงมากขึ้น จิตสำนึกของร่างอวตารเจ้าปรารถนาเสียงไม่สามารถหลุดออกไปได้เลย และกำลังจะถูกหวังเป่าเล่อกลืนกินจนสิ้นแล้ว
“ผสานโลก!”
ในเวลาต่อมา จิตสำนึกของร่างอวตารเต๋าแห่งจังหวะดนตรีของเจ้าปรารถนาเสียงก็หลอมรวมเข้าสู่กฎเกณฑ์ปรารถนาเสียง ก่อนแสดงให้เห็นว่า…มันสั่นไหวรุนแรงกว่าของยิ่นสี่ก่อนหน้าอย่างมาก หลอมรวมเข้าสู่โลกแห่งเสียง!
นี่คือเคล็ดวิชาลับของนางและก็เป็นวิธีที่นางคิดจะใช้พลิกสถานการณ์กลับในเวลานี้ด้วย ขอเพียงนางสามารถหลอมรวมเข้าไปในโลกแห่งเสียงได้…ก็จะไม่มีผู้ใดสามารถทำร้ายนางได้อีก ถึงอย่างไรในโลกแห่งเสียง…นอกจากตัวนางแล้วก็ไม่มีผู้ใดสามารถเหยียบย่างเข้าไปได้
แต่ในขณะที่จิตสำนึกของร่างเต๋าแห่งจังหวะดนตรีของเจ้าปรารถนาเสียงกระจายออกไปและหลอมรวมเข้าสู่โลกแห่งเสียง ทางด้านหวังเป่าเล่อ อักขระเสียงที่ซ้อนทับกันอยู่ในร่างก็พลันปะทุขึ้นพร้อมกับหลอมรวมเข้าสู่โลกแห่งเสียงไปพร้อมกับนางทันที
“เป็นไปไม่ได้!!” ร่างของเจ้าปรารถนาเสียงไม่อยากเชื่อ จิตสำนึกของนางในเวลานี้สั่นไหวอย่างรุนแรง แม้ก่อนหน้านี้นางจะเคยจับตาดูหวังเป่าเล่อ และก็รู้ว่าในร่างของเขามีอักขระเสียงพิเศษอยู่ แต่การหลอมรวมเข้ากับโลกแห่งเสียงนั้นเป็นคนละเรื่องกัน จากการวิเคราะห์ อย่างมาก…หวังเป่าเล่อก็เป็นเหมือนกับยิ่นสี่ มีแค่คุณสมบัติเข้าร่วมก็เท่านั้น
แต่ตอนนี้ ความจริงไม่ใช่แบบนั้นแล้ว
“มีคนช่วยเจ้าปกปิด!! ไม่ ไม่ใช่ปกปิด เป็นระดับของเจ้า…ที่แท้เป็นเจ้า เจ้ายังกล้ามาเมืองปรารถนาเสียงให้ข้าเห็น!”ร่างของเจ้าปรารถนาเสียง เวลานี้จิตสำนึกสั่นไหวอย่างรุนแรง นางเดาถึงสถานะของหวังเป่าเล่อได้แล้ว
พริบตาถัดมา เงาร่างสองร่างที่นั่งขัดสมาธิอยู่ในส่วนลึกของภูเขาไฟสำนักเหอเสียนและสำนักเหิงฉินพลันลืมตาขึ้นพร้อมกัน เงาร่างทั้งสองนี้สมบูรณ์แบบไร้ตำหนิ ดูทรงพลังน่าเกรงขาม เมื่อลืมตาขึ้นก็ฉายแววดุร้าย ต่างยกมือขวาขึ้นพร้อมกับบีบแผ่นหยกในมือจนแหลกละเอียดเพื่อแจ้งแก่…วิญญาณจักรพรรดิอาณาจักรด้านบน!!
ทว่าในเวลานี้…ยังอยู่ไกลจากเมืองปรารถนาเสียงมากเหลือเกิน แม้จะยังนโลกาชั้นที่สองเหมือนกัน แต่ก็อยู่ในเขตพื้นที่อีกด้านหนึ่ง ที่ตรงนั้นยังมีคูเมืองอันกว้างใหญ่อีกแห่ง
เมืองนี้มีชื่อว่าเมืองปรารถนาทัศน์
ในเวลานี้ ในพระราชวังใต้ดินอันตระหง่าน ณ ศูนย์กลางของเมืองปรารถนาทัศน์มีสระโลหิตอยู่บ่อหนึ่ง
ภายในสระ มีเงาร่างสูงใหญ่สวมชุดเกราะผมยาวนั่งขัดสมาธิแต่มองไม่เห็นหน้าตาผู้หนึ่ง ชั่วเวลาที่ร่างอวตารทั้งสองของเจ้าแห่งปรารถนาเสียงบีบแผ่นหยกจนแหลกเพื่อเรียกวิญญาณจักรพรรดิอาณาจักรด้านบน เงาร่างนี้…ก็ยกมือขวาขึ้นฟ้าและคว้ากำทันที!
ภายใต้เงื้อมมือนี้ พลันเกิดแสงสว่างขึ้นสองดวงส่องเป็นทางลงมาก่อนถูกตัดสาส์นจากการบดขยี้ด้วยฝ่ามือ!
เขาค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้น เผยดวงตาแดงก่ำที่แฝงด้วยความละโมบในเบื้องลึก จ้องมองไปทางเมืองแห่งปรารถนาพลางพึมพำ
“เจ้าแห่งสุข ข้าออกแรงแล้ว บรรลุข้อตกลงแล้ว ต่อจากนี้…ถึงคราวที่เจ้าจะทำตามสัญญาแล้ว ข้า…รอไม่ไหวแล้ว!”
……………………………………….