หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา - บทที่ 1443 แผนที่ดวงดาว
ทันทีที่เอ่ย บนร่างหวังเป่าเล่อพลันปรากฏพลังปราณต้นกำเนิดธาตุดินอันเข้มข้น เมื่อมันปรากฏขึ้น แปดทิศรอบกายหวังเป่าเล่อก็เกิดเงามายาของแผ่นดินกว้างไพศาล
กระทั่งมองไปแล้วขอบเขตของแผ่นดินนี้ก็ยังกว้างใหญ่เกินจะพรรณนา เพราะว่า…มองไม่เห็นจุดสิ้นสุด
ไกลออกไปดูเหมือนเงามายาของแผ่นดินจะขยายออกไปอีกจนน่าทึ่ง ราวกับว่ายังมีพลังอีกมากส่งมาจากโลกภายนอก ราวกับว่าหวังเป่าเล่อที่ยืนอยู่ตรงนี้กำลังยืนอยู่บนมหาจักรวาล
เมื่อแขนของเขายกขึ้นสะบัดไปยังรูปสลักคุกใต้ดิน ตอนนั้นเองพลันเกิดเสียงแผ่นดินคำราม ก่อนจะถาโถมเข้าฝังรูปสลักบนท้องฟ้าทันที!
พลังแห่งดินฝังกลบทุกสิ่ง!
พริบตาต่อมาเมื่อถูกฝังกลบ รูปสลักก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป รอยปริแตกลามไปทั่ว ก่อนจะระเบิดเป็นเสี่ยงๆ ท่ามกลางเสียงท้องฟ้าคำราม
แต่การประลองครั้งนี้ยังไม่จบลงแค่นั้น เมื่อรูปสลักระเบิดออก เสียงของปรารถนาก็ดังก้อง
“ทุกสรรพสิ่ง!”
พริบตาต่อมาเศษรูปสลักที่แตกกระจายไปพลันพลิกม้วนกลับมารวมกันอีกครั้งและยังคงฉายภาพในนั้น เพียงแต่…ในภาพไม่ใช่คุกใต้ดินแล้ว แต่เป็น…
แผนที่ทุกสรรพสิ่ง!
ที่เรียกว่าแผนที่ทุกสรรพสิ่งเพราะในรูปสลักนี้สามารถเห็นอารยธรรมน้อยใหญ่นับไม่ถ้วนได้ ดวงดาวนับไม่ถ้วน สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วน…ทุกสรรพสิ่งอัดแน่นกันอยู่ในรูปสลักนี้
หากมองแวบแรกจะมองไม่ออก ต้องขยายรูปสลักอีกไม่รู้เท่าไรถึงจะมองเห็นทุกสรรพสิ่งในนั้น มันกำลังสยบหวังเป่าเล่อด้วยพลังอันแข็งแกร่ง ต่อให้เป็นหวังเป่าเล่อก็ยังหวั่นใจเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้
ต้นกำเนิดธาตุดินของเขา แม้จะเข้าปะทะกับแผนที่ทุกสรรพสิ่งอย่างไม่ลังเลและพยายามฝังกลบมัน แต่เห็นได้ชัดว่า…ยังด้อยกว่า ต่อมาแม้แผนที่ทุกสรรพสิ่งจะสั่นไหวและเกิดรอยปริแตก แต่สุดท้ายเต๋าธาตุดินก็ยังเป็นฝ่ายถูกทำให้สลายไป
“เต๋าธาตุไฟ!”
เต๋าแปดปรมัตถ์ไม่ได้มีแค่ทองกับดิน
หวังเป่าเล่อหรี่ตา มือขวาทำผนึกมุทราแล้วสะบัดอีกครั้ง ทันใดนั้นรอบตัวเขา โลกของเขา และจักรวาลของเขาพลันเกิดเปลวไฟลุกโชน ทุกสรรพสิ่งกลายเป็นดินแดนแห่งเปลวเพลิง
เปลวเพลิงนี้ทะยานขึ้นฟ้าพุ่งตรงไปยังแผนที่ทุกสรรพสิ่งและเผาทำลายด้วยเต๋าธาตุไฟ!
เวลาต่อมาแผนที่ทุกสรรพสิ่งอันทรงพลังก็ถูกเผาไหม้ ค่อยๆ กลายเป็นขี้เถ้า ท่าทางของมารหกปรารถนาเผยแววตาชั่วร้าย ไม่ยินยอมกับการจนตรอกเช่นนี้ มันพากันร้องคำราม แผนที่ทุกสรรพสิ่งที่กำลังเผาไหม้พลันกลายเป็นสิ่งอื่น!
ทุกสรรพสิ่งในนั้นหายไปแล้ว แทนที่ด้วย…เทพเจ้า!
เทพเจ้าเหล่านี้บ้างเคยมีอยู่จริง บ้างก็เป็นจินตนาการของอารยธรรมต่างๆ อย่างไรก็ดี ทุกคนล้วนมีพลังแข็งแกร่งและยังปรากฏขึ้นจำนวนมาก ทำให้พลังแห่งรูปสลักได้รับกำลังเสริมทันที
แม้เต๋าธาตุไฟจะแผดเผาได้ แต่ภาพเทพเจ้าก็ยังยากลำบากอยู่บ้าง ทั้งสองฝ่ายปะทะกัน ฝ่ายแรกค่อยๆ ปรากฏสัญญาณการมอดดับ ส่วนภาพเทพเจ้านั้นแม้จะถูกเผาแล้ว แต่เห็นได้ชัดว่ามีภูมิคุ้มกันต้านทานเต๋าธาตุไฟในระดับหนึ่ง
“เช่นนั้น…ก็เปลี่ยนเป็นเต๋าธาตุน้ำ!” ในพริบตานั้นหวังเป่าเล่อดวงตาวาววับ ไอน้ำไร้ที่สิ้นสุดพลันปรากฏขึ้นรอบตัวราวกับจะจมทุกอย่าง มันแทรกซึมไปทั้งแปดทิศ ก่อนหยดน้ำหยดหนึ่งจะปรากฏขึ้นตรงหน้าหวังเป่าเล่อ
มันดูเหมือนหยดน้ำ แต่ว่าหากมันตกลงมา จะสามารถกลายเป็นทะเลแห่งความพิโรธฝังกลบอารยธรรมได้
จากนั้น…หยดที่สอง หยดที่สาม หยดที่สี่…ก็ตามมา ในเวลาสั้นๆ รอบตัวหวังเป่าเล่อก็มีหยดน้ำมากถึงหนึ่งล้าน มากจนถึงสิบล้าน จนกระทั่งนับไม่ได้ และเมื่อเขาสะบัดมือ หยดน้ำก็พุ่งเข้าใส่ภาพเทพเจ้า!
สิ่งใดที่ไฟทำลายไม่ได้ น้ำย่อมสามารถ!
ไม่ว่าจะเป็นหยดน้ำทะลวงหินหรือกัดกร่อนก็นุ่มนวลถึงขีดสุด เมื่อหยดน้ำตกลงมา ภาพเทพเจ้าพลันสั่นสะท้าน สิ่งที่ปรากฏบนรูปสลักไม่ใช่รอยปริแตก แต่เป็นรอยกัดกร่อน!
ราวกับจะทำลายพลังของรูปสลักจากรากฐาน
เมื่อเห็นเช่นนั้น นัยน์ตาของมารหกปรารถนาต่างพากันโกรธแค้น พวกมันจ้องมองหวังเป่าเล่อท่าทางไม่พอใจว่าทำไมอีกฝ่ายจึงกำจัดได้ยากนัก และไม่พอใจว่าทำไมอีกฝ่ายถึงไม่ยอมให้ตนควบคุม
สำหรับความปรารถนา สตินึกคิดไม่มีอยู่จริง
ท่าทางของมารหกปรารถนานั้นแค้นเคือง มันส่งเสียงกรีดร้อง ภาพเทพเจ้าที่สึกกร่อนจนเละเทะก็เปลี่ยนไปอีกครั้งด้วยปราณหมอกดำที่แทรกซึมเข้าไป
เทพเจ้าในรูปหายไปแล้ว และแทนที่ด้วย…ภาพที่ประกอบด้วยเส้นตัดผ่านกันมากมาย มองแวบแรกเหมือนกับวงปี แต่เมื่อพินิจอย่างถี่ถ้วนก็ไม่ได้คล้ายกันขนาดนั้น เพราะเส้นของมันไม่ใช่วงกลม แต่ยุ่งเหยิงไร้กฎเกณฑ์
มันคล้ายกับ…เส้นลายมือ!
หวังเป่าเล่อดวงตาหดแคบ เขาสัมผัสได้ว่าพลังปราณในรูปสลักนี้ต่างจากก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง รูปสลักที่เหมือนกับเส้นลายมือที่กำลังตกลงมาพร้อมเสียงคำรามทำให้หวังเป่าเล่อรู้สึกเหมือนมันเป็นฝ่ามือจริงๆ
เต๋าธาตุน้ำไม่สามารถหยุดมันได้ เมื่อเห็นว่ากำลังจะถูกเจาะทะลวง ดวงตาหวังเป่าเล่อก็เผยประกายกล้าก่อนจะเอ่ยเบาๆ
“เต๋าธาตุไม้!”
เต๋าธาตุไม้คือเต๋าที่แข็งแกร่งที่สุดในเต๋าแปดปรมัตถ์ของหวังเป่าเล่อและยังเป็นเต๋าแห่งสารัตถะของเขาด้วย เพราะเขา…ก็คือสิ่งที่แปลงมาจากเต๋าธาตุไม้ของมหาจักรวาลผืนนี้
เมื่อหวังเป่าเล่อสะบัดมือ ตะปูไม้สีดำเล่มหนึ่ง…พลันปรากฏขึ้นเหนือศีรษะ อัดแน่นไปด้วยพลังแห่งกาลเวลาที่ไหลผ่านมาเนิ่นนานและยังมีปราณหายนะสายหนึ่งปะทุออกมาจากมันด้วย
เมื่อหวังเป่าเล่อสะบัดมือ ตะปูไม้สีดำก็ส่องลำแสงเจิดจรัสถึงขีดสุดออกมาราวกับอัสรสวรรค์สีดำ พุ่งเข้าใส่ภาพเส้นลายมือพร้อมเสียงคำรามและเสียงหวีดหวิวอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวทั้งสองฝ่ายก็ปะทะกัน
ประหนึ่งไม้ยักษ์โจมตีและยังสามารถเห็นเป็นภาพมายาของโลงศพสีดำพุ่งโจมตีฝ่ามือนั้นด้วย ฝ่ามือที่แผ่พลังปราณอันน่าอัศจรรย์ไม่อาจต้านทานได้ มันแตกเป็นเสี่ยงๆ ทันที แม้แต่ร่างมารหกปรารถนาด้านหลังก็ยังขาดการผสานระหว่างกันและกระเด็นไปคนละทิศอย่างแรง
พวกมันมีสีหน้าบ้าคลั่ง เมื่อเห็นว่าตะปูไม้สีดำทะลวงเส้นลายมือและกำลังจะพุ่งเข้าใส่ ทันใดนั้นเอง…ปรารถนาอารมณ์ก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมา ปรารถนาทั้งห้ารอบข้างพุ่งเข้าหาปรารถนาอารมณ์อย่างไม่ลังเล แล้วผสานกันอีกครั้ง
ร่างมารปรารถนาอารมณ์ทะยานขึ้นจากความสูงแสนห้าจั้งกลับไปเป็นสามแสนจั้งอีกครั้ง จากนั้นมันก็คำรามใส่หวังเป่าเล่อ ร่างของมันเลือนรางก่อนจะกลายเป็นรูปสลักด้วยตัวเอง
นั่นคือ…แผนที่จักรวาล!
ซึ่งเหมือนกับแผนที่ดวงดาวที่อยู่เหนือที่นั่งมหาเทพไม่มีผิดเพี้ยน
“นี่ก็คือแผนที่ดวงดาวของบ้านเกิดมหาเทพ ข้าเป็นคนคัดลอกมันออกมา เกี่ยวโยงถึงเหตุต้นผลกรรม หากเจ้าทำลายมัน บ้านเกิดเจ้าก็จะโดนไปด้วย ขณะเดียวกัน…เจ้าก็จะสูญเสียหนทางกลับ ข้าจะดูสิว่าเจ้าจะใจร้ายขนาดนั้นไหม!”
“กระจอก!” หวังเป่าเล่อไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย ตอบกลับไปทันที พลังแห่งตะปูไม้ดำก็ระเบิดขึ้นอีกครั้งและพุ่งไปยัง…แผนที่ดวงดาว!
ตลอดทางก็คล้ายกับต้นไผ่ที่หัก ทำลายย่อยยับอย่างง่ายดาย!
…………………………………………….