หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา - บทที่ 559 แผนที่ท้องฟ้ายามค่ำคืน!
หวังเป่าเล่อและเพื่อนยืนมองสวีหมิงและกลุ่มของเขาเดินจากไป แล้วจึงหันมาจ้องมองกันอยู่ไปมาก่อนจะออกเดินทางไปในทิศตรงกันข้าม พวกเขาระวังตัวอยู่ตลอดทาง เจ้าเยี่ยเหมิงเรื่องวิเคราะห์กฎของการทดสอบ
“หนึ่งในแผนที่ทุกคนน่าจะใช้ก็คือรวบรวมกุญแจให้ได้จำนวนหนึ่งแล้วจึงไปซ่อนตัว…” เจ้าเยี่ยเหมิงพูดเบาๆ หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู กงเต๋าก็ส่ายศีรษะ
“ข้าลองคิดแผนนั้นไปแล้ว แล้วจึงพบว่าเพราะกุญแจไม่สามารถไปอยู่ในกระเป๋าคลังเก็บได้ จึงเป็นการยากที่จะหาพบ นอกเสียจากว่าจะมีใครที่อยู่ใกล้ตัวเรามากๆ ข้าไม่เข้าใจเลยว่าทำสำนักวังเต๋าไพศาลถึงได้ปล่อยให้มีช่องโหว่ขนาดใหญ่เช่นนี้อยู่ใน…”
“แต่วงแหวนปราณนี้มีชื่อว่าวงแหวนปราณแห่งความเป็นได้ไร้สิ้นสุด เราอาจจะต้องประสบกับความเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ของโลกอีกก็เป็นได้!” หลังจากที่ได้ฟังเจ้าเยี่ยเหมิงและกงเต๋าแล้ว หวังเป่าเล่อก็นิ่งเงียบคิด จากนั้นจึงพูดออกมาแช่มช้า
ทั้งสามยังคงพูดคุยปรึกษากันต่อไปโดยยังไม่ได้ข้อสรุป เจ้าเยี่ยเหมิงจึงเสนอให้หาที่ซ่อนตัวไปก่อนสักระยะหนึ่ง พวกเขาสามารถมองดูสถานการณ์ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะทำสิ่งใดต่อไป
ผู้ฝึกตนในฝ่ายเฟิ่งชิวหรันนั้นกระจายตัวกันออกไป ผู้ฝึกตนฝ่ายเมี่ยเลี่ยจื่อและโยวหรันเองก็เช่นนั้น พวกเขากระจายตัวกันออกไปในเขตแดนของตนเอง
มีคนจำนวนไม่น้อยตัดสินใจจะติดตามโจวชู่เต๋าและเนื้อคู่แห่งเต๋าของเขาหวงหยุนซาน ตู้กูหลินเดินจากไปคนเดียวแถมยังห้ามไม่ให้ใครตามเขามาอีกด้วย
เมื่อผู้ฝึกตนเริ่มกระจายตัวกันออกไป การทดสอบก็จึงเริ่มต้นขึ้นอย่างแท้จริง ข้างนอกโลกนั้น ผู้ชมต่างพากันเฝ้าดูอย่างตื่นเต้นอยู่ ณ บริเวณจัตุรัสสาธารณะ พวกเขารู้ดีว่าความสนุกที่แท้จริงกำลังจะเริ่มแล้ว
ยังไม่มีการต่อสู้ดุเดือดเกิดขึ้น อันที่จริงแล้ว ยังไม่มีการต่อสู้เกิดขึ้นเลยมากกว่า แต่ทว่ากฎนั้นเป็นการบังคับอ้อมๆ ว่า ยิ่งเวลาผ่านไป ผู้เข้าร่วมทุกคนก็จะเริ่มกังวลขึ้นเรื่อยๆ
การทดสอบนี้จบลงได้มากมายหลายทาง และเมื่อใดก็ตามที่มีวิธีการจบที่หลากหลายตัวเลือกในการพนันก็จะตามมา เหมือนกับการเดิมพันที่เมี่ยเลี่ยจื่อมีกับเฟิ่งชิวหรันและเหมือนกับ…บ่อนพนันที่เซี่ยไห่หยางเปิดขึ้นอย่างลับๆ
แน่นอนว่าการพนันนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะได้อย่างเปิดเผยในที่แจ้ง แต่ทว่า เซี่ยไห่หยางมีวิธีการกระจายข่าวและตั้งบ่อนขึ้นมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะนี้มีผู้ที่วางเดิมพันก้อนใหญ่ๆ กับบ่อนของเขารวมแล้วนับหมื่นคน
เซี่ยไห่หยางยังเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่เฝ้ามองภาพในกระแสวนอยู่โดยตลอด แต่ทว่าเขาเองก็ยังง่วนอยู่กับการรับข้อความเสียงและรับเดิมพัน เขาต้องขยับอัตราการเดิมพันอยู่เป็นระยะอีกด้วย ผู้คนมากมายรุมล้อมเขา บ้างก็วางเดิมพันทันที
มีผู้อาวุโสจากสำนักที่เพิ่งรู้ว่ามีบ่อน แต่ทันทีที่พวกเขาเริ่มชักสีหน้าก็ได้รับข้อความเสียง หลังจากที่เปิดฟัง พวกเขาก็หันไปมองเซี่ยไห่หยางด้วยแววตาลุ่มลึก โคลงศีรษะ และก็ปล่อยให้เขาทำต่อไป เงินเดิมพันในมือเซี่ยไห่หยางมีมากขึ้นทุกทีๆ ผู้ฝึกตนวัยกลางคนข้างกายเขาถามอย่างสงสัย
“สหายร่วมสำนักเต๋าเซี่ย ถึงแม้ว่าท่านเป็นเจ้าของบ่อนก็เถอะ ท่านได้วางเดิมพันข้างใครบ้างหรือไม่”
เซี่ยไห่หยางยิ้มหวานเมื่อได้ ก่อนจะดึงเอาน้ำเต้าสามลูกออกมาจากกำไลคลังเก็บและวางลงตรงหน้าตนเอง เขาชี้ไปที่น้ำเต้าแล้วหัวเราะก่อนจะพูดกับฝูงชน
“ข้าวางหนึ่งหมื่นแต้มที่สามคนนี้ ชื่อของพวกเขาอยู่บนน้ำเต้าพวกนั้น ช่วยข้าดูพวกเขาด้วยเล่า เมื่อผลออกมาในอีกไม่กี่วัน ข้าจะเปิดน้ำเต้าออกต่อหน้าพวกท่านทุกคน!”
โลกภายนอกการประลองนั้นมีผู้คนมากมาย การลงเดิมพันทำให้ผู้คนยิ่งเฝ้าดูการทดสอบอย่างมีอารมณ์ร่วมมากขึ้น ทำให้บรรยากาศยิ่งคึกคัก
แต่เมื่อเทียบกันแล้ว ก็คงจะไม่เท่ากับความตึงเครียดและตื่นเต้นภายในวงแหวนปราณได้ การทดสอบเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้นและทุกๆ คนก็เพิ่งจะเข้ามาถึง ยังไม่ถึงเวลาที่จะลงไม้ลงมือกัน
ไม่ใช่สิ่งที่เมี่ยเลี่ยจื่ออยากเห็นแม้แต่น้อย เขายกมือขวาขึ้นใช้ผนึกมือจำนวนมาก จากนั้นจึงชี้ไปยังวันวนบนท้องฟ้า เหล่าวังวนพากันสั่นคลอน ก่อนที่จะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นภายในวงแหวนปราณนั้น
ผู้ชมมองเห็นความเปลี่ยนแปลงในไม่ช้า เสียงอุทานด้วยความตกใจดังระงมขึ้นในอากาศ
“วงแหวนปราณกำลังแปรสภาพ!”
“ดูท้องฟ้าในจอนั่นสิ…ดำทะมึนเชียว!”
“มีแสงดาวจากฟ้ายามค่ำคืนด้วย!”
ผู้ชมพากันส่งเสียงดังด้วยความตกใจ ภายในวงแหวนปราณนั้น ผู้เข้าร่วมรู้สึกปั่นป่วนใจขณะเงยหน้าขึ้นมองเห็นความเปลี่ยนแปลงบนท้องฟ้า
ในวินาทีนั้น…แสงรอบกายพวกเขามืดลงในทันใด แม้ว่าความเปลี่ยนแปลงนั้นจะเล็กน้อยแต่ก็ยังชัดเจนในสายตาของผู้ฝึกตน ท้องฟ้าเหนือศีรษะพวกเขาแปรสภาพจากสีฟ้าใสกลายเป็นสีดำ กลายเป็นกลางคืน!
เรียกว่ากลางคืนอาจจะไม่ถูกนัก แสงสว่างที่ส่องลงมากระทบพื้นนั้นมืดลง แต่ก็ไม่มืดสนิทเช่นที่เวลากลางคืนควรจะเป็น สิ่งเดียวที่เปลี่ยนแปลงไปคือท้องฟ้าที่แปรเปลี่ยนจากสีฟ้าเป็นสีดำ
แม้จะดูขัดแย้งกันเอง แต่ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ผืนแผ่นดินส่องแสงออกมาแม้จะอยู่ภายใต้ท้องฟ้ามืดดำ แหล่งที่มาของแสงนี้ไม่มีใครรู้ ดูเหมือนว่าทุกสิ่งในโลกนี้สามารถให้กำเนิดแสงสว่างได้ นี่เป็นคุณสมบัติหนึ่งที่ทำให้วงแหวนปราณแห่งความเป็นไปได้ไร้สิ้นสุดนั้นโดดเด่น
หวังเป่าเล่อและเพื่อนเดินทางอยู่เมื่อท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท พวกเขาชะงักทันทีและเงยศีรษะขึ้นมองด้วยสีหน้าตื่นตะลึง ท้องฟ้าสีดำนั้นค่อยๆ แปรเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ มีแผนที่จากประกายดวงดาวปรากฏขึ้นมา!
เป็นแผนที่โลกของการทดสอบแห่งนี้ มีสัญลักษณ์รูปกุญแจจำนวนมากปรากฏขึ้นบนแผนที่นั้นอีกด้วย!
กุญแจเหล่านั้นไม่ได้อยู่นิ่ง!
กุญแจบางดอกก็อยู่โดดเดี่ยว บ้างก็อยู่เป็นกลุ่มสามถึงห้าดอก ยังมีกุญแจนับสิบที่กองอยู่รวมกันอีกด้วย สัญลักษณ์กุญแจแต่ละดอกนั้น…เห็นได้ชัดว่าแสดงถึงใครบางคนที่มีกุญแจอยู่ในมือ!
หวังเป่าเล่อและสหายทั้งสองหัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม พวกเขาสรุปได้ทันทีว่าแผนที่จากมุมสูงนั้นแสดงตำแหน่งกุญแจของพวกเขาอย่างชัดเจน
พวกเขาลองทดสอบดู สัญลักษณ์กุญแจขยับตามเมื่อพวกเขาเคลื่อนไหว พวกเขาจึงสรุปได้ว่าแผนที่จากมุมสูงแสดงภาพสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นบนพื้นด้านล่างแบบตามเวลาจริง!
การซ่อนตัวเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป การหาที่ปลอดภัยและซ่อนตัวไม่ใช่แผนที่ทำได้อีกแล้ว การปรากฏขึ้นของแผนที่มุมสูงนี้ทำให้การตัดสินใจเรื่องแผนการณ์ของพวกเขาง่ายขึ้นมาก
“นี่มันเลวร้ายเกินไปแล้ว! ไม่มีทางให้หนีได้เลย ทุกการเคลื่อนไหวของเราจะถูกมองเห็นหมด!” กงเต๋าคำราม สายตาเขาดูจริงจัง ชายหนุ่มคาดการณ์ว่าการปรากฎตัวขึ้นของแผนที่มุมสูงนี้จะทำให้การทดสอบเข้มข้นขึ้นอย่างมาก
“ก็อาจจะไม่จริงเท่าใดหรอก!” เจ้าเยี่ยเหมิงพูดขึ้นมาอย่างเร่งรีบ ดวงตาของนางฉายแววประกาย
“แผนที่นี้อาจจะไม่ได้ทำให้เราเสียเปรียบเพียงอย่างเดียว ดูเหมือนว่ามันจะบอกตำแหน่งของทุกคน ถึงกระนั้น สิ่งที่มันมอบให้เราก็คือกฎข้อใหม่ในการทดสอบนี้…ก่อนการเคลื่อนย้ายจะเกิดขึ้น ผู้ที่ไม่มีกุญแจจะเข้าจู่โจม…โดยที่เรามองไม่เห็น!”
หวังเป่าเล่อขมวดคิ้วแน่น ก่อนที่จะมีประกายสะท้อนขึ้นมาในดวงตา จิตวิญญาณการต่อสู้ของเจ้าเยี่ยเหมิงขณะนี้พุ่งพล่าน นางมีประกายสนใจสว่างวาวอยู่ในดวงตา ดูเหมือนหญิงสาวจะเชื่อว่ากฎของการทดสอบและวงแหวนปราณนี้จะเป็นโอกาสที่ดีที่นางจะได้เพิ่มความเชี่ยวชาญในด้านวงแหวนปราณ นางรีบพูดขึ้นมาอีกครั้ง
“โลกนี้ช่างน่าสนใจทีเดียว มันจะเคลื่อนย้ายทุกๆ ยี่สิบสี่ชั่วยาม แปลว่าจะเกิดการเคลื่อนย้ายขึ้นทุกๆ วัน…ผู้ที่มีกุญแจก็จะหลบหลีกการเคลื่อนย้ายได้ แต่ผู้ที่ไม่กุญแจก็จะหลุดออกจากการทดสอบไป!
“ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นก็คือหากใครสักคนหนึ่งใช้กุญแจที่มีอยู่เพื่อต้านทานการเคลื่อนย้ายไปแล้ว สุดท้ายก็จะต้องออกล่ากุญแจจากคนอื่นๆ ก่อนจะถึงการเคลื่อนย้ายครั้งต่อไป ทุกๆ คนมีเวลาหนึ่งวัน ในช่วงนั้น พวกเขาก็จะซ่อนตัวได้โดยที่ตำแหน่งของพวกเขาจะไม่ถูกปรากฏบนแผนที่ กลับกัน พวกที่มีกุญแจก็จะปรากฏตัวขึ้นมาบนแผนที่ พวกเขากำลังบังคับเราให้ต่อสู้แย่งชิงกุญแจกัน!
“ตามการตัดสินของข้า การต่อสู้ครั้งใหญ่และความสูญเสียน่าจะเกิดขึ้นมากที่สุดในวันแรกและผู้เข้าร่วมจำนวนก็จะตกรอบไป เป็นเพราะว่าจำนวนกุญแจนั้นมีจำกัด มีเพียงหกร้อยดอกเท่านั้น หากไม่มีการต่อสู้อย่างดุเดือดในวันแรกและกุญแจส่วนใหญ่ไม่ได้ไปอยู่เงื้อมมือของผู้ร่วมทดสอบจำนวนไม่กี่คน กุญแจจำนวนมากก็จะถูกใช้เพื่อป้องกันการถูกเคลื่อนย้าย เมื่อไร้ซึ่งกุญแจ คนที่ไม่ปรากฏบนแผนที่และต้องการจะอยู่ในการทดสอบต่อไปก็จะต้องออกมาต่อสู้กันเพื่อแย่งกุญแจเพิ่ม แต่ทว่า หากรอจนถึงตอนนั้น ก็จะมีกุญแจเหลือน้อยเกินไป กุญแจจะกลายเป็นสมบัติล้ำค่า การต่อสู้แย่งชิงกุญแจก็จะยิ่งเข้มข้นขึ้นจนถึงขีดสุด!”
เจ้าเยี่ยเหมิงพูดไปนัยน์ตาของนางก็ยิ่งลุกโชน เห็นได้ชัดว่านางชำนาญการใช้วงแหวนปราณและการคิดวิเคราะห์ นางสามารถคิดได้อย่างรวดเร็ว แถมยังสามารถสรุปสิ่งสำคัญในการทดสอบได้ในไม่กี่คำเท่านั้น