หมอดูยอดอัจฉริยะ - ตอนที่ 314 ประลองเวทมนตร์คาถา (1)
ฮ่องกงเป็นเมืองใหญ่ระดับนานาชาติเมืองหนึ่ง ความต้องการสินค้าฟุ่มเฟื่อยมีจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นหนังจระเข้ หนังนกกระจอกเทศ หนังจิ้งจก หนังงู หนังปลามุกและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ยังคงไหลจากประเทศไทยไปยังฮ่องกง
การเดินทางจากไทยไปฮ่องกงมักใช้เครื่องบิน เพราะทั้งสองประเทศไม่มีเรือสำราญผ่าน อย่างไรก็ตาม นอกจากเรือบรรทุกสินค้ายังแล้วยังคงมีเรือหรือเครื่องบิน ไปมาระหว่างกัน และทุกวันมีเรือบางลำที่แล่นไปกลับระหว่างไทยและฮ่องกง
แม้ว่าเรือของไต้ก๋งลำนี้จะลงทะเบียนอย่างเป็นทางการ แต่ไม่กี่ปีมานี้ใช้สำหรับการลักลอบขนของที่ไม่เคยเข้า ฮ่องกงด้วยท่าเรือที่กำหนด เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรที่มีราคาแพง
“พ่อ สองคนนั้นทำอะไรกันทำไมพ่อต้องให้ห้องโดยสารทั้งหมดกับพวกเขาพักด้วยล่ะ “
ในห้องไต้ก๋ง ลูกชายของเขาไม่เข้าใจวิธีทำงานของพ่อ เมื่อก่อนพวกเขาไม่บรรทุกคนที่หลบหนี แต่พวกเขาเหล่านั้นทั้งหมดต่างถูกโยนลงไปในท้องเรือ
“หุบปาก ฉันเตือนนายนะ อย่ายั่วคนสองนั้น เขา…พวกเขาอาจเป็นอาจารย์ไสยศาสตร์” หลังจากที่ยินคำพูดของลูกชาย ไต้ก๋งรีบอุดปากเขาทันที ในสายตามีสีหน้าด้วยความหวาดกลัว
เพราะหลังจากออกเรือไม่นาน ไต้ก๋งก็แอบเปิดดูที่กล่องพวกนั้น พบว่าในกล่องพกของเซ่นไหว้บรรพบุรุษมาด้วย
ในขณะที่ไต้ก๋งกล่องขึ้น ในจมูกก็ได้กลิ่นเหม็นๆโชยมา หลังจากยืมแสงไฟส่องของด้านใน เกือบจะทำให้หัวใจของของไต้ก๋งหยุดเต้นด้วยความตกใจในกล่องทั้งหมดถูกอัดแน่น ไปด้วยสัตว์มีพิษต่าง ๆ เช่นแมงป่อง ตะขาบ และงูพิษ สัตว์มีพิษเหล่านี้น่าจะเป็นสัตว์มีพิษตามธรรมชาติ ในเวลานี้ทั้งหมดราวกับจำศีลก็ไม่ปาน แทบจะไม่ขยับเลย
ไต้ก๋งเป็นคนไทย เมื่อเห็นของพวกนี้ เขาก็คิดออกเลยว่าชาญ ทองทวน เป็นหมอผี เขาจึงได้เชิญหมอผีชาวไทยชาญ ทองทวน จากห้องโดยสารด้านล่างมาพักในห้องผู้โดยสารเรือ ส่วนตัวเองกับลูกชายจะไปพักในห้องกัปตัน
ต้องรู้ว่า หมอไสยศาสตร์เป็นที่นับถือของคนไทย แต่ถึงแม้จะนับถือก็ไม่มีใครที่จะยอมรับและมีสายสัมพันธ์กับหมอไสยศาสตร์
ในขณะที่ไต้ก๋งคิดในใจ อย่างน้อยก็เคยถามเมียของสมชายที่อยู่ที่บ้านอย่างน้อยยี่สิบรอบแล้ว เขาจึงคิดว่า หลังจากที่วิ่งเรือรอบนี้เสร็จ ต้องหาวิธีหลบหนี
“หมอไสยศาสตร์เหรอ” หลังจากที่ฟังคำพูดของพ่อ ใบหน้าของลูกชายถึงกับเผยสีหน้าที่ประหลาดใจออกมา ปากก็ปิดสนิท
วันที่สองตอนตีสี่กว่า เรือบรรทุกสินค้าเทียบท่าที่ท่าเรือเล็ก ๆ ในฮ่องกง นอกจากรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่มาขนถ่ายตู้บรรทุกสินค้าแล้ว ก็ยังมีรถออฟโรดหนึ่งคันจอดรออยู่ที่นั่น
เมื่อเรือบรรทุกสินค้าหยุดลง คนไทยที่ตัวไม่สูงมากสองคน ก็ร้องตะโกนว่า “คนไหนคือหมอผีชาญ ทองทวนเหรอ”
“พวกคุณป็นคนของสมชายเหรอ” หมอผีชาญ ทองทวนที่มีเสียงที่ดังราวกับฆ้องแตก ถามขึ้นคาดไม่ถึงว่าเขาจะพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง
“หมอผีชาญ ทองทวน เถ้าแก่สมชายให้พวกเรามารับท่าน ห้องที่โรงแรมได้จัดเตรียมไว้หมดแล้ว ต้องการอะไร คุณบอกสองคนนี่ก็พอแล้ว”
สองคนนี้น่าจะเป็นคนที่รับเงินใต้โต๊ะรับคนข้ามพรมแดนที่ฮ่องกง ก็ไม่รู้ว่าสมชายได้บอกสถานะของหมอผีชาญ ทองทวนกับสองนี้หรือไม่ ทั้งสองแสดงออกถึงการนับถือเป็นอย่างมาก
“อืม ไปกันเถอะ ผมต้องการพักผ่อนสักครู่ ตอนเย็นมีเรื่องให้พวกคุณไปจัดการ”
หมอชาญ ทองทวนพยักหน้า ขึ้นฝั่งพร้อมกล่องขนาดใหญ่ในมือของเขา ร่างกายที่อ่อนแออ้วนๆ นั้นกลับว่องไวผิดปกติ แต่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังของผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่คนนี้ ท่าทางของเขากลับดูแข็งทื่อ
โชคดีที่รถที่สองคนขับมาคือรถออฟโรด ไม่เช่นนั้นหมอผีชาญ ทองทวนก็คงเข้าไปลำบาก หลังจากที่วางกล่อง เข้าไปในกระโปรงรถด้านหลัง หมอผีชาญ ทองทวนเข้าไปในรถอย่างลำบาก
สองคนนั้นหลังจากพูดภาษาไทยกับไต้ก๋งไม่กี่คำ รถออฟโรดก็หายไปในท่าเรือในไม่ช้า
แต่หมอผีชาญ ทองทวนกับคนที่มารับเขาต่างก็ไม่ได้สังเกตเห็น หลังจากตะโกนชื่อชาญ ทองทวนสามคำนี้ออกมา ชายหนุ่มที่คนหนึ่งที่อยู่ท่ามกลางผู้คนที่กำลังเคลื่อนย้ายสินค้า สายตาก็เป็นประกายขึ้นมา
หลังจากที่รอรถออฟโรดจากไป ชายหนุ่มก็เดินมาที่ด้านหน้าของไต้ก๋ง ถามด้วยใบหน้าที่ไม่รู้ว่า “ไต้ก๋ง สองคนนั้นมาทำอะไร”
“พี่เหมา ไม่มีอะไรหรอก เพื่อนสองคนนั้นแค่โดยสารเรือมาเท่านั้น ไม่ทำให้คุณเดือดร้อนแน่นอน” เมื่อไต้ก๋งเห็นชายหนุ่มคนนั้น รีบหยิบซองบุหรี่ออกจากกระเป๋า แล้วแล้วยัดเข้าไปในมือฝ่ายตรงข้าม
“ไต้ก๋ง คุณไม่ใช่ขนส่งครั้งนี้แค่ครั้งเดียว เรือลำนี้ไม่ได้ “กระโดด” มาอย่างธรรมดา ถ้าเกิดเรื่องเดือดร้อนขึ้นมา พวกเราจะซวยกันหมด คุณกล้ารับรองว่าพวกเขาจะไม่ก่อเรื่องที่ฮ่องกงไหม”
พี่เหมาไม่ไว้หน้าไต้ก๋งเลยสักนิด โยนซองบุหรี่ที่ได้รับขึ้นไปบนอากาศ ตกลงน้ำทะเล เสียงดัง“จ๋อม”
“กระโดด” เป็นภาษาลับที่ใช้ในวงการ หมายถึงการลักลอบขนส่งสินค้าผิดกฎหมาย เรือกระโดด หมายถึงการลักลอบขนส่งสินค้าผิดกฎหมาย ทางเรือ ถ้า “เครื่องบินกระโดด” แน่นอนว่าหมายถึงการลักลอบขนส่งสินค้าผิดกฎหมาย ทางเครื่องบิน
ทุกอาชีพต่างก็มีกฎระเบียบของมัน พ่อค้าของเถื่อนโดยทั่วไปไม่กลัวที่จะเกิดปัญหาอยู่แล้ว ผิดกับเรือที่ขนสินค้า ถ้าพ่อค้าของเถื่อนถูกจับได้ และถูกตัดสินว่ามีความผิด ก็จะสามารถสืบสาวเรื่องราวมาถึงตัวพวกเขาได้
หลายปีก่อนในในฮ่องกงได้เกิดคดีใหญ่ขึ้น เป็นเหตุให้บริษัทที่รับขนส่งสินค้าหลายแห่งต้องล่มจม ในเวลานั้นในวงการขนของเถื่อนในฮ่องกง ก็ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงเหมือนกัน
ดังนั้นชายหนุ่มจึงแสดงความโกรธออกมาอย่างชัดเจน ไต้ก๋งเรือเองก็เข้าใจ ควักสร้อยทองเส้นหนึ่งออกจาก กระเป๋าอย่างอาลัยอาวรณ์ ยัดเข้าไปในมือชายหนุ่ม พูดว่า“พี่เหมา ท่านนั้นคือหมอไสยศาสตร์ ผมก่อเรื่องที่ไม่ดีไม่ลงหรอก คุณอย่าคิดเล็กคิดน้อยเลย ปล่อยเรื่องนี้ไปเถอะ”
“หมอผีอะไรมาจับผีที่ฮ่องกงเหรอไต้ก๋ง ทางที่ดีคุณอย่าให้พวกเขาก่อเรื่อง ไม่งั้นทุกคนซวยหมด…”
ชายหนุ่มดูสร้อยทองที่อยู่ในมือ น้ำเสียงก็ค่อยๆอ่อนลง “พอแล้ว เรื่องนี้ผมจะทำเป็นไม่เห็น แต่ต่อไปไม่มีข้อยกเว้นนะ”
“ขอบคุณพี่เหมา ไม่มีครั้งต่อไปแน่นอน” ไต้ก๋งพูดกับพี่เหมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่ในใจก็รู้สึกอัดอั้น การพาชาญ ทองทวนข้ามพรมแดนครั้งนี้ เงินสักก้อนก็ยังไม่ได้ แถมยังเสียทองอีก
“พี่ใหญ่คุน ผมคือซานเหมา เมื่อวานคุณบอกว่าต้องจับตาดูคนไทยที่ชื่อชาญ ทองทวนใช่ไหมครับ ผมเพิ่งเห็นเขา ที่ขุยชง ป้ายทะเบียนของรถคันนั้นคือ…”
หลังจากที่รับสินบนสร้อยทองคำจากไต้ก๋ง ชายหนุ่มคนนั้นก็ถือโอกาสตอนที่คนย้ายของ เดินมาอีกทาง ควักโทรศัพท์เคลื่อนที่แล้วโทรออก ข่าวที่เขาได้เมื่อวาน คิดไม่ถึงว่าอยู่ตัวเองจะเจอ
“อะไรนะ? แกแน่ใจไหมว่าเป็นชาญ ทองทวน”
ถึงแม้ว่าถูกรุ่นน้องรบกวนตั้งแต่ตอนเช้าตรู่ แต่หลังจากได้ยินข่าวนี้ พี่ใหญ่คุนถึงกับตื่นเต้นเมื่อได้ยินคำพูด จากซานเหมา “ดีมาก น้องเหมา ถามรายละเอียดจากเจ้าของเรือ สืบที่มาของฝ่ายตรงข้าม”
ผู้ที่ขอให้เขาจับตาการเข้ามาของผู้ชายที่ชื่อ ชาญ ทองทวน ก็คือ ปู่ติง ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในวงการ ปู่ติงคนนี้ เบื้องหลังยังมีผู้อาวุโสในวงการที่ต้องการข่าวเรื่องนี้หนุนหลังอยู่ เมื่อถูกคนของตัวเองหาเบาะแสของชาญ ทองทวนได้ เมื่อไปรายงานต่อหน้าปู่ติงก็จะได้หน้าได้ตาเป็นอย่างมาก
หลังจากได้ฟังคำพูดของหัวหน้า ซานเหมายิ้มและพูดว่า “พี่ใหญ่คุน ไต้ก๋งต้องหาเลี้ยงตัวเอง ผมถามชัดเจนแล้ว ได้ยินข่าวว่าชาญ ทองทวนเป็นหมอไสยศาสตร์อะไรนี่แหละ ไม่รู้ว่าข่าวนี้จะมีประโยชน์ไหม”
“ดีมากไอ้น้อง งานนี้เสร็จเดี๋ยวลูกพี่จะเลี้ยงแกเอง” เสียงจากปลายสายมีความดีใจ พี่ใหญ่คุน พอใจกับความสามารถในการจัดการของลูกน้องเป็นอย่างมาก
หลังจากที่วางสายมองไปดูที่นาฬิกาข้อมือ พี่ใหญ่คุนคิดสักพัก จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์แล้วโทรออก “ปู่ติง เรื่องที่ท่านสั่งผมไปสืบได้ความแล้ว มีคนชื่อชาญ ทองทวนเพิ่งเข้ามาที่ฮ่องกง สถานที่ ที่เขาอยู่ต้องสืบได้แน่นอน”
“อาคุน ดีมาก เรื่องนี้ต้องขอบคุณแกจริงๆ กลับไปฉันจะให้อาเซิ่งทักไปหานะ” หลังจากที่อาติงได้ยินโทรศัพท์สายนี้ ทันใดอาการที่ง่วงอยู่ก็หายเป็นปลิดทิ้ง จึงลุกนั่งจากเตียง
“ปู่ติง คนที่ชื่อชาญ ทองทวนคนนั้น ถ้าไปรบกวนท่าน จะให้ผมส่งลูกน้องสองสามคนไปจัดการเขาไหม”
หลังจากที่ฟังปู่ติงพูด กระดูกของพี่ใหญ่คุนแทบจะอ่อนปวกเปียก เขารู้ว่าพี่เซิ่งเป็นคนที่มีอิทธิพลมากที่สุดใน วงการใต้ดินของฮ่องกง เมื่อเปรียบเทียบกับเขาแล้ว อาคุนเทียบไม่ติดเลยทีเดียว
เมื่ออาติงได้ยินก็รีบพูดว่า “ไม่ต้อง นี่เป็นเรื่องค่อนข้างยุ่งยาก แกอย่ามายุ่งเลย ให้คนจับตาดูชาญ ทองทวนให้ฉันก็พอ ฉันต้องการรู้ทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขา”
นี่เป็นเรื่องตลก ดัวยความสามารถของเยี่ยเทียนที่ทำให้คนกลัวได้ แล้ว พวกเขาอันธพาลตัวเล็กๆ จะไปจัดการได้อย่างไร ตัวอาติงเองที่ต่อหน้าเยี่ยเทียนก็ยังไม่กล้าที่จะควักปืนออกมา
เช้าตรู่วันนี้ การฝันดีของหลายคนต่างถูกรบกวน เหล่าลูกน้องที่กำลังหลับในคืนนั้น ทั้งหมดก็ถูกเรียกมาให้ทุกคนสืบหา ที่อยู่ของชาญ ทองทวน ให้เร็วที่สุด
……………………
เมื่อไหร่ก็ตามที่มีเวลาและสภาพแวดล้อมทุกด้านพร้อม เยี่ยเทียนไม่เคยละเลยในการฝึกวิทยายุทธในทุก ๆ เช้า เช้าวันใหม่ในฮ่องกงวันนี้ ตอนตีสี่กว่าเขาก็มายืนที่ตรงจุดชมวิวแล้ว
โบราณกล่าวว่า กำปั้นไม่ออกจากมือ เพลงไม่ออกจากปาก แค่ขยันหมั่นเพียรก็ฝึกจนชำนาญได้ เยี่ยเทียนที่มีฝีมือได้ในวันนี้ ก็เพราะเขาฝึกวิทยายุทธในทุกเช้ามาสิบกว่าปีแล้ว
“เยี่ยเทียน ฝึกเสร็จแล้วหรือยัง อาติงโทรมาหลายสายแล้ว บอกว่าชาญ ทองทวนมาถึงฮ่องกงแล้ว”
เมื่อเยี่ยเทียนกลับมาในห้องรับแขก จั่วเจียจวิ้นก็มาต้อนรับ เมื่อวานก็แทบจะไม่ได้นอน มัวแต่ครุ่นคิดเรื่องศาสตร์ ที่เยี่ยเทียนถ่ายทอด
หลังจากที่ได้ยินข่าว เยี่ยเทียนยิ้ม พูดว่า “มาเร็วจริง ๆ ศิษย์พี่ ช่วยบอกอาติงให้ถอนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในบริเวณนี้ออกไปหน่อยนะ เดี๋ยวพวกเขาจะเดือดร้อนกันหมด”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกว่าครึ่งภายในวิลล่าแห่งนี้ ไม่มีปัญหาในการจัดการกับพวกโจรขโมยธรรมดา แต่ไม่สามารถสู้ชาญ ทองทวนได้ ถ้าถูกวิชาอาคมของชาญ ทองทวน เกรงว่าพวกนั้นมีแต่ต้องตายเท่านั้น
เมื่อวานเพิ่งเรียนรู้เทคนิคการโจมตี ในตอนนี้จั่วเจียจวิ้นถึงกับครึกครื้นตื่นเต้นขึ้นมา ยิ้มพูดว่า “ได้ฉันจะโทรศัพท์หาอาติง วันนี้เราพี่น้อง จะได้มีเวลาดี ๆ ในการต้อนรับเพื่อนชาวไทย”
“ศิษย์พี่ ฆ่าไก่ใยต้องใช้มีดฆ่าโค ผมจะจัดการพวกเขาด้วยตัวผมคนเดียว”
เยี่ยเทียนได้ยินถึงกับเบะปาก เขามีเครื่องรางโจมตีสองชิ้นในมือ ร่วมกับการใช้ค่ายกลเก้าตำหนักพิฆาตที่วางไว้ก่อนแล้ว ถ้ายังรับมือ ชาญ ทองทวนไม่ได้ ก็คงไม่มีหน้าไปพบอาจารย์แล้ว
……