หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา - บทที่ 908 ได้พรสมตามความปรารถนา!
หวังเป่าเล่ออดรู้สึกไม่ได้ว่าชานหลิงจื่อจะต้องแอบซ่อนอะไรเอาไว้อีก และการพูดว่าขวดนั้นได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้างเป็นเพียงการหลอกลวงเขาเท่านั้น แม้ว่าโอกาสที่ชานหลิงจื่อจะโกหกนั้นมีน้อย แต่การที่ขวดไม่บังเกิดผลก็ทำให้หวังเป่าเล่อโกรธเป็นอย่างยิ่ง โทสะพลุ่งพล่านอยู่ภายในใจ หวังเป่าเล่อหันหลังกลับไปจ้องมองชานหลิงจื่อราวกับจะกินเลือดกินเนื้อก่อนกล่าวออกมาอย่างเยือกเย็น
“ชานหลิงจื่อ ข้าน่าจะปรบมือให้กับความกล้าหาญของเจ้า ใครจะคิดว่าเจ้ากล้าโกหกข้าซึ่งๆ หน้า สงสัยข้าคงต้องฆ่าเจ้าเสียแล้ว!” หวังเป่าเล่อแสร้งทำเป็นว่าจะลงโทษเพื่อพิสูจน์ว่าชานหลิงจื่อโกหกเขาหรือไม่ แต่ทันทีที่คำพูดข่มขู่เหล่านั้นพรั่งพรูออกจากปากชายหนุ่ม…ความร้อนสูงก็ปะทุขึ้นมาจากขวดปรารถนาที่อยู่ในมือขวา!
ชานหลิงจื่อนั้นร้อนรนอยากจะแก้ตัวใจจะขาด แต่ยังไม่ทันได้เปิดปาก วิญญาณเทพของเขาก็สั่นสะท้านก่อนจะยวบหายไปต่อหน้าต่อตาหวังเป่าเล่อ ชานหลิงจื่อกลายเป็นฝุ่น วิญญาณถูกทำลายหายไปจากโลกนี้อย่างไร้ร่องรอย!
หวังเป่าเล่อตะลึงงันไปชั่วขณะเพราะภาพที่เห็นตรงหน้า ชายหนุ่มแน่ใจมากว่ายังไม่ได้ลงมือทำสิ่งใด เขารีบก้มลงมองขวดปรารถนาในมือ สายตาเบิกโพลงสะท้อนแววความยากจะเชื่อ
“นี่ข้าเพิ่งจะ…ได้รับพรตามที่ปรารถนาอย่างนั้นหรือ” หวังเป่าเล่อพึมพำกับตนเอง ชายหนุ่มนึกย้อนไปถึงตอนที่ขู่จะสังหารชานหลิงจื่อเมื่อครู่ จากนั้นจึงก้มลงมองจุดที่ชานหลิงจื่อกลายเป็นฝุ่นไป ก่อนจะมีสีหน้าหดหู่ ดูเหมือนขวดปรารถนาจะทำงานได้ผล แต่สิ่งนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการอย่างแท้จริง…
เจ้าขวดนี้ต้องขัดข้องอะไรสักอย่างเป็นแน่ หวังเป่าเล่อคิดอย่างเศร้าสร้อยก่อนจะรีบสำรวจกายสารัตถะของตน เขาก้มมองเป้ากางเกงแล้วก็ลูบคลำอก ไม่มีร่องรอยของการเปลี่ยนเพศอย่างไม่เต็มใจเกิดขึ้น อย่างน้อยๆ ชายหนุ่มก็ยังสบายใจได้ในเรื่องนี้
ทว่าอย่างไรเสีย หวังเป่าเล่อก็ไม่อาจปล่อยวางได้ ชายหนุ่มกำขวดปรารถนาแน่นพลางวางแผนจะขอพรอีกข้อ เขาไม่ได้ขออะไรใหญ่โต พรของหวังเป่าเล่อนั้นออกจะธรรมเสียด้วยซ้ำ แต่ชายหนุ่มใช้วิธีขอพรหลายๆ ข้อในคราวเดียว ขวดปรารถนาไม่ได้ร้อนฉ่าขึ้นมาแต่อย่างใด
หวังเป่าเล่อจึงไม่มีทางเลือก ต้องยอมแพ้ด้วยความเหนื่อยหน่าย
ขวดนี่เป็นขยะไร้ประโยชน์ชัดๆ! หวังเป่าเล่อสรุปว่าขวดนั้นเป็นเพียงสิ่งไร้ค่า ชายหนุ่มจ้องมองเศษกระดาษภายในอย่างเศร้าสร้อย และอ่านเข้าใจเพียงสามคำจากที่เคยอ่านครั้งแรก ‘คนร่ำรวย’ เขาเปิดขวดไม่ได้ สุดท้ายหวังเป่าเล่อก็เก็บขวดไป จากนั้นจึงทอดถอนใจใหญ่ ก่อนตัดสินใจเลิกพะวงอยู่กับขวด ชายหนุ่มหันมองไปทางอารยธรรมดวงเนตรสวรรค์ ก่อนจะพุ่งตัวมุ่งหน้าออกไปทางนั้น
ไม่กี่อึดใจที่หวังเป่าเล่อทะยานออกไป สายฟ้าเส้นหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในจักรวาลอันห่างไกลราวกับว่าโผล่ออกมาจากอากาศธาตุ สายฟ้านั้นพุ่งเข้าใส่หวังเป่าเล่ออย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มไม่ทันได้สังเกตจนกระทั่งมันเข้ามาใกล้จวนจะถึงตัว
ลอบโจมตีอย่างนั้นหรือ หวังเป่าเล่อตื่นตะลึงก่อนจะถอยกรูดอย่างรวดเร็ว เกราะมหาจักรพรรดิปรากฏออกมาห่อหุ้มตัวเขาไว้ขณะหนี ชายหนุ่มหันขวับไปยังทิศทางที่สายฟ้านั้นพุ่งมา ไม่ว่าจะเพ่งมองเท่าไร ก็ไม่อาจเห็นศัตรูได้ ทำเอาหวังเป่าเล่อสับสนไม่น้อย นี่เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มถูกสายฟ้าที่พุ่งมาจากไหนในอวกาศก็ไม่รู้โจมตีใส่ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะหวนนึกถึงคำเตือนของชานหลิงจื่อเรื่องผลข้างเคียงของขวดปรารถนา
นี่เป็นผลลัพธ์ของการขอพรจากขวดปรารถนาหรือเปล่านะ หวังเป่าเล่อกะพริบตาก่อนสงสัยว่าสิ่งนี้จะเกี่ยวข้องกับขวดหรือไม่ ดูเหมือนจะเป็นผลข้างเคียงที่อ่อนเกินไปสักหน่อย ชายหนุ่มไม่ได้ใส่ใจมันมากนักและเริ่มเดินทางต่อไป ทว่าในไม่ช้าเขาก็ต้องตื่นตกใจอีกครั้ง ร่างกายของหวังเป่าเล่อสั่นสะท้านก่อนที่คลื่นความตกใจจะไหลบ่าท่วมจิตสำนึก
ชายหนุ่มแทบไม่อยากเชื่อ…มีสายฟ้าปรากฏขึ้นอีกครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ละเส้นไม่ได้รุนแรงนัก แต่เมื่อปรากฏขึ้นบ่อยครั้งเข้า ก็เริ่มทวีจำนวนขึ้นจนมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ…
ในที่สุดหวังเป่าเล่อก็ต้องเผชิญหน้ากับสายฟ้าที่รวมตัวกันจนกระทั่งเต็มจักรวาลราวกับเป็นทะเลสายฟ้า มันกว้างไกลกินเนื้อที่ไปร่วมๆ ครึ่งอารยธรรมได้ทีเดียว เป็นไปไม่ได้อีกต่อไปที่จะนับจำนวนสายฟ้า สายฟ้าทั้งหมดพุ่งเข้ามาใส่หวังเป่าเล่อราวกับจะเป่าให้เขาหายวับไป
หวังเป่าเล่อส่งเสียงหวีดแหลมเมื่อเห็นสายฟ้าเหล่านั้นก่อนจะรีบหนีหัวซุกหัวซุน
ทำไมข้าจะต้องมาเจออะไรเช่นนี้ด้วย
ผมบนศีรษะของสายหนุ่มชี้ตั้ง ตัวก็ชาดิก ตอนที่เห็นสายฟ้าเส้นแรกเขาไม่ได้คิดอะไรนัก แม้แต่เมื่อสายฟ้าเพิ่มจำนวนขึ้นมาร่วมร้อย หวังเป่าเล่อก็ยังไม่สะทกสะท้าน ระดับปราณของสายฟ้าเหล่านั้นอยู่ในขั้นเชื่อมวิญญาณเท่านั้น ชายหนุ่มหลบหลีกพวกมันได้อย่างสบาย หรือต่อให้หลบไม่ทันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่นัก หากถูกฟาดก็คล้ายกับการเกาที่คันเพียงเท่านั้น
ทว่า…สถานการณ์กลับเลวร้ายลงอย่างรวดเร็ว สายฟ้าที่รายล้อมชายหนุ่มอยู่ในจักรวาลพากันทวีจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนที่เขาจะได้ทันระวังตัว
ขณะนี้มีสายฟ้ามากเกินไป…นับร้อยนับพันล้านเส้น จำนวนนั้นมากมายเกินกว่าที่จิตใจของคนธรรมดาจะรับไหว พายุสายฟ้านั้นใหญ่ยักษ์ขนาดที่เรียกได้ว่าสามารถกลืนกินอารยธรรมใดๆ ได้ครึ่งหนึ่งทีเดียว พลังของทะเลสายฟ้าเทียบเท่าการโจมตีจากผู้ฝึกตนขั้นเชื่อมวิญญาณจำนวนเท่าๆ กัน…อาจรุนแรงถึงขั้นที่ทำให้อารยธรรมดวงเนตรสวรรค์เสียหายเกินซ่อมแซม และเมื่อเทียบกับทั้งอารยธรรมแล้ว หวังเป่าเล่อก็เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาเท่านั้น
ชายหนุ่มนั้น…ขณะนี้ใกล้จะเสียสติเต็มทน นัยน์ตาทั้งคู่ของเขาแดงก่ำ ความกลัวสุดขีดเข้าครอบงำ หวังเป่าเล่อรู้ดีว่าคงไม่มีโอกาสรอดชีวิตหากการโจมตีจากทะเลสายฟ้าพุ่งลงมาถูกตัวเขา
ข้าอุตส่าห์รอดชีวิตจากผู้อาวุโสฝ่ายขวาแห่งอารยธรรมวิญญาณศักดิ์สิทธิ์จากการเดินทางไปอารยธรรมวิญญาณโลก แถมยังสังหารผู้ฝึกตนระดับดาวพระเคราะห์ได้คนหนึ่ง ข้าต้องทั้งฮึดสู้และฟันฝ่าความยากลำบากรวมถึงความท้าทายนานัปการ อีกเพียงไม่กี่ก้าวก็จะกลับถึงอารยธรรมดวงเนตรสวรรค์อยู่แล้ว ได้โปรดอย่าให้ข้าต้องตายเพราะผลลัพธ์โง่เง่าจากการขอพรจากขวดใบหนึ่งเลย! หวังเป่าเล่อตอนนี้เศร้าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ชายหนุ่มเข้าใจแล้วว่าไม่ควรขอพรจากขวดใบนั้นสักนิด
เขาไม่น่าดูเบาผลข้างเคียงจากการขอพรจากขวดใบนั้นเลยจริงๆ
ข้ายอมรับแล้ว ข้าตัดสินใจผิดไป… หวังเป่าเล่อใกล้ร้องไห้เต็มทน ชายหนุ่มใช้แรงที่เหลือทั้งหมดพยายามเร่งความเร็วอย่างสิ้นหวังไปทางอารยธรรมดวงเนตรสวรรค์ สภาพของเขาขณะนี้น่าเวทนายิ่ง แต่ชายหนุ่มไม่มีเวลามัวใส่ใจเรื่องภาพลักษณ์ หวังเป่าเล่อได้แต่หวังว่าเขาจะไปโผล่ที่จุดมุ่งหมายได้ด้วยการดีดนิ้วเพียงครั้งเดียวและอยู่ให้ห่างจากสายฟ้าเหล่านี้มากขึ้น
แน่นอนว่า…หากสายฟ้าพวกนี้จะติดตามชายหนุ่มไปจนกระทั่งถึงอารยธรรมดวงเนตรสวรรค์และผ่าอย่างรุนแรงลงไปที่อารยธรรม หวังเป่าเล่อก็คงไม่ขัดข้องอะไร…แม้ว่าความเสียหายที่ชายหนุ่มจะต้องแบกรับอาจหนักหนา แต่หวังเป่าเล่อก็ยังแอบหวังไม่ได้
แต่ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะมาเสียสมาธิกับความคิดไร้แก่นสารเช่นนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือต้องเอาชีวิตให้รอด แต่ไม่ว่าจะเหาะอย่างรวดเร็วเพียงใด สายฟ้าก็ไล่ตามมาอย่างไม่ลดละ อันที่จริงแล้ว พวกมันดูเหมือนจะรุนแรงขึ้นกว่าก่อนด้วยซ้ำ หวังเป่าเล่อตัวสั่นด้วยความกลัวเมื่อเห็นเช่นนั้น สิ่งนี้ทำให้ชายหนุ่มนึกย้อนไปถึงตอนเด็กๆ ที่ถูกสุนัขดุร้ายวิ่งไล่
โชคยังดีที่หวังเป่าเล่อว่องไวเป็นอย่างยิ่ง ยังมีความเป็นไปได้ว่ามีใครสักคนหลบซ่อนอยู่ภายในพายุสายฟ้านี้และไม่ได้ตั้งใจจะสังหารหวังเป่าเล่อแต่อย่างใด หาไม่แล้ว ทะเลสายฟ้านี้คงไล่ตามชายหนุ่มทันหรือห้อมล้อมไม่ให้เขาหนีได้ไปนานแล้ว พลังอันยิ่งใหญ่ที่มันแสดงให้เห็นเป็นข้อพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี
หวังเป่าเล่อรู้ความจริงข้อนี้ดี แต่ก็ยังไม่กล้าเสี่ยงชีวิตเพียงเพราะความเป็นไปได้นี้อยู่ดี ชายหนุ่มทำได้เพียงหนีต่อไปอย่างหดหู่ เขาเร่งความเร็วต่อไป และทะเลสายฟ้าขนาดยักษ์ที่ใหญ่เทียบเท่าครึ่งหนึ่งของอารยธรรมก็ยังคงไล่ตามมา อารยธรรมเล็กๆ รายทางย่อมต้องสังเกตเห็นเหตุการณ์นี้อย่างช่วยไม่ได้
อารยธรรมเล็กๆ เหล่านี้เป็นอารยธรรมล้าหลังที่ด้อยสติปัญญา ยังอยู่ในช่วงยุคชนเผ่า ผู้คนในอารยธรรมต่างพากันสั่นกลัวเมื่อแหงนมองขึ้นฟ้าแล้วเห็นท้องฟ้าสว่างวาบขึ้น ทุกคนทรุดตัวลงคุกเข่าก่อนจะกราบไหว้ อารยธรรมอื่นๆ ที่เริ่มมีความรู้และศึกษาจักรวาลมาบ้างแล้ว ก็พากันใช้เครื่องมือมองดูภาพปรากฏการณ์อันน่าทึ่งของทะเลสายฟ้าในอวกาศแล้วก็ล้วนตื่นตะลึงด้วยความกลัว
สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกใจมากที่สุด…คือการค้นพบว่ามีสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวกำลังเดินทางนำหน้าพายุสายฟ้าซึ่งเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง ภาพนี้ทำให้พวกเขาตื่นตกใจเป็นอย่างยิ่ง
ตำนานหลากหลายเรื่องปรากฏขึ้นมาในใจทันที พวกเขาคิดว่ามีโอกาสเป็นไปได้สูงที่สิ่งมีชีวิตจากต่างดาวดังกล่าวคือผู้ฝึกตนที่ตำนานเหล่านั้นกล่าวถึง พวกเขาจึงรีบทรุดตัวลงคุกเข่ากราบกรานทันที
หวังเป่าเล่อไม่ได้มองคนเหล่านั้นแม้สักนิด ชายหนุ่มกำลังจะเสียสติ เขารู้ดีว่าพายุสายฟ้าที่ไล่หลังมาจะไล่เขาทันในทันทีหากลดความเร็วลงแม้แต่นิด หากหวังเป่าเล่อเร่งความเร็วขึ้นอีก พายุนั้นจะชะลอลงเล็กน้อยแทน ผลลัพธ์ก็คือ ระยะห่างระหว่างตัวเขาและทะเลสายฟ้านั้นยังคงที่อยู่เสมอ
เห็นได้ชัดว่ามีใครสักคนหนึ่งกำลังพยายามทรมานหวังเป่าเล่อด้วยลูกเล่นนี้ ชายหนุ่มขณะนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยโทสะ ขวดปรารถนานั้นช่างเป็นสิ่งที่เลวทรามยิ่ง ความจริงที่ว่าหวังเป่าเล่อได้ขอพรที่ไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับตัวเขาเลยยิ่งทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลงไปอีก
ข้าจะยอมรับผลที่ตามมาหากขอพรให้บรรลุระดับดาวพระเคราะห์แล้วได้ผล แต่นี่ข้าไม่ได้ขออะไรเลย แค่พูดอะไรออกไปลอยๆ เท่านั้น เจ้าขวดปรารถนานี่โง่หรืออย่างไรกัน หวังเป่าเล่อคิดด้วยความฉุนเฉียว แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากกัดฟันและเผ่นหนีต่อไป มีเรือบินรบจำนวนหนึ่งรวมถึงผู้ฝึกตนที่สามารถเดินทางในอวกาศสองสามคนมองเห็นการเผ่นหนีอย่างบ้าคลั่งของหวังเป่าเล่อ เสียงอุทานด้วยความตกใจดังขึ้นทั่วขณะที่หวังเป่าเล่อเหาะหนีอย่างบ้าคลั่งไปในอวกาศ